Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

“ภาวะโลกร้อน” ความจริงช็อกโลก!!!!!!!!!!!!!!!!!! อีก4ปีโลกแตกจริงหรือ!!!!!!!!!!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เราเคยอ่านเจอมาว่า เคยมีคยโบราณทำนายไว้ "โลกจะแตกในวันที 22 ธันวาคม 2012 ซึ่ง ก็คือในอีก4ปีข้างหน้า

ซึ่งตรงกับข้อความๆนึงที่ มาเซอร์คนนึง(สอนวิชาศาสนาที่รร.เรา) พูดเอาไว้ว่า "ในอีก 4 ปีข้างหน้าพระเจ้าจะทรงเสด็จมาล้าง

โลก" อันที่จริงเรื่องนี้เราก็ลืมไปแล้ว แต่ก็ไปอานเจอในกระทู้นึงอีก เราเลยนึกขึึ้นมาได้ เราเคยคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ

และคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่จากข้อความหลายๆอย่างทำให้เราเชื่อว่า อีกไม่นาน  "โลกจะแตก!!!!!!

"

“ภาวะโลกร้อน” ความจริงช็อกโลก!!!

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

          ขณะที่บ้านเราเจอภาวะฝนตกน้ำท่วม ไม่มีฤดูหนาว หรือแม้กระทั่งแผ่นดินไหวที่ จ.เชียงใหม่ อีกด้านในซีกโลกตะวันตก ผู้คนกำลังเผชิญหน้ากับภาวะโลกร้อน ร้อนจนร่างกายทนไม่ไหว ทำให้คนในยุโรปเสียชีวิตถึง 30,000 ศพ และในอินเดีย มีผู้เสียชีวิตไป 1,500 ศพ เมื่อปี 2003 ที่ผ่านมา

          เหตุที่เกิดปรากฏการณ์เหล่านี้ในทางวิทยาศาสตร์ ระบุว่า เป็น “ภาวะโลกร้อน” อันเป็นผลจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซ อื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติดักจับความร้อนออกไปยังบรรยากาศของโลก ก๊าซเหล่านี้จะรวมตัวกันจนกลายเป็นผ้าห่มหนา ๆ ดักจับความร้อนของดวงอาทิตย์ และทำให้โลกมีอุณหภูมิร้อนขึ้น ยิ่งก๊าซเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น ความร้อนก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

          ซึ่งเมื่อเกิดปรากฎการณ์เหล่านี้อาจส่งผลให้บางพื้นที่กลายเป็นทะเลทราย สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถปรับตัวได้ก็จะสูญพันธ์ บางพื้นที่อาจประสบปัญหาน้ำท่วม น้ำแข็งขั้วโลกและบนยอดเขาสูงละลาย ทำให้ปริมาณ น้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น พื้นที่ชายฝั่งทะเลได้รับผลกระทบ บางพื้นที่อาจจมหายไปอย่างถาวร และประชาชนอาจจะเจอคลื่นความร้อนที่มีอำนาจทำลายล้างแรงกว่าที่เคยพบมา

          เหตุการภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นกำลังเตือนภัยอะไรเราชาวโลก ซึ่งหากเรายังปล่อยให้เกิด "ภาวะโลกร้อน" อยู่เช่นนี้ เชื่อได้ว่า อาจเกิดปรากฎการณ์ความจริง ช็อกหัวใจชาวโลกขึ้นอีกครั้งแน่นอน ทางแก้ที่ดีที่สุดก็คือ ทุกคนต้องลดใช้พลังงาน อันเป็นบ่อเกิดของมลพิษเพื่อให้โลกได้ปรับสมดุล และช่วยกันปลูกป่า เพื่อให้ธรรมชาติกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด ไม่งั้น หากเกิน 10 ปี โลกเราอาจเข้าสู่จุดที่ไม่ สามารถกลับตัวได้





แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 23 มีนาคม 2551 / 13:54

PS.  โชะเชะ Feel ว่างจัด งานคือเงิน มีงานมีเงิน

แสดงความคิดเห็น

23 ความคิดเห็น

haticha.pp 23 มี.ค. 51 เวลา 09:54 น. 1


ทุกคนก็คงรู้ดีอยู่แล้วว่า มนุษยืเป็นตัวการทำให้มีการเปลี่ยนแปลงลอุณหภูมิของโลก แต่ที่น่าตกใจคือ


"มีความเป็นไปได้อย่างน้อย 90เปอร์เซนต์ ที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์"

