>>>'กสพท.'ร่วมรับตรงกลางปี2555ใช้ข้อสอบสทศ.-วิชาเฉพาะสอบเอง<<<
นพ.อาวุธ ศรีศุกรี เลขาธิการกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) กล่าวถึงกรณีที่คณะทำงานแอดมิสชั่นส์ฟอรั่ม ของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีมติจะเสนอข้อสรุปเกี่ยวกับวิธีการจัดรับตรงส่วนกลางร่วมกัน ประจำปีการศึกษา 2555 ต่อทปอ.ในวันที่ 23 เมษายน โดยแนวทางที่จะเสนอ คือให้นักเรียนไปสมัครโดยตรงที่มหาวิทยาลัยโดยนักเรียนจะสมัครกี่แห่งก็ได้ แต่ให้ใช้ข้อสอบกลางที่ออกโดยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) จำนวน 7 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และสังคมศึกษา โดยจะจัดสอบในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกราคม หรือใช้คะแนนการทดสอบความถนัดทั่วไป (GAT)และคะแนนการทดสอบความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ (PAT) หรือจะใช้ 7 วิชาผสมกับ GAT และ PAT ก็ได้ และให้มหาวิทยาลัยส่งรายชื่อนักเรียนมาที่สมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(สอท.) เพื่อทำหน้าที่ศูนย์ประสานงานรับตรงหรือเคลียร์ริ่งเฮาส์ ว่า โดยหลักการ กสพท.ยินดีเข้าร่วมรับตรงส่วนกลางร่วมกับ ทปอ.
ด้านนายบุญสม ศิริบำรุงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) กล่าวว่ามอ.ยินดีเข้าร่วมรับตรงส่วนกลางฯ กับทปอ. โดย มอ.จะมีโควต้ารับตรงเด็กในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งส่วนนี้ มอ.จะรับเองร้อยละ 50 เข้าร่วมรับตรงส่วนกลาง กับทปอ.ร้อยละ 20 และที่เหลืออีกร้อยละ 30 จะรับผ่านระบบแอดมิสชั่นส์กลาง ส่วนเรื่องค่าน้ำหนักแต่ละวิชานั้น คงต้องให้แต่ละคณะ/สาขาเป็นผู้กำหนดเองว่าจะใช้เท่าไหร่เพื่อให้สามารถคัดเด็กได้ตรงตามต้องการเบื้องต้นตนเห็นว่าแนวทางนี้ดี จะช่วยลดปัญหาไม่ให้เด็กต้องวิ่งสอบหลายที่เพราะใช้ข้อสอบของ สทศ. แต่คิดว่ายังไม่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบได้มากนัก
ดังนั้น จึงควรมีการกำหนดราคากลางค่าสมัครรับตรงของแต่ละมหาวิทยาลัย โดยจะต้องเป็นราคาที่เหมาะสมที่มหาวิทยาลัยสามารถดำเนินการตามขั้นตอนการรับสมัคร แต่จะต้องไม่เป็นการแสวงหากำไรกับเด็ก
ที่มา eduzones
PS. รู้เขารู้เรา...รบ 100 ครั้ง ชนะ 100 ครั้ง
18 ความคิดเห็น
พอพูดถึง สทศ. แล้วไม่หมั่นใจมาตรฐานเลยจริงๆ
รับตรงกลาง สอบเพิ่ม 7 วิชา , Admissions กลาง เหมือนเดิม
กรุงเทพฯ 23 เม.ย.- ทปอ.ยืนยันแอดมิชชั่นกลางปี 54 ยังใช้ระบบเดิม ส่วนการรับตรงในสถาบันอุดมศึกษา ปี55 จะสอบเพิ่มอีก 7 วิชา เตรียม 3 แนวทางแก้ไขปัญหาซื้อ-ขาย ป.บัณฑิต
ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม และสรุปผลการรับสมัครแอดมิชชั่น ที่อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ว่า ที่ประชุม ทปอ. ได้ทำการพิจารณาแนวทางการดำเนินการคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย ในปัจจุบันด้วยระบบแอดมิชชั่นกลางว่าจะยังคงใช้ระบบเดิมที่ใช้ในปี 2553, 2554, และ 2555  ยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดเพราะหากจะมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องมี การแจ้งบอกล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ปี จึงขอให้นักเรียนและผู้ปกครองสบายใจได้
