Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ตำราฆ่าตัวตายอย่างลูกผู้ชาย...แห่งแดนซามูไร

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
* * คำเตือน * *

กระทู้นี้มิได้มีเจตนายั่วยุให้ฆ่าตัวตายแต่อย่างไร

เป็นเพียงการนำเสนอเกร็ดชีวิตนักรบของญี่ปุ่นในสมัยก่อน

การกระทำของพวกเขาเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงวิถีชีวิต ค่านิยม และทัศนคติในช่วงเวลานั้น

อย่างไรก็ตาม...พึงระลึกไว้ว่าพ่อแม่เลี้ยงเรามาหลายปี แต่เราจะฆ่าตัวตายภายในไม่กี่นาที เห็นว่าคุ้มแล้วหรือ?



^
^
^



(แล้วหล่อนจะเสนอทำไม!?)

แหม...ถึงจะเป็นของมีสาระที่ไม่จำเป็นสำหรับสมัยนี้ แต่ก็อยากให้ทราบกันไว้
อย่างน้อยก็เป็นส่วนหนึ่งของรากเหง้าชาวญี่ปุ่นปัจจุบัน
แม้ทุกวันนี้เขาไม่ได้ทำแบบนั้นอีกแล้วก็ตาม

การฆ่าตัวตายอย่างลูกผู้ชายดังที่ระบุไว้
หมายถึง "เซ็ปปุกุ"
หรือ ที่พวกเรารู้จักกันในนาม ฮาราคีรี มากกว่านั่นเอง
ในจุดนี้ขอให้ทราบทั่วกันว่า...
แท้จริงแล้ว ฮาราคีรี เป็นคำแสลง
และถือว่าไม่ให้เกียรติต่อบุคคลที่คว้านท้องฆ่าตัวตาย
คำที่ถูกต้องและควรกล่าวถึงมากกว่าคือ "เซ็ปปุกุ" คะ ^_^

แล้วใครละ...ที่กระทำการเซ็ปปุกุได้?

เท่าที่ปรากฏชัดเจนเห็นจะมีแต่ชนชั้นนักรบของญี่ปุ่นสมัยโบราณ
หรือ "ซามูไร" นั่นเอง

ซามูไร เป็นบุคคลที่ทุ่มเทใช้ทั้งชีวิตนี้เพื่อเจ้านายของเขา
เขาจะนับถือความกล้าหาญและความซื่อสัตย์เป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง
และพวกเขาจะเห็นว่าเจ้านายเป็นเจ้าชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้
จนขนาดครอบครัวล้มป่วยตายประสบภัยยังไง เจ้านายก็สำคัญกว่า
เจ้านายจะให้กลับไปช่วยเหลือคนที่บ้านได้หรือไม่ก็ตามแต่นาย

เจ้านายไม่ให้...เขาก็ไม่ไป...
แล้วคนในครอบครัวของซามูไรก็ย่อมต้องเข้าใจจุดนี้ด้วย

(โล่งอกไม่มีแฟนเป็นซามูไร อิอิ)

ชีวิตทั้งชีวิต...ข้าขอมอบให้เจ้านาย
มอบทั้งตัวและหัวใจเลยขอร้าบบบบบ~~~!!

(//เอ๋...มันชักจะเลี่ยนชอบกล)

ซามูไรต้องนับถือหลักบูซิโดดำเนินชีวิตตนเอง

หลักบูซิโดเป็นกฎที่ซามูไรต้องมี ไม่ต่างกับอัศวินทางตะวันตกที่ต้องมีหลักปฏิญาณตนจากทางศาสนาและหลักสุภาพบุรุษ
(โอ้ย พูดแล้วอยากมีแฟนเป็นอัศวิน เพราะเขาถือว่าเลดี้มาก่อนครับผม อิอิ -- นอกเรื่อง)

บูซิโดที่ว่าเนี่ยมี 5 ข้อ แล้ว 1 ใน 5 ก็มีบอกว่า
"ห้ามกลัวตาย!!!"
เพราะยังไงเสียเราก็หนีความตายไม่พ้นอยู่แล้วละนะ เพียงจะช้าจะเร็วเท่านั้นเอง
ฉะนั้นจึงใช่เหตุที่เราจะมาร่ำไห้ไม่อยากตาย...บุกเข้าหามันชะเลยสิ!

อนึ่งการเซ็ปปุกุไม่ได้เป็นเพียงแต่การฆ่าตัวตายธรรมดา
หากแต่เป็นการฆ่าตัวตายที่สูงส่ง และมีเกียรติล้ำเลิศจนน่าล่ำลือไปถึงอนุชนตระกูล

เพราะอะไรหรือ?

เพราะ...เซ็ปปุกุเป็นการฆ่าตัวตายที่ทรมานมาก!
ใครที่จะทำพิธีนี้ได้นับว่าต้องมีจิตใจเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ และสามารถบังคับจิตใจตนเองได้เก่งที่สุด
จึงไม่แปลก...ที่จะเรียกได้ว่าเป็นการฆ่าตัวตายอย่างลูกผู้ชาย

หากถึงเวลาต้องคว้านท้องกลับละทิ้งหรือหวาดกลัวไม่กล้าทำ
บุรุษผู้นั้นไม่สมควรนับว่าบุรุษ (แม้แต่สตรีบางนางเองยังกล้าหาญที่จะกระทำ!) และแม้แต่ไม่สมควรนับว่าเป็นประชากรญี่ปุ่นอย่างเต็มใบ

เอ...แล้วเซ็ปปุกุเนี่ยทรมานอย่างไรละ?
และต่อไปนี้คือเรื่องราวของเซ็ปปุกุ






พิธีกรรม เซ็ปปุกุ ไม่ใช่ว่าอยากจะทำ ก็ทำได้
ต้องมีการเตรียมการให้พร้อม

ปกติแล้ว ซามูไร (นักรบ) จะพกดาบอยู่ 3 เล่มด้วยกัน

คาตานะ (Katana) คือ ดาบใหญ่

ซึรึกิ (Tsurugi) คือ ดาบขนาดกลาง ใช้เมื่อ คาตานะ หลุดมือ หรือ หัก 

มาซามูเนะ (Masamune) คือ มีดสั้น อันนี้ ไม่ได้มีไว้ ต่อสู้ แต่มีไว้เพื่อ เซ็ปปุกุ

เมื่อพ่ายแพ้สงคราม หรือกระทำการอันเป็นการเสียเกียรติ
เซ็ปปุกุ จะเป็นหนทางในการ รักษาเกียรติ ของผู้นั้น
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว จะไม่รีบ กระทำในทันที
จะจับตัวไว้ รอเวลาที่เหมาะสม
เพราะต้องให้เจ้าตัวมีโอกาสสั่งเสียเป็นลายลักษณ์อักษร
แล้วก็ต้องคัดเลือกผู้ ชูซาคุ ด้วย
แล้วพิธี เซ็ปปุกุ ส่วนใหญ่ทำกันในสวน ของ วัง วัด หรือ บ้าน ก็ แล้วแต่ ต้องเป็นที่สงบ
แต่ไม่ปรากฏว่ามีใครทำพิธี เซ็ปปุกุ กันในป่า

อีกสิ่งหนึ่งสำหรับพิธีกรรม เซ็ปปุกุ ที่จะขาดไม่ได้เลยคือ ชูซาคุ
(ตอนแรกนึกว่าสุซากุ คูรูรุกิ นายสปินเตะคนนั้นชะอีก )
ชูซาคุ แปลว่า ผู้ช่วย
จะเป็นผู้ช่วยตัดหัวของผู้กระทำ เซ็ปปุกุ 
พูดเป็นเล่นไป
เรื่องของ ชูซาคุ มันมีที่มานะคะ
คือ ก่อนหน้านั้นไม่มี ชูซาคุ ในพิธีกรรมเซ็ปปุกุ 
แต่มี โยโกซึนะ คนหนึ่งโดนตัดสินเซ็ปปุกุเพราะฆ่าคน
ด้วยว่าเป็นนักซูโม่ จึงมีร่างกายแข็งแกร่ง
เขาเซ็ปปุกุแต่ไม่สิ้นใจในทันที กลับร้องโหยหวนเป็นเวลานาน
แล้วทุกคืนหลังจากนั้น คนที่อยู่ใกล้ๆลานเซ็ปปุกุก็ได้ยินเสียงโยโกซึนะคนนั้นร้องโหยหวนเป็นที่น่ากลัวไปทั่ว
เลยให้มี ชูซาคุ เพื่อ กระทำพิธีให้เสร็จสิ้น อย่างเหมาะสม


อ้อ อย่าลืมใส่ชุดขาวด้วยนะ ตามภาพข้างล่างคะ






PS.  เลิฟอิงแลนด์หมดจายยยยยย

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

Jasmine_Zaa 3 ส.ค. 52 เวลา 13:04 น. 1

และต่อไปนี้คือขั้นตอนการฆ่าตัวตายแบบซามูไรคะ



* * วีรกรรมสุดวุ่น...ขุนนางคิระกับไดเมียวอาซาโน่ * *

(คิระ (ไม่ใช่คิระไลท์ในเดทโน้ต)กับอาซาโน่ ว่ากันว่ามีตัวตนจริงค่ะ แต่เขาไม่ได้ตายแบบที่วาดข้างบน หนูกวางล้อเล่นค่า ถ้าเข้าข่ายลบหลู่ก็ขอโทษด้วยนะคะ)

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในสมัยปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17 และแน่นอนว่าเกิดที่ญี่ปุ่น (แล้วจะบอกทำไม)
หรือสมัยของโชกุนสึนะโยชิ

(นี่ก็ไม่ใช่พระเอกรีบอร์นนะค่ะ สงสัยทำไมชื่อโอตาคุเยอะจัง นึกว่าจะมีแต่นินจาอย่างท่านฮัตโตริ ฮันโซ กับท่านนินจาจิไรยะ ไม่นึกซามูไรกับโชกุนก็....)

เรื่องราวมีอยู่ว่าไดเมียวอาซาโน่ได้เดินทางมารับราชการในวังโชกุนถึงเอโดะ
โชกุนสึนะโยชิให้ขุนนางคิระไปดูแลผู้มาเยือนอย่างอาซาโน่
แต่กลับถูกขุนนางคิระผู้เย่อหยิ่งดูถูกว่า อาซาโน่เป็นไดเมียวบ้านนอก ไม่เข้าใจจารีตเมืองหลวง
สร้างความอับอายให้กับอาซาโน่มานับไม่ถ้วน กระทั่งอาซาโน่ถึงคราวอับความอดทน
ระเบิดโทสะฟันดาบใส่หน้าผากคิระบาดเจ็บ แต่เพราะเขาไม่รู้จารีตเมืองหลวงจริงๆ
การกระทำห้าวหาญในวังโชกุนถือเป็นความผิดอย่างมหันต์!

โชกุนสึนะโยชิจึงสั่งให้ไดเมียวอาซาโน่กระทำเซ็ปปุกุฆ่าตัวตาย
อาซาโน่จึงยอมทำตามนั้นโดยดี...

แต่เรื่องราวไม่สงบ...
เมื่อซามูไรของไดเมียวอาซาโน่ทั้ง 47 คนต้องสูญเสียเจ้านายไปอย่างเจ็บปวดและเคืองแค้น
พวกเขาพยายามหาทางฆ่าขุนนางคิระผู้นั้น เพื่อแก้แค้นให้กับไดเมียวอาซาโน่ผู้เป็นนาย
แต่...

ขุนนางคิระเส้นใหญ่ พรรคพวกพรรคพ้องก็เยอะ ยิ่งลูกน้องละอย่าพูดถึง...เป็นกระพรวนขบวนเรนเจอร์มาเชียว
จึงไม่ง่ายที่จะลอบสังหารคิระได้
อีกทั้งฝ่ายสำนักวังโชกุนเองก็จับตาคอยดูอยู่...
ว่าซามูไรไร้นายที่กลายเป็นโรนินทั้ง 47 คน จะทำยังไงต่อไป
แน่นอนรวมทั้งขุนนางคิระก็ต้องจ้องเขม็งเล็งแน่ว

แต่พวกเขารอบคอบและใจเย็นพอ

ลงทุนยอมละทิ้งครอบครัวที่เคยอยู่ดีกินดีให้อดอยากจนต้องขายทรัพย์สินกิน
เพื่อทำตัวเร่ร่อนพเนจร เสแสร้งทำเมาเหล้าบีบน้ำตาอาลัยเจ้านาย
ทำตัวสะเปะสะปะเยี่ยงยาจกไปทั่วเมือง

เป็นเวลานานนับ 2 ปี...
กว่าทางสำนักวังโชกุนและคิระจะวางใจ...
คิดว่าโรนิน 47 คนจะเสียใจจนสติไม่ครองกับเนื้อตัว เที่ยวเมาหัวราน้ำ คงไม่มีน้ำยาจะย้อนมาทำร้ายอะไรคิระได้

พวกเขาจึงเอาจังหวะนี้รวมกำลังกันลอบเข้าไปในคฤหาสน์ของคิระและลอบตัดหัวฆ่าในทันที!

และนำศีรษะของศัตรูเจ้านายไปวางไว้หน้าแท่นหลุมศพของอาซาโน่
และ...
โรนินทั้ง 47 ก็กระทำการเซ็ปปุกุฆ่าตัวตายต่อหน้าสุสานผู้เป็นนาย....

นี่คือหนึ่งในตัวอย่างแห่งความกล้าหาญของบุรุษที่ได้ชื่อว่าซามูไร
และถูกนำมาแสดงในละครคาบุกิเป็นที่นิยมมาจนปัจจุบัน...


PS.  เลิฟอิงแลนด์หมดจายยยยยย
0
Jasmine_Zaa 3 ส.ค. 52 เวลา 13:05 น. 2
เซ็ปปุกุครั้งสุดท้าย

สิ้นยุคสมัยซามูไรเมื่อโชกุนตระกูลโตกุงาว่าหมดอำนาจ
เมื่อไม่มีซามูไร เซ็ปปุกุจึงแทบไม่มีบทบาทอีกต่อไปสำหรับชาวญี่ปุ่นสมัยเมจิ
แต่ทว่า...

ซามูไรถือไกปืนอย่างทหารญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สอง
แม้ตัวพ่าย นายพลชนชั้นนักรบปราชัย แต่เพื่อรักษาเกียรติยศแห่งตนและประเทศชาติ
จึงลงมือกระทำเซ็ปปุกุ เสียชีวิตหมู่เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน

บ่งบอกว่าหลักบูซิโดยังคงมีอิทธิพลอยู่เสมอมา แม้ไม่มีซามูไรที่แท้จริงก็ตาม

ตำราฆ่าตัวตายของลูกพระอาทิตย์สมัยใหม่...

ราวเดือนเมษายนเมื่อปี 2551 มีข่าวโจษจันถึงการตายของเด็กหญิงสาววัย14 ที่ฆ่าตัวตายในห้องน้ำ และประตูปิดด้วยกระดาษเตือนว่า

"อย่าเข้ามาแก๊สพิษกำลังทำงาน"

ก่อนหน้านั้นเอง...ก็ปรากฏโศกนาฏกรรมเช่นนี้มาแล้วกับชายหนุ่มที่ฆ่าตัวตายในรถของเขาเอง และหลายคนที่ตายในห้องน้ำ
เมื่อตำรวจรุดไปตรวจสอบสถานที่ตายของพวกเขาพบว่า
"มีน้ำยาล้างห้องน้ำกับผงซักฟอก!"

เป็นการฆ่าตัวตายที่ง่ายแสนง่าย เพียงเติมผงซักฟอกกับน้ำยาล้างห้องน้ำลงไปในถังหรือกะละมัง
ก็เกิดแก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์ขึ้นมา
โดยทั่วไปคนปกติไม่ได้กลิ่น แต่กว่าจะได้กลิ่นก็อยู่ในอัตราอันตรายเสียแล้ว
แม้สูดไปเพียงเล็กน้อย ประสาทสัมผัสรับกลิ่นก็จะเสียไปทันที
ที่สำคัญหากร่างกายสูดรับแก๊สในปริมาณมากเกินไป เราก็จะสามรถตายได้โดยทันที

ตำรวจพยายามแกะร่องรอยหาสาเหตุการตายที่เกิดขึ้นพร้อมกัน วิธีเดียวกัน ในเวลาไล่เลี่ยกันไม่มากนี้
ปรากฏว่าพบในเว็บไซต์อินเตอร์เน็ต มีบุคคลนิรนามใช้ชื่อในฟอรั่มว่า Mr. Nameless
ได้เขียนข้อความลักษณะอันเชิญยั่วยุให้ผู้สิ้นหวังกับชีวิตฆ่าตัวตาย
และเสนอวิธีการตยง่ายๆด้วยผงซักฟอกกับน้ำยาล้างห้องน้ำข้างต้น
แต่ตอนนี้เราก็ยังจับมือใครดมไม่ได้ว่าพระเอกโศกนาฏกรรมผู้นี้เป็นใคร

นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์ในลักษณะเชิญชวนกันไปตายหมู่
หรือการนัดกันฆ่าตัวตาย จะมีการโน้มน้าวผู้สิ้นหวังกับชีวิตต่างๆนานา เพื่อให้ได้เพื่อนตาย
ดังที่ผ่านมาเคยมีกลุ่มหนุ่มสาวนัดกันตายหมู่ เข้าไปในรถปิดประตูและเผาถ่าน
เพื่อสูดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณมากเพื่อให้ได้ตายอย่างช้าๆ

สุดท้ายนี้
กลุ่มอายุที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงในญี่ปุ่นคือ 20 - 30
และสาเหตุการอัตวินิบาตตนสูงสุดคือ สุขภาพ ตามด้วยการเงิน และปัญหาธุรกิจ



จากหนังสือญี่ปุ๊น...ญี่ปุ่นของกฤษฏา กฤษณะเศรณี

PS.  เลิฟอิงแลนด์หมดจายยยยยย
0
Monkey - ninja - No.4 3 ส.ค. 52 เวลา 14:02 น. 4

ทำไมไม่คว้านให้เป็นวงกลมเลยอะ


PS.  ตอนนี้แฮงค์อยู่คัฟ...ความเห็นอาจไม่สร้างสรรค์...อยากให้รู้ว่าสติมันไม่สมบูรณ์...อย่าถือสา
0
Imperial Majesty Victor"The Magnificent" 3 ส.ค. 52 เวลา 16:26 น. 5

แนะนำอย่าง

เซปปุกุไม่ใช่เรื่องที่สามารถถอนตัวได้นะครับ

แล้วถ้าคุณเรียนที่จะเป็นซามูไร

จำไว้สามคำ

เกียรติยศ ความตาย สงคราม

มีแค่นี้


PS.  จอมจักรพรรดิ นโปเลียน
0
Goddess Madoka 3 ส.ค. 52 เวลา 22:03 น. 6

การคว้านท้อง ส่วนใหญ่จะคว้านเปน

เลข1 เลข2 เลข3 และเลข10

ป.ล.ใช้ตัวเลขของจีน ภาษาญี่ปุ่นคือ อิจิ นิ ซาน จู


PS.  รับรองว่าเด็ดเผ็ดมันส์เกินร้อย อ๊าว อ๊าว ^0^
0
แพร 21 พ.ค. 53 เวลา 09:39 น. 7

ต้องอ่านหนังสือเรื่อง47โรนินแล้วคุณจะซาบซึ้งในความเป็นซามูไรที่ได้ทำเซ็มปุกุ

0