Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คุณคิดเห็นอย่างไรกับงานออนไลน์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณคิดเห็นอย้่งไรกับการที่มีงานออนไลน์ให้คุณทำในชีวิตประจำวัน

แสดงความคิดเห็น

76 ความคิดเห็น

ซ่อนนาม 6 มี.ค. 54 เวลา 14:46 น. 1

ที่มาโฆษณานั่นหลอกลวงทั้งนั้น
ถ้าของมันดีจริง คนเขาก็แย่งกันทำเอง ไม่ต้องมาโฆษณาเองหรอก
แต่การที่มาโฆษณาเอง แปลว่าของมันไม่ดีอย่างที่พูด

เรื่องเงินอะไรที่ได้เยอะ ๆ ดูก็รู้ทันทีว่ามันไม่ได้จริง
เพราะถ้าเยอะขนาดนั้นจริง บริษัทเขาจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย ?
และเขาจะจ่ายเยอะกว่าที่ได้จากเราทำไม ?
หากถ้าได้จากเราจริง อะไรคือที่ได้จากเรา ?


อ่านเพิ่ม ถึงกลการหลอกลวง
http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2011/01/X10134640/X10134640.html


PS.  สาวน้อยเวทมนตร์ที่ดีคือสาวน้อยเวทมนตร์ที่เป็นแม่มดแล้ว / 人◕‿‿◕人 \
0
kanetah 6 มี.ค. 54 เวลา 14:54 น. 2

 แล้วคิดมั้ยครับว่าเว็บที่คุณให้มาอาจจะมีคติกับการโดนหลอกลวง หรือ โดนสิ่งที่ทำให้เปลี่ยนใจคนที่โดนไปคิดอย่างอื่นจากที่มีความมั่นใจ

0
kanetah 6 มี.ค. 54 เวลา 17:42 น. 4

ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่เชื่อคับครั้งแรก พอทำไปมันก็ได้เงินจิงๆอะไม่เวอร์คับ แค่ชักชวนคนก็ได้คนละ150บาท  ส่วนคนที่เราชวนเมื่อไปชวนคนอื่นเราก็จะได้อีกคนละ20บาทคับผม ยอดเงินสูงสุด(จำกัดวงเงินที่หาได้) แค่ 98300 บาท โดยเริ่มจากการลงทุนเพียง350บาทคับ

0
ซ่อนนาม 6 มี.ค. 54 เวลา 19:49 น. 6

อย่างที่เดาไว้ ตั้งมาเพื่อโฆษณาจริง ๆ ด้วย เท่านี้ก็แน่นอนอยู่แล้วว่าเชื่อไม่ได้

ถึงจดถูกต้องก็เชื่อถือไม่ได้นะ
เพราะบางทีที่ทำจริงกับที่แจ้งจดก็คนละเรื่องกัน

อย่างเช่นโฆษณายาครอบจักรวาล พวกนี้ก็จดอย.เหมือนกัน
แต่มันรักษาครอบจักรวาลไม่ได้หรอก พวกนี้แท้จริงจดแค่อาหารเสริม
ที่อย.ให้จดได้ หากมันกินแล้วไม่ตาย แต่กินแล้วโง่เงินหมดตัวอันนี้จดได้
ส่วนถ้าเป็นยา ต้องมีผลตามที่โฆษณาจริง ถ้าทำไม่ได้โดนฟ้องแน่

ดังนั้นจึงต้องจดแค่เป็นอาหารเสริม แล้วมาอ้างที่หลังว่าที่ไม่จดเป็นยาเพราะเป็นยาแล้วซื้อยาก
ทั้งที่จริงถ้าสรรพคุณดี ผลข้างเคียงมันก็ต้องมีด้วย มีดีอย่างเดียวแต่ไม่มีข้อเสียเป็นไปไม่ได้หรอก
ดังนั้นถ้าเป็นยาก็ต้องจดเป็นยา ไม่ใช่มาจดเป็นอาหารเสริม


ส่วนพวกบริษัทที่จดหลายบริษัทก็มีที่น่าสงสัยนะ บอกว่าได้เงินเพียบ
แต่หากไปดูทุนจดทะเบียน จะพบว่าจดน้อยกว่าโฆษณาที่จะให้คนเข้าร่วมอีก

ยังไม่รวมถึงบางบริษัทขาดทุนสุทธิติดต่อกันมาหลายปีแล้ว ยังจะแจกเงินง่าย ๆ อีก
ไม่คิดเหรอว่า มันน่าสงสัยน่ะ ?


