Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

100 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ม.ธรรมศาสตร์ (ตอนที่ 1)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
100 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ม.ธรรมศาสตร์ (ตอนที่ 1)

นี่คือ 100 เรื่องเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่น่าสนใจ
สำหรับศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ศิษย์อนาคต และคนที่สนใจในมหาวิทยาลัยประวัติศาสตร์
ที่มีบทบาทในสังคมไทยมากว่าค่อนศตวรรษครับ
 
1.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยแห่งที่ 2 ของประเทศ
 
2.ชื่อเดิมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ม.ธ.)
คือ มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง (ม.ธ.ก.)
ที่ต้องตัดคำว่า และการเมือง ออกนั้น เพราะว่า เพื่อไม่ให้น.ศ.ฝักใฝ่การเมืองมากไป
รวมระยะเวลาที่ใช้ชื่อนี้ 18 ปี
 
3.สถาปนาโดยท่านผู้ประศาสน์การ ดร.ปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส
อดีตผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ หัวหน้าขบวนการเสรีไทย อดีตนายกรัฐมนตรี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศและ กระทรวงมหาดไทย
และปัจจุบันองค์การยูเนสโกได้ประกาศว่าท่านเป็นบุคคลสำคัญของโลกอีกด้วย
 
4.เป็นมหาวิทยาลัยเดียวที่ใช้ตำแหน่งผู้ประศาสน์การ (ต่อมาเปลี่ยนเป็นตำแหน่งอธิการบดี)
 
5.ตำแหน่งผู้ประศาสน์การมีเพียงท่านเดียว คือ อาจารย์ปรีดี พนมยงค์
เพื่อยกย่องท่านในฐานะที่เป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย
 
6.อธิการบดีคนแรกของมหาวิทยาลัยเป็นนายกรัฐมนตรี คือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม
 
7.จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรีก็เคยดำรงตำแหน่งอธิการบดีในขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ ด้วย
 
8.วันสถาปนามหาวิทยาลัย คือ 27 มิถุนายน 2477 (ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว)
 
9.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เสด็จมาเป็นประธานในพิธีเปิดมหาวิทยาลัย
 เพราะขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ประทับอยู่ที่ประเทศอังกฤษ
 
10.ที่ตั้งเดิมของมหาวิทยาลัยก่อนจะย้ายไปที่ท่าพระจันทร์คือ
ตึกร.ร.กฎหมาย กระทรวงยุติธรรม เชิงสะพานผ่านภพลีลา ปัจจุบันเป็นที่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล
 
11.นายจิตรเสน(หมิว) อภัยวงศ์ สถาปนิกผู้มีชื่อเสียงเป็นผู้ออกแบบ ตึกโดม
 
12.ความหมายของตึกโดม คือ ตัวโดมที่เป็นรูป 6 เหลี่ยม
เพราะจะได้สะท้อนถึงหลักที่ 6 ในหลัก 6 ประการของคณะราษฎร
คือจะต้องให้การศึกษาเต็มที่แก่ราษฎร และ ที่ยอดตัวโดมแหลมขึ้นฟ้า
นั่นก็เพราะ เปรียบโดมเสมือนดินสอ ที่จดบันทึกวิชาความรู้และเรื่องราวต่างๆ
ที่ไม่รู้จักจบสิ้นเอาไว้บนผืนฟ้าอันกว้างใหญ่
 
13.จุดประสงค์ในการก่อตั้ง คือ เพื่อเป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูง
ที่ให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย การเมือง และเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นวิทยาการสมัยใหม่แก่ประชาชนทุกชนชั้น
โดยเก็บค่าเล่าเรียนให้น้อยที่สุด
 
14.ตราประจำมหาวิทยาลัย คือ พระธรรมจักร เกิดขึ้นในปี 2479
มีความหมายว่าสถาบันแห่งนี้ยึดถือคติธรรมของพระพุทธศาสนาในการกล่อมเกลาบัณฑิต
สิ่งที่อยู่กลางธรรมจักรคือพานรัฐธรรมนูญ หมายถึงการยึดมั่นเชิดชูรัฐธรรมนูญ
 
15.สีประจำมหาวิทยาลัย คือ สีเหลือง-แดง มีความหมายว่า
เหลือง คือ ธรรมประจำจิตใจของน.ศ.
แดงคือโลหิตที่ต้องอุทิศตนเพื่อประชาชน
 
16.ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ ต้นยูงทอง มีอยู่ 5 ต้น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้ทรงเพาะชำเอง และเสด็จฯมาทรงปลูกด้วยพระองค์เอง
ยังความปลาบปลื้มมาสู่ชาวธรรมศาสตร์จวบจนทุกวันนี้
 
17.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เคยมีร.ร.เตรียม เรียกว่า ชั้นเตรียมปริญญา
ชื่อ ร.ร.เตรียม ม.ธ.ก. เพื่อผลิตนักเรียนเข้าเรียนต่อใน ม.ธ.ก. มีแค่ 8 รุ่นเท่านั้น แล้วก็ยุบไป
 
