เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มี "ชาวเน็ต" กลุ่มหนึ่งร่วมมือกันแสดงการประท้วงต่อต้านแนวคิด "ซิงเกิล เกตเวย์" ด้วยการช่วยกันแห่เข้าเว็บไซต์ต่างๆ ของรัฐ การต่อต้านนี้คล้ายคลึงกับการทำงานของกลุ่มบุคคลปริศนาที่เป็นที่กล่าวขานมานาน ในนาม Anonymous (อะโนนิมัส)
พี่น้องเชื่อว่าชาวเด็กดีหลายคนเคยได้ยินชื่อนี้กันมาบ้างแล้ว แต่คงยังไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร แล้วมารวมตัวกันได้ยังไง เคยทำอะไรมาบ้าง วันนี้ "พี่น้อง" ก็เลยขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับคนกลุ่มนี้กันค่ะ
ต้นกำเนิดความเป็น Anonymous
คนกลุ่มนี้มารวมตัวกันได้ยังไง กลุ่มตั้งต้นเนี่ยเป็นสมาชิกเดิมของบอร์ด 4chan บอร์ดสาธารณะของอเมริกา เดิมก่อตั้งขึ้นเพื่อพูดคุยเรื่องการ์ตูนญี่ปุ่น แต่ไปๆ มาๆ มันกลับดังมาก จึงเริ่มแตกสาขาบอร์ดออกไปเป็นห้องต่างๆ ทำให้ 4chan กลายเป็นแหล่งรวมชาวเน็ตที่มีความชอบเฉพาะทาง meme บางตัวที่ดังๆ ก็มาจากบอร์ดนี้ และว่ากันว่าบอร์ดนี้ยังมีอะไรแปลกๆ มาโพสต์เพียบ
สาเหตุที่มันดึงดูดความสนใจชาวอินเทอร์เน็ตก็เพราะบอร์ดนี้ไม่มีการสมัครสมาชิกค่ะ ทุกคนคือ Anonymous ใครอยากโพสต์อะไรก็โพสต์ ห้ามเปิดเผยตัว จึงมีคนบางกลุ่มที่ใช้ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ในการแกล้งคนอื่นแบบขำๆ เพราะไม่มีใครรู้ตัวจริงนั่นเอง
Project Chanology
คนที่เชื่อว่าทุกคนต้องมีเสรีภาพในการรับข่าวสาร จะมาปิดหูปิดตาแบบนี้ไม่ได้ จึงรวมตัวกันเพื่อต่อต้าน Church of Scientology โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า Anonymous กลุ่มนี้ประกาศเลยว่า เห็นคุณล้างสมองสาวกด้วยความเชื่อแบบนี้แล้ว คิดว่าองค์กรแบบนี้ไม่ควรมีอยู่ต่อไป ขอลบคุณออกจากสารบบอินเทอร์เน็ตเลยแล้วกันนะจ๊ะ
ถึงแม้ภารกิจนี้จะไม่ได้ล้างบาง Church of Scientology ให้หมดไป แต่ก็ได้แก้เผ็ดตรงชาว Anonymous ยื่นข้อเสนอให้รัฐตรวจสอบคุณสมบัติขององค์กรนี้ว่าเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรจริงหรือเปล่า ตรวจไปตรวจมาพอรู้ว่ามีการประดิดประดอยบัญชีก็เลยโดนตัดออกจากกองมรดกซะเลย
กายฟอกส์เกี่ยวอะไร?
