Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

มีใครเห็นด้วยมั้ย : ยกมือขึ้น !!! ท่องศัพท์ครูสมศรีกับครูพี่แนน จนตอนนี้...

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เราท่องพวกชีทต่างๆอ่ะ พอจำได้เกินครึ่งนะ บวกกับพวกสูตรไวยากรณ์ต่างๆอีก คิดว่าเยอะมาก แต่ก็ยังทำคะแนนไม่น่าพอใจเท่าไหร่

แต่ว่า......ตอนนี้เราก็อ่านพวกนิยายภาษาอับกฤษได้เข้าใจแล้ว แบบสนุกและลุ้นไปกับมันได้ แล้วก็พออ่านข่าวรู้เรื่อง ^____^

พอลองทำข้อสอบ Toeic ดู ก็ทำได้นะ เพราะมันง่ายกว่าบทสนทนาในo-net กับ gatอีก
(มันเป็นข้อสอบวัดการสื่อสารภาษาอังกฤษของคนทั่วโลกที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษนะ ใช้ยื่นตอนสมัครงานได้)

เหมือนจะดีเนอะ.......
แต่??????????????


ทำให้เราเข้าใจแล้วว่าการศึกษาไทยเรียนไปเพื่อสอบอย่างเดียวอ่ะ เป็นยังไง!!!!!

#################

ตอนสอนในห้อง สอนอย่างหนึ่ง

แต่ตอนสอบเรียนต่อ

ต้องสอบอีกอย่างหนึ่ง

(ไม่รู้ไปขุดเอาศัพท์ยากๆ กับแกรมมาร์ขั้นพิศดารมาจากไหน)

แต่พอตอนใช้จริงใช้อีกอย่าง!!!!!

----เงิบ---



จะใช้ทำงานพูดคุยทั่วไป ก็ใช้Toeic

(มันเน้นทักษะการ ฟัง ฟัง ฟัง
แล้วก็พูด พูด พูด คำสนทนาง่ายๆก็ได้ แต่ต้องให้ฝรั่งเข้าใจ)

###############

ตอนนี้เรารู้แล้วว่าการฟังกับการพูดสำคัญ.....แต่ต้องทิ้งไว้......
มาท่องศัพท์กับไวยากรณ์ไว้สอบก่อน

###########

RIP...การศึกษาไทย



เยี่ยม

แสดงความคิดเห็น

>

21 ความคิดเห็น

จขกท 28 ต.ค. 57 เวลา 15:37 น. 1

เรียนเพื่อสอบ!!!!

หมายถึง
เรียนในห้องเพื่อสอบในห้องนะ
แล้วเรียนติวเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย

ถ้าใครอยากใช้งานได้จริงต้องเสียเงินเรียนพูดอ่านเขียนที่สถาบันข้างนอก


(ทำไมมันไม่เป็น เรียนในห้องเรียนเพื่อใช้งานจริงและวอบเข้ามหาวิทยาลัยอ่ะ

ต้องเรียนมันทั้ง 3 แบบเลย)แบร่

0
TTTT 29 ต.ค. 57 เวลา 03:01 น. 2

toeic มันก็แค่วัดเข้าทำงานเล็กๆน้อยๆ

แต่ถ้าน้องอยากเอาดีทางภาษาอังกฤษ อยากเรียนต่อต่างประเทศ อยากได้งานที่เริ่ดหรูอลังการ องค์กรระหว่างประเทศ ต้อง TOEFL IETLS ซึ่ง GAT ONET จะง่ายแบบขี้ตีนไปเลย

CUTEP ก็ยากกว่า GAT ค่อนข้างมากอยู่ ถ้าภาษาอังกฤษไม่ได้ก็เข้าคณะอินเตอร์จุฬาไม่ได้

เชื่อพี่เถอะ ภาษาอังกฤษ ยิ่งรู้เยอะ ยิ่งเป็นผลดีแก่ตัวเอง

0
แบร๋บยยย 31 ต.ค. 57 เวลา 17:13 น. 3

เป็นแบบนี้ทุกวิชานะขอบอก ไทยเรียนยากอันดับต้นๆของโลกอ่ะ เรียนจนเอ๋อ
เน้นยากๆที่ไม่ได้เอาไปใช้จริง มากเกินจำเป็น ทำใจนะ คนออกข้อสอบหลังๆยิ่งจิตหนัก

เศร้าจัง

0
matchafrappe 31 ต.ค. 57 เวลา 17:41 น. 4
ทำใจค่ะ เมืองไทยเรียนเพื่อสอบจริงๆ //จากเสียงของคนที่ชอบภาษาอังกฤษมากแต่ใบ้กินตอนฝรั่งเดินมาหา
0
คนเชื่อในความสามาร 31 ต.ค. 57 เวลา 18:14 น. 5

