Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

วันภาษาไทย ฤาจะเป็นวันภาษาวิบัติ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เนื่องจากว่าบอร์ดเด็กดีเดี๋ยวนี้ภาษาวิบัติเกลื่อน  ผมไม่ได้ตั้งกระทู้เพื่อจับผิดหรือระบายนะครับ  เพียงแค่อยากจะบอกเล่าเรื่องราวบางอย่างเฉยๆ  ไม่อยากให้ใช้อคติในการอ่าน

๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานและทรงอภิปรายเรื่อง “ ปัญหาการใช้คำไทย ” ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทย ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งทรงแสดงพระปรีชาสามารถและความสนพระราชหฤทัยห่วงใยในภาษาไทย จนเป็นที่ประทับใจผู้เข้าร่วมการประชุมครั้งนั้นเป็นอย่างยิ่ง[1] [2]

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งความว่า

เรามีโชคดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาล จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้ ปัญหาเฉพาะในด้านรักษาภาษานี้ก็มีหลายประการ อย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในทางออกเสียง คือ ให้ออกเสียงให้ถูกต้องชัดเจน อีกอย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในวิธีใช้ หมายความว่า วิธีใช้คำมาประกอบประโยค นับเป็นปัญหาที่สำคัญ ปัญหาที่สาม คือ ความร่ำรวยในคำของภาษาไทย ซึ่งพวกเรานึกว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมีการบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้...สำหรับคำใหม่ที่ตั้งขึ้นมีความจำเป็นในทางวิชาการไม่น้อย แต่บางคำที่ง่ายๆก็ควรจะมี ควรจะใช้คำเก่าๆที่เรามีอยู่แล้ว ไม่ควรจะมาตั้งศัพท์ใหม่ให้ยุ่งยาก

รัฐบาลได้ประกาศให้วันนี้เป็นวันสำคัญ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๒

คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันอังคารที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๔๒ เห็นชอบให้วันที่ ๒๙ กรกฎาคม ของทุกปีเป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ [3]

๑. เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงเป็นนักปราชญ์ และนักภาษาไทย รวมทั้งเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ได้ทรงแสดงความห่วงใย และพระราชทานแนวคิดต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทย

๒. เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒

๓. เพื่อกระตุ้นและปลุกจิตสำนึกของคนไทยทั้งชาติให้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของภาษาไทย ตลอดจนร่วมมือร่วมใจกันทำนุบำรุงส่งเสริม และอนุรักษ์ภาษาไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และเป็นสมบัติวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติให้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป

๔. เพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการใช้ภาษาไทย ทั้งในวงวิชาการและวิชาชีพ รวมทั้งเพื่อยกมาตรฐานการเรียนการสอนภาษาไทยในสถานศึกษาทุกระดับให้สัมฤทธิผลยิ่งขึ้น

๕. เพื่อเปิดโอกาสให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐบาลและเอกชนทั่วประเทศมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อเผยแพร่ความรู้ภาษาไทยในรูปแบบต่างๆ ไปสู่สาธารณชนทั้งในฐานะที่เป็นภาษาประจำชาติ และในฐานะที่เป็นภาษาเพื่อการสื่อสารของทุกคนในชาติ




ผมอ่านแล้วรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ

ครั้งหนึ่งผมก็เคยใช้ภาษาวิบัติ  ใครว่าอะไรก็ไม่สน  เชิงว่า  จะใช้  มีปัญหามั้ย  แต่เพราะคนๆ หนึ่งถามผมด้วยคำถามนี้

ไม่ภูมิใจในความเป็นไทยหรอ ถึงได้ใช้ภาษาวิบัติน่ะ

ผมตอบว่าภูมิใจ  แต่ไม่อาจตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำ  เพราะรู้สึกขัดแย้งกับการกระทำของตนเอง  จึงยอมเปลี่ยนนิสัยการพิมพ์มาใช้ภาษาที่ถูกต้อง

ภาษาไทยเป็นภาษาพ่อภาษาแม่ของเรา  ทำไมถึงไม่ใช้ให้ถูกล่ะ  ภาษาอื่นอย่างเกาหลีหรือญี่ปุ่นยังพยายามเรียนกันได้เลย  แค่ภาษาไทยที่เป็นภาษาของเราทำไมถึงทำไม่ได้?  ผมเป็นคนหนึ่งที่อยากเรียนภาษาญี่ปุ่นเพราะชอบอนิเมและมังงะ  แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนอื่นถึงชอบใช้ภาษาวิบัติกัน  ถึงแม้ว่าจะเคยใช้เอง  แต่ใช้ไปเพราะความคึกคะนองเท่านั้น

