Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

• ว่านชักมดลูกกินแล้วสวยจริงหรือ?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สัปดาห์นี้หมอจะพูดถึงเรื่องของว่านชักมดลูก แต่ก่อนจะพูดถึงสรรพคุณของว่านชักมดลูกก็จะเกริ่นความเป็นมาประวัติของคำว่าว่านให้ฟังกันสักหน่อยก่อน

"ว่าน" ตามความหมายของว่านตามพจนานุกรมฉบับราชบัณทิตยสถาน พ.ศ. 2525 หมายถึง "พืชที่มีหัวบ้าง ที่ไม่มีหัวบ้าง ใช้ทำยาบ้าง หรือเชื่อกันว่าอยู่ยงคงกระพันและเป็นสิริมงคลบ้าง เช่น ว่านธรณีสาธ ว่านนางล้ม ว่านเสน่ห์จันทร์แดง "ว่าน" เป็นคำที่ใช้เรียกนำหน้าชื่อต้นไม้ โดยเฉพาะต้นไม้ที่ใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพรและไม้ประดับหลายชนิด ว่านหลายชนิดถูกเรียกว่า "ว่าน" จดติดปากและเป็นที่รู้จักกันมาแต่โบราณ

จากหลักฐานที่มีการบันทึกไว้ ได้เคยมีการรวบรวมบรรดาว่านต่างๆ เข้ามาเป็นหมวดหมู่ สำหรับให้ความรู้แก่ประชาชนให้รู้จักถึงชนิดว่าน ลักษณะและสรรพคุณ หรือประโยชน์ของว่านมาแล้วในอดีต ในตำราแพทย์สงเคราะห์ก็มีการกล่าวถึงว่านด้วยเช่นกัน ได้แก่ ว่านกีบแรด ว่านหางช้าง ว่านน้ำ ว่านเปราะ และในปี พ.ศ. 2479 หลวงประพัฒน์ สรรพากร ได้รวบรวมความรู้เกี่ยวกับว่าน โดยเขียนหนังสือ "ตำรากระบิลว่าน" เป็นตำราที่ให้ความรู้เรื่องว่านซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในหมู่นักเล่นว่าน

"ว่าน" บางชนิดนอกจากจะปลูกเพื่อใช้เป็นยาสมุนไพรแล้ว บางชนิดยังเชื่อกันว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ป้องกันอันตราย พิษสัตว์กัดต่อย ยาเบื่อเมา ยาสั่ง ยาเสพติด สามารถดับพิษร้ายให้หายได้ มีคุณานุภาพบันดาลให้เกิดผล เกิดโชคลาภ ทำมาค้าขึ้น เงินทองไหลมาเทมา ทำให้เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม มีคนเคารพนับถือ การนับถืออิทธิฤทธิ์ของว่านยังคงมีแพร่หลายอยู่ในหมู่ชนชาวกะเหรี่ยง, ละว้า, ข่า, ยาง, ชอง รวมทั้งชาวเขมรและลาวตลอดมาจากอดีตจนปัจจุบัน สำหรับในประเทศไทยก็ยังคงมีผู้เลื่อมใสเชื่อถือในอภินิหารของว่านอยู่อีกไม่น้อยเหมือนกัน

จากความเชื่อที่ว่า ว่านเป็นของศักดิ์สิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์ จึงมีการให้ความสำคัญกับการปลูกเลี้ยงว่าน ว่าต้องมีพิธีมากกว่าการปลูกเลี้ยงพืชธรรมดา และว่ากันว่าถ้าทำให้ถูกต้องตามพิธีการ ก็จะเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ปลูกเลี้ยงและเป็นการเพิ่มฤทธิ์ธานุภาพให้แก่ว่าน เช่น เวลารดน้ำต้องเสกคาถากำกับก่อนรดน้ำเป็นบทเป็นตอนต่างกันไป สามจบ เจ็ดจบหรือตามอายุของผู้ปลูกเลี้ยงแล้วแต่ชนิดของว่าน การขุดก็ต้องทำในวัน เดือน ต่างๆ กัน ทั้งข้างขึ้น ข้างแรม เช่น การขุดเก็บว่านมักเลือกวันอังคาร วันใดวันหนึ่งในเดือนสิบสองหรือไม่เกินวันพุธข้างขึ้นของเดือนอ้าย เวลาขุดใช้มือตบดินใกล้กอว่านหรือต้นว่าน แล้วเสกคาถาเรียกว่านไปตบดินไปจนจบคาถาจึงค่อยขุดนำหัวว่านขึ้นมา ส่วนการปลูกมักปลูกกันในวันอังคาร เดือน 6 เพราะเป็นหน้าฝนเหมาะแก่การปลูกพืชชนิดนี้มากกว่าเดือนอื่น ดินที่ใช้ปลูกว่านต้องเป็นดินสะอาดปราศจากวัตถุพวกมูลสัตว์ต่างๆ เจือปน และเป็นดินบริเวณกลางแจ้งไม่มีอะไรบัง

อย่างที่บอกแล้วว่าจะพูดถึงว่านชักมดลูกให้ฟัง เพราะมีคำถามมากมายเหลือเกินว่ากินว่านชักมดลูกแล้วสวยจริงหรือ กินนานๆ เป็นอะไรไหม นี่เป็นคำถามที่สตรีจำนวนมากยังมีความสนใจและไขว่คว้าองค์ความรู้เรื่องนี้กันมากเหลือเกิน ก่อนอื่นต้องบอกว่าที่เขียนนี้เป็นการพูดถึงสรรพคุณโบราณและผลการทดลองบ้าง แต่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน แต่คงเป็นข้อมูลที่จะช่วยตัดสินใจก่อนบริโภคได้บ้าง

ก็เข้าเรื่องว่านชักมดลูกกันเลยดีกว่า "ว่านชักมดลูก" เป็นพืชในสกุลเดียวกับขมิ้นชัน Curcuma comosa เป็นว่านชักมดลูกพันธุ์พื้นเมืองของไทย บางตำราเรียกว่า ว่านชักมดลูกตัวเมีย ส่วน Curcuma xanthorrhiza เป็นว่านชักมดลูกอีกชนิดหนึ่งแต่เป็นพันธุ์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในอินโดนีเซีย บางตำราเรียกว่าว่านชักมดลูกตัวผู้ ลัษณะทางพฤกษศาสตร์จะคล้ายคลึงกัน แต่ C.xanthorrhiza เส้นกลางใบมีสีน้ำตาลอมแดง ขณะที่ C.comsoa เส้นกลางใบไม่มีสีน้ำตาลอมแดง

ตามตำรายาแผนโบราณว่า เหง้า รสฝาดเฝื่อน ชักมดลูกให้เข้าอู่ แก้มดลูกพิการ แก้ปวดมดลูก แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ขับน้ำคาวปลา แก้ธาตุพิการอาหารไม่ยอย แก้ริดสีดวงทวาร แก้ไส้เลื่อน ปรุงยาแก้โรคกระเพาะอาหาร ลำไส้ แก้โรคมะเร็ง และฝีภายในต่างๆ

สำหรับรายงานการวิจัยว่านชักมดลูกในส่วนที่ตรงกับสรรพคุณยาไทยนั้น เป็นงานวิจัยฤทธิ์ของว่านชักมดลูกชนิด C.comosa โดยพบว่า

-เมื่อฉีดสารสกัดเหง้าว่านชักมดลูกเข้าช่องท้องของหนูขาวเพศเมียที่ยังไม่โตเต็มที่ และถูกตัดรังไข่ออก พบว่าสารสกัดด้วยเฮกเซนมีฤทธิ์แรงที่สุดในการเพิ่มน้ำหนักมดลูก และปริมาณไกลโคเจน และยังทำให้เกิดการหนาตัวของเยื่อบุผิวช่องคลอด โดยมีฤทธิ์น้อยกว่าฮอร์โมนเอสตราไดออล ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง แต่สามารถเสริมฤทธิ์ของฮอร์โมนเอสตราไดออลต่อมดลูกของหนูได้ แสดงให้เห็นว่าว่านชักมดลูกมีสารสำคัญที่มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนของเพศหญิง

-สารสกัดเหง้าของเอธานอลสามารถลดฤทธิ์ของสารหลายชนิดที่เป็นตัวกระตุ้นให้มดลูกหดตัว เช่น qzytocin, acetylcholine, serotonin ฤทธิ์นี้อาจช่วยอธิบายสรรพคุณของว่านชักมดลูกในการบรรเทาอาการปวดมดลูกได้

-การศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าสารสกัดของว่านชักมดลูกทั้งสองชนิด มีฤทธิ์การกระตุ้นการหลั่งน้ำดี และลดคอเลสเตอรอลและไดรกรีเซอไรค์ในเลือดได้ จากการที่ว่านชักมดลูกมีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งน้ำดี จึงไม่ควรใช้ในผู้ที่มีปัญหาท่อน้ำดีอุดตัน หรือเป็นนิ่วในถุงน้ำดี และไม่ควรใช้ว่านชักมดลูกติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือในขนาดสูง เพราะจะทำให้มีอาการปวดท้องได้

เหล่านี้เป็นข้อมูลที่คาดว่าจะเป็นเครื่องช่วยในการตัดสินใจก่อนบริโภคได้ ที่สำคัญอยากเตือนว่าก่อนจะบริโภคสมุนไพรชนิดใด ควรตั้งคำถามกับตัวเองเสียก่อนว่า จะกินทำไม่ ต้องการกินเพื่ออะไร มีความจำเป็นหรือไม่ สรุปว่าควรถามใจตัวให้แน่นอนก่อนดีกว่า ว่ากันอย่างนั้นเถอะ เพราะว่านชักมดลูกเป็นฮอร์โมนจริงๆ การบริโภคในปริมาณที่เกินความจำเป็นอาจเกิดปัญหาได้ เช่น ช่องคลอดมีเลือดออกไม่หยุด ปวดหลัง ปวดท้อง อาการดังกล่าวเป็นการบอกเล่าจากผู้บริโภคว่านชักมดลูกเป็นเวลานาน หารือมาที่เรา แค่เขากินเพื่อความสวยงาม ดังนั้นจึงขอย้ำว่าการบริโภคอยากให้เน้นเพื่อเป็นยา รักษาให้ตรงอาการ เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ และไม่ควรกินพร่ำเพรื่อ หรือมุ่งเฉพาะเพียงแค่ความสวยงาม หรือผลเรื่องสมรรถภาพทางเพศและการนำไปใช้ได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้รู้จริง

แถมท้ายใครที่อ่านคอลัมน์ของหมอวันนี้ หากเป็นแฟนภาคอีสานก็อยากเชิญชวนให้ไปชมงานชุมนุมแพทย์แผนไทยและสมุนไพรแห่งชาติสัญจร ที่จังหวัดขอนแก่น กำลังจัดกันอยู่ที่บริเวณอาคารโรงพยาบาลเวชประสิทธิ์ ถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2546 ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00น. มีองค์ความรู้มากมายหลากหลายจริงๆ เพราะคุณๆ ที่ไปศึกษาความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยของเรา ไม่แน่นะคะในอนาคตท่านอาจเป็นอีกผู้หนึ่งที่นำผลิตภัณฑ์สมุนไพร มาร่วมงานกับเราในปีต่อไปก็ได้



แสดงความคิดเห็น

10 ความคิดเห็น