ถ้าไม่อยากโดนหลอก แทนที่จะคิดจากล่างขึ้นบนว่า "ตัวเองเข้าร่วมจะได้เงินแค่ไหน"
ก็ลองคิดมุมกลับจากบนลงล่างดูว่า "ทำไมเขาถึงเอาเงินมาให้เราตั้งเท่านี้"
น่าจะช่วยให้รอดพ้นจากการโดนหลอกได้แน่ ๆ

เพราะไม่มีใครให้อะไรเราฟรี ๆ หรอก เค้าต้องได้เงินจากเรามากกว่าที่เราได้จากเค้าอยู่แล้ว
แต่เป็นในรูปแบบไหนก็อีกเรื่องหนึ่ง ทำงานบริษัทพวกนี้ยังพอเข้าใจ
แต่พวกที่คลิกทางเน็ตนี่มันได้เงินได้ยังไงหว่า ตั้งแบนเนอร์รับเงินจากโฆษณาก็ว่าไปอย่าง


PS.  สาวน้อยเวทมนตร์ที่ดีคือสาวน้อยเวทมนตร์ที่เป็นแม่มดแล้ว / 人◕‿‿◕人 \
0
สิรินรชา นาถธีรธาดา 6 มี.ค. 54 เวลา 20:03 น. 7

รู้มั้ย งานออนไลน์มันหลอกลวงตรงไหน
มันหลอกลวงคล้ายแชร์ลูกโซ่
ทุกคนที่สมัคร ต้องเสียเงิน
อยากได้เงิน คุณต้องไปหาคนมาสมัคร
คนที่คุณหามาสมัครก็ต้องไปหาคนมาสมัครเรื่อยๆ เพื่อที่หัวสายของตัวเองจะได้ %
และเงินค่าสมัครที่จ่ายไป มันก็จะ ตัดลดทอนกันลงมาเรื่อยๆ
พวกหัวได้ แต่พวกหาง เสียเงินฟรี


PS.  ความเห็นนี้เชื่อถือไม่ได้
0
Deta 6 มี.ค. 54 เวลา 20:16 น. 9

แค่รู้สึกว่า มันไม่เคยให้ตังค์จริงๆเลยยซักจึ๋งอ่ะ -*-


PS.  [สถานะ:: มันเป็นเรื่องของโชคชะตา...]// กฎหมาย...ถ้าคนไม่เคารพ มันก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ // It's our "Destiny" // อ๊างงงค์~~~
0
ซ่อนนาม 6 มี.ค. 54 เวลา 20:38 น. 10

คาดว่า จขกท คงไม่ได้อ่านลิงค์ที่ให้ไปในคหแรกแน่ ๆ
เพราะมันก็บอกถึงวิธีการโกงที่จขกทอธิบายมาอยู่แล้ว


PS.  สาวน้อยเวทมนตร์ที่ดีคือสาวน้อยเวทมนตร์ที่เป็นแม่มดแล้ว / 人◕‿‿◕人 \
0
ซ่อนนาม 6 มี.ค. 54 เวลา 22:51 น. 13

เอาปืนจ่อหัวแล้วเหนี่ยวไก รู้ได้ไงว่าตาย ลองแล้วหรือยัง ?