แม้หลายประเทศที่อยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตร รวมทั้งประเทศไทยสัมผัสอากาศร้อนจนเคยชิน คนไทยหลายคนจึงไม่ค่อยตื่นตัวว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นไม่กี่องศาที่เพิ่มขึ้นนั้น จะกระทบกับกรุงเทพฯ หรือจังหวัดอื่นอย่างไร?” แต่หลักฐานผลการวิจัยของปัญหาอันอาจมีสาเหตุจากโลกร้อนหลายชิ้นทั่วโลก ที่ทยอยเผยแพร่ออกมาในช่วง 2 3 ปีที่ผ่านมา เช่น

-          พืชอย่างดอกเชอร์รี่ และองุ่น ออกดอกและผลเร็วกว่าปกติ

-          เพนกวินจักรพรรดิในทวีปแอนตาร์กติกหรือขั้วโลกใต้ มีจำนวนคู่ผสมพันธุ์ลดลงจาก 300 คู่ เหลือเพียง 9 คู่

-          องค์การอนามัยโลกได้สำรวจการแพร่ระบาดของมาลาเรียในเขตตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรปในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พบว่ามาลาเรียได้ขยายวงจากสามประเทศ ไปถึงรัสเซียกับอีก 6 ประเทศใกล้เคียง



PS.  โชะเชะ Feel ว่างจัด งานคือเงิน มีงานมีเงิน
0
haticha.pp 23 มี.ค. 51 เวลา 10:04 น. 2

 
มีใครเคยดูหนังเรื่อง The day after tomorrow มั๊ย ??



ศาสตราจารย์แคร์รี เอมมานูเอล  (Kerry  Emanuel) กล่าวไว้ว่า มนุษยชาติจะประสบปัญหาเหมือนในหนังเรื่องนี้ "เพียงแต่อาจไม่มีผู้รอดชีวิต"

กล่าวได้ว่าเหตุการณ์สึนามิที่น่ากลัวสำหรับคนไทยนั้น เป็นเพียงเหตุการณ์ย้ำ
เตือนถึงภัยพิบัติที่น่ากลัวเพียงเล็กน้อยของ "วันสิ้นโลก" เท่านั้น

______________________________________________




PS.  โชะเชะ Feel ว่างจัด งานคือเงิน มีงานมีเงิน
0
haticha.pp 23 มี.ค. 51 เวลา 10:11 น. 3

น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ไม่รู้ไม่ได้

1.
สภาวะโลกร้อนได้ทำให้ปริมาณทะเลน้ำแข็งที่ละลายมีมากขึ้นผิดปกติ จนทำให้เหลือแผ่นน้ำแข็งปกคลุมบริเวณมหาสมุทรอาร์กติกน้อยมากที่สุดในรอบ 100 ปี
หรือพูดง่ายๆ ก็คือแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกเหนือมีขนาดเล็กที่สุดในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา

2.
เมื่อปีที่แล้วน้ำทะเลมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากการละลายของน้ำแข็งเฉพาะเกาะกรีนแลนด์ถึง 220 ล้านลูกบาศก์กิโลเมตร

3.
่วนทางด้านขั้วโลกใต้ หรือทวีปแอนตาร์กติกา ทีมนักวิทยาศาสตร์ชาวสหรัฐ-ชิลี ได้พบว่า ธารน้ำแข็งเป็นจำนวนมากในทางตะวันตกของแอนตาร์กติกาหายไปมากกว่า 60%

4.เมื่อปีกลายเกาะน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้ละลายน้ำแข็งออกมากลายเป็นน้ำทะเลด้วยปริมาณถึง 220 ลูกบาศก์กิโลเมตร มากกว่าเมื่อสิบปีที่แล้วละลายออกมาแค่ 90 ลูกบาศก์กิโลเมตร น้ำ 1 ลูกบาศก์กิโลเมตรมีปริมาณเท่ากับน้ำ 1 พันล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์รวมกันเท่ากับ 5 ลูกบาศก์กิโลเมตรเท่านั้น)


กรุงเทพมหานครของเรา ใครๆ ก็รู้ว่าอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่ถึงเมตร บางพื้นที่ก็ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลเสียอีก และหากน้ำแข็งทั้งขั้วโลกเหนือและน้ำแข็งที่ปกคลุมทวีปแอนตาร์กติกาบนขั้วโลกใต้พร้อมใจกันละลาย ระดับน้ำทะเลทั่วโลกจะสูงขึ้นมากกว่า 65 เมตร
กรุงเทพฯคงอยู่ได้เฉพาะบนตึกระฟ้าสูง 20 ชั้นขึ้นไป



PS.  โชะเชะ Feel ว่างจัด งานคือเงิน มีงานมีเงิน
0