18.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เคยเป็นเจ้าของ ธนาคารเอเชียด้วย
(เพราะตอนแรกไม่ได้ขึ้นตรงต่อรัฐบาล จึงไม่ได้รับงบฯ)
แต่ต่อมาถูกใช้อำนาจสกปรกขู่เข็ญให้มอบหุ้นทั้งหมดให้นายทหารผู้หนึ่ง (น่าเสียดายมากๆ)
 
19.คณะเริ่มแรกตั้งแต่สถาปนามหาวิทยาลัย มี 4 คณะ คือ นิติศาสตร์
พาณิชยศาสตร์และการบัญชี รัฐศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์
 
20.เพลงประจำมหาวิทยาลัยมี 2 เพลง เพลงแรกที่ใช้ คือ เพลงประจำมหาวิทยาลัย
ทำนองมอญดูดาว แต่งโดยขุนวิจิตรมาตรา และเพลงที่ 2 คือเพลงพระราชนิพนธ์ยูงทอง
ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
 
21.ธรรมศาสตร์เคยจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ด้วย เพื่อจะได้ดูเป็นกลาง แต่ไม่สำเร็จ
 
22.งานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯครั้งแรก มีเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2477
ณ ทุ่งพระสุเมรุ สนามหลวง ผลคือเสมอกัน1-1 โดยครั้งนั้นยังไม่มีขบวนพาเหรด แปรอักษร
หรือเชียร์ อย่างในปัจจุบัน
 
23.เคยสงสัยไหมว่างานฟุตบอลประเพณีบางปีทำไมเรียก ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ
บางปีเรียก จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ เพราะว่า ปีใดที่ไหนเป็นเจ้าภาพ ก็จะเอาชื่อของที่นั่นขึ้นก่อน
ซึ่งการเป็นเจ้าภาพ ธรรมศาสตร์ จะเป็นครั้งที่เป็นเลขคี่ เพราะเริ่มครั้งแรกที่ธรรมศาสตร์
ส่วนจุฬาฯ จะเป็นครั้งที่เป็นเลขคู่ เช่น ปีหน้าครั้งที่62 จุฬาฯเป็นเจ้าภาพ
 
24.ธรรมศาสตร์มีงิ้วล้อการเมืองที่มีชื่อเสียงมาก คือ งิ้วธรรมศาสตร์ หรืองิ้วการเมือง
โดยมีต้นกำเนิดจาก คณะนิติศาสตร์
 
25.สมเด็จพระพี่นางฯ ทรงเคยเป็นหัวหน้าภาควิชาภาษาฝรั่งเศส คณะศิลปศาสตร์ด้วย
 
26.ปีการศึกษา 2540 พระองค์ภาฯ ทรงเข้าไปนักศึกษาคณะนิติศาสตร์
ยังความภาคภูมิใจมาสู่ชาวธรรมศาสตร์เป็นล้นพ้น
โดยทรงจบการศึกษาด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับ 2 อีกด้วย
 
27.หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ เป็นหอประชุมที่นักศึกษาม.ธ.ในอดีตภาคภูมิใจว่า
เป็นหอประชุมที่ใหญ่และทันสมัยที่สุด ในเอเชียอาคเนย์
 
28.คณะรัฐประศาสนศาสตร์
ได้แยกตัวออกไปเป็นสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
 
29.มหาวิทยาลัยถูกปิดความเป็นตลาดวิชาลงเมื่อ พ.ศ.2503 เป็นระบบสอบเข้าแทน
 
30.ธรรมศาสตร์ ไม่มีระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่จะเรียกว่าเพื่อนใหม่ เพราะถือว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน
 
31.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ
เคยเสด็จมาทรงดนตรีเป็นการส่วนพระองค์กับนักศึกษาม.ธ.ด้วย
 
32.ในปี 2507 มีมติจากสภาการศึกษาแห่งชาติให้เปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัยเป็น มหาวิทยาลัยภูมิพล
โดยให้โอนม.ธรรมศาสตร์ไปรวมกับม.แพทยศาสตร์(ม.มหิดลปัจจุบัน) และม.ศิลปากร
แต่สมาคมธรรมศาสตร์มีมติคัดค้าน จึงไม่มีการเปลี่ยนแต่อย่างใด
 
33.อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
ควบกับตำแหน่งคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ แต่ตามระเบียบ ก.พ. นั้น
ข้าราชการจะทำงานพร้อมกันทีเดียว 2 แห่งได้ แต่จะได้รับเงินเดือนอีกแห่งเพียงครึ่งเดียว
โดย อ.ป๋วยเลือกรับเงินเดือนคณบดีเต็มอัตรา 8,000 บาท
และรับเงินเดือนผู้ว่าแบงค์ชาติครึ่งอัตราคือ 25,000 บาทแทน
นับเป็นพระคุณอันยิ่งใหญ่ในการตัดสินใจของท่านเพื่อชาวธรรมศาสตร์
 
