Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ตำนานรุ้งกินน้ำ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่



ตำนานรุ้งกินน้ำ


     ชาวเขมรเรียกรุ้งกินน้ำว่า ธนูพระอินทร์เพราะมีรัศมีโค้งข้ามฟ้าเหมือนคันธนู
ที่โก่งจนเต็มที่ ไทยและไทยใหญ่เชื่อตรงกันว่า ถ้าเอามือชี้รุ้งกินน้ำแล้วนิ้วจะด้วน 
ต้องแก้เคล็ดด้วยการเอามือเช็ดก้น ชาวมอญเชื่อว่า ถ้าชี้รุ้งกินน้ำแล้วจะโชคร้าย 
แต่ไม่ได้ระบุว่าจะโชคร้ายอย่างไร ส่วนคนจีนก็เชื่อเช่นเดียวกันว่า รุ้งกินน้ำเกิดขึ้น
ทางทิศตะวันออก ไม่มีใครกล้าชี้ เพราะการทำเช่นนั้นจะทำให้เกิดโชคร้าย และ
มักจะทำให้เป็นแผลที่มือที่ชี้นั้น นอกจากนี้ชาวจีนยังเชื่ออีกว่า ถ้าเมื่อใดเกิดมีรุ้ง
กินน้ำ เมื่อนั้นฝนจะหยุดตก
     ความจริงแล้วรุ้งกินน้ำเกิดเป็นวง แต่ที่เราเห็นรุ้งกินน้ำเพียงส่วนหนึ่งของวงกลม
เท่านั้นก็เพราะขอบโลกบังแสงอาทิตย์เสีย แต่อย่างไรก็ตามผู้โดยสารบนเครื่องบิน
อาจจะเคยเห็นรุ้งกินน้ำครบทั้งวงแผ่กระจายบนก้อนเมฆ โดยมีเงาของเครื่องบินที่
โดยสารไปนั้นเป็นจุดศูนย์กลาง

ขอบคุณที่มา จากหนังสือสาระความรู้ฉบับพกพา รู้ไว้ไม่เสียหลาย




แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 20 กรกฏาคม 2551 / 14:09

PS.  หวัดดีจ้า อย่าลืมแวะมาเยี่ยมบ้างน่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

32 ความคิดเห็น

น้องตี๋ 20 ก.ค. 51 เวลา 14:45 น. 1

รูปสวยดีอ่ะครับ


ส่วนชาวคริสต์จะเชื่อว่า รุ้งกินน้ำเป็นพันธะสัญญาของพระเป็นเจ้าที่ทรงประทานไว้ว่าจะไม่มีน้ำท่วมโลกเกิดขึ้นอีก

0
ใจตุ๊ด7895 20 ก.ค. 51 เวลา 16:09 น. 2

เรื่องจริงคือรุ้งกินน้ำเป็นซาหลิมสายรุ้งในนิทานของเราเองอ่ะ ประวัติจริงๆคือมีช้างน้อยตัวหนึ่งที่มีฐานะยากจน ด้วยความที่โรงเรียนมีกิจกรรมให้นักเรียนทุกคนนำอาหารมาทานกันในงานของโรงเรียน เจ้าช้างตัวนี้ไม่มีเงินที่จะไปซื้ออาหารดีๆและกลัวเพื่อนในห้องจะดูถูกว่าอาหารที่ตนหามาไม่อร่อย

ความกลัวของเจ้าช้างน้อยตัวนี้เริ่มมากขึ้น เมื่อเพื่อนที่มีฐานะอิจฉาเจ้าช้างน้อยที่ดูจะต่ำต้อยกว่าตน แต่ดันเรียนเก่งกว่าเสียอีก เจ้าเพื่อนรวยแพ้อะไรก็แพ้ได้ มีสิ่งเดียวที่ตนยอมไม่ได้คือเจ้าช้างน้อยยากจนตัวนี้เท่านั้น เจ้ารวยได้โอกาสทำการเยาะเย้ยถากถางเจ้าช้างน้อย

ช้างน้อยรู้สึกเสียใจ จนวันหนึ่งผู้เฒ่าในหมู่บ้านเคยเล่าว่าสมัยเด็กเคยปีนเขาไปเก็บซาหลิมสายรุ้งมาทาน ด้วยวัยที่ใกล้ฝั่งเต็มทน ตนไม่มีแรงเหมือนสมัยก่อนเสียแล้ว ช้างน้อยจึงอาสาและคิดว่าจะนำซาหลิมสายรุ้งไปทานที่โรงเรียนด้วย

เอ๋....ซาหลิมสายรุ้งรสชาดจะเป็นอย่างไรนะ ชักอยากกินบ้างแล้วสิ
----------------------------------------------------------------------------
ตนรู้ล่วงหน้าแห่งชะตากรรม ผมอยากเขียนก็เขียนไม่ได้คิดเอาชนะชะตากรรมและไม่ได้ยอมแพ้ด้วยเช่นเดียวกัน ไม่มีใครบังคับให้ข้าพเจ้าเดินตาม ไม่มี ไม่มีใครนำพา ตนเดินตามที่ตนอยากเดิน

