ชีวิตนี้ขอไม่รักใครอีก! พาไปรู้จัก ‘Philophobia’ โรคกลัวความรักและกับดักความสัมพันธ์

สวัสดีชาว Dek-D ทุกคนค่าา~ ขอชวนคุยเรื่องหัวใจต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์สักหน่อย ถ้าพูดถึง “ความรัก” หลายคนอาจเห็นเป็นเรื่องสวยงามใช่มั้ยล่ะคะ แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีคนอีกกลุ่มนึงที่ไม่อินกับความสัมพันธ์เลย แถมยังกลัวมากๆ ถึงขั้นไม่อยากเริ่มต้นใหม่กับใครด้วย!

วันนี้พี่บีมบันเลยจะพาน้องๆ ไปรู้จัก ‘Philophobia’ โรคทางจิตเวชที่ว่าด้วยความกลัวการมีความรัก ฟังดูเหมือนอาการอกหักทั่วไป แต่จริงๆ คือกระทบชีวิตผู้ป่วยมากค่ะ จะรุนแรงขนาดไหน? แล้วเราจะเข้าข่ายโรคนี้ด้วยหรือเปล่า? ตามมาหาคำตอบกันเลยค่ะ

‘Philophobia’ เป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง ผู้ที่มีอาการนี้จะไม่กล้าตกหลุมรัก ซึ่งอาจเกิดจากการผิดหวังเรื่องความรักในอดีต ทำให้กลัวที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน เพราะคิดว่าตัวเองนั้นรักษาความสัมพันธ์นั้นไว้ไม่ได้หรือทำได้ไม่ดีพอ บางคนอาจรุนแรงถึงขั้นคิดว่าตัวเองควรอยู่คนเดียว และไม่เหมาะกับการได้รับความรักจากใครเลยก็มีค่ะ

ส่วนที่มาของคำว่า Philophobia เป็นการผสมคำศัพท์ระหว่าง รากศัพท์ภาษากรีก คำว่า ‘Philos’ ที่แปลว่า ความรัก กับคำว่า ‘Phobia’ ที่หมายถึง ความหวาดกลัวนั่นเองค่ะ

• • • • • • • • •  •

ฉันขออยู่ตัวคนเดียวเถอะ!

อาการที่ว่านี้อาจร้ายแรงถึงขั้นทำให้ผู้ป่วยกลัวการเข้าสังคม ไม่อยากทำความรู้จักกับใคร กลัวว่าถ้าเผลอไปมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับอีกฝ่ายแล้วจะเกิดเป็นความรักขึ้นมา นอกจากนี้พวกเขายังมีแนวโน้มจะตัดขาดความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัวอย่างครอบครัวหรือเพื่อนสนิท เพียงเพราะไม่อยากให้ตนเองมีความผูกพัน กลัวว่าจะรักษาคนเหล่านั้นเอาไว้ไม่ได้นั่นเองค่ะ 

ยกตัวอย่างจาก ‘It’s Okay, That’s Love’ ซีรีส์เกาหลีเรื่องดังที่มีตัวเอกเข้าข่ายโรคนี้อย่าง ‘จี แฮซู’ (รับบทโดย กง ฮโยจิน) จิตแพทย์สาวสวยที่รังเกียจความสัมพันธ์ระหว่างชาย-หญิง เพราะปมในวัยเด็ก แต่สุดท้ายได้มาพบกับ ‘จาง แจยอล’ (รับบทโดย โจ อินซอง) นักเขียนชื่อดังที่มีอาการผิดปกติทางจิตเพราะเหตุการณ์อันโหดร้ายในอดีตเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งคู่ก็ต้องใช้ตัวกลางอย่าง ‘ความรัก’ เป็นยารักษาอาการค่ะ // เรื่องนี้โวคอลคนเก่งอย่าง ‘ดีโอ’ แห่งวง EXO ก็ร่วมแสดงด้วย แถมแสดงดีมากๆ ลองไปดูกันได้นะคะ ><

• • • • • • • • •  •

แค่ไหนถึงเข้าใกล้อาการกลัวความรัก?

• เกิดอาการหวาดกลัวเมื่อคิดถึงเรื่องความรัก บางคนอาจถึงขั้นเวียนหัว เหงื่อออก หายใจลำบาก และตื่นตระหนกอย่างรุนแรง
• กลัวการใกล้ชิดกับบุคคลอื่น ไม่ต้องการสานสัมพันธ์ระยะยาวกับใคร รวมถึงไม่อยากแต่งงานด้วยค่ะ
• หลีกเลี่ยงการเจอผู้คน รวมถึงสถานที่ฮิตที่คู่รักนิยมไปเดตกัน 
• ไม่กล้าเปิดใจให้ใครอีก เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะมาทำลายความเชื่อใจของพวกเขา

• • • • • • • • •  •

ปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิด Philophobia

• มีบาดแผลในใจจากความรักในอดีต เช่น อาจเคยถูกคนรักนอกใจหรือทำร้ายร่างกาย ทำให้พวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงการมีแฟน เพราะไม่อยากเจ็บปวดแบบเดิมอีก
• เห็นพ่อหรือแม่ทารุณกรรมอีกฝ่ายตั้งแต่เด็ก ผู้ป่วยจึงกลัวการสร้างครอบครัว เพราะคิดว่าในอนาคตตัวเองอาจจะเป็นฝ่ายโดนกระทำก็ได้
• กลัวการถูกปฏิเสธหรือบอกเลิก ไม่ใช่ทุกคนที่จะแบกรับความทุกข์ไว้ได้หรือมูฟออนได้ไวเท่าคนอื่น พวกเขาจึงเลือกที่จะไม่เริ่มต้นความสัมพันธ์ใดๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเผชิญความผิดหวัง
• สูญเสียคนรักไปแล้ว ทำให้รู้สึกฝังใจและไม่อยากมีความรักไปอีกตลอดชีวิต

• • • • • • • • •  •

ต้องทำยังไงถึงจะหาย?

วิธีการรักษาโดยทั่วไปคือ การเข้าไปพูดคุยหรือปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อหาสาเหตุของโรค รวมถึงทำการบำบัดความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy หรือ CBT) เพื่อให้ตัวผู้ป่วยเข้าใจการกระทำของผู้อื่นมากขึ้นและกล้าที่จะมีความรัก สำหรับบางคนที่มีอาการรุนแรงถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า จำเป็นต้องทานยาตามที่แพทย์สั่งค่ะ

สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นในความสัมพันธ์ใหม่ๆ แต่ก็ยังก้าวข้ามออกจากความกลัวไม่ได้ วันนี้เรามีคำคมดีๆ มาช่วยเติมกำลังใจให้ทุกคนด้วยค่ะ

• • • • • • • • •  •

ความรักก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ซับซ้อน ต้องใช้เวลาและความเข้าใจมากๆ เลยค่ะ ไม่ว่าใครจะเจอปัญหาอะไรมา อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ การรักตัวเองนะคะ และสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังรอคอยความรักครั้งใหม่ เราก็ขออวยพรให้เจอคนที่ใช่เร็วๆ ด้วยค่าา ^^