เราไม่ได้ว่าเรื่องนี้โกหกหรือไม่โกหกนะ
แต่อยากบอกว่า พวกที่หลอกลวง ใช้วิธีการนี้ด้วยกันทั้งนั้น


PS.  สาวน้อยเวทมนตร์ที่ดีคือสาวน้อยเวทมนตร์ที่เป็นแม่มดแล้ว / 人◕‿‿◕人 \
0
ซ่อนนาม 6 มี.ค. 54 เวลา 22:53 น. 14

จากลิงค์ใน คห 1 นั่นแหละ

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 6

Pyramid Scheme พีรามิด สกีม - เข้าใกล้ความดราม่าอีกหนึ่งดอก

พี รามิด สกีมนั้น มีรูปแบบคล้ายพอนซีสกีม รูปแบบของพีรามิดนั้นคือผู้เข้าร่วมจะต้องจ่ายเงินค่าสมัครเป็นเงินจำนวน หนึ่ง ทั้งยังต้องไปเข้ารับการอบรมและซื้อสินค้าเพื่อเป็นยอดในครั้งแรก บางครั้ง (หรือแทบทุกครั้ง) สินค้านั้นเป็นสินค้าคุณภาพธรรมดาๆ รหืออาจจะแย่ไปเลย (แต่จะเขียนให้ดูดิอ้ะ จะทำไม) แต่มีราคาสูงมาก สินค้าไม่สามารถคืนได้อีกต่างหาก

 
 

จากคุณ : huMperdinCk
เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 18:45:29

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 7

ทีนี้จะเอารายได้มาจากไหน

ผลกำไรของระบบพีรามิด นี้คือ เราก็ต้องหาสมาชิกใหม่มาเป็นน้ำเลี้ยงเพื่อเลี้ยงตัวเรา (และคนที่อยู่บนยอด) ไปเรื่อยๆ หากเราต้อองการขึ้นไปอยู่บนตำแหน่งที่สูงกว่าของพีระมิด เราก็ต้องทำยอดขาย (สินค้าที่ไม่มีใครอยากซื้อเนื่องจากราคาสูง คุณภาพไม่ได้แตกต่าง จนแทบทุกรายต้องเอาเงินตัวเองมาซื้สินค้าเอง) เพื่อดันตำแหน่ง คนที่อยู่บนตำแหน่งสูงสุด ดูดๆๆ อย่างเดียว เขาก็เรียกซะเก๋ว่า ฟาร์โรห์ ครับ

ทำไมพีรามิด สกีม ถึงผิดกฎหมายในหลายๆ ประเทศ

เพราะจาก โมเดลของมัน ซึ่งไม่สามารถ sustain รูปแบบของพีรามิดเอาไว้ได้ ทำให้สักวันหนึ่งพีรามิดนั้นต้องถล่ม (collapse) ลงมา ยกตัวอย่างว่า

ใน กลุ่มที่เป็นฟาร์โร มีอยู่ห้าคน ห้าคนนั้น หาดาวน์ไลน์ของตัวเองอีก 5 คน เป็นดาวน์ A (เท่ากับตอนนี้มีคนทำธุกรกิจนี้ 25 คนไม่รวมฟาร์โร)

ดาวน์ A  25 คนนั้น ก็ต้องไปหาดาวน์ไลน์ของแต่ละคนอีกคนละ 5 เป็นดาวน์ B เท่ากับตอนนี้ผู้ที่ทำธุรกิจนี้มี 125 คนไม่รวม ดาวน์ A, และฟาร์โร)

ดาวน์ B 125 คนนั้น ก็ต้องไปหาดาวน์ไลน์ของแต่ละคนอีกคนละ 5 เป็นดาวน์ C เพราะฉะนั้นจำนวนดาวน์ C จะมี 625 คน

ถ้า เป็นการขยายไปอย่างนี้แบบต่อเนื่อง ด้วยหลักที่ว่า หากไม่มีดาวน์ไลน์ จะไม่มีรายได้ ระบบนี้จะจบลงที่ประมาณรุ่นที่ 13 เนื่องจากหากทุกคนยังหาดาวน์ไลน์กันต่อไป มันก็จะเกินจำนวนประชากรบนโลกที่มีอยู่...

