วันนี้พี่จะพาไปเยี่ยมชมอะไรที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่กับมันเสมอไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน (ในเงื่อนไขที่ว่าเราไม่สามารถผลิตอะไรที่เราต้องการได้ทุกสิ่ง เราก็ต้องซื้อนะครับ) นั่นก็คือซูเปอร์มาร์เก็ตหรือแหล่งช็อปปิ้งค้าปลีกเพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าของเรานั่นเอง

      วันนี้จะพาไปดูว่าซูเปอร์มาร์เก็ตที่นี่ มีอะไรเหมือนหรือต่างจากซูเปอร์มาร์เก็ตที่ไทยบ้าง

 

     เราจะเริ่มกันที่ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่มีสาขามากๆ หรือเรียกว่า Chain store โดยตัวอย่างของ Chain store ที่ไทยง่ายๆ ก็พวก 7-11, Family Mart, CP Freshmart เป็นต้นครับ และนี่คือที่ๆ จะพาไปชมนะครับ มันคือร้านที่ชื่อว่า CVS Pharmacy ซึ่งถือเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีร้านขายยาโดยมีเภสัชกรควบคุมอยู่ด้วย โดย CVS มีสาขาครอบคลุมมากกว่า 7,600 สาขาทั่วอเมริกา เรียกได้ว่าใหญ่มากๆ เพราะเป็นอันดับ 2 ของอเมริกา ร้านนี้เป็นสาขาเปิดใหม่ตั้งอยู่ในย่าน Lower Nob Hill ข้างบ้านของพี่เอง 

     ซึ่ง CVS สาขานี้เพิ่งเปิดได้ไม่นาน เรียกว่าไม่ถึงปีดี มีขนาดใหญ่พอสมควร มีแผนกครบครันสำหรับสินค้าปลีกทั่วไป เดี๋ยวเราจะเข้าไปชมกันว่าในนี้มีอะไรวางขายกันบ้างนะครับ

     เอาล่ะครับ เมื่อเป็น Pharmacy หรือร้านขายยา ดังนั้นก็แนะนำโซนขายยาก่อนเลยครับ แต่ๆๆๆๆ ไม่ใช่ว่าเราจะซื้อได้ทุกอย่างนะ ยาบางตัวต้องใช้ใบรับรองแพทย์นะเอ้อ มีแค่เงินซื้อไม่ได้ เช่น ยาใช้เฉพาะหรือยาที่ต้องวิเคราะห์อาการและเสี่ยงผลข้างเคียง

    
      พวกวิตามินอาหารเสริมก็มีนะ แต่ที่นี่ราคาของสุขภาพไม่ใช่ถูกๆ นะเอ้อ ส่วนใหญ่ก็แพงระดับ 20$ ขึ้นไปนะครับ (คูณ 35)

     มาโซนของทั่วไปบ้าง ถ้ากลัวหาอะไรไม่เจอ ที่นี่ก็ง่ายๆ เหมือนที่ไทย เงยหน้าหาหมวดหมู่สินค้าของท่านแล้วก็เดินไปเลยครับบบ

    
     โคคาโคล่าหรือโค้ก ขวดขนาดสองลิตร ซื้อ 4 ขวด 5$ อืม จะขนออกไปยังไง? ใจคอพี่จะกระหน่ำขายไว้ให้อาบหรือครับ? ขณะที่แบบกระป๋องจะขายกระป๋องละ 1$ ความยุติธรรมอยู่ตรงไหน?

