รัฐเเห่งคนหาย! เกิดอะไรขึ้นใน "รัฐไอโอวา" รัฐที่มีคนหายมากที่สุดในอเมริกา


 
     สวัสดีค่ะชาว Dek-D มีใครเคยได้ยินข่าวคนหายกันบ้างมั้ยคะ? ต้องบอกเลยว่าที่สหรัฐอเมริกานั้นมีคดีคนหายมากถึง 80,000 คดีเลยทีเดียว วันนี้พี่หมิวจะมาแชร์คดีคนหายไปอย่างลึกลับที่เกิดขึ้นในรัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งเเต่อดีตจนถึงปัจจุบันกัน มาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าจะเป็นยังไง 

     
      คดีเด็กหายตัวไปอย่างลึกลับในรัฐไอโอวาเกิดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งเเต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยทาง FBI ได้เปิดเผยข้อมูลของคนหายในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 1975 - 2017 เป็นจำนวนทั้งหมด 88,089 ราย โดยจำนวน 32,121 รายเป็นเยาวชน เรามาดูกันค่ะว่ามีคดีอะไรที่เกิดขึ้นบ้าง


 

คดีการหายตัวไปอย่างลึกลับของ จอห์นนี่ กอสซ์


      มาย้อนอดีตไปถึงคดีการหายตัวไปที่โด่งดังในรัฐไอโอวา สหรัฐอเมริกา คือ คดีการหายตัวไปอย่างลึกลับของ จอห์นนี่ กอสซ์ (Johnny Gosch) เกิดขึ้นในปี 1982

      จอห์นนี่ กอสซ์ ในวัย 12 ปี เป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ให้ตามบ้านในเมืองดิมอยน์ตะวันตก รัฐไอโอวา จอห์นนี่ไม่เคยไปส่งหนังสือพิมพ์สายเลยสักครั้ง จนในเช้าวันที่ 5 กันยายน ปี 1982 พ่อแม่ของเขาได้รับโทรศัพท์จากบ้านหนึ่งว่ายังไม่ได้รับหนังสือพิมพ์ แสดงว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับจอห์นนี่ลูกชายของพวกเขาอย่างแน่นอน

       พ่อแม่ของจอห์นนี่พากันไปแจ้งตำรวจ แต่ตำรวจบอกว่า จะต้องรอถึง 72 ชั่วโมง ถึงจะสามารถประกาศได้ว่าจอห์นนี่เป็นบุคคลสูญหาย จนในที่สุดเรื่องการหายตัวไปอย่างลึกลับของจอห์นนี่ก็โด่งดังไปทั่วประเทศ พ่อแม่ของเขาถึงกับไปประกาศตามหาออกโทรทัศน์ ทำโปสเตอร์ตามหาคนหายที่มีหน้าของจอห์นนี่อยู่บนนั้นกว่า 10,000 ใบ
 

     นอกจากนี้ยังมีหลักฐานชิ้นสำคัญจากนักสืบเอกชนที่พ่อแม่ของจอห์นนี่ไปจ้างมา เขาได้สืบพบพยาน 2 คนที่เห็นจอห์นนี่กำลังคุยกับผู้ชายคนหนึ่งในรถสีฟ้าในเช้าวันเกิดเหตุ เเต่หลักฐานครั้งนี้ยังไม่สามารถบอกอะไรได้มาก 
 

      อีก 15 ปีต่อมาหลังจากการหายตัวไปของจอห์นนี่ โนรีน กอสซ์ (Noreen Gosch) แม่ของจอห์นนี่เล่าว่า เธอตื่นขึ้นมากลางดึกในเวลาตี 2 ครึ่งเพราะมีคนมาเคาะประตูบ้าน เธอเปิดประตูไปพบกับชายแปลกหน้าที่มีปานที่หน้าอกเหมือนกับลูกชายที่หายตัวไปของเธอ  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ชายแปลกหน้าคนดังกล่าวคือ จอห์นนี่ในวัย 27 ปี ที่อยู่ดีๆ ก็ปรากฏตัวอย่างน่าแปลกใจ แต่จอห์นนี่ไม่ได้มาคนเดียว เขามากับผู้ชายอีกคนหนึ่งที่โนรีนไม่รู้ว่าเป็นใคร หลังจากที่เธอได้พูดคุยกับลูกชายประมาณชั่วโมงกว่า เธอเห็นท่าทางของลูกเธอที่แปลกไป เธอพบว่า เวลาที่จอห์นนี่คุยกับเธอ เขาจะหันไปมองผู้ชายอีกคนที่มาด้วยตลอด แต่สุดท้ายแล้วจอห์นนี่ได้จากไปอีกครั้ง

