เรียนโรงเรียนเอกชนกับรัฐบาลแตกต่างกันยังไง
ตั้งกระทู้ใหม่
TitlE_zA_
4 ส.ค. 51 เวลา 23:05 น.
1,353
views
35 ความคิดเห็น
เอกชน ก็จะได้รับความดูแลใกล้ชิดมากกว่ารัฐบาล
เพราะเอกชนต้องจ่ายเงินแพง ๆ ให้กับ รร.
อาจาร์ยที่สอนก็ต้องได้รับการประเมินการสอนถ้าสอนไม่ดีก็ต้องถูกไล่ออก
ซึ่งรัฐบาลจะใช้เงินหลวง อาจาร์ยบรรจุเป็นข้าราชการแล้ว
อาจาร์ยก็จะไม่ค่อยใส่ใจเด็กเท่าไหร่ (บางคน...)
อีกอย่างช่วงวัยต่างกันมากด้วย (แก่มากมาย หัวโบราณ... อิอิ)
สรุป จะเรียนรัฐ หรือ เอกชนก็ดีเท่ากัน
อยู่ที่ความตั้งใจของผู้เรียนเองมากกว่า
แต่ด้านบริการ เอกชนให้ไป 5 ดาว
เรารร.รัฐบาลแต่จะบอกว่ากฎเข้มงวดจนรรเราได้โล่รางวัลพระราชทานระดับประถมศึกษาขนาดใหญ่ติดต่อกันหลายปีครูรร.เราจะคัดครูที่เก่งมีความสามารถครูจะสอนเข้าใจเข้าถึงเกณพื้นฐาน
เรื่องรัฐบาลกับเอกชน
มันเป็นโรงเรียนๆไป แต่โดยที่คนไทยมอง เอกชนกฎอิสระกว่า
ความจริง เอกชน ก็อิสระน้อยมากๆ โดยเฉพาะหญิงล้วน
ส่วน รัฐบาล ก็ อิสระมากๆ ผู้หญิงซอยผม เชิญ มันไม่ได้ทำให้คุณโง่ลง เลวขึ้น หรือไม่เรียบร้อยซักหน่อย ก็ได้ แต่ถ้ามันทำให้คุณโง่ลง เลวขึ้น ก็โดน
เอกชนที่เข้มวิชาการ ก็เข้มจริง รัฐบาลที่ไม่เข้มก็ไม่เข้มจริง็
แล้วเรื่องค่าเทอม ของรัฐบาล ไม่รู้ไม่เคยเรียน
ค่าเทอมของเอกชน ก็ ไม่รู้
ที่เรียนก็ของสาธิต เราเรียน พอๆกับของเอกชนของน้อง(แพงกว่าอีก) ถ้าเส้นเข้ามาก็ล่อไปปีเป็นแสน แล้วก็ต้องบริจาคให้โรงเรียนอีกที่เส้นได
แต่ไม่เท่าบาง ที่ๆล่อไปหลายแสนอยู่
อาจารย์ที่สอนรัฐบาล ไล่ออกไม่ได้ เดี๋ยวเค้าก้เส้นเข้ามาอีกได้
แต่ปกติรัฐบาลค่าเทอมถูกสุด
จากนั้นก็เกาะกลุ่ม เอกชน สาธิต นานาชาติ ที่เหลื่อมๆกัน แต่นานาชาติจะมี Min สูงกว่าเค้า แต่Max พอๆกัน้
บางครั้งนอกจากเข้มงวดเรื่องกฎจนดูไร้สาระแล้วการเรียนการสอนยังอ่อนด้วย -___-;;
เอกชนดีกว่าค่ะ
เพราะว่าครูสอนเต็มที่มากๆ
มีกิจกรรมหนุกๆด้วย
โดยเฉพาะช่วงเทศกาลคริสต์มาสและซัมเมอร์ช่วงสงกรานต์
เรียนสนุกความรู้เพียบ
แต่เสียอย่างเดียวคือกฎเยอะมากๆครูเข้มงวดจริงๆ
แก็มีความสุขที่ได้เรียน
แล้วการไปส่งลูกไปโรงเรียน มีกฎหมายส่วนไหนห้ามผู้ปกครองใส่สั้นไม๊ค่ะ แบบกางเกงขาสั้นค่ะ
แล้วแต่โรงเรียนค่ะ สาธิต เกษตร จุฬา ประสานมิตร ปทุมวัน จะมีแนวการสอนเฉพาะ แม้จะเป็นโรงเรียนรัฐบาล แต่วิชาการไม่เข้ม ยกเว้นปทุมวัน สาธิตส่วนใหญ่เรียนแบบเน้นให้เด็กมีความสุขค่ะ
ช่วยบอกหน่อยว่าโรงเรยนรัฐบาลัับเอกชนอันไหนเข้มกว่ากัน
Buildings are not very cheap and not everyone is able to buy it. But, <a href="http://goodfinance-blog.com/topics/home-loans">home loans</a> are created to aid people in such kind of cases.