จากคุณ : huMperdinCk
เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 18:46:59

ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 8

โมเดลของพีรามิด สกีม ที่ไม่มีวัน sustain อยู่ได้ *ภาพจากวิกิ

ประเทศอย่าง สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมันนี, แคนาดา, มาเลเซีย, นอร์เวย์, ออสเตรเลีย,ญี่ปุ่น, ศรีลังกา และประเทศไทย จึงจัดเป็นธุรกิจที่ผิดกฏหมาย

 
 

จากคุณ : huMperdinCk
เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 18:47:42
ติดต่อทีมงาน
ความคิดเห็นที่ 9

การเชือดนี้จะจบลงเมื่อ

1. พีรามิดพังลงด้วยน้ำหนักของตัวเอง
2. ความเป็นไปไม่ได้ที่จะหาจำนวนดาวน์ไลน์ให้ได้เพียงพอ
3. จบที่ตัวคุณ ว่าคุณจะเลิกเองเพราะตาส่วง หรือหมดตัวไปเสียก่อน


แต่ทำไม ยังมีรูปแบบของ  พีรามิด สกีม ให้เห็น (ขนลุกวุ้ย)


ทุก วันนี้เรายังเห็น (หรือบางคนก็แกล้งทำไม่เห็น) รูปแบบของพีรามิด สกีม อยู่เนืองๆ เนื่องจากเป็นการประกอบการที่ใช้การตีความแบบศรีธนนชัย (ก็นี่ไง ชั้นขายของ ไม่ได้อยากหาดาวน์ไลน์หรอกย่ะ อันนั้นมันส่วนเสริม) เพื่อเลี่ยงข้อกฏหมาย อีกทั้งรูปแบบก็เปลี่ยนแปลงไปตามวันเวลา อาจออกมาในรูปสมุนไพร, ลูกยอลูกแย, นากหญ้า,อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องสำอาง จนระบาดมาถึงการทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ ซึ่งเมื่อสาวไปสาวมา ก็ตกอยู่ในรูปแบบนี้ทั้งนั้น


แต่ที่ผมขอผ่านและไม่พูดถึง MLM เพราะอยากให้ทุกท่านเอาไปคิดและเปรียบเทียบเอาเอง อีกอย่าง ถ้าผมเอา MLM มาลง ผมก็พรุนน่ะเซ่ !!!

จากคุณ : huMperdinCk
เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 18:48:58


PS.  สาวน้อยเวทมนตร์ที่ดีคือสาวน้อยเวทมนตร์ที่เป็นแม่มดแล้ว / 人◕‿‿◕人 \
0
ซ่อนนาม 7 มี.ค. 54 เวลา 12:57 น. 16

#23
ยกเด็กไทยแท้ไม่มีหัวทางธุรกิจ แต่เด็กไทยจีนมีหัวทางธุรกิจขึ้นมาทำไม
แล้วต้องการจะสื่อว่าเข้าร่วมกับธุรกิจนี้แล้วมีหัวทางธุรกิจงั้นเหรอ ?

และแน่ใจแล้วเหรอว่าคนที่พูดน่ะ เด็ก ?
เราเกินคำว่า "เยาวชน" ตามพรบเด็กและเยาวชนแล้วนะ

ประเด็นที่คุณพูดมาทั้งหมด มันไม่ถูกเลยแม้แต่น้อย
เพราะเรากำลังพูดที่ว่า ธุรกิจที่คุณแนะนำมา มันหลอกลวง หรือเชื่อถือได้หรือไม่ ต่างหาก


คนโง่ คิดว่าตัวเองทำงานอย่างชาญฉลาด แต่แท้จริงไม่ได้ทำงานหรอก โดนหลอกให้เขาเฉือดอยู่
ถ้าจะพูดเรื่องการลงทุนและธุรกิจ ท่านพูดผิดคนซะแล้ว
บอกไว้ก่อนว่า แม้เราจะไม่ได้ทำงานจริงในสายนี้ แต่ความรู้ทางด้านทฤษฏีก็ถือว่าแถได้คล่อง
(แถนะ ไม่ได้รู้จริงหรอก - ฮา)


ขอนอกเรื่องสักนิด

หลายครั้งเราเคยได้ฟังสัมมนาจากคนดังในแวดวงธุรกิจ
เคยได้ไปพูดคุยสอบถามกับผู้จัดการเซ็นทรัลเวิร์ลเทรดก็มีมาแล้ว
(ไม่ใช่ไปนั่งงั่งอย่างเดียวนะ ถามคำถามออกไปให้เค้าช่วยตอบมาหลายคำถามด้วย)

ได้ยินว่ารายนี้เคยเป็นผู้จัดการของ 7-11 มาก่อน
และเคยใช้กลยุทธ์ทางการตลาดอย่างคาดไม่ถึงเช่นการสกัดกั้นแบรนด์อื่น
ด้วยการไปเช่าพื้นที่แล้วทิ้งไว้อย่างนั้น เพื่อไม่ให้แบรนด์อื่นลงไปขยายตลาดยังที่นั่นก็มี



....ข้างบนนอกเรื่องไปหน่อย

ส่วนเรื่องธุรกิจของท่าน บอกได้คำเดียวว่าไม่น่าเข้าร่วม
เพราะ
1 เป็นกลยุทธ์ที่ตรงกับเทคนิคการหลอกลวงที่เรียกว่า Pyramid Scheme
2 แบรนด์ไม่น่าเชื่อถือ เพราะเข้ามาโฆษณา และโน้มน้าวให้ Target เข้าร่วมจนเกินไป
3 เป็นบริษัทใหม่เพียงแค่ 2 ปี ยังไม่น่าเชื่อถือเพียงพอ

ถ้าคนเชื่อและกล้าเข้าร่วม เขาไม่เรียกว่ามีหัวการค้า เขาเรียกว่า "โลภ"
เพราะ "โลภ" นี่แหละ ถึงกล้าเสี่ยงในธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง แล้วก็ตกเป็นเหยื่อของ18มงกุฎ

พวกนี้เขาเรียกว่า "แมงเม่า" บินเข้ากองไฟไปให้เขากิน
ส่วนคนทั่วไป เขาจะเรียกว่า "เต่า" ที่ชัวร์ไว้ก่อน ไม่กล้าเสี่ยงในธุรกิจที่น่าสงสัย
สำหรับพวกที่มีหัวธุรกิจจริงเขาเรียกว่า "เสือ" แต่ไม่ใช่พวกที่เข้าร่วมกับธรุกิจนี้หรอก


สำหรับธุรกิจที่เข้าร่วมแล้วต้องจ่ายตังค์ก่อน แทนที่จะเข้าร่วมกับธุรกิจประเภทนี้ ไปเล่นหุ้นดีกว่า
แล้วธุรกิจการขายสินค้า พวกที่ขายสินค้าก่อนมันเชยไปแล้ว
เดี๋ยวนี้เขา "เชื่อ" เอาสินค้าไว้กับตัวก่อน แล้วพอขายได้ก็ถึงจ่ายเงินคืน
เช่นร้านหนังสือที่มีสายมาส่งหนังสือ หรือพวกเซเว่นทั้งหลาย
ของเจ๊งก็ส่งไปเครมได้ ไม่ต้องพลอยจ่ายเงินในของที่เสียไปด้วย

ถ้าจะพูดว่ามีหัวทางธุรกิจของแท้ ต้องหัดจัดการกับ Cash Flow เป็นด้วย
ถ้าไม่สนเรื่อง Cash Flow แล้วจ่ายเงินไปก่อน พวกนี้ไม่มีใครมีหัวธุรกิจจริงหรอก
พวกที่มีหัวทางธุรกิจคือเอาเงินมาสร้างกำไรก่อน แล้วค่อยจ่ายทีหลังต่างหาก

พวกนี้ดูได้ง่ายคือ มีบัตรเครดิต แล้วหากำไรจากมันได้ จากการได้เงินก่อนแล้วค่อยจ่ายทีหลัง
ส่วนพวกไม่มีหัวทางธุรกิจ คือมีบัตรเครดิตแล้วยิ่งจนลง จนลง



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 9 มีนาคม 2554 / 01:31


PS.  มาเป็นดาวน์ไลน์กับเราในตอนนี้ ไม่เพียงจะเป็นสาวน้อยเวทมนตร์แต่ยังได้รับพรฟรีอีกหนึ่งข้อ ! / 人◕‿‿◕人 \
0
ซ่อนนาม 7 มี.ค. 54 เวลา 13:14 น. 17

Cash Flow คืออะไร ?
ถ้ายังมาถามแปลว่าท่านไม่มีหัวทางธุรกิจ เพราะคนที่มีหัวทางธุรกิจสำหรับเรื่องนี้คือพื้นฐาน

