ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดราชนัดดาราม และ วัดเทพธิดาราม
ในคราวที่แล้ว ผมได้นำเสนอเกี่ยวกับวัดสระเกศ ในคราวนี้ผมจะนำเสนอเกี่ยวกับวัดเทพธิดาราม และ วัดราชนัดดาราม ซึ่งผมมีภาพและข้อมูลของสองวัดนี้ค่อนข้างน้อย จึงได้นำมารวมในกระทู้นี้
จริงๆ ทุกครั้งที่ผมไปวัดสระเกศก็จะต้องผ่านสองวัดนี้อยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้ ผมจึงชอบเดิน เพราะสามารถแวะไปได้ทั่วถึง ๔ วัด คือ วัดสุทัศน์ วัดเทพธิดาราม วัดราชนัดดาราม และไปสุดที่วัดสระเกศ
ก่อนจะไปถึงวัดทั้งสอง จะต้องผ่านถนนสายประวัติศาสตร์สายหนึ่งของไทย นั่นคือ ถนนบำรุงเมือง ซึ่งเป็นหนึุ่งในถนนสามสายแรกของไทย คือ ถนนเจริญกรุง ถนนบำรุงเมือง และถนนเฟื่องนคร สังเกตดีๆ ปลายถนนจะเห็นเสาชิงช้าด้วย
แล้วเราก็จะถึงวัดเทพธิดารามก่อน
วัดเทพธิดาราม เป็นวัดที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ ซึ่งคำว่าเทพธิดา หมายถึง กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ พระธิดาของรัชกาลที่ ๓ ซึ่งมีพระสิริโฉมงดงาม สิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งของวัดนี้ืคือ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย เคยมาจำพรรษาที่วัดนี้เมื่อครั้งบวชเป็นพระภิกษุ ปัจจุบันก็ยังคงมีกุฏิของสุนทรภู่อยู่
พระอุโบสถ โดยวัดนี้สร้างด้วยศิลปะแบบจีน ซึ่งเป็นพระราชนิยมของรัชกาลที่ ๓ ซึ่งทรงโปรดศิลปะแบบจีน
พระพุทธเทววิลาส หรือ หลวงพ่อขาว พระประธานในพระอุโบสถ ถ้าได้เห็นองค์จริงๆ จะเห็นว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก เมื่อเทียบกับพระประธานของวัดอื่น
พระปรางค์
ในวัดมีตุ๊กตาจีนประดับเต็มไปหมด ซึ่งสมัยรัชกาลที่ ๓ มีการนำเข้าตุ๊กตาจีนแบบนี้เยอะมาก เพราะในสมัยรัชกาลที่ ๓ มีการค้าขายกับจีนเยอะมาก โดยใช้การขนส่งสินค้าทางเรือสำเภา ซึ่งพอขากลับ สินค้าขายหมดแล้ว เรือก็จะเบา อาจถูกลมพัด ทำให้อับปางได้ จึงมีการสั่งซื้อตุ๊กตาพวกนี้กลับมา เพื่อถ่วงไม่ให้เรือจม รัชกาลที่ ๓ ได้นำเอาตุ๊กตาพวกนี้มาประดับตามวัดต่างๆ เช่น วัดโพธิ์ วัดราชโอรสาราม วัดเทพธิดารามแห่งนี้ เป็นต้น
นี่คือกุฏิสุนทรภู่ เป็นที่ที่สุนทรภู่เคยจำพรรษาตอนที่บวช จริงๆ ถ้าไม่มีงานอะไร เขาก็จะปิด วันนั้นผมกะจะเข้าไป แต่เขาปิดไว้ เจ้าหน้าที่วัดบอกว่าให้ไปหาหลวงตาเพื่อขอกุญแจ แล้วบอกว่าจะเข้าไปทำรายงาน แต่สุดท้ายผมก็ไม่ได้ขอ เพราะไม่อยากรบกวนท่าน แต่วันที่ ๒๖ มิถุนายนของทุกปีซึ่งเป็นวันสุนทรภู่ วัดนี้ก็จะมีการจัดงาน
หลังจากออกจากวัดเทพธิดาราม เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็จะถึงวัดราชนัดดาราม
วัดราชนัดดาราม สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ เพื่อพระราชทานให้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดี พระราชนัดดา ซึ่งต่อมาเป็นพระอัครมเหสีในรัชกาลที่ ๔
จุดเด่นของวัดราชนัดดารามที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ โลหะปราสาท ซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่า สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓ แต่ก็มาเสร็จสมบูรณ์เอาในสมัยรัชกาลที่ ๙ นี่เอง ใช้เวลาสร้างกว่า ๑๖๐ ปี โลหะปราสาทที่วัดราชนัดดารามนับเป็นหนึ่งในสามแห่งของโลก และเป็นแห่งเดียวที่ยังคงเหลืออย่างสมบูรณ์ แห่งแรกที่อินเดียนั้นพังทลายไม่เหลือซาก ส่วนแห่งที่สองที่ศรีลังกาก็พังทลายเหลือแต่กองอิฐ ที่เรียกว่าโลหะปราสาท ไม่ได้หมายความว่าตัวปราสาททั้งหมดทำมาจากโลหะ แต่ทำจากโลหะแค่ยอดดำๆ ทั้ง ๓๗ ยอดเท่านั้นเอง