    
      น้ำอัดลมขวดเล็กๆ ราคาเท่าขวดใหญ่ สำหรับพกพาและดื่มเลย สงสัยแพงกว่าเพราะแช่เย็น เกี่ยวมั้ย? 5555

    
      ถัดมาภาพล่างเป็นไอศกรีม ราคาก็ไล่เลี่ยกันไป มีฮาเกนดาซที่เป็นยี่ห้อยอดนิยม แต่กูลิโกะไม่มีนะ ใครจะบินมาหากินที่นี่เสียใจด้วย ราคาก็แพงเอาเรื่อง 4-6$ และมันหนาวจนขี้เกียจกินอะ

     

     ถัดไปในตู้แช่ก็เป็นพวกอาหารแช่แข็ง พิซซ่า พาสต้า เบอร์เกอร์ที่ราคาถูกมาก เหมาะสำหรับคนขี้เกียจทำอาหาร+ช็อตเงิน+ลิ้นจระเข้ เพราะรสชาติมันห่วยมากกกกกกกกกกก

    
      กินอาหารเสร็จก็มาชมขนมนมเนยกันบ้าง ช็อคโกแลตจะเยอะไปไหน? ขายเป็นแพ็คใหญ่ๆ ซื้อคู่ถูกกว่าเข้าไปอีก มิน่าคนที่นี่อวบเอาๆ (แซวเล่นนะครับ) แบรนด์ก็คุ้นหน้าคุ้นตากันครับ คิทแคท สนิคเกอร์ M&M

    
     กินขนมกลัวติดคอก็ต่อด้วยนี่เลย น้ำเปล่าหรือ Sparkling water ก็มีนะ มีรสให้เลือกด้วย คือคนที่นี่บางคนชอบกินน้ำซ่าส์ๆ ซึ่งมันไม่ได้ซ่าส์แบบโซดาอะ มันซ่าส์นิดๆ ชื่นใจ(มั้ง) ส่วนตัวพี่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ราคาก็แพงกว่าน้ำเปล่านิดนึง ราคาไล่เลี่ยกับน้ำอัดลม และก็นั่นแหละครับอีกสาเหตุว่าทำไมคนที่นี่อวบมาก (รวมทั้งคนที่ย้ายมาอยู่แบบพี่ด้วย)

   
     ถัดมาคือมันฝรั่งทอดครับ ซึ่งที่น่ายินดีก็คือมันเป็นฝรั่งทอดจริงๆ นะเฮ้ย ไม่ใช่ถุงใส่อากาศที่มีมันฝรั่งปนมา ขนาดก็ประมาณเลย์สามสิบบาทแต่แน่นกว่าเยอะ เหมาะสำหรับกินดูแกล้มภาพยนตร์เป็นครอบครัว

     ทีนี้มาดูอะไรที่ไม่น่ามีขายในซูเปอร์มาร์เก็ตบ้านเราบ้าง เริ่มที่การ์ดอวยพรจ้า โดยจะอยู่กับโซนเครื่องเขียน

  
       แฟชั่นก็มีนะหมวก รองเท้า แว่นกันแดด ราคาก็มีตั้งแต่ 5-15$ แล้วแต่กำลังทรัพย์ ที่ตลกคือหมวกถ้าซื้อแบบเดียวกัน 2 ใบจะลดราคาด้วย ว่าแต่จะซื้อไปใส่ให้ใครอีกใบอันนี้ก็ต้องว่ากันไปนะครับ

    
      อากาศ 10-15 องศาแบบนี้รับรองเท้าแตะไปใส่เดินให้ป่วยเล่นมั้ยฮะ? ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ 10$ ขึ้นไปอีก อาจเป็นกับดักล่อให้คนใส่แล้วป่วยไปซื้อยาและวิตามินก็เป็นได้ 

    
       หรือเอาแว่นกันแดดดีครับ? ซึ่งก็มีเหตุผลนะที่ขาย เพราะที่นี่ต่อให้หนาวขนาดไหน แดดก็แรง(มากกกก)กว่าไทยเยอะเลย ดังนั้นควรใส่แว่นเพื่อปกป้องสายตาครับ