Cash Flow แปลว่า กระแสเงินสดนั่นเอง
ไม่ใช่กำไรขาดทุนธรรมดา หากแต่เป็นกำไรขาดทุนที่อ้างอิงจากเวลา

ตัวอย่างที่ 1
ใช้เงินซื้อของ 50 บาท วันนี้
ขายได้ 100 บาท ได้กำไร 50 บาท ในเดือนหน้า
แล้วเอา 100 บาทไปซื้อของมาขาย
ขาย 200 บาท ได้กำไร 150 บาท ใน 2 เดือนหน้า

สรุป 2 เดือนใช้ทุน 50 บาท ได้กำไร 150 บาท อีก 2 เดือนข้างหน้า

...โถ่ นั่นมันความคิดแบบ พันปีที่แล้ว ! เก่าเกินไป ใครยังทำถือว่าไม่มีหัวทางธุรกิจ !


ตัวอย่างที่ 2
ไปทำสัญญาว่าจะขายของให้เขาในสัปดาห์หน้า แต่ไม่มีของ เอาเงินมาก่อน 100 ในวันนี้
ทำสัญญากับบริษัทที่ขายว่าจะจ่ายเงินให้ 50 บาท เพื่อเอาของไปส่งรายแรก แต่ยังไม่จ่ายวันนี้
เอาเงิน 100 บาทที่ได้ไปซื้อของแล้วทำธุรกิจตามตัวอย่างที่ 1 ต่อ
แล้วเงินที่ได้ตอนสิ้นเดือนแรกก็จ่ายไป 50 บาท เหลือ 150 บาท
เอาเงิน 150 บาท ยืมเพิ่ม 150 บาท ไปซื้อของ 300 บาท
ขายได้ 600 บาทตอนสิ้นเดือน
คืนเงิน 150 + ดอก 50 บาท เหลือ 400 บาท ในเดือนที่ 2

สรุป 2 เดือนใช้ทุน 0 บาท ได้กำไร 400 บาท !

...ดูเจ๋งใช่ไหมล่ะ ? แต่นั่นก็ยังเก่าไป จำยุคต้มยำกุ้งได้ไหม กับคำว่า "จับเสือมือเปล่า" ?
ตัวอย่างที่ 2 นี่มันคือวิธีการนี้นี่แหละ

แต่คนที่ให้ยืมคือธนาคาร แต่ด้วยจากยุคต้มยำกุ้ง เขาเลยรู้ทัน และไม่ปล่อยกู้ง่าย ๆ อีกต่อไป
เมื่อก่อนแค่ statement ดี ก็ยืมได้
แต่ปัจจุบันต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำประกันในจำนวนที่เหมาะสม ไม่งั้นไม่ให้กู้
ทว่าถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนที่ทำวิธีการคล้ายกันนี้อยู่อีกนั่นแหละ


ดังนั้นใครบอกว่า จ่ายเงินก่อนเพื่อมาลงทุน ถือว่าเป็นคนที่มีหัวธุรกิจ
ตลกแล้วล่ะ พวกนี้ไม่มีหัวทางธุรกิจเลยแม้แต่น้อย
คนที่มีหัวจริง คือคนที่ทำได้เจ๋งกว่าตัวอย่างที่ 2 ต่างหาก


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 7 มีนาคม 2554 / 13:24


PS.  สาวน้อยเวทมนตร์ที่ดีคือสาวน้อยเวทมนตร์ที่เป็นแม่มดแล้ว / 人◕‿‿◕人 \
0
ซ่อนนาม 7 มี.ค. 54 เวลา 13:32 น. 18

คำถามง่าย ๆ คำนึงที่อยากจะถาม
หาแต่ผู้ขาย แต่ไม่หาลูกค้า แล้วสินค้าจะขายให้ใคร ?