34.ธรรมศาสตร์ไม่มีผู้อัญเชิญธรรมจักร เพราะถือว่า ธรรมจักรอยู่ในหัวใจของนักศึกษาทุกคน
 
35.จอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นผู้ก่อตั้ง คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์
 
36.วันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปี นอกจากจะเป็นวันรัฐธรรมนูญแล้ว ยังเป็นวันธรรมศาสตร์อีกด้วย
 
37.โขนธรรมศาสตร์ เคยใช้เป็นการแสดงในการสมโภชการสถาปนา
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร
 
38.ลิฟท์แดง อยู่ที่คณะศิลปศาสตร์
 
39.ลานโพธิ์ เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของธรรมศาสตร์และสังคมไทย
นับตั้งแต่เหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 ที่ขบวนการนิสิตนักศึกษาประชาชนร่วมกันต่อสู้
เพื่อเรียกร้องรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย
 
40.ผู้มีพระคุณในเหตุการณ์ 14 ตุลา ที่ชาวธรรมศาสตร์จะลืมไม่ได้ก็คือ แม่ค้าย่านท่าพระจันทร์
และปากคลองตลาด ที่จัดทำเสบียงส่งให้ตลอด
 
41.สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) เช่าที่ดินของธรรมศาสตร์ (ที่รังสิต) เนื้อที่ 1,110 ไร่
เป็นเวลา 30 ปี รวมค่าเช่า 3,000 บาท
 
42.รถโดยสารในม.ธ.รังสิต คือ รถราง (รอนานมากๆ บางทีไม่จอดด้วย แถมคนขับก็ดุยังกะแมว)
 
43.อาหารที่ศูนย์รังสิต แพงกว่ามหาวิทยาลัยอื่นมากๆ แล้วก็ไม่ค่อยมีที่ไหนอร่อยเลย
 
44.ห้องเรียนที่ม.ธ.ติดแอร์หมดทุกห้อง ทำให้หลับสบาย อิอิ
 
45.คณะที่เป็นขวัญใจของสาวๆ คือ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร หรือ SIIT
แบบว่ารูปหล่อ บ้านรวย เรียนเก่ง(คือถ้าขึ้นปี2ได้ ถือว่านายแน่มาก) เข้าง่าย ออกง่าย(โดนไทล์) แต่จบยาก
 
46.เศรษฐศาสตร์ เป็นคณะหนุ่มหล่อของธรรมศาสตร์
 
47.บัญชี รัฐศาสตร์ ศิลปศาสตร์ เป็นคณะรวมสาวสวยของธรรมศาสตร์
 
48.หอเอนเกมส์ เป็นหอมหาวิทยาลัยรัฐฯที่หรูที่สุด มีแอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น
ยูบีซี ลิฟท์ แล้วก็เบอร์โทรศัพท์02ส่วนตัวทุกห้อง (ต่อเนตได้สบายๆ) ค่าไฟแพงหูฉี่เลย
(เปิดแอร์อย่างเดียวตกช.ม.ละ 6 บาท)
 
49.หอเอนเกมส์จะมีโซน A-E แต่หอน.ศ.จะอยู่ที่โซน B C E โซนB เป็นโซนห้องละ 4 คน มี 8 หลังๆละ 8 ชั้น โซนC เป็นโซนห้องละ 2 คน มี 11 หลังๆละ 8 ชั้น เช่นกัน ส่วนโซนE มี 2 หลังๆละ 4 ชั้น ไม่มีลิฟท์และก็เครื่องทำน้ำอุ่นด้วย หน้าหนาวทีก็ทนๆเอาละกัน
 
50.หอในเป็นหอพัดลม อาบน้ำรวม จะมีอะไรที่เหมือนๆกับหอมหาวิทยาลัยอื่นทั่วๆไป 

ติดตามตอนที่ 2


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 4 เมษายน 2553 / 18:47

แสดงความคิดเห็น

>

16 ความคิดเห็น

PattyAngel 4 เม.ย. 53 เวลา 19:22 น. 3

อยากเข้าธรรมศาสตร์จัง

ลุ้น ดวงๆๆ


PS.  I ❤Mathematics and would love to matriculate FACULTY OF ECONOMICS. {ทำงานผ่านเน็ต ง่ายๆ ---->http://www.patchang.ws}
0
XIAOAIJON 4 เม.ย. 53 เวลา 20:30 น. 9

ครั้งต่อไป
ฟุตบอลประเพณีฯ ครั้งที่67 แล้วค่ะ
ธรรมศาสตร์เป็นเจ้าภาพ


PS.  ---I'm SONE---
0
kamui 4 เม.ย. 53 เวลา 20:58 น. 10

ไม่ใช่หอเอน แต่เป็นหอเอต่างหาก
เพราะมันมาจากเอนเกมส์ <<< ที่มันหรูเพราะให้นักกีฬาพัก
และเป็นที่ๆให้นักกีฬาสมัยกีฬามหาลัยโลกพักด้วย

0