สวัสดีค่ะ น้องๆ ชาว Dek-D.com ใครจะไปรู้ว่ามนุษย์จะเคยทำเรื่องโหดๆ ที่ไม่น่าให้อภัยกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันถึงขนาดนี้เพียงเพราะเขา 'แตกต่าง' เท่านั้น เรื่องที่ พี่นิทาน นำมาเล่าวันนี้ เป็นเรื่องจริงที่น่าสลดใจของชายผิวสีที่ชื่อ โอตา เบงกา กับชีวิตในกรงขังในสวนสัตว์มนุษย์ที่เคยมีอยู่จริงๆ ในอเมริกา
โอตาในสวนสัตว์บรองซ์ ปี 1906
Photo credit : wikipedia
เมื่อ 100 กว่าปีที่ผ่านมา ชายคนหนึ่งได้ฆ่าตัวตายจากความเครียดหลังจากทุกข์ทรมานกับเรื่องเศร้าๆ มาตลอดชีวิต เรื่องมีอยู่ว่าเขาเคยถูกซื้อตัวจากบ้านเกิดที่ประเทศคองโกเพื่อนำไปแสดงตัวอยู่ใน "สวนสัตว์มนุษย์" เพื่อความบันเทิงของมนุษย์ด้วยกัน เพียงแค่เพราะเขามีผิวสีคล้ำจึงทำให้เขาเป็นสิ่งประหลาดดึงดูดความสนใจจากชาวผิวขาวยิ่งนัก ชื่อของชายคนนั้นคือ 'โอตา เบงกา'
โอตา เบงกา เป็นหนึ่งในสมาชิกชนเผ่าปิ๊กมี่ เขาสูญเสียลูกๆ และภรรยาในช่วงที่เบลเยียมมาล่าอาณานิคมที่ประเทศคองโก หมู่บ้านของเขาถูกโจมตีและฆาตกรรมเกือบทั้งหมดแต่เขารอดมาได้เพราะกำลังอยู่ในระหว่างออกล่าสัตว์ และผู้ที่รอดจากการบุกรุกฆาตกรรมนั้นจะโดนจับมาเป็นทาส และเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น
ภายหลังในปี คศ. 1904 ชาวอเมริกันที่มีชื่อว่า ซามูเอล ฟิลลิปส์ เวอร์เนอร์ (Samuel Phillips Verner) ได้เจอกับเขาและใช้เสื้อผ้าจำนวนหนึ่งกับเกลือเพื่อซื้อตัวโอตาจากการเป็นทาสเพื่อกลับไปที่อเมริกากับเขา แรกสุดเวอร์เนอร์พาโอตาไปโชว์ตัวที่งานเอ็กซ์โปที่รัฐลุยเซียน่า (Louisiana Purchase Exposition) ภายใต้ชื่อว่า 'มนุษย์จากชนเผ่าแอฟริกันกินคนคนเดียวในอเมริกา' โดยมีเสียงตอบรับจากคนมากมายมหาศาลด้วยความแปลกตาจากสีผิวและฟันที่แหลมคมของโอตา (เกิดจากการตะไบฟันในพิธีกรรมสำหรับเด็กผู้ชายในชนเผ่าของเขา) ทำให้คนตื่นเต้นและประหลาดใจกันเป็นอย่างมาก
ฟันที่แหลมคมของโอตา ถ่ายในปี 1904
Photo credit : wikipedia
หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1906 เวอร์เนอร์พาตัวโอตาไปยังสวนสัตว์บรองซ์ (Bronx Zoo) ในรัฐนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา และถูกบังคับให้ใช้ชีวิตอยู่ในกรงกับลิงเพื่อให้คนเห็นถึงชีวิตของมนุษย์ชนเผ่าที่มีวิวัฒนาการใกล้เคียงกับสัตว์จำพวกลิง เนื่องจากโอตามาจากชนเผ่าปิ๊กมี่ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับคนแคระและลิง
การแสดงของเขาที่สวนสัตว์จะเป็นการใช้ชีวิตทั่วไปให้คนเห็นถึงความเป็น 'มนุษย์' ในวิวัฒนาการหลังจากลิงมาสู่ช่วงแรกๆ ของการเป็นมนุษย์ โดยสิ่งที่เขาถูกให้ทำนั้นเป็นการกระทำที่สุดสลดและเหยียดเชื้อชาติเป็นอย่างมาก ผู้คนกว่า 500 คนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างแห่กันมาอยู่ที่หน้ากรงและมองดูด้วยความตื่นตาตื่นใจแถมยังหัวเราะชอบใจกันอีกด้วย ภายหลังเมื่อหนังสือพิมพ์ได้ลงข่าวเกี่ยวกับโอตาจึงมีคนจำนวนมากร้องเรียนกับนายกเทศมนตรีของนิวยอร์คให้ปล่อยตัวเขาจากสวนสัตว์บรองซ์
โอตา (คนที่สองจากซ้ายมือ)
Photo credit : wikipedia
ต่อมาโอตาถูกปล่อยตัวและได้รับการดูแลภายใต้ชื่อของบาทหลวงเจมส์ กอร์ดอน (James M. Gordon) และพาเขาไปอยู่ที่รัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งโอตาได้รับการดูแลเหมือนคนปกติธรรมดาที่ควรจะเป็น เขาดูแลโอตาเป็นอย่างดี ด้วยการพาโอตาไปซื้อเสื้อผ้า ทำฟันใหม่และให้โอตาแต่งตัวเหมือนคนอเมริกันทั่วไปเพื่อจะได้อยู่ร่วมและได้รับการยอมรับจากสังคม นอกจากนั้นยังสอนภาษาอังกฤษให้เขาและมอบโอกาสในการทำงานให้กับเขา
แต่ชีวิตก็ไม่ได้สวยหรูและง่ายขนาดนั้น เมื่อความหวังที่จะได้กลับบ้านเกิดที่คองโกของโอตาต้องพลังทลายลงเมื่อเกิดความจลาจลขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ประชาชนไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ และภายใต้สภาพบ้านเมืองที่เครียดและกดดันประกอบกับชีวิตที่น่าเศร้าของเขาจึงทำให้โอตาจบชีวิตตัวเองลงด้วยการฆ่าตัวตายในปี 1916 ด้วยอายุเพียง 32 ปีเท่านั้น
ประเด็นเรื่องสีผิวและเชื้อชาตินั้นค่อนข้างอ่อนไหวและยังคงมีการถกเถียงรณรงค์กันเรื่องเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและการอยู่ร่วมกันโดยไม่แบ่งแยกจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้เรื่องราวของโอตานั้นน่าเศร้า แต่เราก็ยังหวังอยากเห็นโลกสวยงามด้วยการอยู่ร่วมกัน ช่วยเหลือกัน และเห็นค่าของมนุษย์เท่าๆ กัน จะได้อยู่อย่างมีความสุขกันค่ะ
ข้อมูลจาก
7 ความคิดเห็น
อ่านเเล้ว รู้สึกสงสารจับใจเลยค่ะ น่าเห็นใจพวกเขามากเลยค่ะ ถึงจะเเตกต่างกันทางสีผิว เเต่พวกเขาก็เป็นคนเหมือนกับเรานะคะ ถ้าเกิดเราถูกจับเเล้วขังเหมือนสัตว์อย่างที่เขาเคยถูกทำ เราคงรู้สึกเเย่มากเลยค่ะ
สงสารรรรรรก็คนมันเลือกเกิดไม่ได้้้้้้้้้้้้้้ ถ้าเลือกเกิดได้เขาคงอยากเป็นคนขาว
เขาไม่ได้อยากถูกทรมาณ เขาเป็นคนมีชีวิตมีจิตใจเหมือนเรา นึกถึงใจเขาใจเรา
เป็นตัวเราเองก็คงไม่อยากถูกทรมาณ ถ้าคนขาวโดนบ้างก็จะรู้สึก
ไม่ได้ว่าคนขาวทุกคนเป็นคนเลว คนทุกชาติทุกสีผิวก็มีทั้งดีทั้งเลวปนกัน
ตัวเราก็ไม่ได้บอกว่าเราเป็นคนดี คนเราก็มีทั้งด้านดีด้านชั่ว
เราไม่ควรตัดสินคนที่รูปลักษณ์ภายนอก
บางคนดูดีภายนอกแต่ในใจอาจจะเป็นปีศาจในร่างมนุษย์ดีๆนี่เอง
ปัญหาเหยียดเชื่อชาติ เผ่าพันธุ์ สีผิว มาจากตะวันตกทั้งนั้น
น่าสงสารจัง...
เป็นคนผิวสีแล้วทำไมเหรอ?
ทำไมพวกคนผิวขาวถึงต้องดูถูก กดขี่ ต้องแบ่งชนชั้น เขาก็คือคนมีชีวิตมีจิตใจ มีสภาพบุคคลเหมือนพวกคุณๆ ผิวขาวแล้วไง? ก็ไม่เห็นจะดีไปกว่าผิวสี การดูถูกมนุษย์ด้วยกันขนาดนี้พวกคุณคงไม่ใช่มนุษย์แล้วล่ะ สำหรับคนผิวขาวดีๆก็ชื่นชมนะ คนดีๆเขาก็มีอ่ะแหละ แต่พวกที่เหยีดที่ดูถูกคนผิวสี รู้ไว้เลยนะว่าคนผิวขาวถึงจะมีเยอะ มีมาก คนผิวสีก็มีเกือบครึ่งโลกเหมือนกัน แค่สีผิวมันไม่ทำให้พวกคุณประเสิธเลิศเลอวิเศษวิโสขึ้นมาหรอกนะ ถ้าคุณยังกระทำดูหมิ่น ดูถูกเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ถ้าพวกคุณโดนมองว่าเป็นคนเผือกบ้างคุณจะรู้สึกยังไงล่ะ???
เอ๊ะเราเอาคำพูดโลกสวยๆแบบนี้มาจากไหนอ่าาาาา
สงสารเขาจัง