อีกบทความเป็นพระดำรัสของพระเทพนะครับ

วันนี้ (9 ก.ค.2551) เวลา 15.30 น. ที่หอประชุมกองทัพเรือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติงานฉลอง 200 ปี วันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท และทรงเป็นประธานเปิดการสัมมนาทางวิชาการเรื่อง ปัญหาการเรียนการสอนและการใช้ภาษาไทยในปัจจุบัน โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พร้อมทั้งทรงเข้าร่วมฟังการนำเสนอผลงานวิจัยปัญหาการเรียนการสอนภาษาไทย
       
       สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชดำรัสเปิดการสัมมนาทางวิชาการตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในจำนวนไม่มากนักที่มีภาษาของตนเองใช้ และเรียกภาษาของตนเองได้อย่างภาคภูมิว่า ภาษาไทย ตามธรรมชาติภาษาย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ตามสถานการณ์ในสังคม อีกส่วนหนึ่งภาษามีความสำคัญถ่ายทอดความรู้ วัฒนธรรมของคนในชาติ การเรียนการสอนภาษาจึงเป็นเรื่องสำคัญ วิธีการสอนภาษามีหลายอย่างหลายทฤษฎี การจะตัดสินว่าแบบไหนดีกว่าต้องพิจารณา สถานการณ์เป็นสำคัญ ซึ่งการมาร่วมสัมมนาในครั้งนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งการเทิดพระเกียรติ ผู้ทรงพระนิพนธ์ วรรณคดีและตำราแบบเรียนภาษาไทยไว้เป็นตัวอย่างในการจรรโลงภาษาไทย จึงควรได้ศึกษาแนวทางของครูภาษาไทยแต่โบราณด้วย
       
       
ภายหลังจากรับฟังการนำเสนองานวิจัยเกี่ยวกับปัญหาการเรียนการสอนภาษาไทยแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำรัสตอบในตอนหนึ่ง ว่า พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ทรงเป็นบรรพบุรุษของข้าพเจ้าด้วย ซึ่งพระองค์ทรงพระนิพนธ์แบบเรียนภาษาไทยจินดามณีที่มีความไพเราะทางภาษาและวรรณศิลป์ โดยภาษาเป็นเครื่องมือสืบทอดทางวัฒนธรรมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สำหรับปัญหาการเรียนการสอนภาษาไทยที่ครูได้ตอบแบบสอบถาม พบว่า คนสมัยนี้นิยมมองต่างมุม เช่น ครูภาษาไทยไม่ควรเปลี่ยนแปลงบ่อย ควรนำของเดิมมาใช้ และควรทำให้ทันสมัย ซึ่งเป็นความเห็นที่ถูกต้องของทั้ง 2 ฝ่าย ข้อเสนอบางอย่าง เช่น ควรจะให้ชั้นเรียนมีนักเรียนน้อยๆไม่เกิน 50 คน นั้นลองถามคุณหญิงกษมาว่าทำได้หรือไม่ เพราะทุกวันนี้คนต้องการการศึกษามาก อย่างไรก็ตาม เรื่องการศึกษามักมีอุปสรรคต่างๆนานา ขอให้อย่าท้อใจ เท่าที่เห็นในถิ่นทุรกันดาร บนยอดเขา ครูก็อุตส่าห์มีใบงาน พิมพ์คอมพิวเตอร์ ต้องนำไปถ่ายเอกสารในเมือง อยากให้นักเรียนมีขอดีเรียน ดูความตั้งใจแล้วน่าสงสาร
       
       
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำรัสอีกว่า ข้าพเจ้าขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวว่า บางครั้งก็อย่าไปรังแกเรื่องของความเปลี่ยนแปลงทางภาษา อย่างไรก็ตาม มีสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวอย่างหนึ่งคือ เราคนแก่ๆ เคยใช้คำนี้ว่าเป็นคำดีใช้ได้ มีความสุภาพ แต่อีกสมัยหนึ่งก็เปลี่ยนไปคำไม่สุภาพ ความหมายเปลี่ยนไป บางคำที่เป็นคำไม่สุภาก็กลับเป็นคำสุภาพในสมัยนี้ บางครั้งก็ทำให้ข้าพเจ้าไม่กล้าใช้คำนั้น ไม่รู้ว่าสุภาพหรือไม่สุภาพ เพราะคนเขาจะหัวเราะเยาะ ส่วนที่หลายฝ่ายอยากให้ลดงานครูลง เพราะครูมีงานเยอะอยู่แล้ว ข้าพเจ้ายังเคยคิดอยากให้ภาคเอกชนมาช่วยจ้างครูให้กับกระทรวงศึกษาธิการโดยครูคนหนึ่งเคยแอบมากระซิบว่าอยากให้ซื้อคู่มือการออกข้อสอบสำเร็จให้ เพราะครูไม่มีสมองจะคิดแล้ว ต้องเอาเวลาไปหุงข้าวและดูแลนักเรียน เป็นต้




และนี้เป็นข้ออ้างที่ผมเห็นบ่อยๆ
- พิมพ์ง่าย  จะใช้  อันนี้ผมไม่เถียง  แต่บางคำมันพิมพ์ยากกว่านะครับและถ้าคิดจะใช้ก็ต้องพร้อมที่จะรับคำตักเตือนของผู้อื่นด้วยเช่นกัน
- เรื่องของฉัน/ผม (กุ)  ครับ  เป็นเรื่องของคุณ  ฉะนั้นนี่ก็เป็นเรื่องของผมที่จะตักเตือนคุณเช่นกัน
- มันเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล  กรุณาอย่าอ้างคำนี้ครับ  นักกฎหมายเก่งๆ บางท่านยังรู้จักคำนี้ไม่ดีพอเลย  ถ้าคนไทยรู้จักคำนี้ดี เหตุการณ์วุ่นวายที่เป็นทุกวันนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นหรอกครับ
- มันเป็นตัวชี้บ่งว่าภาษามีวิวัฒนาการไม่ตายอย่างภาษาสันสกฤตหรือบาลี  วิวัฒนาการด้านไหนหรือครับ
- ไม่เห็นเป็นไรเลย  ไม่ทำให้เดือดร้อนสักหน่อย  อันนี้ขอยกไปพูดข้างล่างนะครับ
- เขาก็ใช้กันเยอะแยะ  จำเป็นด้วยหรือครับที่ต้องทำตามคนอื่น
- เรื่องแค่นี้เองทำไมต้องทำเป็นเรื่องใหญ่  เพราะมันเป็นเรื่องแต่นี้ไม่ใช่หรือครับ  เรื่องแค่นี้ทำไมถึงทำไม่ได้
- ใช้แล้วผิดนักรึไง  ขอยกไปพูดด้านล่างนะครับ

...........................  

นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่ผมเห็นบ่อยๆ  ใครที่มีข้ออ้างอย่างอื่นก็ว่ามาได้เลยครับ  ต่างคนต่างความคิด  ใช่ว่าจะมีใครที่ทำถูกเสมอไป

ภาษาวิบัติใช้แล้วก็ไม่ผิดหรอกครับ  แต่ว่าสมควรหรือเหมาะสมแล้วหรือ  การจะใช้เราก็ควรดูที่โอกาส  ถ้าเป็นการคุยตอบโต้อย่างเวปบอร์ด  การใช้ให้ถูกก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะเป็นการชี้ว่าเรามีการศึกษาแค่ไหน  ถ้าเป็นการคุยแชทวินาทีต่อวินาที  การใช้คำวิบัติเพื่อลดเวลาในการพิมพ์ ก็ถือเป็นข้ออ้างที่พอฟังขึ้นอยู่

จริงที่ภาษาวิบัติไม่ทำให้ใครเดือดร้อนมากมาย  แต่คุณลืมนึกถึงคำว่า  ประเทศชาติรึเปล่า  ถ้าไม่สร้างก็อย่าทำลายเลยนะครับ  หากคนในประเทศไม่ช่วยกันรักษา  และใครที่ไหนจะมารักษาแทนเรา

และการตักเตือนเรื่องการใช้ภาษาวิบัติที่หลายๆ คนทำอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่การรังแก  แต่เป็นการรณรงค์การใช้ภาษาให้ถูกต้อง  อย่าอาศัยช่องว่างในพระดำรัสมาเป็นข้องอ้างนะครับ  ทั้งบาปและเป็นการดูหมิ่นท่านทางอ้อมด้วย

ผมรู้สึกหงุดหงิดที่เห็นภาษาวิบัติทุกครั้ง  และจะเกิดอาการอยากอาเจียน(เป็นอาการจริงๆ เพราะตาลาย ต้องแปลภาษาไทยให้เป็นภาษาไทย)

สุดท้ายนี้ผมอยากฝากคำถามให้คนที่ยังใช้ภาษาวิบัติได้คิดทบทวนอย่างไร้อคตินะครับ

คุณภูมิใจในความเป็นไทยมั้ย?

ขอบคุณที่ฟัง(อ่าน)จนจบครับ  

ปล. อยากใช้ภาษาวิบัติเพื่อประชดผมก็ใช้ได้เลยครับ  เพราะมันทำให้ผมแค่หงุดหงิดอย่างที่บอกไปเท่านั้นเอง


PS.  เพราะโลกไร้ซึ่งความงดงาม ฉะนั้นมันจึงงดงาม -The world is not beautiful.Therefore,it is- Kino no Tabi-การเดินทางของคิโนะเล่ม1

แสดงความคิดเห็น

7 ความคิดเห็น

Black Silly 27 ก.ค. 52 เวลา 19:38 น. 3

เห็นด้วยอีกคนเช่นกันคะ

แต่บางคนก็ใช้จนชินแล้ว พอมาเห็นเราพิมพ์แบบนี้ มันก็บอกว่า...ไม่ถนัดภาษาที่เราเขียน (เราซะอีกที่ไม่ถนัดภาษาของมัน)

อ้อ! ความเดือดร้อนอีกอย่างที่ได้รับจากพวกภาษาวิบัติสำหรับเรานะคะ นั่นก็คือ...อ่านยากมากคะ ด้วยความที่ว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยชินและไม่เคยใช้ภาษาวิบัติ เวลาอ่านเลยรู้สึกมันขัดๆ ตา ต้องมานั่งแปลไทยเป็นไทยอีกทีหนึ่ง


PS.  จิตนาการจุดประกายฝันให้เป็นจริง
0
``MY+ .. ì™ 27 ก.ค. 52 เวลา 19:40 น. 4

เห็นด้วยอย่างยิ่งๆๆๆๆ

ภาษาวิบัติเราอ่านพอจับใจความได้ก็จริง

แต่บางคำบางอย่างมันก็เกินไปนะ แบบว่า อ่านไม่รู้เรื่องเลย

ภาษาวิบัติไม่ได้ทำให้หน้าตาดีขึ้นสักหน่อย

อย่าคิดว่าถ้าไม่ใช้จะถูกหาว่าเชย บ้านนอก ฯลฯ

แล้วไม่กลัวถูกหาว่าไม่มีความเป็นคนไทยหรืออย่างไร


ใครยังทำแบบนี้อยู่เลิกเถอะนะคะ

คนไทยใช้ภาษาไทย ไม่ใช่ใช้ภาษาวิบัติ....

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 27 กรกฎาคม 2552 / 19:46


PS.  KWON-G --------++ I Need You Kwon Jiyong ,, Always All Time ..
0
ChiickFondue 27 ก.ค. 52 เวลา 20:36 น. 5

เค๊าเหง'ล้วยจร๊'',, << คนที่พิมพ์ยังงี้ เลิกเถอะนะ^^

อยากให้มัน เป็น "วันภาษาไทย" ต่อไปค่ะ

0
ศรัทธิสรา 28 ก.ค. 52 เวลา 15:04 น. 6

ภาษาต้องมีการวิวัฒนาการ แต่บางท่านก็ลืมไปว่าฝาแฝดของวิวัฒนาการคือการกลายพันธุ์
อย่างคำว่า เค้า ก็วิวัฒน์มาจากคำว่า เขา เป็นอาทิ
นานาจิตตังขอรับ เราก็เตือนเค้าด้วยความหวังดีไปเถิด เค้าไม่ฟังก็เป็นเรื่องของเค้า เราจะเป็นทุกข์ไปไย
หากวันใดมีสนพ.ทะลึ่งตีพิมพ์นิยายที่ใช้ภาษาเยี่ยงนั้นก็ทำใจกันเถิดสหายเอ๋ย
โลกคงจวนถึงกาลอวสานจริง ๆ เสียแล้ว


PS.  มีความสุขกับทุกชั่วขณะของลมหายใจ
0
ผู้กองมันเทศlP3 28 ก.ค. 52 เวลา 16:00 น. 7

"สนับสนุนการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องอย่างเป็นทางการ"^ ^



เป็นคนไทย
เราไม่ได้มีคำว่า "สิทธิ" อย่างเดียว
เรามีคำว่า "หน้าที่" ด้วย
เพราะงั้นก็เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน
ที่ควรจะอนุรักษ์ภาษาไทยให้อยู่คู่ประเทศชาติตลอดไป
ให้คนรุ่นหลังได้เรียน เขียน อ่าน
ได้ภูมิใจเหมือนกับที่เราภูมิใจกันนะ^  ^


PS.  เธอคือคำว่า "รัก" :')))
0