สวัสดีครับ น้องๆ ชาว Dek-D ที่น่ารักทุกคน น้องๆ คงรู้กันอยู่แล้วว่าประเทศไทยเรานี้มีหลากหลายชาติพันธุ์ตามพื้นที่ต่างๆ กว่า 20 ชาติพันธุ์ ซึ่งก็มีวัฒนธรรมอาหารการกิน และการใช้ชีวิตแตกต่างกันไปจนนับเป็นสีสันของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ทีนี้ พี่ก้าง ก็เกิดความสงสัยขึ้นมาว่าแล้วต่างประเทศเขาจะมีบ้างไหมหนอ และก็มาสะดุดเจอคำว่า “ ชนเผ่าไอนุ ชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิมของญี่ปุ่น” ที่เคยเป็นข่าวเมื่อไม่กี่ปีมานี่ว่าเพิ่งจะถูกยอมรับว่าเป็นเชื้อชาติญี่ปุ่น ซึ่งก็น่าสนใจตามที่คาดครับ พวกเขามีความแตกต่างมากเมื่อเทียบกับชาวญี่ปุ่นทั่วไป เอาเป็นว่าไปทำความรู้จักพร้อมกันเลยดีกว่าครับ
ชาวไอนุคือ?
ถ้าแปลจากภาษาของพวกเขาแล้ว ไอนุ หรือ ไอโนะ แปลได้ว่ามนุษย์ครับ พวกเขาเป็นชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่นแถบๆ ฮอกไกโด และเกาะทางตะวันออกของประเทศรัสเซีย รูปร่างหน้าตาและเครื่องแต่งกายทั่วไปจะต่างกับชาวญี่ปุ่นอย่างชัดเจนมากๆ
ถ้าเทียบจากรูปร่างภายนอกแล้วพวกเขาจะมีร่างกายที่ใหญ่และมีขนที่ดกกว่าชาวญี่ปุ่นพอสมควร ส่วนหน้าตาพวกเขาจะออกไปทางชาวมองโกลอยด์ แต่พอมีการตรวจ DNA ในภายหลังกลับพบว่าไม่ใช่ จึงถือเป็นชาติพันธ์ุที่ต่างหากออกไป ผู้เชี่ยวชาญด้านชาติพันธ์ุจึงจัดให้ชาวไอนุเป็นกลุ่ม ออสตราลอยด์ตอนเหนือแทนครับ (ถือเป็นกลุ่มแยกต่างหากเหมือนอะบอริจิ้นในออสเตรเลีย เพราะผลตรวจไม่ตรงกับทั้ง 3 กลุ่มหลักๆ เลย)
ในสมัยก่อนมีชาวไอนุได้พูดเอาไว้อีกว่า “พวกเขาอยู่มาก่อนที่ลูกหลานชาวพระอาทิตย์จะมาเสียอีก (หมายถึงคนญี่ปุ่น)” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีการย้ายถิ่นฐานมาที่เมื่อนานมาแล้วอีกด้วยครับ อ้อ! นอกจากนี้ยังมีหลักฐานว่าชาวไอนุได้ทำการค้าขายกับประเทศไทยเราด้วยอย่างเช่น พวก โอ่ง มีให้เห็นจนถึงปัจจุบันเลย แถมยังมีของเล่นสำหรับเด็กๆ ชาวไอนุที่คล้ายของไทยเราเลยครับ (เป็นของเล่นคล้ายการละเล่นเดินกะลาไทยเรา แต่ใช้เปลือกหอยแทน)
ภาพชาวไอนุในสมัยก่อน
Pic cr. www.geocities.jp/ydna_d2/ainu.html
อดีตที่เคยถูกกีดกันจากชาวญี่ปุ่น
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นานมาแล้วครับ โดยธรรมชาติแล้วคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ในสมัยก่อนจะค่อนข้างอ่อนไหวกับอะไรที่แตกต่างครับ พอเห็นว่าพวกชาวไอนุเขามีวัฒนธรรมและหน้าตาที่แตกต่างก็เกิดความกลัวขึ้นมา เลยแยกคนกลุ่มนี้กับชาวญี่ปุ่นอย่างชัดเจน อย่างเอาไปเป็นยักษ์ในเทศกาลปาถั่วบ้าง ผู้ใช้แรงงานบ้าง และกีดกันเรื่องบางเรื่องอย่างการใช้สถานที่สาธารณะบ้าง จนพวกเขาต้องถูกบีบให้ไปอยู่ในป่า จนเกิดการหลงลืมพวกเขาไปโดยปริยาย ชาวไอนุจึงต้องออกมาเดินขบวนให้ยอมรับพวกเขาเป็นชาวญี่ปุ่นด้วย ผลคือรัฐบาลก็ยอมรับว่าเป็นชนพื้นเมืองญี่ปุ่นที่มีภาษา ศาสนาและวัฒนธรรมเป็นของตัวเองในปี 2008 นี่เองครับ
ปัจจุบันเป็นเช่นไรบ้าง?