รัฐบาล จะมีคาบว่างซอยผมได้ไม่เน้นกิจกรรม
แต่เอกชน ไม่มีเลยเรียนตลอดอย่าคิดว่าเรียนเอกชนจะสบายโคตรเหนื่อยเลยล่ะค่ะการบ้านเยอะจัดแต่กิจกรรมก็สนุกมาก
เอกชนคุณครูพูดจาดีแต่ไม่ได้หมายถึงว่าจะไม่ดุนะคะคุณครูสอนดีมีความเอาใจใส่เพราะว่าเค้ารับเงินเราไปแล้วต้องทำให้ดีที่สุด ไม่เช่นจะถูกประเมินให้ลาออกไปในที่สุดส่วนรัฐบาลบางคนก็ไม่ใส่ใจเด็กใครจะเป็นยังไงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของครูเพราะครูของโรงเรียนรัฐบาลได้รับเงินเดือนจากรัฐบาลไงคะเขาอาจจะคิดว่าเขาไม่ได้รับเงินจากผู้ปกครองของนักเรียนเลยไม่ค่อยจะใส่ใจสักเท่าไรแต่เรื่องวิชาการต้องยกนิ้วให้รัฐบาลเลยค่ะถึงจะเป็นโรงเรียนวัดโรงเรียนอะไรก็ตามนะคะแต่เรื่องวิชาการเขาแน่นจริงๆค่ะ ส่วนเอกชนวิชาการก็ถึงขั้นดีเลยค่ะแล้วก็การบริการนี่คือหัวใจหลักของเขาเลยค่ะถ้าคนสังเกตนะคะจะทราบว่าเวลาพานักเรียนไปสมัครเรียนแทบจะอุ้มเข้าไปเลยค่ะ แต่ว่าจะให้ตัดสินก็ถือว่าเสมอกันเลยนะคะสำหรับใครที่กำลังจะตัดสินใจก็ลองกลับไปคิดดูก่อนนะคะขึ้นอยู่กับการตัดสินของแต่ละบุคคลค่ะ เพราะเคยมีประสบการณ์อยู่เยอะค่ะถ้ายังลังเลก็ลองปรึกษาโรงเรียนต่างๆดูนะคะ
PS. อิอิ add เยอะๆ นะจร๊
เราเคยเรียนทั้งสองเลย
เอกชน-ค่าเทอมแพง แต่ที่เสียไปคุ้มกับที่ได้มา ครูสอนเต็มที่เพราะถ้าไม่ดีจะประเมินไม่ผ่าน ได้ออกก็มี มีปัญหาอะไรปรึกษาครูได้หมดครูช่วยเราเสมอ แต่กฎเยอะมันจะสอนให้เราเป็นคนเอง ข้อเสียตรงที่คุณหนูไปหน่อย ไม่ค่อยได้เจอสังคมแย่ๆ เวลาไปเจอกับอะไรข้างนอกจะปรับตัวยาก
รัฐบาล-ไม่มีค่าเทอม ครูไม่ใส่ใจเพราะสอนยังไงก็ได้ตังอยู่ดี เน้นกิจกรรม แต่จะทำให้เราได้ประสบการณ์ จบมหาลัยไปทำงานเราก็จะปรับตัวง่าย สังคมมีทุกรูปแบบตั้งแต่รากหญ้าจนไปถึงสวรรค์ชั้นหก ต้องเลือกคบเพื่อน
สุดท้ายมันก็อยู่ที่คนเรียนนั่นแหละว่าจะตั้งใจแค่ไหน
ใช่ค่ะๆเห็นด้วย
ใช้รัฐไม่มีค่าเทอมมีแต่ค่าบำรุงโรงเรียนอะไรเนี้ยแหละ
อาจารย์ที่นั่งเก็บเงินบอกว่าผอ. (โรงเรียนเรา) ให้จ่ายค่าน้ำค่าไฟด้วย (ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่มี เหอะๆ)
แล้วในบิลมีเขียนบอกอยู่รายการเดียวคือค่าบำรุงโรงเรียน - -''
ทั้งแม่ทั้งเพื่อนแม่เจอทีเงิบเลย ฮาฮาฮา
เราอยากเรียนเอกชน แต่เหมือนพ่อแม่จะไม่เข้าใจ
เราอยากเรียนรัฐบาล แต่พ่อแม่ไม่อนุญาตเลย
อย่าโทษพ่อแม่ไม่เข้าใจ ค่าเทอมเอกชนมันแพง
