ก่อนอื่น เอาเบนโตเจ้าปัญหาไปดูกันก่อนว่ามีหน้าตาเป็นเช่นไรบ้าง
หลายคนอาจเริ่มงงว่า เบนโตพวกนี้มันจะมีประเด็นอะไร พี่โช ถึงได้เอามาเป็นบทความครั้งนี้
โอเค มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า...
เรื่องมันมีอยู่ว่า มีคุณแม่คนหนึ่ง หย่ากับสามี จึงต้องรับภาระเลี้ยงลูกอยู่คนเดียว คุณแม่จึงต้องทั้งเลี้ยงลูกและหาเงินไปด้วย เรียกได้ว่าเหนื่อยสุดๆ โดยงานที่คุณแม่ทำนั้นคือที่โรงงานทำขนม พอตกกลางคืนก็หารายได้พิเศษด้วยการทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ในบ้านเพื่อส่งลูกเรียนได้ตลอดรอดฝั่ง
แต่พอลูกสาวเข้าสู่วัยรุ่น อย่างที่เรารู้จักกันดี วัยรุ่นจะมีโลกส่วนตัวสูง เริ่มต่อต้านผู้ปกครอง เก็บตัวเงียบ ไม่พูดไม่จา ไม่ช่วยเก็บแอบบ้าน เอาแต่เล่นมือถือ แถมตะคอกคุณแม่ว่าหนวกหูบ้าง ให้หุบปากบ้าง
คุณแม่จึงคิดหาวิธีเอาคืนและดัดนิสัยลูกสาวแบบอยู่หมัด ด้วยวิธีการทำข้าวกล่องให้ลูกสาวไปกินที่โรงเรียน ซึ่งข้าวกล่องที่ว่านั้นจะเปลี่ยนหน้าไปทุกวัน สุดแสนจะครีเอทและน่ารักอย่างที่เห็น
คุณแม่ก็เลยออกมาเฉลยว่า ที่ต้องทำข้าวกล่องหน้าตาน่ารักหรือเป็นตัวการ์ตูนต่างๆ แบบนี้เพราะลูกสาวเป็นคนเงียบๆ ขรึมๆ ไม่ชอบอะไรกระจุกกระจิก แน่นอนว่าถ้าไปเปิดข้าวกล่องน่ารักนี้ต่อหน้าเพื่อนๆ ที่โรงเรียนลูกสาวต้องอายอย่างแน่นอน หลายคนที่เป็นเหมือนลูกสาวคนนี้ น่าจะพอเข้าใจว่า ถ้าเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรหวานๆ น่ารักๆ เนี่ย คือแทบเบ้ปากใส่ของพวกนี้เลยนะ
เย็นวันแรกที่ลูกสาวได้รับข้าวกล่องหน้าตาน่ารักนี้ คุณแม่ตั้งหน้าตั้งตาคอยดูปฏิกิริยาของลูกสาวว่าจะเป็นเช่นไร จะเหวี่ยง หรือจะโกรธ หรือจะไม่กินข้าวกล่อง ปรากฎคือลูกสาวก็ไม่พูดไม่จา ทำเป็นเหมือนไม่รู้ไม่เห็น
ที่มาของข้าวกล่องนี้คือมีอยู่วันหนึ่ง ลูกสาวมาบอกให้คุณแม่ขับรถพาไปส่งโรงเรียนตอนเช้า ซึ่งก็รู้กันดีว่าคุณแม่ทำงานทั้งวันทั้งคืน เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ตอนเช้าตรู่โดยปกติจึงไม่สามารถตื่นไปส่งลูกได้ แต่ในที่สุดวันนั้นคุณแม่ก็อุตส่าห์ขับพาลูกสาวไปส่งถึงที่ แต่ลูกสาวกลับไม่พูดขอบคุณแม้แต่สักคำเดียว คุณแม่จึงโกรธมากและตำหนิลูกด้วยการทำเป็นข้าวกล่องขึ้นมา ที่เขียนอยู่บนข้าวกล่องคือประมาณว่า “เดินไปเอง!!!!!”