ออกง่ายทุกคนมันก็ทำได้หมดดิมันจะวัดเด็กได้อย่างไร
แล้วที่บอกจะสอบพูดสอบใช้จริงในทางปฎิบัติมันก็เปนไปไม่ได้จะเอางบมาจากไหนแล้วงี้เด็กต่างจังหวัดที่ไม่มีชาวต่างชาติสอนละความเท่าเทียมตามหลักรัฐธรรมนูญมีไหม?
ข้อสอบมันต้องการวัดความขยันความมานะเพื่อไปเรียนต่อแล้วผ่านอุปสรรคไปได้ในระดับอุดมศึกษา ถึงมันจะวัดไม่ได้มากแต่ร้อยละร้อยคนที่พูดได้ฟังได้ก็จะทำข้อสอบได้คะแนนดีในระดับหนึ่ง
และที่จขกท พูดดูถูกการศึกษาประไทยตัวเอง ว่าเรียนไปเพื่อสอบจริงๆมันก็เป็นทุกประเทศแหละสอบยากๆ เช่นsat เรียนเพื่อสอบไม่ได้ใช้จริง
แต่ที่ประเทศไทยเป็นจริงๆก็คือมีคนอย่างจขกทนี้แหละthailandonly ดูถูกคนในชาติ ดีแต่บ่นดีแต่ด่า
คนออกข้อสอบคิดระบบการศึกษาเขาไม่โง่หรอก ส่วนตัวคิดว่าฉลาดกว่าจขกทเพราะคนฉลาดเขาจะไปอ่านหนังสือกันไม่มาดูดถูกชาติตัวเองแบบนี้ แค่เค้ายังหาวิธิแก้การศึกษาให้ดีไม่ได้ด้วยข้อจำกัดหลายๆด้าน
ปล.ยังมีเรื่องอยากพิมอีกมากแต่เกรงจะเป็นการเสียเวลา

0
Anonymous 31 ต.ค. 57 เวลา 19:44 น. 6

You're partially right and partially wrong. And honestly, i think you are being overconfident about your english proficiency. It is true that Thailand education system is somewhat hard, challenging but it is the system that makes you who you are today. Even though it is messy and somewhat disorganized, it's still the system that evaluates you and another thirty-thousand students with an acceptable english proficiency standard. (Remember, you not the only one who are taking the test.) Please don't spend your time judging the system, just go on and study more;) Please remember and always remember, no matter what you are good at, if you think you are the best of it, think again. There will (and always) be someone who are doing it better than you. And never EVER underestimate anything, Sometimes things aren't always what they seem, you think it's easy sometimes it's not and when you think it's hard but sometimes it's not. Just keep on studying it'll be good for you one way or another :)

0
Anonymous 31 ต.ค. 57 เวลา 19:56 น. 7

I agree to comment #6 and want to tell you that. If you think Thai Educational System is sucks of what so ever, change the system, move to International School! Then you'll know that every country is just studying for the test. But what on the test is what is different.

0
md_z 31 ต.ค. 57 เวลา 20:18 น. 9

พี่ว่าไม่ว่าการศึกษาไทยจะเป็นยังไง น้องต้องเปิดใจให้กกว้างก่อนดีมั้ยครับ ก่อนจะว่าอะไร
สำหรับคำศัพท์รู้เยอะมันก็ดีต่อน้องเอง
ทำไมในห้องเรียนไม่สอนต้องไปติว พี่บอกเลยว่าพี่เจอศัพท์ที่เจอในห้องเรียนเหมือนกัน แต่ก็ไม่ทั้งหมด
ศัพท์มันไม่ได้มีแค่50คำนะครับ น้องถึงจะมาท่องแล้วสอบได้
คนออกคนสอนไม่ใช่คนเดียวกันศัพท์ตั้งกว้างเป็นไปได้หรอครับว่าน้องจะเจอมันทั้งหมด เป็นไปไม่ได้น้องถึงต้องศึกษาหาความรู้เอาเอง มากน้อยแล้วแต่คนจะขวนขวายครับ มันไม่ได้จากการติวครับ แต่น้องเข้าใจไปเองว่าต้องติว ทำไมบางคนไม่ติวละครับ
จริงอยู่การศึกษาไทยเป็นแบบที่น้องว่า
แต่น้องลองมองย้อนตัวเองดูดีๆนะว่าน้องเองเรียนเพื่อไปสอบหรือป่าว?
น้องก็ทำแบบนั้น ทำไมน้องไม่มองว่ามันเป็นการเปิดโอกาสให้เราศึกษาหาความรู้ติดตัวเยอะๆ แล้วสอบเป็นผลพลอยได้จากการขวนขวายครับ