ถ้าตั้งใจเรียนตั้งใจอ่าน ก็ดีเหมือนกันหมดแหละ
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่การทำตัว
เราอยู่ทั้ง2ที่เลย ตอนอนุบาลอยู่เอกชนพอจะขึ้นป.1 มีอยู่วันนึงพ่อเราถามเราว่า ลูกจะเข้าร.ร.ใหม่หรือจะอยู่ที่เดิม ตอนนั้นเราเด็กมากไม่ค่อยรู้อะไร รู้แต่ว่าของใหม่ดีกว่าของเก่า เราตอบพ่อไปว่าร.ร.ใหม่ พอดีเพื่อนพ่อเค้ามีเพื่อนเป็นผู้ช่วยครูใหญ่ เพื่อนพ่อบอกให้ลองไปสอบดู เด็กมาสอบเยอะมาก ผลปรากฏว่าสอบใด้ป.1-6ป.ละ4ห้องส่วนพี่เราอยู่ร.ร.เดิมอิจฉาจริงๆ เท่าที่เรียนมาทั้ง2แตกต่างกันมาก ตอนอยู่รัฐสวัสดิการดีมาก มีหมอมาตรวจสุขภาพทุกๆปี ตรวจทุกอย่างใครมีปัญหาตรงใหญ่ถูกแก่ไขทันที ใครสายตาไม่ดีก็ตัดแว่น ใครฟันผุก็ถอน เราถูกถอนไป1ซี ร.ร.ที่เราอยู่เป็นร.ร.เทศบาลค่ะ ได้กินนมทุกวัน ช่วงปิดเทอมร.ร.จะแจกนมให้เด็กเอากลับบ้านคนละ1-2ลัง ถ้าใครที่บ้านถ้านะอยากจนจะได้เรียนฟรี แจกเสื้อผ้าอุปกรณ์การเรียนอาหารกลางวันฟรี พอจบป.6ไปอยู่ร.ร.เอกชนเดิมมีอนุบาล-มัธยม โอ้วแม่จ้าวทำไมมันชังต่างกันจริงๆ เราคิดผิดหรือคิดถูกที่ย้ายร.ร. ร.ร.คุณหนูชัดๆหรูหราสะอาดสะอ้านมากบริเวณร.ร.มีสนามฟุสบอล สวนหย่อมน้ำตกและเครื่องเล่นสารพัด มีโบสถ์ด้วยเป็นร.ร.คริตส์ตึกประถมกับมัธยมจะแยกกัน ขนาดอยู่มัธยมยังมีเครื่องเล่นอีกงะเด็กร.ร.นี้จะเก่งภาษากันมากเพราะเป็นร.ร2ภาษามีครูเจ้าของภาษามาสอนด้วย มันไม่้้หมือนร.ร.รัฐเลยเครื่องเล่นก็น้อยชิ้นอีพังแหล่ไม่พังแหล่ร.ร.ทั้งเก่าทั้งโทรมสกปรกโดยเฉพาะห้องน้ำ ลูกบิดเสียส้วมก็ไม่ราดขี้เต็มส้วมโรงครัวก็สกปรกเหม็นอับชื้นขยะเต็มทั้งร.ร.อาหารก็ห่วยแตกทำต้มจืดมีแต่คอไก่ เนื้อไก่ไม่มีปีกกับน่องไม่ต้องพูดถึงอาหารก็จำเจเสียเงินดายเงินค้าข้าวขนาดครูยังบอกว่าไม่อะร่อยเลยครูบ้างคนยังไม่กินเลยเอาข้าวมาเองจากบ้าน เอกชนร.ร.ก็เก่านะแต่เก่าสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยสังคมในร.ร.นะมีแต่ลูกคนมีเงินมีตั้งแต่ลูกขาราชการไปจน-ลูกเจ้าของโรงงาน ใครมีอะไรก็เอามาอวดกันแต่เด็กตั้งใจเรียนกันทั้งนั้นนิสัยดีด้วย ส่วนเรื่องอาหารอหร่อยมาขอบอกกับข้าวไม่ซ่ำกันเลยเนื้อมาเป็นเนื้อปีกมาเป็นปีกน่องมาเป็นน้อง ไม่เหมือนรัฐเด็กเกเรไม่ตั้งใจเรียนแถมด่าครูอีกต่างหางเวลาเล่นก็เล่นกันแรงๆจับหน้าอกผู้หญิง ล่อชื่อพ่อชื่อแม่ใช้ภาษาพ่อขุนรามคำแหงจับกลุ่มเล่นไพ่ปาดินน้ามัน พาแมลงเขาควายมาเลี้ยงที่ร.ร.ตอนนั้นน.ร.ชายฮิตกันมากแถมแอบสูบบุหรี่ด้วย ส่วนน.ร.หญิงโดดหนังยางกับหมากเก็บ. จบ