ในปัจจุบันมีชาวไอนุกว่า 25,000 – 200,000 คนในญี่ปุ่น และ 100 – 1,000 คนที่รัสเซียครับ ซึ่งทั้งนี้ก็มีส่วนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยว่าตนเป็นชาวไอนุอีกด้วย
แม้ได้รับการยอมรับแล้วว่าเป็นชนชาติญี่ปุ่น แต่จริงๆ ชาวไอนุก็ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ด้วยความเจริญที่รุกคืบไปอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกเขาที่ไม่ค่อยสันทัดเรื่องพวกนี้มากนักถูกกลบไปตามกระแสโลกเลยก็ว่าได้ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจุดเด่นของพวกเขาก็เริ่มมาเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวบ้าง เพราะในปัจจุบันเขาได้ใช้ความเด่นนี้ให้เกิดประโยชน์ขึ้นมาโดยการเปิดให้หมู่บ้านชาวไอนุ ที่เมืองชิราโออิ จังหวัดฮอกไกโด เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการแสดงประจำเผ่าดั้งเดิมโดยคนที่สืบสายเลือดชาวไอนุมาถึงปัจจุบัน และที่เด่นๆ เลยคือมีการทอผ้าที่สวยงามมากๆ คล้ายกับชนชาติทางตอนเหนือบ้านเราเลยครับ
ภาษาที่ใช้
แต่เดิมมีชาวไอนุพูดภาษาไอนุด้วยกันเองแต่ไม่มีเป็นภาษาเขียนครับ ในปัจจุบันมีชาวไอนุที่พูดภาษาชาวไอนุด้วยกันเองน้อยมาก เพราะชาวไอนุที่อาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นส่วนมากในปัจจุบันก็พูดภาษาญี่ปุ่น ส่วนที่อาศัยอยู่แถบๆ รัสเซียก็จะพูดภาษารัสเซียแทน แต่ก็ยังมีหลักฐานการหลงเหลือของภาษานี้อย่างชื่อเมือง ซัปโปโระ ในญี่ปุ่น ที่มีรากภาษามาจากภาษาชาวไอนุอยู่เหมือนกันครับ
การแต่งกาย
ชาวไอนุจะผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งไว้สำหรับสวมใส่กันเอง โดยจะถักทอผ้าจากต้นไม้ต่างๆ เช่นต้น ทีเรีย หรือต้นดอกไม้สีเหลืองที่พบได้ทั่วไปแถบๆ ฮอกไกโด ตัวผ้ามีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ในปัจจุบันถือเป็นของขึ้นชื่อประจำหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ครับ
Pic cr. Pixabay
ตัวอย่างผ้าคลุม ชาวไอนุเรียกกันว่า attus (แอททัช)
ศาสนา ความเชื่อ
ชาวไอนุจะไม่มีศาสนา แต่จะเชื่อพวกภูติผีและเทพพระเจ้าเสียมากกว่าครับ พวกเขาจะเชื่อว่าทั้งแม่น้ำ ภูเขา สัตว์ต่างๆ รวมถึงต้นไม้บางต้น จะมีภูติผีหรือเทพพระเจ้าคุ้มครองอยู่ด้วย อย่างเช่นเทศกาลเทพงูขาว ซึ่งเป็นเทศกาลที่มีมาถึงสมัยปัจจุบัน ตามความเชื่อที่ว่า ในสมัยก่อนมีงูขาวตัวหนึ่งนำพวกเขาไปสู่แม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ ในตัวเทศกาลเองก็จะมีจัดระบำที่หาดูได้ยากมากครับ
ส่วนในสมัยก่อนก็มีอีกเทศกาลที่ค่อนข้างโหดร้ายอยู่บ้างอย่างการผูกคอลูกหมีให้ตาย เพราะพวกเขาเชื่อว่าลูกหมีจะได้ไปอยู่กับพระเจ้าอีกด้วย
ถ้าอยากจะไปเยือนถึงที่ควรไปหาที่ไหนดี?
ในปัจจุบันมีหมู่บ้านชาวไอนุที่เปิดให้เข้าชมอยู่ เช่นที่เมืองชิราโออิ จังหวัดฮอกไกโด ซึ่งที่นี่เขาจะมีการแสดงพื้นบ้านย่อมๆ โดยลูกหลานชาวไอนุ มีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ การใช้ชีวิต และอาหารชาวไอนุจัดแสดงอยู่ด้วยครับ ใครได้มีโอกาสไป ก็สามาถไปเยี่ยมเยียนที่นี่ได้เลยครับ
Pic cr. www.hokkaidolikers.com/articles/1567
Pic cr. www.sapporo-tourguides.com
Pic cr. http://blog.goo.ne.jp/green-tea1234/m/200705
นับว่าแตกต่างจนแทบไม่เหมือนชาวญี่ปุ่นจริงๆ เลยครับ ในสมัยก่อนอาจจะเคยมีเรื่องมากมายทำให้ไม่ถูกยอมรับก็จริง แต่ในปัจจุบันถ้าจะพูดถึงชนเผ่าโบราณในญี่ปุ่นผู้คนต้องนึกถึงชนเผ่าไอนุครับ ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นและเริ่มเป็นที่ยอมรับของคนทั่วๆ ไปด้วย เชื่อว่าน้องๆ ที่อ่านน่าจะเกิดชอบขึ้นมานะครับผม
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก Wikipedia.org
4 ความคิดเห็น
ไม่นึกว่าตอนแรกจะถูกกีดกันด้วยนะเนี่ย
ขอบคุณครับ
ปล. เทพเจ้า, เทพ, พระเจ้า
ขอบคุณครับ
ปล. เทพเจ้า, เทพ, พระเจ้า
ขอบคุณครับพี่ ที่ให้ความรู้เรื่องของพี่น้องชนเผ่าไอนุ ครับ ผมไม่เคยรู้ชนเผ่าไอนุ ผึ่งมารู้ที่พี่นำมาบอกนี่แหละ