2

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของ

จุน .. 20 ก.ค. 51 เวลา 18:26 น. 4

ยุโรงเรียนเราอะ ตอนวันศุก รร จะชอบ รด น้ามต้นไม้ ที่รถน้ามมันจะใหญ่ เเละทำให้น้ามพุ้งออกมาเยอะ ทำให้เหน สายรุ้งเมื่อ น้ามไปทางไหน สายรุ้งก้อไปยุทางนั้น เหอะๆๆ

0
ploy CH. 22 ก.ค. 51 เวลา 21:13 น. 6

ขอบคุณมากค่ะ พอดีกำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตำนานรุ้งกินน้ำของประเทศต่างๆ อยู่ด้วย :))
ใครมีอีกก็มาเล่าให้ฟังอีกก็ได้นะจ๊ะ
อยากจะลองนั่งเครื่องบินเพื่อดูรุ้งกินน้ำจากบนฟ้าจัง


PS.  เรื่องบังเอิญไม่มีหรอก
0
หม่ำปีโป้ 23 ก.ค. 51 เวลา 14:19 น. 7

ก่อนจะเกิดรุ้งกินน้ำ ค้องเกิดตำนาน นาฬิกาทราย กับ น้ำแข็งก่อน เรื่องมีอยู่ว่า&nbsp นาฬิกาทราย กับ น้ำแข็งเป็นแฟนกัน มีอยู่วันหนึ่ง 2 คนนี้เขาโกรธกัน ต่างคนต่างงอน แต่ด้วยทิฐิที่ทั้ง 2 มี ทำให้ต่างฝ่ายไม่ยอมขอโทษซึ่งกันและกัน ทำให้น้ำแข็งเริ่มละลายไปเรื่อย ๆ และอยู่มาวันหนึงได้เกิดแผ่นดินไหวเกิดขึ้นทำให้พื้นดินทั้งสองฝั่งแยกออกจากกันทำให้น้ำจากน้ำแข็งที่เริ่มละลายไหลลงระหว่างรอยแยกของพื้นดิน และเมื่อนาฬิกาทรายเริ่มรู้ข่าวการแยกของแฝ่นดินไหว นาฬิกาทรายก็เดินทางกลับมาทันที ทำให้เห็นน้ำแข็งละลายหมดแล้ว ก็เลยเสียใจมาก เลยนอนลงให้ทรายจากตัวเองเทลงไปใกล้ ๆ น้ำ ทำให้เกิดตำนาน ทะเล เกิดขึ้น

0
โอมม์ 23 ก.ค. 51 เวลา 21:53 น. 8

ยายเราเคยบอกอ่ะ ตอนเด็กๆ สุดปลายของรุ้งกินน้ำ จะมีขันใส่เหรียญทองอยู่เต็มไปหมด จริงๆ ยายท่านเคยเล่านิทานเต็มๆ ให้ฟังนะ ว่าทำไมเหรียญทองถึงไปอยู่ปลายสายรุ้งได้ แต่เราลืมไปแล้ว เหอๆ ก็จำได้ ขณะที่เล่า เราเดินไปกับยายแล้วก็น้องสาว ว่าจะไปสุดสายรุ้งกัน แต่เดินแล้วก็เดินไปถึงถนนใหญ่ ยายเลยบอกให้กลับบ้าน รถมันเยอะ เดี๋ยวโดนชน ก็เลยไม่ได้เหรียญทองเลย กะว่าจะเอาไปอวดเพื่อน เหอๆ

จนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว คิดถึงท่านเหมือนกัน ไม่ค่อยได้เจอเลย เพราะท่านอยู่ต่างจังหวัด สมัยก่อนท่านมาเยี่ยมปีละครั้งสองครั้ง เอาเรื่องสนุกๆ มาเล่าให้เรากับน้องฟังประจำเลย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้เจอกัน 6 - 7 ปีแล้วมั้ง พูดถึงสายรุ้งแล้วคิดถึงจัง


อ้อ... แล้วเรื่องชี้สายรุ้งแล้วนิ้วกุด เราเคยได้ยินนะ แต่ที่ว่าเอามือเช็ดก้น แก้เคร็ดไม่เคยได้ยิน สมัยเด็กๆ จะไม่กล้าชี้กัน กลัวนิ้วกุด จำได้ มีอยู่ครั้งนึง เพื่อน (ที่อายุมากกว่า) จับมือเราจะเอาไปชี้สายรุ้งให้ได้ เราก็ขัดขืนงอนิ้วสุดๆ ไม่อยากนิ้วกุด ฮาๆๆๆ คิดถึงสมัยก่อนจัง เพื่อนๆ ตอนเด็กก็กระจัดกระจายไปกันหมด (เราเรียนอยู่มหาลัย) มีเราคนเดียวที่ยังอยู่ที่เดิมไม่ย้ายไปไหน

ขอบคุณจขกท. มากที่พูดถึงเรื่องรุ้งกินน้ำ ได้ความทรงจำดีๆ เยอะเลย

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น