หน้ากากกายฟอกส์มีที่มาจากหนังเรื่อง V for Vendetta (วี ฟอร์ เวนเดตต้า) ซึ่ง V หมายถึงตัวละครในเรื่องที่เป็นบุรุษปริศนาผู้ต้องการล้มล้างระบอบการปกครองกดขี่ของอังกฤษในปี 2030 (เหตุการณ์สมมติ แต่ได้ไอเดียจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์อังกฤษของชายชื่อกาย ฟอกส์ที่รวมกลุ่มกับผู้นับถือนิกายคาทอลิกวางแผนลอบสังหารกษัตริย์เจมส์ที่ 1 ซึ่งเป็นโปรเตสแตนท์ แต่พลาดท่าโดนจับได้เสียก่อน)
อุดมการณ์และปฏิบัติการของ Anonymous
หลักๆ เลยคือ Anonymous จะปฏิบัติการภายใต้ความเชื่อว่า ทุกคนมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร (รัฐบาลหรือองค์กรใดๆ ห้ามปิดกั้น) และองค์กรทั้งหลายก็ควรจะรักษาความลับของเราที่ใส่ลงไปในโลกอินเทอร์เน็ตให้ดี การโจมตีองค์กร Stratfor ของอเมริกาเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ Anonymous ต้องการสื่อว่าองค์กรนี้ดูแลข้อมูลของลูกค้าไม่ดีพอ (กรณีเดียวกับของคนไทยที่ระดม F5 กันเพื่อสื่อว่าเว็บของรัฐยังรองรับปริมาณคนได้ไม่มากพอ จะทำซิงเกิ้ล เกตเวย์ได้ยังไง)
บางครั้ง Anonymous ก็จับงานใหญ่ระดับประเทศอย่างถล่มเว็บไซต์ของรัฐบาลออสเตรเลียที่พยายามปราบปรามเว็บโป๊แต่เกินขอบเขตไปหน่อย หรือ เว็บไซต์ของรัฐบาลซีเรีย เพื่อต่อต้านการกระทำของประธานาธิบดีอาซาดที่ตอบโต้ผู้ชุมนุมด้วยกำลังทหาร
ถึงแม้การกระทำของ Anonymous จะออกแนวเป็นการเล่นสงครามจิตวิทยาและการโจมตีเพื่อปั่นหัวองค์กรต่างๆ อารมณ์โรบินฮู้ดช่วยเหลือประชาชนตาดำๆ ที่เดือดร้อน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมองว่า Anonymous เป็นฮีโร่ เพราะวิธีการที่ใช้ส่วนใหญ่ก็ละเมิดกฎหมายเสียเอง มาแนวเดียวกับ V ในเรื่อง V for Vendentta เลยค่ะ
เมื่อสังคมเปลี่ยนไป เมื่อเสรีภาพในโลกออนไลน์ทำให้เราต่อต้านความอยุติธรรมได้มากขึ้น น้องๆ ชาวเด็กดีคิดยังไงกับเรื่องนี้? เรารู้สึกยังไงกับการกระทำของ Anonymous? มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ
20 ความคิดเห็น
สำหรับเรานะ เรามองว่า การทำผิดยังไงก็คือการทำผิด ไม่ว่าจะมีเจตนาดีอย่างไรก็ตาม
ถ้าให้จำกัดความง่ายที่สุด ก็คงจะเป็น Dark Hero ทำนองนั้นแหละมั้ง
แต่จะว่าดีก็ได้ ไม่ดีก็ดี ถ้าให้อธิบายก็คือเพราะพวกนี้จะไม่เหมือนฮีโร่ขวัญใจประชาชนในจอทีวีที่ต้องเป็นคนดีสมบูรณ์แบบ แต่พวกนี้ เอาพูดง่าย ๆ คือ
"ทำทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ตนเชื่อว่าถูกต้อง ภายใต้กฎเกณฑ์ วิธีการ และแนวทางของตัวเองที่เชื่อว่าถูกต้อง และสำคัญกว่ากฎโดยรวมของสังคมที่อาจจะไม่เป็นธรรมพอหรือเป็นตัวขวางกั้นไม่ให้ความถูกต้องที่เชื่อนั้นเคลื่อนไหวไปได้"