สองภาพล่างนี่ถ่ายจากอาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่ที่น่าเข้าไปชม
ในโลหะปราสาทจะมีบันไดเวียน สามารถเดินขึ้นไปถึงชั้นบน และสามารถถ่ายภาพในมุม ๓๖๐ องศาได้ เห็นสถานที่สำคัญๆ มากมาย เช่น ภูเขาทอง,วัดบวรนิเวศวิหาร,หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ฯลฯ
ขึ้นมาถึงชั้นบน ก็ต้องไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุบนยอดโลหะปราสาทเสียหน่้อย (ขออภัยครับ เมื่อกี๊ลืมเอาลง เพิ่งนึกได้)
พระอุโบสถ
พระวิหาร ซึ่งผมไปทีไร ไม่เคยเปิดสักที พระอุโบสถด้วย ก็เลยไม่เคยได้เข้าไปชมข้างใน
ออกมาที่หน้าวัดราชนัดดา ก็จะพบกับลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ซึ่งเป็นที่ใช้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง มีพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ด้วย ซึ่งคำว่า เจษฎาบดินทร์ มาจาก กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ซึ่งเป็นพระอิสริยยศที่รัชกาลที่ ๓ เคยทรงดำรง โดยคำว่า เจษฎาบดินทร์ หมายถึง พระมหากษัตริย์ผู้ตั้งมั่นในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ
มุมนี้ถ่ายจากบนโลหะปราสาท
เดินออกทางด้านขวาของวัดราชนัดดา ก็จะพบกับ ป้อมมหากาฬ ซึ่งอย่างที่ผมได้กล่าวถึงไปแล้วในกระทู้่วัดบวรนิเวศ ว่าเป็นหนึ่งในสองป้อมที่ยังคงเหลืออยู่จากในสมัยรัชกาลที่ ๑ ซึ่งอีกป้อมที่ยังเหลืออยู่ก็คือ ป้อมพระสุเมรุ
ถ้าเดินออกไปทางด้านซ้าย ก็จะพบกับ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
จบแล้วครับ สำหรับวัดเ้ทพธิดาราม และ วัดราชนัดดาราม
กระทู้อื่นๆ ในหมวดนี้
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดสุทัศนเทพวราราม
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดบวรนิเวศวิหาร
ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดสระเกศ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 18 ตุลาคม 2555 / 01:29
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2556 / 23:05
3 ความคิดเห็น
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปัน >/\<
พระวิหาร ซึ่งปกติที่ผมไป เขาจะปิด แต่พอดีวันนั้นวัดเขาจะมีงาน เลยเปิด และผมได้เข้าไปชมข้างใน
ในพระวิหารมีองค์พระประธานประดิษฐานอยู่ เบื้องล่างมีพระพุทธรูปภิกษุณีกำลังทำการสักการะพระพุทธเจ้า พูดถึงภิกษุณี ตอนแรก ผมนึกว่าก็คือ แม่ชี แต่จริงๆ แล้วคือ พระผู้หญิง ซึ่งทางนิกายหินยานไม่มีแล้ว แต่นิกายมหายานยังมีอยู่บ้าง ภิกษุณีรูปแรกของพระพุทธศาสนาคือ พระนางปชาบดีโคตมี ที่เป็นพระน้านางของพระพุทธเจ้านั่นเอง และต้องถือศีลมากกว่าพระภิกษุ คือ ๓๑๑ ข้อ
พระนางปชาบดีโคตมีเถรี ภิกษุณีรูปแรกในพระพุทธศาสนา
ในช่วงวันปีใหม่ ผมกับเพื่อนตอนมัธยมได้พาชาวญี่ปุ่นไปเที่ยวตามวัดต่างๆ และก็ได้ไปที่วัดราชนัดดาอีกครั้ง ซึ่งในวันนั้นมีการเปิดพระอุโบสถให้เข้าไปกราบสักการะองค์พระประธาน และรับพรจากพระสงฆ์ องค์พระประธานในพระอุโบสถวัดราชนัดดา ทรงพระนามว่า พระพุทธเสฏฐตมมุนี (ระวังสับสนกับ พระพุทธเสฏฐมุนี วัดสุทัศน์ คนละองค์กัน)
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 6 มกราคม 2556 / 00:58
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2556 / 23:14
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2556 / 23:24
ปกติวัดราชนัดดาจะมีการสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯทุกวันจันทร์และวันศุกร์ เวลาประมาณ 18.00 - 20.00 น. นะคะ ซึ่งจะสวดที่พระอุโบสถ ถ้าอยากได้บรรยากาศแบบหัวค่ำลองไปดูนะคะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?