ผมเรียน รัฐ เเต่สำหหรับผมผมว่า เอกชน ดีกว่า ในเรื่องของกฏ
1.ทรงผม รัฐบาล ขาวสามด้าน(โดนตบหัวทุกวัน)
เอชน รองทรงสูงต่ำได้หมด
2.กางเกง รัฐบาล เลยเข่ามานิดเดียวโดนเลาะโดนให้ไปซือใหม่
เอกชน สั้นยังไงก็ได้
3.เครื่่องประดับ รัฐบาล *ที่ใส่ไม่ได้ ริปเเบน,เเหวน,เจาะหู
เอกชน จะใส่็ใส่
4.การสอน จากที่เราเคยเรียนมาทั้งสองอย่างนะเราว่ารัฐบาลเขาสอนเเน่นกว่าเอกชน เอกชนเขาเเบบว่าสอนไม่เเน่นเท่ารัฐบาล
5.กระเป๋า รัฐบาล ต้องใช้กระเป๋ารร.ถ้าจะใช้เคียงต้องเอากระเป๋ารร.มาด้วย(รร.เรานะ)
เอกชน ระเป๋าไรก็ได้เเล้วเเต่
อันนี้ความเห็นของเรานะ.
อยากจะบอกว่ารร.เราเอกชน ญ ล้วน โหดมาก กฎโคตรเยอะ กระโปรงต้องเท่านี้สั้นไปใส่ผ้าถุงนะ ถักผมหย่อนไปถักใหม่ วิชาการก็แน่นนะ
ตอนประถมกับรัฐบาลเราเรียนคนละที่กันจะมาอธิบายให้ฟังละกัน
เอกชนตอนประถม
1.มารร.กี่โมง ก็ได้
2.ทำผมทรงไรก็ได้ แต่ห้ามปล่อย
3.กฎระเบียบไม่ค่อนซีเรียสนะ เพราะเห็นว่าเป็นประถมมั้ง รร.นี้มีแค่เนอสเซอรี่-ประถม
4.กิจกรรมก็เยอะในระดับนึง
เอกชนตอนมัธยม
1.มารร.ก่อน7.45 น.
2.กฎเยอะและเป๊ะมากตั้งแต่ผมจรดปลายเท้า
3.มีกิจกรรมให้เด็กได้เล่นเยอะ
4.โชว์ความสามารถพิเศษ เช่น ยิมนาสติก เต้นโคฟเวอร์ นักยิมนาสติกตอนนี้ไปแข่งต่างประเทศบ่อยมากรร.สนับสนุน
5.ครูสนใจเด็กมาก ในทุกด้านกีฬา อาหาร การเรียน
6.วิชาการอัดแน่นมากม.ปลายเรียน 9 คาบ ตั้งแต่ 8.30-5.00
7.สอบเยอะรร.อื่นสอบแค่ 2 ตรั้งใน 1 เทอม
คือกลางภาคกับปลายภาค เราสอบย่อยออกมาอีก เราสอบสี่ครั้ง 1เทอมมี4เดือน เราเรียนได้หนึ่งเดือนก็สอบอีก บางครั้ง 3 อาทิดสอบ คะแนนของเก่ายังไม่ออกสอบอีกละ
ส่วนของรร.รัฐเราไม่รู้นะ5555 ไม่เคยเรียน
จริง555
ถ้าให้เลือกจะเรียนเอกชนนะค่ะ ที่เลือกเอกชนไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่ดีนะแต่ในความคิด
-เอกชนจะมีการให้นักศึกษาประเมินการเรียนการสอนของอาจารย์ในแต่ละวิชา อาจารย์จึงดูแลและเต็มที่ในการสอน
-เอกชนค่าเทอมสูงแต่คุ้มค่า ไม่ว่าจะะเป็นการบริการ เทคโนโลยีในการศึกษา หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
-เอกชนอาจจะทฤษฎีไม่แน่นเท่ารัฐ(ในความคิด) แต่เอกชนจะเน้นในเรื่องของการลงมือปฏิบัติ โดยมีอุปกรณืที่ครบครัน(อาจจะเป็นที่มาของค่าเทอมสูง)
