ประวัติความเป็นมาของ "จิ๊กซอ" ปริศนาภาพต่อ
แผนที่จิกซอได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่พ่อแม่ที่มีฐานะดีซึ่งให้ความสนใจกับการกระตุ้นสติปัญญาของลูกเป็นอย่างมากจิกซอยังเป็นที่นิยมสืบต่อมาแม้เมื่อ สปิลบิวรี เสียชีวิตไปแล้วในปี ค.ศ. ๑๘๐๐ มีช่างทำแผนที่ชาวลอนดอนประมาณ ๒๐ คนยังคงทำแผนที่จิกชอออกจำหน่าย โดยมุ่งเน้นประโยชน์ทางการศึกษามากกว่าเป็นเกมเพื่อความสนุกสนาน และนอกจากวิชาภูมิศาสตร์แล้ว ยังมีจิกซอซึ่งช่วยเสริมบทเรียนด้านศีลธรรมและประวัติศาสตร์ด้วย
จิกซอยุคแรกเป็นสินค้าที่ราคาแพงมาก ทำจากไม้มะฮอกกานี วอลนัต และไม้โอ๊ก แกะสลักลวดลายแล้วจึงระบายด้วยสีน้ำ ปริศนาภาพต่อมักมีจำนวนไม่เกิน ๕๐ ชิ้น และทำขึ้นเพื่อเด็กโดยเฉพาะในศตวรรษที่ ๑๙ ธุรกิจการทำภาพต่อจิกซอขยายตัวอย่างกว้างขวาง ประเภทของภาพมีความหลากหลายขึ้น ได้แก่ เทพนิยาย ภาพการผจญภัยต่าง ๆ ตลอดจนเหตุการณ์ปัจจุบัน เช่นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย เป็นต้น
ไม้เนื้อแข็งถูกแทนที่ด้วยไม้เนื้ออ่อนซึ่งราคาไม่แพงนัก ส่วนลวดลายภาพก็ใช้วิธีการพิมพ์หิน (lithography) แทนการแกะสลักด้วยมือ แต่การลงสีน้ำด้วยมือยังคงทำกันอยู่จนถึงปี ค.ศ. ๑๘๖๐ ความนิยมในจิกซอกระจายออกไปยังประเทศอื่น ๆ ในยุโรป ทั้งเยอรมนี เนเธอร์แลนด์และฝรั่งเศส
ทุกวันนี้การทำจิกซอได้กลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ราคาของจิกซอก็ถูกลงเป็นอันมากนับแต่เปลี่ยนมาใช้กระดาษแข็งเป็นวัตถุดิบแทนไม้ ทั้งจุดประสงค์ก็เปลี่ยนไปเน้นที่ความสนุกสนานเพลิดเพลินมากกว่าอย่างอื่น จิกซอในปัจจุบันมีภาพต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย นับตั้งแต่ภาพเขียนชิ้นเอกของโลกภาพถ่ายทิวทัศน์ทางธรรมชาติ ไปจนถึงภาพการ์ตูนยอดนิยมของเด็ก ๆ
ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี
PS. -YunhO-JunkI-MickeY-SungmiN-HongkI-KihyuN-RyewooK-
3 ความคิดเห็น
โอ้เย่
นานจัง
เราก็ชอบต่อนะ
แต่ถ้ามีเยอะเกินไปก็ไม่ไหวตาลาย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?