ส่วนเรื่องการรับตรงในสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ทาง ทปอ.สรุปว่า จะสอบเพิ่มอีก 7 วิชา คือ วิทยาศาสตร์ เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา และภาษาอังกฤษ ที่จะจัดสอบในช่วงต้นเดือนมกราคม 2555 โดยมอบหมายให้ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เป็นผู้ดูแล และจะใช้เวลาในการประมวลผลสอบไม่เกิน 3 สัปดาห์คาดว่าไม่เกินวันที่10 กุมภาพันธ์ 2555 นักเรียนจะสามารถทราบผลได้ ซึ่งนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปีการศึกษา 2554 จะมีผลสอบ 2 ชุด คือ คะแนนการทดสอบความถนัดทั่วไปและความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ (GAT, PAT) ที่สอบในเดือนตุลาคม 2554 และผลการสอบตรง ซึ่งทุกมหาวิทยาลัยทั้งภาครัฐ และเอกชนที่รับนักศึกษาปริญญาตรีสามารถนำผลการสอบทั้ง 2 ครั้งไปใช้คัดเลือกในหลักสูตรต่างๆได้
นอกจากนี้ ศ.ดร.ประสาท กล่าวถึงเรื่องการซื้อขายประกาศนียบัตรวิชาชีพครู (ป.บัณฑิต)  ว่า ที่ประชุมได้ให้แนวทางการแก้ปัญหาไว้ 3 ทาง คือ 1. ถ้าเด็กซื้อขายแล้วพบว่าเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยมีส่วนร่วม ทางอธิการบดีผู้ที่ดูแลต้องทำการฟ้องร้องดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ทำผิด 2.หากเกิดจากผู้ที่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย แต่เป็นบุคคลภายนอกทำการปลอมแปลงทางมหาวิทยาลัยสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีเอา ผิดได้ทันที และ 3.ได้แจ้งไปยังประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศทั้ง 9 แห่ง ว่าหากมหาวิทยาลัยไหนขาดแคลนบุคลากรขอให้แจ้งมาเพื่อจะส่งบุคลากรเข้าไปช่วย เหลือ ซึ่งปัญหาเรื่องการซื้อขายวุฒิ คือ มีอาจารย์ในบางมหาวิทยาลัยที่มีชื่อสอน 2 ห้องเรียนในเวลาเดียวกันซึ่งเป็นไปไม่ได้ ทำให้มีบุคลากรตัวปลอมเกิดขึ้นจึงขอให้ทางมหาวิทยาลัยที่ขาดแคลนแจ้งมายัง เครือข่ายเพื่อแก้ไขลดปัญหาการปลอมแปลง หรือนำบุคลากรสวมรอยในการสอน เพื่อให้การเรียนในระดับอุดมศึกษามีคุณภาพ.- สำนักข่าวไทย
ที่มา : http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/199661.html
ไม่ใช่เรื่องดีเลยอะ สทศ ออกข้อสอบ
หนูเเอดปีหน้าน่ะ
ขออย่าให้วุ้นวายเล๊ย...สาธุ
ใครพอจะสรุปให้เราได้บ้าง เหมือนปีนี้ใช้ไหมแต่เปลี่ยนไปสอบ แกท แพท 2 ครั้ง รับตรงจะสมัครกี่ที่ก็ได้แต่ใช้ข้อสอบส่วนกลาง โอเน็ตเหมือนเดิม
ใช่ไหมๆๆ = =!
PS. เราต้องทำได้
ถ้าสอบ กสพท นี่
ต้องสอบ ไทย สังคม ฟิสิกส เคมี ชีวะ แยกเลย แล้ว คณิต
โอ้ว ไม่อยากจะคิด แค่ไม่แยกยังเกือบตายยยย
บอกได้ว่าลำบากคนจะเข้าหมอแน่ๆ ปีหน้า
ชักหวั่นๆๆ แต่ทำไม???
ทำไมต้องมาทดลองกะเด็กปี 55
เปลี่ยนกะทันหันแบบเนี่ย
เคยถามเด็กบ้างมั้ย???
สรุปปีหน้าผมจะซิ่วได้ไหมเนี่ย ทำไหมระบบนี้มันวุ่นวายจังอะ แย่อะ
อ่านแล้วรู้สึกสงสารพี่เราทันทีทันใด
พี่หนูแอดปี 55 อ่ะ
สทศ ออกข้อสอบ วัดความเป็นหมอได้รึเปล่าน้า
ไม่ใช้ออก ถั่วเขียว น่ะ คุณหมอไม่ต้องใช้น่ะคับ ถั่วเขียวอ่ะ
อนาคตเด็กไม่ใช่ เครื่องทดลองน่ะค่ะ อย่า้้เอาชีวิตคนอื่นมาล้อเล่น
  อยากได้หมอ ที่ไร้คุณภาพกัน หลอ? ~~
PS. I' ll never live with diess you
ยังดีที่สอบกี่ที่ก็ได้ แต่สอบสถาปัตย์เนี่ยมันต้องใช้"สูตรเคมี"คำนวณหาอะไรอ่ะ ?
จะซิ่วหมอปีหน้า เซงเลย อะไรกันนี่และเด้กซิ่วจะทำไงดี จะบ้าตายยยย
จะซิ่วหมอปีหน้าตายแน่จิงๆ กสพท.เดิมก้ไม่มีปัญหาอะำไร แต่ถ้าเป็น สทศ หล่ะก็ ตายแน่
การศึกษาไทยมันไร้ประสิทธิภาพขึ้นทุกทีรึป่าวเนี่ยยยยยยยย ห่วยจิงๆ
ตอนนี้เค้าว่านักศึกษาแพทย์คุณภาพต่ำลงแล้ว
ให้สทศ มายุ่ง จะบ้าหรอออ
แยกเหอะ วุ่นวายยย
เคยถามเด็กมั้ยว่าต้องการยังไง
และการประชุม กสพท. วันที่ 29 เปนไงมั่งอะครับ เอาหรือไม่เอา อยากรุ้
สทศ นี่มาจาก สถาบันทำลายอนาคตทางการศึกษา รึป่าวน้อ ^^
แล้วถ้าผมไม่เก่งวิชาคำนวณก็อดเป็นหมออะดิ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?