-เอกชนจะมีการจัดโปรเจคให้นักศึกษาได้ทำ มีกิจกรรมให้เข้าร่วม หรือมีการแข่งขัน เพื่อให้นักศึกษาได้มีประสบการณ์และเป็นการโปรโมทมหาลัยด้วยจึงเป็นประโยชน์กับทางมหาลัยและนักศึกษาทั้ง 2 ฝ่าย
-เอกชนในแต่ละห้องเรียนจะมีจำนวนนักศึกษาในแต่ละเซคน้อย จึงทำให้เข้าถึงในหลักสูตรได้ง่ายกว่ารัฐที่มีจำนวนนักศึกษาเยอะ
ปล.ประโยคข้างต้นเป็นความเห็นส่วนตัว ตอนนี้ได้ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง(เอกชน)และได้สัมผัสของการเรียนการสอนด้วยตนเอง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวของนักศึกษาด้วย แต่ในความเห็นคิดว่าเอกชนในเรื่องของอุปกรณ์การศึกษาน่าจะดีกว่า
ส่วนตัวเคยเรียนประถมเอกชน มัธยมต้นเอกชน มัธยมปลายรัฐบาล(มีชื่อเสียง) และต่อมัธยมเกรด12( ม.6) ที่อเมริกา (รัฐบาล) กลับมาเรียน ป.ตรี ป.โท. เอกชน ปัจจุบันเรียนเพิ่มหาความรู้ที่สนใจ ที่มหาลัยรัฐบาล ( มสธ.)
และยังเคยสอนที่ มหาลัยเอกชนในช่วงสั้นๆ และเป็นวิทยากรพิเศษในอาชีวะรัฐบาล
ในใจตอนนี้คิดว่า หากเลือกรร.รัฐบาลที่ดีหน่อย ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าเอกชน ให้เปลืองเงินพ่อแม่ก็ได้ แถมการศึกษารัฐาลที่ไม่เน้นวิชาการจัดเกินไปแบบเอกชน มีกิจกรรมเยอะๆ ทำให้นักเรียนมีอีคิวดีกว่าอีกด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูคุณภาพของผู้สอนเป็นหลัก(จะรู้ได้ไงล่ะ)
เด็กรร.เอกชน แน่นอนเขาจะอ่าน เขียน พูด ภาษา การแข่งขัน เก่งและเร็วกว่า เด็กรร.รัฐบาล แต่มันอาจจะไม่ได้จำเป็นที่ต้องเร็ว หรือ เหนื่อยขนาดนั้นนะ (แต่สภาพสังคมไทยบังคับให้จำเป็น หากจะได้งานดีๆ)
รร.รัฐบาลที่อเมริกา สอนการเป็นผู้ใหญ่ เน้นกิจกรรมเยอะ นักเรียนทุกคนต้องเป็นนักกีฬาซักอย่างหรือไม่ก็เน้นกิจกรรมแข่งขันระหว่างโรงเรียนอย่างใดอย่างหนึ่ง การศึกษาในนิยามของเขาคือพื้นฐานเฉยๆ พออายุ16 จะไขว่คว้าทำใบขับขี่ หางานพิเศษทำในร้านฟ้าสฟูดแทบทุกคน ผมไปเรียนนี่ ได้คะแนนคณิตศาสตร์ท๊อปห้องเฉยเลย (อยู่ที่ไทยเรียนกลางๆ) ความคิดความอ่านเทียบเท่ากับเด็กป.ตรีบ้านเรา
คือเราอยากรู้ว่าถ้าเราเรียน ม.ปลายของเอกชน แล้วถ้าจะไปสอบเข้ามหาลัยของรัฐบาลจะยากไหมค่ะ? คือตอนนี้เรายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเรียนโรงเรียนรัฐบาลหรือเอกชน กลัวไปต่อเอกชนแล้วจะเข้ามหาลัยรัฐยาก คือถ้าเราจะเข้ามหาลัยเอกชนมันแพง บ้านเราฐานะปานกลางอ่ะค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?