      โนรีนรีบไปหา FBI เพื่อขอให้พวกเขาช่วยสเก็ตช์ภาพของจอห์นนี่ตอนโตแล้ว แต่ด้วยความที่ไม่มีหลักฐานอื่นเลยนอกจากคำพูดของเธอที่ว่าได้เจอกับจอหน์นนี่ ทำให้ตำรวจสงสัยว่าจอห์นนี่อาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ โนรีนเชื่อว่าลูกของเธอโดนลักพาตัวโดยพวกที่มีรสนิยมทางเพศกับเด็ก แต่ตำรวจยังบอกอีกว่า เราไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าจอห์นนี่จะถูกลักพาตัวไปโดยพวกที่มีรสนิยมทางเพศกับเด็กจริงๆ เเต่ก็ยังมีการถกเถียงกันว่า จริงๆ แล้วเเม่ของจอห์นนี่ได้พบกับจอห์นนี่จริงๆ หรือไม่ หรือเธออาจจะคิดไปเอง สร้างภาพของจอห์นนี่ขึ้นมาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดทางจิตใจที่ลูกชายหายไปก็เป็นได้??


Photo Credit: iowacoldcases.org

      พ่อแม่ของจอห์นนี่ยังคงไม่ลดละความพยายามในการตามหาลูกชาย พวกเขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “พวกเราใช้ชีวิตแบบไม่มีจอห์นนี่มานานจนเริ่มชิน แต่มันยังคงเจ็บปวดอยู่เสมอ” จนถึงตอนนี้ เวลาได้ล่วงเลยผ่านมาถึง 35 ปี 11 เดือน 2 วัน เเล้วที่จอห์นนี่หายตัวไป และสำหรับใครที่สนใจเรื่องราวของจอห์นนี่ สามารถเข้าไปชมเว็บไซต์ www.johnnygosch.com ได้เลยค่ะ    


เด็กชายออทิสติกหายตัวไประหว่างเดินเล่นบริเวณบ้านในปี 2018


      จำนวนคนหายไปอย่างลึกลับในรัฐไอโอวายังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงในปี 2018 ยังคงมีคดีเด็กหายหลายคดีปรากฎให้เห็นอยู่ในรัฐไอโอวา โดยจะยกตัวอย่าง 2 คดีดังในปี 2018 มาให้อ่านกันค่ะ  

      ผู้สูญหายคือเด็กชายออทิสติกวัย 16 ปี  เจค วิลสัน ( Jake Wilson) หายตัวออกจากบ้านไปในคืนวันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2018 พวกอาสาสมัครได้รวมตัวช่วยกันหาในบริเวณที่เด็กชายหายไป แต่ยังคงไม่พบร่องรอยของเด็กคนดังกล่าว
 
       ก่อนเด็กชายจะหายตัวไป เขาบอกกับครอบครัวว่าจะไปเดินเล่นเเถวบริเวณลำธารเล็กๆ ซึ่งห่างจากบ้านเขาไป 2 บล็อก ในเวลา 3  ทุ่มของคืนวันเสาร์ที่ 8 เมษายน 2018 เมื่อเขาออกจากบ้านไปและไม่กลับมาเป็นเวลานาน ครอบครัวของเขาจึงเริ่มออกตามหา แม่ของเจคบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เจคเป็นเด็กออทิสติกและยังมีปัญหาเรื่องสมองที่มีอายุเพียง 9 ขวบ เขากำลังอยู่ในระหว่างการรักษาตัวและบำบัด   
     
      ครอบครัวของเจคยังกล่าวอีกว่า ถ้าอารมณ์ของเจคได้รับการกระทบกระเทือนมากๆ มันจะส่งผลทำให้เขาพยายามที่จะหลบเลี่ยงผู้คนที่จ้องมองมาที่เขา นอกจากนี้ทางครอบครัวยังเป็นห่วงเจคมากเนื่องจากในคืนที่เจคหายไป อากาศค่อนข้างหนาวเเละยังมีหิมะปกคลุมอีกด้วย 

      นายอำเภอ โทนี่ ทอมป์สัน กล่าวว่า ถึงแม้มันจะไม่ใช่อาชญากรรมร้ายแรงก็ตาม แต่เราก็จะดำเนินการติดตามการสูญหายอย่างใกล้ชิดเหมือนกัน พวกเราจะร่วมมือกัน เรายังคงมีความหวังในการตามหาเด็กชายคนจนพบนี้  
     
      ทีมช่วยเหลือในรัฐไอโอวาใช้เครื่องโซนาร์เเละอุปกรณ์ในการช่วยเหลือต่างๆ เพื่อหาร่องรอยของเจค วิลสันในบริเวณลำธารที่เค้าหายตัวไป แต่ยังไม่พบร่องรอยการหายไปของเขา รวมไปถึงอาสาสมัครที่ช่วยกันตามหาเด็กชายในระยะ 9 ไมล์จากบริเวณที่เด็กชายหายตัวไป พวกเขากล่าวว่าเราจะยังคงขยายพื้นที่ในการตามหาไปเรื่อยๆ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เจอเขา      
     
     
        