    
       ของฝากของที่ระลึกก็มีนะ จากซานฟรานเลย ไม่ต้องไปซื้อตามแหล่งท่องเที่ยว ของยอดฮิตก็เช่น ช็อคโกแลตจากจิลาเดลลี่ พวงกุญแจ พวกนี้ 3-6$ ก็ซื้อได้แล้ว จนถึงแบบเป็นแพ็คๆ ราคาก็ 15-20$  ใครลืมซื้อตอนไปแหล่งท่องเที่ยวก็มาที่นี่ได้ ที่นี่มีบริการนะครับ

    
      ปิดท้ายด้วยนี่ เก๋สุด เครื่องขายล็อตโต้ให้เสี่ยงดวงถ้าคุณยังรู้สึกว่าเสียเงินไม่พอ มีให้เลือกทั้งหวยขูดที่เหมือนเกมบิงโก ซื้อตั๋วมาจากเครื่องแล้วก็ขูดๆ ว่ามีเลขหรือคำตรงกันกี่แถว ถ้าได้แถวตรงกันมากๆ ก็ได้เงินเยอะขึ้น หรือจะเป็นล็อตเตอรี่ที่เราเลือกเลขเองได้เหมือนหวยใต้ดิน เพื่อลุ้นแจ็คพ็อตที่ประกาศเรื่อยๆ มูลค่ารางวัลก็ขึ้นอยู่กับว่ามีคนถูกหรือยัง ถ้าไม่มีคนถูกติดต่อกันหลายงวด รางวัลแจ็คพ็อตก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย เดินเพลินจนลืมนึกไปว่านี่ร้านขายยานะ มีอะไรล่อให้เสียเงินตลอดเลย ก็เอาที่สบายใจเลยจ้า

   
     ขอบอกเลยว่าที่นี่มันใหญ่มากและ One stop services สุดๆ เครื่องสำอาง เครื่องอาบน้ำก็มี แต่ถ่ายไปถ่ายมาพนักงานเริ่มมองค้อน เลยได้เท่านี้

      อ้อ ที่สำคัญ ซูเปอร์มาร์เก็ตที่นี่จะมีบัตรสมาชิกสะสมแต้ม และมีการลดราคาเพื่อโละของ ทำให้คนมาจับจ่ายซื้อประจำเพื่อสะสมแต้ม ซึ่งทำให้การแข่งขันสูงมากๆ ระหว่างซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยกัน ไว้เดี๋ยวรอบหน้าพี่ท็อปจะพาไปชมซูเปอร์มาร์เก็ตแบรนด์อื่นๆ บ้างนะครับ รวมถึงไว้จะพาไปร้านของชำที่ขายของญี่ปุ่น จีน เวียดนาม กัมพูชา เม็กซิกัน ฯลฯ สินค้าก็จะต่างกันออกไป บอกเลยว่าโชคดีมากๆ เพราะที่ซานฟรานนั้นมีของทุกแบบที่อยากได้รวมอยู่ในเมืองเดียว อันเป็นผลจากความหลากหลายของเชื้อชาติและวัฒนธรรมในซานฟรานซิสโกนั่นเอง

      เรื่องน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของวัฒนธรรมการซื้อของที่นี่คือ คนจะนิยมซื้อของจากหลายๆ ร้าน ไม่ได้เน้นซื้อร้านที่อยู่ใกล้บ้านเท่านั้น บางคนชอบซื้อของถูก บางคนชอบซื้อของเพื่อสุขภาพ ก็จะมีร้านค้าให้เลือกจับจ่ายตามรสนิยมและเงินในกระเป๋าของเรา ตัวอย่างเช่น พี่ชอบซื้อของในร้านขายของชำขนาดเล็ก และยอมจ่ายแพงกว่านิดหน่อยเพื่อกระจายรายได้ให้กับคนที่เปิดกิจการเล็กๆ ของตัวเองมากกว่ายอมจ่ายถูกแต่เดินเข้าห้างร้านใหญ่ๆ ตลอด พูดง่ายๆ คือเป็นการกระจายรายได้ให้คนในชุมชนนั่นเอง (หล่อมั้ยล่ะครับ) ถ้าชอบล่ะก็ อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะครับ