พรุ่งนี้ จะประกาศผล A-Level 67 แล้ว รอลุ้น 7 วิชาจะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่
ตั้งกระทู้ใหม่
วันพรุ่งนี้ (17 เม.ย.67) ทปอ.จะประกาศผล A-Level 67 แล้ว เด็ก กสพท.กำลังรอลุ้นคะแนน 7 วิชา จะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่
ปีที่่แล้ว ทปอ.ก็ประกาศผลคะแนน A-Level ในวันเดียวกัน (17 เม.ย.66) เวลาประมาณช่วงเช้า
หากคะแนน 7 วิชาสามัญ (A-Level 67) ออก
-ดูแต่ละกลุ่มสาระวิชา ต้องไม่ต่ำกว่า 30%
-ปรับคะแนน 7 วิชาสามัญ จาก 100% เป็น 70%
-นำคะแนน 7 วิชาสามัญ ที่ปรับ 70% แล้ว รวมกับคะแนนวิชาเฉพาะที่มี
-นำผลคะแนนรวมที่ได้ เปรียบเทียบกับคะแนนต่ำสุดปีที่แล้ว ปี 66 ของทุกสถาบัน
-หากข้อสอบ 7 วิชาสามัญปีนี้ ยาก/ง่าย ไม่แตกต่างกับปีที่แล้วมาก ก็พอจะรู้คร่าวๆ ได้ว่า
พอจะมีโอกาสลุ้นติดแพทย์/ทันตะ/เภสัช/สัตวแพทย์ 67 หรือไม่
หรือบางคนอาจจะได้ลุ้น ติดแพทย์/ทันตะ ใกล้เคียงกับสถาบันใด หรือไม่ ก็ได้
-คาดว่า คะแนนรวม 7 วิชาสามัญ ได้ 60% ขึ้นไป (ยังไม่ปรับเป็น 70%) ก็มีโอกาสได้ลุ้นติดแพทย์/ทันตะแล้ว
ที่มา https://www.dek-d.com/board/tcas/4083076/
กัลย์
16 เม.ย. 67 เวลา 11:01 น.
1,927
views
20 ความคิดเห็น
กำหนดการ รอบ 3 กสพท.67
17 เม.ย.67 ประกาศผล A-Level 67
6-12 พ.ค.67 สมัครเลือก 10 อันดับ
20 พ.ค.67 ประกาศผลครั้งที่ 1
25 พ.ค.67 ประกาศผลครั้งที่ 2
ข้อสังเกต
เมื่อรู้ผลคะแนนรวมแล้ว ระยะเวลาห่างในการพิจารณา ตัดสินใจ เลือก 10 อันดับ นานมาก ประมาณ 19 วัน พิจารณาเลือก 10 อันดับแล้ว เปลี่ยนแปลง จัดอันดับใหม่ได้สบาย สามารถคิดได้ละเอียด รอบคอบมาก
ขอให้หวังผล ลุ้นติดครั้งที่ 1 ไปเลย อย่าไปหวังผล ลุ้นติดครั้งที่ 2 จะมีโอกาสลุ้นน้อยมาก
ลุ้นกัน
ที่คะแนนน้อยกว่าคลาดอย่าเสียใจ เรียนที่ต่างกันย่อมไม่เหมือนกัน แต่ไม่ได้บอกว่าที่คะแนนสูง หรือคะแนนต่ำจะประสบความสำเร็จในวิชาชีพมากกว่ากัน บรรยากาศ เพื่อน การแข่งขัน สังคม แค่ 6ปี แต่หมอเป็นอาชีพ และอยู่กับเรานาน
กลุ่มคะแนนสูงเลือกได้ทุกที่ถือเป็น โอกาสเป็นของเราที่จะเลือกที่สะดวก เพื่อน สังคม อจ ตามที่ปราถนา คือรางวัลของคุณในชีวิตมัธยม
การรอคอยผลการสอบ A-Level หรือการสอบวัดผลทางการศึกษาสำหรับนักเรียน กสพท.นั้นต้องเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความหวังครับ คุณได้วางแผนและเตรียมตัวอย่างดีในการรอคอยและการประเมินผลการสอบของตนเอง
ปีนี้ กสพท.67 เด็กเก่งมาก ที่จะลุ้นติดแพทย์จุฬาฯ น่าจะได้คะแนนแต่ละวิชา ประมาณนี้
ไทย 80
สังคม 60
อังกฤษ 90
คณิต 70
ฟิสิกส์ 80
เคมี 60
ชีวะ 80
รวม 7 วิชาสามัญ ประมาณ 52.71 % (ปรับเป็น 70%แล้ว)
ส่วนวิชาเฉพาะ กสพท.น่าจะได้ประมาณ 14.84 %
คะแนนรวม ประมาณ 67.55 % ขึ้นไป
แนวโน้มคะแนนรวม วิชาเฉพาะ 2 พาร์ท TPAT1 กสพท. 67
คะแนนรวมเฉลี่ย ของทั้งสองพาร์ต ถือว่าสูงที่สุด เมื่อเทียบกับ 4 ปีย้อนหลัง(ปี66/65/64/63) และเฟ้อกว่าทุกปีที่ผ่านมาเล็กน้อย
แล้วแนวโน้มคะแนนรวม 7 วิชาสามัญ (A-level) ปี 67 เมื่อเทียบกับปี 66 จะเฟ้อ
หรือ ฝืด หรือ เท่าเดิม(ใกล้เคียงเดิม)
ถ้าเฟ้อ คะแนนต่ำสุดของทุกสถาบัน จะขึ้น
ถ้าฝืด คะแนนต่ำสุดของทุกสถาบัน จะลดลง
อยากรู้ว่า แต่ละคนได้คะแนนรวม วิชาเฉพาะ และคะแนน A-level เป็นไปตามเป้าหมาย หรือไม่
หรือหากไม่ดีมาก แต่พอจะมีโอกาสลุ้นติดแพทย์/ทันตะ ได้หรือไม่
ดูจากช่วงคะแนน A-level 67 เทียบกับปี 66 ของเด็กเก่งหัวตาราง โดยไม่ได้ดูจากค่าเฉลี่ย
เห็นว่า ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ A-level ปี 67
1.ไทย ยากกว่าเล็กน้อย
2.สังคม ยากกว่า
3.อังกฤษ ยากกว่า
4.คณิต ยากกว่า
5.ฟิสิกส์ ง่ายกว่า
6.เคมี ยากกว่า
7.ชีวะ ยากกว่าเล็กน้อย
ดูจากช่วงคะแนน A-level 67 เทียบกับปี 66 ของเด็กเก่งท้ายตาราง
โดยไม่ได้ดูจากค่าเฉลี่ย เห็นว่า ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ A-level ปี 67
1.ไทย ง่ายกว่าเล็กน้อย
2.สังคม ยากกว่ามาก
3.อังกฤษ ยากกว่าเล็กน้อย
4.คณิต ยากกว่า
5.ฟิสิกส์ ง่ายกว่ามาก
6.เคมี ยากกว่า
7.ชีวะ ง่ายกว่า
สรุป คะแนนรวม วิชาเฉพาะและ 7 วิชาสามัญ คะแนนต่ำสุด ปี 67 น่าจะใกล้เคียงกับปี 66 หรืออาจจะขึ้นกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย น้อยมาก เพราะฟิสิกส์ ชีวะดึงขึ้น (ดูปี 62 และ ปี 61 ประกอบ)
เด็กเก่งปานกลาง จะตก 30 % จำนวนมากใน 3 วิชา
1. คณิต ตกประมาณ 1 แสน 2 หมื่น คน
2. เคมี ตกประมาณ 8 หมื่น 5 พัน คน
3.ฟิสิกส์ ตกประมาณ 8 หมื่น 5 พัน คน
ที่บอกว่า คะแนนรวม วิชาเฉพาะและ 7 วิชาสามัญ คะแนนต่ำสุด ปี 67 น่าจะใกล้เคียงกับปี 66 หรืออาจจะขึ้นกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย น้อยมาก เพราะฟิสิกส์ ชีวะดึงขึ้น (ดูปี 62 และ ปี 61 ประกอบ) โดยให้คะแนนต่ำสุด กสพท.ปี 66 ปี 62 และปี 61 เป็นแนวทางในการเลือก 10 อันดับ
หากคะแนนรวมที่ได้ เป็น 90% ให้ปรับเป็น 100% โดยใช้โปรแกรมคํานวณคะแนน กสพท.67 ที่มีการเผยแพร่แล้ว จะได้ดูง่ายขึ้น
ได้คะแนน 63.9267 (จาก 90 ) มีโอกาสติด แพทย์ จฬ. แค่ไหน
ได้ 63.9267 (จาก 90 ) เลือกแพทย์จุฬาฯ เป็นอันดับ 1 เสี่ยงวัดดวงได้
แต่อย่าหวังผลมาก ยังมีเวลาพิจารณาอีกนาน ลองจัดเลือก 10 อันดับ เล่นๆไปก่อน
เด็กเก่งปานกลาง น่าสนใจแพทย์ 11 สถาบัน (กสพท.)
เด็กเก่งปานกลาง ที่ได้คะแนนน้อย ควรตั้งเป้าหมายไว้แต่เพียงว่า ขอให้ติดแพทย์ ม.รัฐ สถาบันใด ก็ได้ ก็พอ
อย่าไปหวังสูงถึงแพทย์หัวตารางเลย เช่น จุฬา ศิริราช รามา จุฬา(ทอ.) วชิระ ฯลฯ ควรสนใจแพทย์ กลางตารางหรือท้ายตาราง ดีกว่า จะมีโอกาสได้ลุ้นมากกว่า
กลุ่มแพทย์ กสพท.กลางตารางและท้ายตาราง 11 สถาบันที่น่าสนใจ
1.แพทย์ ม.สงขลาฯ (มอ.) รับ 40 คน
2.แพทย์พระมงกุฎ (หญิง) (วพม.) รับ 45 คน (เดิม 40 คน)
3.แพทย์ ม.นเรศวร (มน.) รับ 30 คน
4.แพทย์ ม.บูรพา(มบ.) รับ 50 คน (เดิม 32 คน)
5.แพทย์แม่ฟ้าหลวง (มฟล.) รับ 16 คน
6.แพทย์ ม.เทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) รับ 12 คน
7.แพทย์พระมงกุฎ (ชาย) (วพม.) รับ 65 คน (เดิม 60 คน)
แพทย์เอกชน
8.แพทย์รังสิต (ราชวิถี) (รส.) รับ 40 คน
9.แพทย์รังสิต(เลิดสิน) (รส.) รับ 13 คน
10.แพทย์รังสิต(นพรัตน์ราชธานี) (รส.) รับ 13 คน
11.แพทย์ ม.สยาม (มส.) รับ 15 คน
กลุ่มแพทย์ กสพท.กลางตารางและท้ายตาราง 11 สถาบันที่น่าสนใจ
1.แพทย์ ม.สงขลาฯ (มอ.) รับ 40 คน
เป็นสถาบันแพทย์ที่เข้าร่วมกับ กสพท.มานานมากแล้ว เป็นแพทย์ ม.รัฐ ใน กสพท.ที่สมัยก่อนติดอันดับท้ายสุด ของตารางเกือบทุกปี เพราะมีเด็กและผู้ปกครองจำนวนหนึ่ง ไม่กล้าเลือก เข้าใจว่าอาจจะกลัว เหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ปัจจุบันมีเด็กเก่งปานกลางให้ความสนใจเลือกกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ระยะหลังคะแนนต่ำสุด ขึ้นมาอยู่ในกลุ่มแพทย์กลางตาราง เป็นสถาบันแพทย์ที่เปิดมานานมากแล้ว และมีชื่อเสียงดีมากในระดับต้นๆ ของประเทศ ขอส่งเสริมให้เด็กเก่งๆภาคใต้ เลือกกันมากๆ เพราะถ้ามีคนเลือกกันน้อย คะแนนต่ำสุดจะน้อยไปด้วย และมีโอกาสติดแพทย์ได้ง่ายกว่า แข่งขันกันน้อย ถ้าติดแล้ว จะได้เรียนแพทย์ในสถาบันที่มีชื่อเสียงดีมาก ค่าเรียนไม่แพง ประมาณ 28,000 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 336,000 บาท
2.แพทย์พระมงกุฎ (หญิง) (วพม.) รับ 45 คน
เป็นสถาบันแพทย์ที่เข้าร่วมกับ กสพท.มานานมากแล้ว เป็นแพทย์ สถาบันรัฐใน กสพท.ที่มีคนให้ความสนใจมาก อยู่ในระดับแพทย์กลางตารางมาตลอด เพราะได้เรียนแพทย์ในกรุงเทพฯ.ตลอด 6 ปี ไม่ต้องออกไปเรียนที่ต่างจังหวัด ค่าเรียนไม่แพง ประมาณ 24,000 บาท/ปี ตลอดหลักสูตร 144,000 บาท
3.แพทย์ ม.นเรศวร (มน.) รับ 30 คน
เป็นสถาบันแพทย์ที่เข้าร่วมกับ กสพท.มานานแล้ว เป็นแพทย์ ม.รัฐ อันดับท้ายๆ และทุกปีจะมีเด็กเก่งปานกลางสนใจเลือกกัน เป็นจำนวนมาก คิดว่าปีนี้ น่าจะมีเด็กเก่งปานกลางจำนวนมาก ให้ความสนใจเลือกกันมาก เหมือนเดิม ค่าเรียนไม่แพง (ปี 1 – 3) 20,000 บาท/เทอม (ปี 4 – 6) 40,000 บาท/ปี ตลอดหลักสูตร 240,000 บาท
4.แพทย์ ม.บูรพา(มบ.) รับ 50 คน
แพทย์สถาบันรัฐ ที่เพิ่งจะเข้าร่วมกับ กสพท.ไม่นาน สมัยก่อนเปิดรับตรงเอง คิดว่าปีนี้ เด็กเก่งปานกลางที่รวย พอจะมีเงิน อาจจะเลือกกันมาก เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ส่วนเด็กเก่งปานกลางที่ไม่ค่อยมีเงิน อาจจะให้ความสนใจน้อยกว่า เพราะเป็นแพทย์ ม.รัฐที่ค่าเรียนแพทย์ค่อนข้างสูง ประมาณ 100,200 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 1,202,400 บาท
5.แพทย์แม่ฟ้าหลวง (มฟล.) รับ 16 คน
เป็นแพทย์สถาบันรัฐ ที่เปิดสอนมา ตั้งแต่รุ่นแรก ปี 56 ปีนี้ปี 67 เป็นรุ่นที่ 12 เดิมรับ รุ่นละ 32 คน แบ่งเป็น
-รับแบบทั่วประเทศ 12 คน ประมาณรุ่นกลางๆ รับเพิ่มเป็น 14 คน ต่อมาลดเหลือ 12 คน
แบ่งไปรับโควตาลูกแพทย์ฯ 2 คน ตั้งแต่ปี 60-63 (ปี 64-66 รอบ 2 โควตาลูกแพทย์ฯ ไม่มีแล้ว)
-รับแบบโควตาพื้นที่ 20 คน
แพทย์แม่ฟ้าหลวง 64 เพิ่มจำนวนรับทั้งหมด เป็น 40 คน
-รับรอบ 2 โควตา 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 16 คน และ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 8 คน รวม 24 คน
-รับรอบ 3 กสพท.16 คน
ปี 1 - ปี 3 เรียนที่จังหวัดเชียงราย
ปี 4 - ปี 6 เรียนกรุงเทพฯ (สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร) เดิมกำหนดเป็น ร.พ.กลาง หรือเจริญกรุงประชารักษ์
จึงคิดว่าปีนี้ จำนวนรับ 16 คน น่าจะมีเด็กเก่งปานกลางทั่วประเทศ ให้ความสนใจกันเพิ่มมากขึ้น ค่าเรียนประมาณ 50,000 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 600,000 บาท
6.แพทย์ ม.เทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) รับ 12 คน
มีแพทย์ มทส.รุ่นแรก จบเมื่อปี 54 ช่วงแรกรับเด็กตามทะเบียนบ้านในโควตาพื้นที่ 4 จังหวัด
คือ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ จากโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท(ซีเพิร์ด) และโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน (โอดอด) เพิ่งจะมีการเปิดรับตรง แบบทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 59 - 60 จำนวนรับ ปีละ 12 คน โดยมหาวิทยาลัยจัดสอบเอง ออกข้อสอบเอง เรียนชั้นคลินิกที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมีโรงพยาบาลผลิตแพทย์ร่วม คือโรงพยาบาลจังหวัดสุรินทร์ และโรงพยาบาลจังหวัดบุรีรัมย์ ปี 64 แพทย์ มทส.เพิ่งจะเข้าร่วม กสพท.ไม่นาน คิดว่าเด็กเก่งปานกลาง ภาคอิสานและจังหวัดใกล้เคียง นอกจาก 4 จังหวัดดังกล่าว และเด็กทั่วประเทศ น่าจะให้ความสนใจพอสมควร เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก การเดินทางสะดวก เป็นจังหวัดใหญ่ เจริญมากพอสมควร เป็นแพทย์น้องใหม่ที่เปิดรับแบบทั่วประเทศเพียงไม่กี่ปี จำนวนรับน้อยเพียง 12 คน จึงคิดว่าเด็กทั่วประเทศจะเลือกกันไม่มากนัก ค่าเรียน ประมาณ 28,000 บาท/เทอม(ปีละ 3 เทอม) ตลอดหลักสูตร 504,700 บาท ส่วนมากแพทย์สถาบันอื่นๆ ปีละ 2 เทอม
7.แพทย์พระมงกุฎ (ชาย) (วพม.) รับ 65 คน
เป็นสถาบันที่เปิดสอนแพทย์มานานมากแล้ว ได้เรียนในกรุงเทพฯตลอด 6 ปี ไม่ต้องออกไปเรียนที่ต่างจังหวัด ปีที่แล้วได้คะแนนต่ำสุด น้อยที่สุดของแพทย์ ม.รัฐ (กสพท.) ปีนี้รับรองได้ว่า จะมีคนเลือกปิดท้ายเพิ่มขึ้นมาก
เหตุที่คะแนนต่ำสุด น้อยที่สุดของแพทย์ ม.รัฐ เพราะเด็กผู้ชายคิดว่า เรียนแพทย์หนักมากแล้ว ยังต้องฝึกทหารอีกด้วย หรือ กลัว ไม่ชอบกฎ ระเบียบ วินัยทหาร ค่าเรียนไม่แพง ประมาณ 24,000 บาท/ปี ตลอดหลักสูตร 144,000 บาท ปี 1 ต้องเรียนหลักสูตรเตรียมแพทย์ที่ คณะวิทย์ มก. ค่าเทอม เทอมละ 16,300 บาท
ปี 2-6 เรียนที่ วพม.ค่าเทอม ปีละ 24,000 บาท
จบปี 6
1. ประเภททุนกองทัพบก (นพท. ชาย 20 คน) - ได้ยศร้อยตรี สังกัดทหารบก
2. ประเภท นศพ.(ส่วนที่เหลือ 80 คน) - ไม่ได้ยศ แต่จะไปสมัครเข้าสังกัดทหารเองได้ ต้องแข่งกับแพทย์ที่อื่น (แต่ วพม.จะมีสิทธิพิเศษกว่า) เลือกสังกัดทหารเข้าได้ (เรือตรี เรืออากาศตรี)
ทุน ทบ.เสียค่าบำรุงการศึกษา 1,000 บาท มีเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยง 3,000-6,000บาท
/เดือน อาหารฟรี ที่พักฟรี ซักผ้าฟรี
แต่ต้องใช้ทุน 10 ปี(แก้ไขแล้ว) ได้ยศร้อยตรีเหมือน จปร. ยศตันที่พันเอกพิเศษ เต็มที่พลโท)
แพทย์เอกชน
8.แพทย์รังสิต (ราชวิถี) (รส.) รับ 40 คน
9.แพทย์รังสิต(เลิดสิน) (รส.) รับ 13 คน
10.แพทย์รังสิต(นพรัตน์ราชธานี) รับ 13 คน
11.แพทย์ ม.สยาม (มส.) รับ 15 คน
แพทย์เวสเทิร์น (เอกชน) รับ 10 คน
ค่าเรียนแพทย์เอกชน
-รังสิต 325,000 บาท/เทอม (650,000 บาท/ปี) ตลอดหลักสูตร 3,900,000 บาท
-สยาม (เหมาจ่าย) 359,000 บาท/เทอม ปีละ 718,000 บาท ตลอดหลักสูตร 4,300,000 บาท
-กรุงเทพธนบุรี (เหมาจ่าย) 450,000 บาท/เทอม ปีละ 900,000 บาท ตลอดหลักสูตร 5,400,000 บาท
-เวสเทิร์น(เหมาจ่าย) 604,000 บาท/เทอม ปีละ 1,208,000 บาท ตลอดหลักสูตร 7,248,000 บาท
อย่าลืม สถาบันที่รับเพิ่มใหม่ ใน กสพท.67
1. แพทย์ศรีสวางวัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รับ 12 คน
2. แพทย์เกษตร รับ 21 คน
3. แพทย์เวสเทิร์น (เอกชน) รับ 10 คน (รับปีแรก 66 คน)
ข้อสังเกต ปัจจุบันแพทย์จบใหม่ ม.เอกชน จบแล้วจะไม่มีสิทธิ์จับสลาก เข้ารับราชการ ตำแหน่งแพทย์ ในโรงพยาบาลของรัฐ
4. ทันตะกรุงเทพธนบุรี รับ 10 คน
5. ทันตะสยาม รับ 30 คน
6. เภสัชอุบลฯ บริบาล รับ 10 คน
7. เภสัชอุบลฯ อุตสาหการ รับ 10 คน
8. เภสัชขอนแก่น รับ 10 คน
9. เภสัชขอนแก่น(นานาชาติ) รับ 10 คน
สำหรับข้อมูล ค่าเรียนแพทย์ปี 67 ได้โปรดตรวจสอบอีกครั้ง
ที่มา ค่าเรียนแพทย์แต่ละสถาบันปี 63 แก้ไขใหม่
https://www.dek-d.com/board/tcas/4081086/
ที่ให้ข้อมูลแพทย์ กสพท.กลางตารางและท้ายตารางนี้ เพื่อช่วยเหลือเด็กเก่งปานกลาง จะได้มีข้อมูลในการตัดสินใจในการเลือก 10 อันดับแพทย์ กสพท.ในปีนี้ และถ้ารู้ว่า ตัวเองเป็นเด็กเก่งปานกลาง และมีคะแนนน้อย ก็อย่าไปสนใจเลือกสถาบันแพทย์อันดับต้นๆเลย ถ้าอยากเลือก ก็เลือกเสี่ยงวัดดวงได้ไม่เกิน 3 อันดับ
ปีนี้ กสพท.รู้คะแนนก่อนเลือก เลือกได้ 10 อันดับ น่าจะเลือกได้ง่ายกว่าเดิม มากๆ
ที่มา https://www.dek-d.com/board/tcas/4083588
แพทย์ทหารยศสูงสุดได้ถึงพลเอก เท่าที่เห็นเป็นเจ้ากรมแพทย์ได้ยศพลโทปีต่อไปยังไม่เกษียณจะถูกดันเป็นผู้ทรงคุณวุฒิอะไรพวกนีได้ยศพลเอก
3. แพทย์เวสเทิร์น (เอกชน) รับ 10 คน (รับปีแรก 66 คน) ขอแก้ไขเป็น
3. แพทย์เวสเทิร์น (เอกชน) รับ 10 คน (รับปีแรก 66)
การเลือก 10 อันดับ ให้พยายามติดตามข่าว จำนวนการรับเพิ่มด้วย
หากสถาบันใดมีจำนวนการรับ เพิ่มมากขึ้น คะแนนต่ำสุดก็จะลดลง
ดูในระบบ mytcas
ระหว่างเลือกอันดับนี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนรับได้ตลอดเวลา
ต้องดูจำนวนรับเพิ่มที่เป็นปัจจุบัน จะได้เปรียบมากกว่าคนอื่นๆ ที่ไม่รู้
เด็กที่ได้คะแนนรวม กสพท.ไม่มาก ควรเลือกให้ครบ 10 อันดับ อย่าไปเสียดายเงิน เอาสิทธิ์เป็นของเราดีกว่า ติดแล้วเรามีสิทธิ์เลือก
ถ้าไม่ได้ชอบสถาบันใดมากที่สุด เลือกตามคะแนน พยายามเลือกสถาบัน เรียงคะแนนจากมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด โดยดูสถิติย้อนหลังไปหลายๆปี อย่าเลือกเอาสถาบันที่มีคะแนนน้อยกว่า ขึ้นมาอยู่อันดับก่อนกว่า สถาบันคะแนนน้อยกว่าจะฆ่าสถาบันคะแนนสูงกว่า
ถ้ามีสถาบันที่ชอบมากที่สุด ให้เลือกเอาสถาบันที่ชอบมากที่สุดอยู่อันดับ 1 ชอบรองลงไปเป็นอันดับ 2 อันดับ 3 โดยไม่ต้องไปสนใจคะแนน ส่วนอันดับต่อๆไป ต้องเป็นสถาบันที่มีคะแนนต่ำสุด น้อยกว่าอันดับ 1-3 เรียงจากมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด จนถึงอันดับ 10
ค่าเรียนแพทย์รัฐ กสพท.ท้ายตาราง
วพม.ตลอดหลักสูตร 144,000 บาท(ถูกสุด)
มทส.ตลอดหลักสูตร 504,00 บาท (ไม่ได้เหมาจ่าย อาจจะมีค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก)
มฟล.ตลอดหลักสูตร 600,000 บาท
ม.บูรพา ตลอดหลักสูตร 1,202,400 บาท (แพงสุด)
เมื่อเปรียบเทียบค่าเรียนแล้ว วพม.ถูกที่สุด และปีที่แล้ว วพม.ชาย ยังมีคะแนนต่ำสุด น้อยที่สุด (บ๊วย) ของแพทย์สถาบันรัฐ ปีนี้อาจจะไม่บ๊วย ก็ได้ เพราะอาจจะมีคนเลือกปิดท้ายกันเป็นจำนวนมาก
พูดเรื่องค่าเรียนไปแล้ว ต่อไปดูเรื่องสถานที่เรียน ถ้าเป็นเด็กกรุงเทพฯและปริมณฑล
1.วพม.(ชาย) น่าสนใจมากที่สุด ค่าเรียนถูก เรียนในกรุงเทพฯตลอด 6 ปี ไม่ต้องออกไปเรียนต่างจังหวัด
2.แพทย์แม่ฟ้าหลวง น่าสนใจรองลงมา ค่าเรียนปานกลาง เรียนที่เชียงราย 3 ปี(ปี 1-3)
เรียนที่กรุงเทพฯ 3 ปี (ปี 4-6) โรงพยาบาลกลาง หรือโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ มีหอพักในโรงพยาบาลเลย
3.แพทย์ ม.บูรพา น่าสนใจรองลงมา ค่าเรียนแพง เรียนที่ชลบุรี แต่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ เดินทางสะดวก สบาย มีทางด่วนและมอเตอร์เวย์ เมืองท่องเที่ยว
4.แพทย์ ม.เทคโนโลยีสุรนารี น่าสนใจอันดับสุดท้าย ค่าเรียนปานกลาง ต้องเรียนที่จังหวัดนครราชสีมา เรียนต่างจังหวััดตลอด 6 ปี เป็นจังหวัดใหญ่
แพทย์ มทส.รับจาก กสพท. 12 คน แต่ยังมีรับในรอบโควต้าพื้นที่ ประมาณ ปีละ 80 คน ไม่ต้องกลัวเหงา
ลองดูคลิปวิดีโอ
1.แพทย์ ม.สงขลาฯ (มอ.)
https://www.youtube.com/watch?v=n1vADu6Wmos
2.แพทย์พระมงกุฎ (หญิง) (วพม.)
https://www.youtube.com/watch?v=PvUDdEmMI6s
3.แพทย์ ม.นเรศวร (มน.)
https://www.youtube.com/@PRMedicineNU
4.แพทย์ ม.บูรพา(มบ.)
https://www.youtube.com/watch?v=RNpxQCg_DEY
5.แพทย์แม่ฟ้าหลวง (มฟล.)
https://www.youtube.com/watch?v=Fu5CwVjsb50
6.แพทย์ ม.เทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) รับ 12 คน
https://www.youtube.com/watch?v=rz1kef6221M
7.แพทย์พระมงกุฎ (ชาย) (วพม.)
https://www.youtube.com/watch?v=sXS_WCc84Bg
แพทย์พระมงกุฎ
https://www.youtube.com/watch?v=GFliZY6-DEo
แพทย์เอกชน
8.แพทย์รังสิต (ราชวิถี) (รส.)
9.แพทย์รังสิต(เลิดสิน) (รส.)
10.แพทย์รังสิต(นพรัตน์ราชธานี) (รส.)
https://www.youtube.com/watch?v=VnqPIMSUYl0
11.แพทย์ ม.สยาม (มส.)
https://www.youtube.com/watch?v=sgsJJqSdljo
12.แพทย์เวสเทิร์น
https://www.youtube.com/watch?v=IVph7yBgVdQ
https://www.youtube.com/watch?v=3C8EcwRI4X4
ดูคลิปนี้แล้ว สงสารเลย เด็กปี 61 ซิ่ว อยากเรียนแพทย์ เคยเรียนแพทย์มาแล้ว 2 สถาบัน
เดาว่าน่าจะเป็นเอกชน
สอบ กสพท.66 ได้คะแนนความถนัดแพทย์ประมาณ 20
7 วิชาสามัญ ได้คะแนนอังกฤษมากถึง 86 ได้คะแนนเคมี ชีวะ ไทย ประมาณ 70 ขึ้นไป
สังคมได้ 60 ฟิสิกส์ 33 คณิตได้ 21 ได้น้อย ตก 30%
แม้ได้คะแนนรวม ประมาณ 61.54 แต่ไม่ผ่านเกณฑ์ ที่กำหนด แต่ละกลุ่มสาระวิชา
ต้องได้ไม่ต่ำกว่า 30% จึงหมดสิทธิ์ติดแพทย์ กสพท.โดยปริยาย น่าเสียดายแทนมากๆ
ลองชม และฟังคลิปได้เลย
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=7OI7pkFJYTg
เมื่อปี 61 เคยมีเด็กซิ่ว สอบ กสพท. 4 ครั้งแล้ว ติดแพทย์ มศว
ลองอ่านประสบการณ์ของรุ่นพี่คนนี้ดู อาจจะสร้างกำลังใจ ให้เด็กซิ่ว มีแรงฮึดสู้ จนประสบความสำเร็จ ก็ได้
รีวิวชีวิตซิ่วหมอ 3 ปี รวม 4 ปี กว่าจะติด กสพท.(แพทย์ มศว )
เขียนโดย uักo่าuuิยาย
ที่มา https://www.dek-d.com/board/view/3853953/
เขียนได้ดีมาก เขียนได้ละเอียดมาก อ่านแล้วรู้เลยว่า การที่จะสอบให้ติดหมอได้ ต้องสู้ขาดไหน ต้องใช้เงินลงทุนมากมายมหาศาล มีผู้ปกครอง พ่อ แม่ เป็นฝ่ายสนับสนุนเงินทุน และค่าใช้จ่ายต่างๆ ต้องคอยเดินทางรับ-ส่งลูกเรียนพิเศษ ร่วมเดินทางไปสอบแข่งขันทั่วประเทศ
ฝ่ายสนันสนุนถือว่า มีส่วนสำคัญมากๆ ที่จะช่วยให้ลูกประสบความสำเร็จได้
การที่ต้องใช้เวลาในการสอบ กสพท. 4 ปี แล้วติดแพทย์ มศว ถือว่ามีความพยายาม ความอดทนมากๆ ไม่ยอมแพ้ เป็นเคสตัวอย่างที่ดี น่าศึกษามาก อาจจะมีหลายคนที่สู้แบบนี้ แล้วติดแพทย์ ก็มี
ความจริงโดยปกติทั่วไป ถ้าเตรียมตัวดีๆ มีเป้าหมายอยากเรียนแพทย์แน่นอนตั้งแต่แรก ขยันเอาจริง ตั้งแต่ชั้น ม.4 -6 เรียนพิเศษเฉพาะวิชาที่เป็นจุดอ่อน ขยันเรียน อ่านเนื้อหา ทำแบบฝึกหัด ทำโจทย์ปัญหา ทำข้อสอบเก่า ก็จะประสบความสำเร็จ ติดแพทย์หลักสูตรปกติ(ไม่เชียร์หลักสูตรอินเตอร์หรือพิเศษที่เสียเงินแพงๆ) หรือติด กสพท.ในการสอบครั้งแรกได้
ถ้าครั้งแรกไม่ติด ก็ยังมีโอกาสสอบใหม่ได้อีก ตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 1 โดยไม่ต้องลาออก บางคนก็หยุดอยู่บ้านอ่านหนังสืออย่างเดียว มีหลายคนอาจจะขอแก้ตัวใหม่ สอบครั้งที่ 2 ถึงจะติดแพทย์หลักสูตรปกติได้ แต่บางคนก็อาจจะสอบไม่ติดเลย ซึ่งคนส่วนใหญ่ ส่วนมากจะถอดใจ ไม่สอบ กสพท.ต่ออีกเป็นครั้งที่ 3 แล้ว แต่ในระยะหลังๆ ก็มีบางคนขอสู้ต่ออีก สอบครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 แบบนี้ก็มี
ต้องขอยอมรับว่าใจสู้จริงๆ และยังได้นำประสบการณ์มาถ่ายทอดให้เป็นประโยชน์ต่อรุ่นน้องๆ ได้ศึกษาต่อไปได้ด้วย
ประสบการณ์ ซิ่วไป เรียนไป ซิ่วจากเภสัชจุฬาฯ จนติดแพทย์ มอ.
https://www.youtube.com/watch?v=GY4ytvy35oo
สิ่งที่เด็กซิ่วต้องรู้ จากใจเด็กซิ่ว 2 ปี ถึงติดหมอ
https://www.youtube.com/watch?v=Ot0tI6KdV34
ข้อสังเกต แพทย์ มฟล.64/65 รอบ 2 เน้นคุณภาพมากกว่าเดิม กำหนดหลักเกณฑ์สูงขึ้น เช่น
-เกรดรวม เกรดวิชาอังกฤษ วิทย์ คณิต จาก 3.00 เพิ่มเป็น 3.25
-คะแนนสัมภาษณ์ จาก 60% ลดเป็น 20% คะแนนวิชาการ 40% ปรับเป็น 80%
แต่ปี 66 ไม่ได้กำหนดเปอร์เซ็นคะแนนวิชาการ และวิชาเฉพาะ กสพท.
-คะแนนอังกฤษ(7 วิชาสามัญ) จาก 40% เพิ่มเป็น 50%
แพทย์ มฟล.รอบ 3 กสพท.ได้กำหนดคะแนน 7 วิชาสามัญ ทุกกลุ่มสาระต้องได้ไม่ต่ำกว่า 30%
ส่วนแพทย์แม่ฟ้าหลวง รอบ 2 ไม่ได้กำหนดแบบ กสพท.
แต่ได้กำหนดคะแนนวิชาวิทยาศาสตร์(ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)ต้องได้ไม่ต่ำกว่า 40% และอังกฤษ ต้องได้ไม่ต่ำกว่า 50% และคะแนนรวม 7 วิชาสามัญ ต้องได้ไม่น้อยกว่า 50%
ฉะนั้น พวกเด็ก 17 จว.ภาคเหนือ รอบ 2 ที่หลุด กสพท.รอบ 3 เพราะวิชาคณิต หรือไทย หรือสังคม มีคะแนนต่ำกว่า 30% แต่ถ้ามีคะแนนรวม 7 วิชาสามัญถึง 50% ขึ้นไป และได้สมัครแพทย์แม่ฟ้าหลวงรอบ 2 ทิ้งไว้ ก็ยังมีโอกาสลุ้นติดแพทย์แม่ฟ้าหลวงได้ จึงควรสมัครแพทย์แม่ฟ้าหลวงทิ้งไว้ กันพลาด
เด็กภาคอื่นๆ ที่ไม่ใช่เด็ก 17 จว.ภาคเหนือ หรือเด็กกลุ่ม กสพท. รอบ 3 จะไม่ได้สิทธิ์นี้
เคสเด็กซิ่วทั่วประเทศ รอบ 3 กสพท. ต้องใช้หลักเกณฑ์ของ กสพท. จึงไม่มีสิทธิ์นี้
ข้อสังเกตุ
แต่ถ้าแพทย์แม่ฟ้าหลวง มีการเปิดรับเพิ่ม ส่วนที่ขาดในรอบ 4 เด็กที่หลุด รอบ 3 กสพท. ไปแล้ว เพราะมีคะแนนวิชาคณิต หรือไทย หรือสังคม ต่ำกว่า 30%
แต่มีคะแนนรวม 7 วิชาสามัญ ถึง 50% ขึ้นไป ก็มีสิทธิ์ติดแพทย์แม่ฟ้าหลวงในรอบ 4 ได้
แนวโน้มคะแนนต่ำสุด กสพท.67 น่าจะใกล้เคียงกับคะแนนต่ำสุด กสพท.66 (มากๆ ถึงมากที่สุด) อาจจะเฟ้อกว่าปีที่แล้ว เพียงเล็กน้อย
ให้ดูคะแนนต่ำสุด กสพท.66 ทุกสถาบัน เป็นแนวทางในการพิจารณาเลือก 10 อันดับ ได้เลย
หลายคนสงสัย เคยถามไปเมื่อ 30 ก.ย.66 ว่า
แพทย์จุฬาภรณ์ และแพทย์เกษตรฯ กสพท.67 คะแนนต่ำสุดจะอยู่ประมาณลำดับที่เท่าใด
อันดับแพทย์-ทันตะ เรียงตามคะแนนต่ำสุด กสพท.66
คณะ/สถาบัน คะแนนต่ำสุดปี 66
1.จุฬา 72.84
2.ศิริราช 68.84
3.รามา 68.39
จุฬาภรณ์ 12 ใหม่
4.จุฬา(ทอ.) 68.09
5.ทันตะจุฬา 66.82
6.มธ. แรง 66.21
7.วชิระ 65.91
8.ตากสิน 65.39
9.มข. แรง 64.99
10.มช. 64.36
11.ทันตะมหิดล 64.35
12.มศว 62.70
13.ทันตะ มธ. แรง 62.68
14.ทันตะ มศว. 62.31
15.ทันตะมช. แรง 62.24
16.แพทย์ มอ. 62.19
17.แพทย์ มน. 62.13
18.วพม.หญิง ลง 61.52
19.แพทย์ มฟล 61.10
20.ทันตะ มข. 61.07
21.แพทย์ มทส. 60.96
22.ทันตะมอ. 60.74
23.พ.บูรพา ลง 60.49
24.ทันตะ มน. 59.74
25.วพม.ชาย ต่ำสุดรัฐ 59.64
26.ทันตะ มทส. ต่ำสุดรัฐ 58.55
27.รส.(ราชวิถี) 57.89
28.รส.(เลิดสิน) 57.60
29.รส.นพรัตน์ฯ 56.85
30.สยาม 55.17
31.พ.เวสเทิร์น ต่ำสุดเอกชน 51.03
ทันตะ มฟล นอก กสพท
32.ทันตะรังสิต 48.23
33.ทันตะเวสเทิร์น 46.42
34.ทันตะเนชั่น ต่ำสุดเอกชน 42.41
พ.เวสเทิร์น 13 ใหม่
พ.เกษตรฯ 21 ใหม่
ท.กรุงเทพธนฯ 10 ใหม่
ท.สยาม 30 ใหม่
อยากทราบความเห็นของคนส่วนใหญ่ และความน่าสนใจ
แพทย์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์(เดิมเคยเรียนร่วมกับแพทย์รามาฯ) และ
แพทย์เกษตรฯ ที่เพิ่งจะเข้าร่วม กสพท.ปี 67
ลองคาดการณ์เล่นๆว่า คะแนนต่ำสุด กสพท.67 แพทย์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และแพทย์เกษตรฯ ที่เพิ่งจะเข้าร่วม กสพท.ปี 67 จะอยู่ประมาณลำดับที่เท่าใด (ไม่มีถูก ไม่มีผิด) ความคิดเห็นครั้งก่อน กับความคิดเห็นครั้งนี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ไม่เหมือนเดิม ก็ได้
คะแนนต่ำสุดของแต่ละปีละ จะขึ้นหรือลง มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับกระแสของผู้เลือก 10 อันดับ
ที่มา https://www.dek-d.com/board/tcas/4096332
ลองดูข้อมูลนี้ ก่อนจะพิจารณา ตัดสินใจ
แพทย์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2563) เป็นหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต 7 ปี 2 ปริญญา ปริญญาบัตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต (iBSc) จาก University College London และ แพทยศาสตรบัณฑิต จาก วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
สถานที่เรียน
ปี 1-3 (Early Years)
เรียนที่ วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
ปี 4 ( Research and Innovation)
เรียนที่ University College London (UCL), UK
ปี 5-7 (Later Years)
เรียนและฝึกปฏิบัติที่ โรงพยาบาลตำรวจ
เรียนและฝึกปฏิบัติที่ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
เรียนและฝึกปฏิบัติที่ โรงพยาบาลพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด
เรียนและฝึกปฏิบัติที่ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์
ค่าเรียน
ปี 1-3 ภาคละ 117,850 บาท ปีละ 235,700 บาท เรียน 3 ปี รวม 707,100 บาท
ปี 4 กรณี เรียนที่ University College London (UCL), UK ค่าเรียน 24,980 ปอนด์ บวก 100,000 บาท
หากไม่ได้เรียนที่ประเทศอังกฤษ ค่าเรียน ภาคละ 160,400 บาท ปีละ 320,800 บาท
ปี 5- ปี 7 ค่าเรียน 138,350 บาท ปีละ 276,700 บาท รวม 3 ปี 830,100 บาท
กรณีไม่ได้ไปเรียนต่างประเทศ(อังกฤษ) ค่าเรียนทั้งหมดในประเทศไทย รวม 1,858,000 บาท
หมายเหตุ อัตราค่าเรียนนี้ รวมถึงเด็ก กสพท.67 ที่เลือกแพทย์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ใช่หรือไม่ (สอบถามผู้รู้)
แพทย์เกษตรฯ รับทั้งหมด 3 รอบ 48 คน แบ่งเป็น
รอบ 1 พอร์ตฟอลิโอ โครงการช้างเผือก รับ 12 คน (เด็กทั่วประเทศและเด็กซิ่วสมัครได้) /
โครงการเรียนล่วงหน้า รับ 3 คน
รอบ 2 โควตา พื้นที่เขตสุขภาพที่ 5 กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี
ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และพื้นที่เขตสุขภาพที่ 8 อุดรธานี สกลนคร นครพนม เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ เขตละ 6 คน รับรวม 12 คน
รอบ 3 กสพท. รับ 21 คน (เด็กทั่วประเทศ และเด็กซิ่วสมัครได้)
ค่าเรียน เทอมละ 50,000 บาท ปีละ 100,000 บาท ตลอดหลักสูตร 600,000 บาท
ชั้นปี 1-3 เรียนที่ ม.เกษตรฯ บางเขน
ชั้นปี 4-6 เรียน และฝึกปฏิบัติที่
1.โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี
2.โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร จ.สกลนคร
ลองเปรียบเทียบข้อมูลนี้ ก่อนพิจารณา ตัดสินใจ
หมายเหตุ
ปี 4 กรณีเรียนที่ University College London (UCL), UK ค่าเรียน 24,980 ปอนด์ อัตราแลกเปลี่ยนวันนี้ 1 ปอนด์เท่ากับประมาณ 44.80 บาท คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 1,119,104 บาท บวก 100,000 บาท รวมเป็นเงินไทย 1,219,104 บาท (ปีเดียว)
ข้อสังเกต เด็กเก่งมากเลือกได้ ที่ครอบครัวไม่พร้อมเรื่องเงินสนับสนุน อาจจะให้ความสนใจแพทย์จุฬาภรณ์ น้อย ก็ได้ เพราะค่าใช้จ่ายในการเรียนแพทย์จุฬาภรณ์ สูงมาก
กรณีต้องไปเรียนต่างประเทศ(อังกฤษ) จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเรียนทั้งหมดในประเทศไทย ประมาณ 1,537,200 บาท และที่ประเทศอังกฤษ ประมาณ 1,219,104 บาท เรียน 7 ปี รวมทั้งหมด ประมาณ 2,756,304 บาท
ข้อด้อยแพทย์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ข้อเด่นจะไม่พูดถึง
1.เรียน 7 ปี 2 ปริญญา วิทยาศาสตร์บัณฑิต และแพทยศาสตรบัณฑิต
2.ต้องเรียนนานมากกว่าแพทย์สถาบันอื่นๆ 1 ปี แต่คิดว่าน่าจะได้ค่าตอบแทนเท่ากัน
3.ต้องทำงานใช้ทุน 3 ปี เหมือนกับแพทย์รัฐทุกสถาบัน
4.ค่าเรียน แพงมาก
กรณีไม่ได้ไปเรียนต่างประเทศ(อังกฤษ) ค่าเรียนทั้งหมดในประเทศไทย รวม 1,858,000 บาท
กรณีไปเรียนต่างประเทศ(อังกฤษ) ค่าเรียนคิดเป็นเงินไทย 1,219,104 บาท(ชั้นปี 4 ปีเดียว)
จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเรียนทั้งหมดในประเทศไทย ประมาณ 1,537,200 บาท และที่ประเทศอังกฤษ ประมาณ 1,219,104 บาท เรียน 7 ปี รวมทั้งหมด ประมาณ 2,756,304 บาท
5.รับน้อย รับใน กสพท.เพียง 12 คน
6.เด็กเก่งมาก เลือกได้ น่าจะให้ความสนใจน้อย
ความเห็นส่วนตัว อาจจะผิดก็ได้ คะแนนต่ำสุด กสพท.67 เคยเดาว่า แพทย์จุฬาภรณ์ น่าจะอยู่เกือบท้ายตาราง แต่อยู่เหนือแพทย์บูรพา ประมาณลำดับที่ 23 (กรณีเด็ก กสพท.เรียน 7 ปี)
ข้อด้อยแพทย์เกษตรฯ ข้อเด่นจะไม่พูดถึง
1.รับใน กสพท.67 จำนวน 21 คน ปานกลาง ไม่มาก
2.ค่าเรียนเทอมละ 50,000 บาท เท่ากับแพทย์แม่ฟ้าหลวง อาจจะแพงกว่าแพทย์สถาบันอื่นๆ
3.ชั้นปี 4-6 ต้องเรียน และฝึกปฏิบัติที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด เช่น สุพรรณบุรี และสกลนคร
ความเห็นส่วนตัว อาจจะผิดก็ได้ คะแนนต่ำสุด กสพท.67 เคยเดาว่า แพทย์เกษตรฯ น่าจะอยู่เหนือแพทย์แม่ฟ้าหลวง ประมาณลำดับที่ 19
ความเห็นใหม่ครั้งนี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงลำดับที่ใหม่ ก็ได้ ตามกระแสผู้เลือก
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?