ถ้าให้เปรียบก็คือ อย่างที่ว่าแหละ เหมือนโรบินฮู้ด ทั้งที่การเป็นโจรป่า กบฎต่อราชสำนักนั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกกฎหมายแน่ ๆ แต่โรบินฮู้ดกับพรรคพวกก็จะทำ แต่ถ้าถามว่าเพราะเขาเป็นคนเลวหรือ? เขาทำไปเพื่อช่วยคนจนจากการกดขี่ของเจ้าชายจอห์นที่ปกครองอย่างกดขี่ และว่าด้วยความภักดี เขามีความภักดีต่อกษัตริย์ริชาร์ดใจสิงห์ที่เป็นพี่ชายของเจ้าชายจอห์นยิ่งกว่าอะไรด้วยซ้ำ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าการปล้นสะดมและขโมยจะเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายไปได้แต่อย่างใด
แต่ถ้าให้พูดล่ะก็ บางที "วีรชนทุกคนในประวัติศาสตร์โลก" ก็อาจจะเป็นดาร์กฮีโร่กันหมดทั้งนั้น เพราะส่วนมากก็จับดาบฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน หรือกระทั่งลอบสังหารฝ่ายศัตรู ฯลฯ กันทั้งหมดนั่นแหละ เพียงแต่มันเกิดผลดีต่อคนบางกลุ่ม(ไม่ใช่ทุกคน อย่างน้อยไม่ใช่กับคนของฝ่ายศัตรูแน่ ๆ ล่ะ) แล้วมีคนยกย่อง ฆาตกรก็เลยกลายเป็นวีรบุรุษ ก็เท่านั้น
แต่ก็อย่างว่า ยังไงผิดก็คือผิด และพวกเขาก็อาจจะเป็นตัวตนหนึ่งที่ชี้ให้เห็นถึง "ความลั่กลั่นย้อนแยงของระบบความถูกต้องยุติธรรมในโลกนี้" ก็เป็นได้ เพราะคงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า
"มีแค่อุดมการณ์สวยหรู แต่ไม่ต่อสู้ จะเอาชนะคมดาบของอีกฝ่ายอย่างไรได้ นอกจากจะถูกสับคอขาดตายห่านเท่านั้น"
โลกความจริงนี่มันเหรี้ยนะว่ามั้ย
ถึงจะเจตนาดี แต่ถ้ามากเกินไปมันจะเป็นการประสงค์ร้ายต่อผู้อื่นน่ะสิคะ อีกอย่าง เรื่องเรียกร้องไม่ให้องค์กรปิดบังข้อมูลข่าวสารนี่ก็เกินไป ถ้าเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดก็ไม่เรียกว่าองค์กรแล้วค่ะ ข้อมูลบางอย่างก็อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดด้วย
สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าหน้ากากที่พวกเขาใส่มาจากภาพยนตร์เรื่องอะไร
ชื่อเรื่อง V For Vendetta (ชื่อภาษาไทย เพชฌฆาตหน้ากากพญายม) ลองไปหามาดูนะ
อานอนคือ "ศาลเตี้ย"
มันผิดกฎหมายแต่ได้ใจคน
หรอคับผมไม่รุ้
ใช่คัีบ
ถ้าตอบตามความจริง สิ่งที่ทำนั่นก็ผิดครับ
แต่ปัญหาที่เราต้องเอามาขบคิดคือ
"ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันผิด แต่ทำไมยังทำอยู่??" ต่างหาก
สิ่งที่เราควรดูไม่ใช่เขาทำถูกหรือผิด แต่เป็นการกระทำของเราและของรัฐ
หากเรามัวแต่บอกคัดค้านแต่ไม่ทำอะไรไม่รวมกลุ่มให้เห็นภาพจะมีซักกี่คนที่สนใจ
เหมือนกับที่กลุ่มนี้ทำ หากเขาทำแค่พิมพ์เหมือนบ่นจะมีกี่คนที่รู้และตระหนักในเรื่องนี้ คนบางคนถ้าไม่ทำให้ดูเขาก็ไม่สนใจหรอกครับ ดังสำนวน ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา พอเขาทำก็ออกมาด่า แต่ตอนที่เขาทำแค่แสดงความเห็นคุณสนใจบ้างไหม ดีไม่ดีคุณยังไปว่าเขาว่าไม่จริงทั้งๆที่มันจริงเลย
.เเล้วใครจะตรวจสอบพวกวอชเม็น. ชอบประโยคนี้มากเลย
เก่งเอาเรื่องเลยแฮะ
เคยได้ยินมั้ยว่าถูกต้อง อาจไม่ได้หมายความว่าถูกกฎหมาย
มันก็เป็นธรรมดานะที่จะมีคนลุกขึ้นมาประท้วงแบบนี้ มันก็ดีที่จะมีฝ่ายคัดค้าน แก้ไขสิ่งแย่ๆในสังคม แต่ถ้ามีคนเจตนาไม่ดีขึ้นมาล่ะ? ถ้าเกิดมีการใช้คำปลุกปั่น สร้างหลักฐานเกินจริงจนกลายเป็นการปลุกระดม ถึงตอนนั้นใครจะเอาอยู่ล่ะ