อย่างที่เห็น ข้าวกล่องมีขนาดใหญ่มาก และมีถึงสองชั้น เอ๊ะ ยังไงกันนะ ตื่นเต้นๆๆๆ
พอลูกสาวไปเปิดดูที่โรงเรียน ด้วยความประหลาดใจ ข้าวกล่องวันสุดท้ายนี้กลับไม่เป็นตุ๊กตาน่ารัก แต่กลับเป็นข้าวกล่องแสนปกติ
แต่ที่ซ่อนไว้และทำให้ลูกสาวตกใจมากที่สุดคือ ข้าวกล่องอีกชั้นหนึ่งที่ซ่อนไว้นั้นเป็นหน้า “ประกาศนียบัตร” ว่าลูกสาวได้อดทนทานข้าวกล่องที่ตัวเองแสนจะเกลียดนี้มาแล้วกว่าสามปี จึงขอสรรเสริญคุณงามความดีด้านการอดทนเป็นเลิศนี้
... แต่ก็เช่นเคย ลูกสาวก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรต่อข้าวกล่องนี้เหมือนเคย โอ้ย มันหึยยยอะ ของขึ้นแทนคุณแม่
จนกระทั่งวันต่อมา คุณแม่ได้รับพัสดุเป็นหนังสือ หนังสือนี้เป็นหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวทั้งหมดนี้ของคุณแม่ที่เขียนไว้ในบล็อคตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไปเตะตาสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งเข้า จึงทำการรวบรวมตีพิมพ์ขึ้นมา
สิ่งที่คุณแม่ช็อคและถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่คือ หน้าสุดท้ายของหนังสือนั้น กลับกลายเป็นข้อความจากลูกสาวของตนที่เขียนถึงคุณแม่ ว่าตัวเองก็ตื้นตันกับสิ่งที่คุณแม่ทำมาตลอดสามปีนี้
“...ที่คุณแม่ทำเบนโตเหล่านี้ด้วยตัวเองมาตลอด 3 ปีเป็นเรื่องที่สุดยอดจริงๆ หนูเองก็รู้ว่าคุณแม่ทำงานเหนื่อยถึงตี 1 ทุกวัน แต่พอตี 5 หนูก็ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กๆ ทำเบนโตจากในครัวแล้ว ตื้นตันกับสิ่งที่คุณแม่ทำให้จริงๆ ค่ะ... “
แม้ลูกสาวจะไม่แสดงออกให้คุณแม่เห็น แต่ลูกสาวบอกว่า "ทุกครั้งที่คุณแม่พยายามทำตัวตลก ลูกสาวก็รู้สึกว่ามันแอบสะเหล่อนิดๆ แต่ก็ชื่นชมที่ทำให้กันขนาดนี้ อยากขอบคุณคุณแม่จริงๆ จากลูกสาวหัวดื้อ”
ในตอนสุดท้าย กลายเป็นว่าทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกันและเรื่องราวทั้งหมดกลายมาเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้กลับมาดีอีกครั้ง
นี่แหละครับ ที่บอกว่าเป็นเรื่องของเบนโต แต่ก็ไม่เหมือนกับเรื่องเบนโตน่ารักๆ ที่เราเคยรู้จักกันมาก่อนเสียทีเดียว เพราะแบบว่าแอบมีเรื่องราวของการพยายามสร้างความสัมพันธ์ของคนเป็นแม่กับลูกสาวที่กำลังอยู่ในวัยต่อต้านผู้ปกครอง จนคุณแม่ต้องพยายามหาวิธีปราบลูกที่อยู่ในวัยรุ่นจนประสบความสำเร็จอย่างน่าชื่นชม พอ พี่โช ได้ดูในทีวีปุ๊บก็อยากจะเอามาแชร์ให้น้องๆ ได้อ่านกันเลยทันที เรื่องโลกสวยแฮปปี้เอนดิ้งแบบนี้เนี่ย ชอบ สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทีวีช่องฟูจิด้วยนะครับที่นำเรื่องราวนี้มาทำเป็นละครสั้นเข้าใจง่ายจนทำให้ได้นำมาเล่าสู่กันฟังต่อน้องๆ ชาวไทยอีกที สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อน ครั้งต่อไปจะเป็นเรื่องอะไรติดตามกันต่อไปนะครับผม
43 ความคิดเห็น
งานน้ำตาเล็ดก็มา เป็นเรื่องราวที่น่ารักมากๆ
#ร้องไห้หนักมาก
อยากให้แม่ทำข้าวกล่องไปกินให้บ้างจัง อิจฉาาา ข้าวกล้องน่ารักมากกก
ซึ้งอ่ะ อยากได้เบนโตะแบบนี้บ้างอ่ะ
แต่แอบตกใจคำว่าเสร่อ555555555
ข้าวกล่องน่ารักมากเลย
ซึ้งอ่ะ แม่ลูกน่ารักมากก
อยากได้ข้าวกล่องแบบนี้ไปกินโรงเรียนมั่ง ข้าวกล่องหน้าตามุ้งมิ้งไม่ซ้ำกันกินแล้วไม่เบื่อ
วัยรุ่นอะนะ ก็ไม่กล้าแสดงออกให้พ่อแม่ให้ไงว่าสิ่งที่พ่อแม่ทำไปเรารู้สึกดีใจขนาดไหน เพราะว่าอาย
เราก็เป็นวัยรุ่นคนหนึ่งเหมือนกัน เข้าใจความรู้สึกตอนนั้นที่ตีหน้านิ่งใส่พ่อแม่ แต่ในใจแล้วพวกเรารุ้สึกขอบคุณมาก(บางกรณี)
อยากให้ผู้ปกครองได้มาอ่านกันนะคะ ว่าจริงๆแล้ว'วัยรุ่น'ไม่ได้ไร้ความรู้สึกกับพ่อแม่หรอก เค้าแค่ไม่กล้าแสดงออกไปเท่านั้นแหละ ^^
กับแม่เรา คงไม่มีโอกาสได้โมเม้นน่ารักๆแบบนี้
บอกแค่ว่า ประทับใจ
น่ารักทั้งครอบครัวและข้าวกล่อง
คุณแม่แอบน่ารักจังนะเนี่ยย
เรื่องก็ซาบซึ้ง ข้าวกล่องก็แสนน่ากิน สุขใจกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
ทำไมในไทยไม่มีงี้บ้างอ่ะ
ตอนเด็กๆก็พอมีบ้างนะ
แต่โตมา..ตั้งแต่ ม.ต้น
ห่อข้าวมาโรงเรียนก็โดนดูถูกแล้ว
ว่าจน ไม่มีปัญญาซื้อข้าว
คือ...ชอบฝีมือแม่มากกว่าอ่ะ
ไม่อยากทานอาหารของคนอื่น
ทำไมต้องมาว่ากันขนาดนี้ด้วย
พวกที่ซื้ออาหารที่โรงเรียน
มันรวยนักหนาเหรอ? เจ็บปวดมากค่ะ สังคมไทย...
นี้ขนาดเราเป็นคนอยู่เงียบๆ ยังมั้ยมีใครสนใจเลย T^T