ตัวสินค้ากับผู้ขายมีไม่จำกัดหรอก
แต่ลูกค้ามันมีอยู่จำกัด
แปลว่าผู้ขายที่เพิ่มขึ้นก็ย่อมจะต้องแก่งแย่งลูกค้าที่มีอยู่จำกัด
ดังนั้น ธุรกิจของท่าน มันไม่มีอนาคตหรอก
หากให้ผู้ขายซื้อมาใช้เอง ก็ถือว่าไม่ใช่ธุรกิจแล้วล่ะ


PS.  สาวน้อยเวทมนตร์ที่ดีคือสาวน้อยเวทมนตร์ที่เป็นแม่มดแล้ว / 人◕‿‿◕人 \
0
kanetah 7 มี.ค. 54 เวลา 15:19 น. 19

บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับรับชำระเงินครับผ่านเวปคือทำธุรกรรมทางเวปอะครับ เช่น เติมบัตรเติมเงิน ชำระค่าโทรศัพท์ ค่าต่างๆ ทฤษฏีที่คุณว่าพันปี ปัจจุบันมันก็ยังใช้ไม่ใช่หรอคับถ้าคุณไม่ใช้ทฤษฏีนี้แล้วจะใช้ทฤษฏีไหนครับ แล้วสำหรับคนเริ่มต้นใหม่ๆ ไม่มีเงินทุน คุณจะทำอย่างไร ระหว่างคุณเป็นหนี้ธนาคาร(คิดดอกเบี้ย) กับลองเริ่มต้นขายของอย่างตัวอย่างที่สองแล้วเก็บเงิน ตีตลาดสกัดแบรนด์(ไม่พันปีหรอคับ) โฆษณา เพื่อให้เราขายดี แต่ธุรกิจมันก็ต้องเป็นธุรกิจคับมันมีวันเริ่มก็ต้องมีวันจบมันอยู่ไม่ได้เป็นร้อยๆปีหรอกคับพอเปลี่ยนผู้บริหารความคิดก็ต้องเปลี่ยนอะไรมันก็ต้องเปลี่ยนคับ


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 7 มีนาคม 2554 / 15:39

0
kanetah 7 มี.ค. 54 เวลา 15:28 น. 20

แล้วก็เรื่องสกัดกั้นแบรนด์อะคับมันก็มีมาพันปีแล้วเหมือนกันคับ แข่งขันกันเป็นเรื่องปกติ แต่ผมอยากให้เป็นประสบการณ์คับใครจะรู้วันคนคนนี้ไม่ได้หลอกเราใครจะรู้คับถ้าคุณไม่ได้ลองเอง 10ปากว่าไม่เท่าตาเห็นคับ แล้วก็เรื่องธุรกิจไม่ต้องมาบอกหลอกคับผมก็รู้จะสกัดอย่างไร แล้วทำไมผมถึงต้องมาลงเวปนี้ทั้งๆที่ผมลงที่อื่นแล้ว ลองคิดกลับสิครับ แล้วถ้าผมหวังร้ายจิงเนี้ย ผมไม่มานั่งตอบกระทู้ให้เสียเวลาหรอกครับ เงินนะผมหาเมื่อไหร่ก็ได้คับ เดินออกไปทำงานอะไรก็ได้ผมก็ได้เงินละ อันนี้รึเปล่าคับไม่โลภมาก แล้วที่ผมทำมันก็ไม่ได้เงินมากนิคับ แทบจะไม่ได้อะไรเลยดีกว่าผมแค่อยากให้ลองประสบการณ์ ว่าชีวิตคนเรามีชีวิตเดียวคับ เราจะทำอะไรต้องรอบคอบแต่บางครั้งความรอบคอบอะคับมันทำให้เราตัดสินผิดพลาดได้เหมือนกัน แล้วเรื่องเด็กไทยเชื้อแท้ กับเชื้อจีนอะคับ มีจริงคับ ลองหาก็ได้นะลองสำรวจตัวคุณดู ถ้าคุณเป็นไทยแท้แล้วไปเจอประสบการณืก็ว่าไปอย่างแต่ที่ผมพูดถึงนั้นคือ เป็นคนที่มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เกิดครับ ประสบการณ์อย่างเดียวมันไม่พอหรอกคับ มันต้องควบคู่กับพรสวรรค์ด้วย แต่ละคนมีความคิดเห็นต่างกับคับ แล้วผมก็เคารพความคิดเห็นทั้งหมดนี้ด้วย

0