มอลลี่ ทิบเบทส์ หายตัวไประหว่างวิ่งจ๊อกกิ้ง 


     นับตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม ปี 2018 เป็นต้นมา จากฐานข้อมูลของกรมความปลอดภัยในสหรัฐอเมริกาได้แสดงถึงข้อมูลคนหายตัวไปในรัฐไอโอวากว่า 50 คน โดยคนจำนวนมากที่หายไปนั้นเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เเละภายในช่วงเวลา 7 วัน ตั้งเเต่วันที่ 26 เดือนกรกฎาคม ถึงวันที่ 4 สิงหาคม มีเยาวชนชาย 19 คน หญิง 17 คน อายุระหว่าง 13-20 ปี หายตัวไปในรัฐไอโอวาอย่างไร้ร่องรอย 
 
           
      คดีที่น่าสนใจนี้คือคดี มอลลี่ ทิบเบทส์ (Mollie Tibbetts) วัย 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยไอโอวา เธอเป็นรายที่ 50 ที่หายตัวไปในรัฐไอโอวาในวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยข้อมูลได้เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 กรกฎาคม เธอถูกพบครั้งสุดท้ายตอนไปวิ่งจ็อกกิ้ง เธอสวมสปอร์ตบาร์สีชมพูและกางเกงขาสั้นสีดำสำหรับวิ่งและสวมรองเท้าวิ่ง ในขณะที่แม่ของเธอและแฟนหนุ่มได้ออกมาบอกว่าเธอไม่มีศัตรูที่ไหน และไม่มีเหตุผลที่จะหนีไปเฉยๆ อย่างแน่นอน
 
 
Photo Credit: foxnews.com

      นอกจากนี้ยังมีหลักฐานเพิ่มเติมจากโทรศัพท์ของเธอ แฟนหนุ่มของมอลลี่ได้รับข้อความ Snapchat จากเธอในคืนวันที่ 18 กรกฎาคม ว่าเธอกำลังจะกลับบ้านหลังจากวิ่งเสร็จ โดยมอลลี่ต้องไปเฝ้าสุนัขที่บ้านของแฟนหนุ่มในคืนนั้น เพราะแฟนของเธอต้องไปทำงานไกลจากบ้าน และเธอได้หายตัวไปภายในวันนั้น รางวัลสำหรับการหาตัวมอลลี่ตอนนี้มีถึง 300,000 $ หรือเท่ากับ 9,000,000 บาทไทย และคาดว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ


อาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปีในการตามหาผู้สูญหาย
     

      คดีเด็กหายเหล่านี้ไม่ใช่เคสแรกในรัฐไอโอวาอย่างแน่นอน โดยหัวหน้าตำรวจฝ่ายสอบสวนในคดีคนหายเคสใหญ่ๆ ในสหรัฐอเมริกา บิล มอลเดอร์  (Bill Moulder)  กล่าวว่า คดีคนหายเป็นคดีที่ยากที่สุดแล้ว โดยเฉพาะคดีลักพาตัวโดยคนแปลกหน้า เพราะมันไม่มีความเชื่อมโยงกันเลยของเหยื่อกับคนแปลกหน้าที่ลักพาตัวไป เราไม่สามารถรู้ถึงจุดประสงค์จริงๆ ในการลักพาตัวไป และถ้าเป็นการลักพาตัวจริงๆ อาจจะต้องใช้เวลาในการตามหาตัว อาจจะใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี บิลยังบอกอีกว่า ครอบครัวของผู้เสียหายนั้นยังคงมีความหวังอยู่เสมอ พวกเขาเชื่อว่าจะต้องเจอสมาชิกในครอบครัวที่หายไปอย่างแน่นอน 
 

      บิล มอลเดอร์ ยกตัวอย่างคดี อลิซาเบธ สมาร์ท (Elizabeth Smart)  เธอโดนลักพาตัวไปตอนอายุ 14 ปี ในเมืองซอลต์เลก (Salt Lake) เธอโดนจับตัวไป 9 เดือน ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือออกมาได้ในที่สุด รวมถึงคดีที่มีผู้หญิง 3 คนโดนจับไว้เป็น 10 ปี จนสุดท้ายแล้วสามารถหนีออกมาได้ เคสทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาร่วมปีจนกว่าจะสามารถช่วยผู้สูญหายได้
 

     


 
     คดีคนหายในสหรัฐอเมริกายังไม่มีท่าทีว่าจะเเก้ไขได้เลยค่ะ นับวันมีเเต่จะยิ่งอันตรายขึ้นเรื่อยๆ  จะเห็นได้ว่า ในสังคมปัจจุบันนี้ เราไม่สามารถไว้ใจใครได้จริงๆ ถ้าใครไปไหนมาไหนคนเดียว ต้องระวังตัวด้วยนะคะ 


Sources:
www.foxnews.com
www.dps.state.ia.us
wqad.com
www.desmoinesregister.com
www.cbsnews.com
allthatsinteresting.com/johnny-gosch
wcfcourier.com/news
edition.cnn.com
www.desmoinesregister.com

patch.com/iowa

พี่หมิว
พี่หมิว - Columnist จบเอกอิ้ง ชอบปิ้งหมูกิน แถมอินกับหนัง ฟังเพลงเสียงดัง หูแตกไปเลยจ้า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด