การทำน้ำหมักชีวภาพ
ตั้งกระทู้ใหม่
ก่อนอื่นผมขอเกริ่นก่อนว่า ไม่เกี่ยวกับ ป้าเชง แต่อย่างใด แต่เป็นการทำน้ำหมักที่ได้จากคำแนะนำของดร.รสสุคนธ์ พุ่มพานวงศ์ ชมรมบ้านสุขภาพ ซึ่งเป็นคนละสูตรกับป้าเชง
โดย มีสูตรแบบอตราส่วน 1:3:10 คือ น้ำผึ้ง/น้ำตาล: ผลไม้: น้ำ: เราเริ่มจาก
ของที่ใช้
1.ผลไม้ ที่ต้องการสรรพคุณนั้นๆมา แนะนำว่าควรใช้ผลไม้หลายชนิดจะดีกว่าครับ เพราะจะได้สรรพคุณที่หลากหลาย และดูตามสรรพคุณที่ต้องการก่อนหมักจะดีมาก
2.โหล หรือ ขวดใส่น้ำหมักมีฝาปิด จะใช้ไหหรือโหลเซรามิกก็ได้แต่ต้องเคลือบ ถ้าเป็นพลาสติกไม่ควรจะเป็นพลาสติกที่ไม่ละลายง่าย คือเมื่อใช้ไปนานๆจะไม่เกิดสารที่เป็นพิษออกมา
แนะนำว่าเป็นพลาสติกแบบใสเพราะจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย
3.น้ำสะอาด
4.น้ำผึ้งหรือน้ำตาล
วิธีการทำเริ่มจาก
1.ล้างผลไม้ให้สะอาด ล้างตะกอนยาฆ่าแมลงออก
2.ล้างโหลให้สะอาด
3.ผ่าผลไม้เป็นชิ้นเล็กๆ หรือเอาเปลือกออก เพื่อให้ปฏิกิริยาเกิดเร็ว
4.ใส่ผลไม้ลงโหลประมาณ 3 ส่วน แล้วใส่น้ำให้ปริ่ม 10 ส่วน
5.ใส่น้ำผึ้ง/น้ำตาล ตามลงไป 1 ส่วน ให้เหลือพื้นที่ว่างประมาณ 1ใน 5 ส่วน
6.คนเบาๆให้เข้ากัน
7.ปิดฝา เก็บเป็นเวลา 3เดือน ไม่ให้ถูกแสงแดดส่อง และอากาศถ่ายเทสะดวก แล้วจึงค่อยเปิดให้อากาศได้ระบายสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
8.จากนั้น 3 เดือน จึงค่อยวัดค่า PH และดมกลิ่น (ระวังให้อากาศได้ระบายออกสัก 5 นาทีก่อน มิเช่นนั้น กลิ่นจะเหม็นมาก)
คณะผู้จัดทำ
เอนไซม์คืออะไร และมาจากไหน
เอนไซม์ คือ สารกลุ่มโปรตีน ที่ได้รับจากอาหารและสร้างขึ้นเอง สารที่เป็นแหล่งพลังในการกระตุ้นการทำงานของร่างกาย ทำให้เราสามารถย่อยอาหารให้นำไปใช้ประโยชน์ได้รวดเร็ว กล่าวได้ว่าเราไม่สามารถขาดได้เพราะ 80% ของร่างกายเราใช้สิ่งนี้ดูแล
เอนไซม์มาจากร่างกายผลิต และจะใช้ดีที่สุดจะมาจากพืชเราจึงต้องกินผักเพื่อให้ร่างกายดูดซับเอนไซม์มาใช้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพประโยชน์
-ปรับสภาพความเป็นกรดด่างในร่างกาย
-เสริมระบบย่อยอาหารทำให้ย่อยได้สมบูรณ์และทำให้ดูดซึมได้มากขึ้น
-เสริมระบบขับถ่ายให้แข็งแรง
-เสริมความสมดุลของร่างกาย
-ขจัดและขับสารพิษออกจากร่างกายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
-อุดมด้วยสารอาหาร วิตามินและเกลือแร่
-ทำให้ฮอร์โมน Estrogen กลับมาใช้ซ้ำ ทำให้ผู้หญิงที่เมื่อผ่านช่วงประจำเดือน จะทำให้การดูดซึมแคลเซียมได้ดี ยาวนานขึ้นแทนที่จะน้อยลงเพราะฮอร์โมนขาด
-ลดคอร์เลสเตอรอลในเลือด ลดอัตราการเกิดไขมันอุดตัน
-บรรเทาอาการแพ้ จากสาร และรังสี
-ลดสารก่อมะเร็ง และลดอัตราเกิดมะเร็งลำไส้
-ซ่อมแซมและเสริมสร้าง อวัยวะและระบบร่างกาย ช่วยควบคุม และกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว
-รักษาโรคผม
-ๆลๆ
การนำมาใช้
2ปี ใช้ชำระล้างร่างกายและภาชนะ โดยผสมกับน้ำด่าง
4ปี ใช้ 1 ส่วน+ 1:3:10 คือ น้ำผึ้ง/น้ำตาล: ผลไม้: น้ำ หมัก15 วัน รักษางูสวัด ล้างแผลอักเสบพุพอง
6ปี ใช้แก้ท้องอืด ระงับกลิ่นกาย บำรุงความงาม
6-10ปี ขึ้นไป ใช้ดองยา 1 เดือนจะได้คุณสมบัติ ของสมุนไพรประสิทธิภาพดีขึ้น รับประทานวันละครั้ง (3-10 cc) ก่อนหรือหลังอาหาร 1.30 ชั่วโมง
ฝ้าสีขาว
ในขบวนการหมักจะเกิดฝ้าสีขาวขึ้น ใช้คลุกแป้งสาลี เก็บทึบแสง จะได้ยีสต์
น้ำตาลกับน้ำผึ้งต่างกันอย่างไร
หมักกับน้ำตาลแอลกฮอล์จะสูง
หมักกับน้ำผึ้ง จะได้สารหลายอย่างเช่น ต้านอนุมูล แร่ธาตุ ต่างๆมาก (แต่ ต้องเป็นน้ำผึ้งที่น้ำผสมน้อยกว่า80%)
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ชมรมบ้านสุขภาพ ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพานวงศ์
http://www.siamhealthy.net/
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2553 / 22:04
7 ความคิดเห็น
หยอดตาแบบป้าเช็งได้ป่าวอะ 555+
ล้อเล่งน่า
เท่าที่ทราบ ป้าเช็งได้รับสูตรมาจาก ดร.รสสุคนธ์นะครับ แต่ป้าแกเอามาปรับปรุงให้เป็นสูตรของตัวเอง
555+ น่าสนใจดีครับ
ขอบคุณน้อง ๆ มากครับ สิ่งที่น้องทำซักวันจะมีค่าต่อคนในครอบครัวครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?