0
xxxxx 31 ต.ค. 57 เวลา 21:01 น. 11

เหมือนทาง คห 2 ยกตัวอย่างให้ดูครับ
ว่าถ้าอังกฤษไม่แข็ง สอบ CUTEP ไม่ดีก็เข้าอินเตอร์ ฬ ไม่ได้
(มันก็เป็นทุกที่ปะครับ อังกฤษไม่แข็ง คะแนนยื่นไม่ถึง นอกจากใหญ่จริงๆ)
ส่วนเอาจริงๆ IETLS ยากมากทำจริงๆ gat onet ขี้ๆเลย
ค่าสอบก็ต่างกันแล้ว 55555

0
xxxxxx 31 ต.ค. 57 เวลา 21:15 น. 12

การศึกษาไทยเรียนไปสอบอย่างเดียว
คือสิ่งที่สอบ มันก็วัดได้เหมือนกันนะครับ
ว่าเราจะไปรอดในมหาลัยไหม
การเรียนในมหาลัย กับ มัธยมมันไม่เหมือนกันเลยครับ
บางคนปรับตัวไม่ได้ ก็ซิ่ว ย้ายคณะบ้าง
ผมว่ามันอยู่ที่ตัวเรา และสิ่งแวดล้อมมากกว่า
บางคนชอบทำอะไรยังไม่รู้เลยครับ สอบๆ ไปงั้น
สุดท้ายก็เสียดายเวลา
เอาเป็นว่า เราปรับที่ตัวเราก่อน แต่การติก็ไม่ได้ผิดครับ ดีสะอีก
น้องๆ ออกมาถกเถียงกันว่า การศึกษาควรเป็นแบบไหน มันเป็นเรื่องดี
แต่จะเอาให้เค้าปรับอย่างเดียวไม่ได้ เราก็ต้องปรับด้วย
สุดท้ายขอฝากไว้ ผมเชื่อว่าเป็นกันทุกคน ตอนอยู่มัธยมก็คิดว่า จบจากมัธยมเข้ามหาลัยได้ก็สบาย
มันไม่ใช่ครับ ชีวิตมัธยมสบายสุดแล้วครับ มันไม่มีหรอกครับ ลำบากวันนี้สบายวันหน้า มันมีแต่ลำบากวันนี้วันหน้าก็ลำบากอีก ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบครับ

0
Samakida 31 ต.ค. 57 เวลา 21:33 น. 13

I couldn't agree with you more.My daughter, who is doing her S.J.D. ( Doctor of Law) in the U.S. A, also finished M. 6 from one of the secondary schools in Thailand but, she speaks like a bilingual now. Everyone should bear in mind that grammar help you to speak and write good English. Participation in class and writing law journals need both grammar and good vocabulary.

0
อ๊ะจิจิว๊ะ 1 พ.ย. 57 เวลา 20:49 น. 15

เอาอะไรมากกับประเทศโลกที่3 ประเทศที่เอาเงินเป็นศูนย์กลาง ส่วนผู้เรียนคือผลพลอยได้ ทุกอย่างวัดจากผลสอบ สอบ สอบ ทั้งๆที่ข้อสอบก็ไม่ได้มาตรฐาน มาตรฐานของคนออกข้อสอบคือเด็กทำได้ก็จะโดนด่าหาว่าออกง่าย ปีต่อไปต้องให้เด็กทำไม่ได้เลยจะได้สะใจ คนออกข้อสอบอะโรคจิต พูดแล้วขึ้น 55555 แต่ จขกท.ได้ศัพท์เยอะๆก็ดีแล้วนะ ทำมห้รู้มากขึ้น ดีกว่าไม่รู้ศัพท์เลย เยี่ยม

0
nattapat 3 พ.ย. 57 เวลา 06:54 น. 16

ข้อสอบที่ดี ไม่ใช่ข้อสอบยาก 2 คำนี้มันคนละคำกันนะครับ ข้อสอบที่ดีคือข้อสอบกำลังพอดี หรือง่าย เพราะใครพลาดก็เสียคะแนน คนอื่นเค้าได้กันทั้งประเทศ ต้องแบบนี้ครับถึงเรียกว่าข้อสอบดี

0
Maigo 22 พ.ย. 57 เวลา 16:33 น. 19

ขอมองต่างมุมนะคะ
จริงๆ ไม่อยากจะให้โทษระบบการศึกษามากนัก
อยากจะให้ลองหันกลับมามองพื้นเพ นิสัยของเด็กไทยกันก่อนค่ะ
เราเคยเห็นเพื่อนบ้างคนในห้องไหมคะ ที่เอ... ทำไมกันนะ คนนี้มันก็ไม่เคยไปเมืองนอก ก็เรียน ก็โตมาที่ไทยเหมือนๆ กับเรา อยู่ในระบบการศึกษาเดียวกันแต่พูดภาษาอังกฤษได้ ใช้เป็น
จขคห มีเพื่อนแบบนี้อยู่ และก็คิดว่าสิ่งที่ต่างกันระหว่างเรากับเขาก็คือ ความไขว่คว้าหาความรู้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ระบบการศึกษา
ในระหว่างที่เรากำลังเอาแต่โทษระบบการศึกษา บางทีเราอาจจะควรกลับมามองตัวเราด้วยว่า อยากพูดเป็น แล้วเราได้พยายามพูดบ้างไหม?
เห็นเพื่อนในห้องหลายคนในคาบอ.ฝรั่ง ก็เอาแต่เขินอาย ไม่ยอมกล้าเข้าไปพูด เขาถามก็ไม่ตอบ ทำพรีเซ้นเทชั่นเสียงเบา
นี่หรือเปล่า ที่ทำให้เด็กไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้?
แน่นอนว่าระบบการศึกษามีส่วน แต่จขคห มองว่ามันไม่ใช่เพียงอย่างเดียวที่ทำให้เราใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้ค่ะ
พื้นเพนิสัยของเด็กไทยเอง... ก็มีส่วนเหมือนกัน

ถามว่าระบบการศึกษามีไว้เรียนเพื่อสอบอย่างเดียว อันนี้ก็ไม่อยากจะขัด เพราะบางทีก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ค่ะ
แต่ถ้าถามว่าถูกซะทีเดียว 100% เลยไหม ก็ไม่หรอกค่ะ
อย่างน้อยตอนนี้ถ้าไม่ได้เตรียมตัวสอบ GAT, ONET หรืออะไรพวกนี้ ก็คงไม่มีความคิดที่จะหยิบศัพท์ยากๆ ขึ้นมาอ่าน อ่านไวยกรณ์เยอะๆ ขนาดนี้ แล้วคิดว่าเออวะ เอาแค่พูดได้ฟังออกก็รอดแล้ว แต่ที่จริงแล้วมันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น
การจะเป็นคนเก่งภาษาได้ มันไม่ใช่แค่พูดได้ พอเข้าใจ แต่ 'พูดถูก' ด้วยหรือเปล่าคะ
ส่วนตัวคิดว่า เราโทษระบบการศึกษา เพราะระบบการศึกษาบังคับให้เรียนศัพท์หินๆ แกรมม่าเยอะๆ อย่างที่ไม่จำเป็นหรือเปล่า?
จริงๆ แล้วถ้าลองหยิบ Textbooks หรือ หนังสือพิมพ์มาอ่าน จขคห ค่อนข้างมั่นใจว่า เราจะเจอแกรมม่าแทบทุกประเภทในสิ่งที่อ่านนั้น
และแกรมม่าคือความละเอียด ความสละสลวยของตัวภาษา มันไม่ใช่แค่เราอ่านพอจับใจความเข้าใจ แต่ถ้าเข้าใจแกรมม่าจะทำให้เราตีความสิ่งที่ผู้เขียน,ผู้พูดต้องการสื่อได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้นค่ะ

อีกอย่างหนึ่งก็คือ เด็กไทย 'ฝึก' น้อยไป
จขคห คิดว่าสิ่งที่เรียนมาทุกอย่างมีประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่สอบ
เพียงแต่บางทีเรารับอะไรมา 'เยอะเกินไป' ทำให้จัดเรียง แล้วดึงข้อมูลออกมาใช้ได้ไม่ทันการหรือเปล่าคะ
เช่น มี 12 Tense มี Passive อีก ก็เป็น 24 รูปประโยค อ้าว ถึงเวลาพูดจริงๆ มันคิดไม่ทันนี่นา ถึงเวลาฟังจริงๆ มันฟังไม่ทันนี่นา
แต่เราจะพูดทัน ฟังทันได้ ก็ต่อเมื่อเรา 'ฝึก' ค่ะ ความเร็ว ความคล่องแคล่วเหล่านี้เกิดขึ้นจากการฝึก
ซึ่งจะให้ระบบการศึกษามาจัดทุกอย่างให้ก็ไม่ได้ บางทีมันก็เป็นสิ่งที่เราต้องทำด้วยตัวเองค่ะ

สุดท้ายนี้ ย้ำอีกครั้งว่าไม่ใช่ว่าระบบการศึกษาไม่มีส่วน
แต่อยากให้ทุกคนลองหันมามองพื้นฐานในตัวเราด้วยค่ะ
จขคห คิดว่าเอาแต่โทษระบบอย่างนี้ ก็ไม่ถูกเท่าไหร่นัก



0