ชนบทดีกว่าเมืองอย่างไร ตั้งกระทู้ใหม่ ตั้งกระทู้ใหม่ ช่วยคิดหน่อยสิค่ะ ว่าสังคมชนบทดีกว่าสังคมเมืองอย่างไร หาข้อมูลไม่ค่อยมีเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ jjjj 20 ส.ค. 51 เวลา 23:31 น. 0 like 2,502 views Facebook Twitter รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คน
=- w -=เหมียวน้อย =- w -= 21 ส.ค. 51 เวลา 08:49 น. 1 ก็ต้องเงีบยสงบและร่มเย็นน่ะสิขอรับ PS. วิถีนักรบ..คือ..การยอมรับที่จะตายโดยไม่บิดพริ้ว..แต่ก็ยังหมายถึงความตายที่ได้เลือก คือเลือกที่จะเป็นหรือตาย..มันก็เวียนวนอยู่เรื่อยไปเช่นนี้แล จงยอมรับและสู้ฟาดฟัน...>>ซามูไรสองเงา 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ท็อป 21 ส.ค. 51 เวลา 10:55 น. 2 ก็อากาศดีกว่ามีความสงบมากกว่า ขโมยขโจรก็น้อยกว่า ถ้าเป็นจังหวัดที่ไม่ได้เป็นหัวเมืองใหญ่ค่าครองชีพของกินจะถูกครับ แต่มองอีกด้านกรุงเทพก็ยังดีกว่าในบางเรื่องแต่ให้ผมเลือกผมชอบกึ่งเมืองกึ่งชนบทครับแบบฝั่งธน นครปฐม เมืองนนท์อ่ะครับ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
เด็กเมือง 21 ส.ค. 51 เวลา 11:27 น. 3 ชนบท รุจักกันหมด ทักทายยิ้มเเย้มเเจ่มใส ช่วยเหลือกัน ในเมือง บ้านอยุ่ติดกันยังไม่รุจักกันเลย ปิดบ้านตัวคัยตัวมันกันหมด เซ็ง งงง 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
กวาว 13 พ.ย. 51 เวลา 18:52 น. 5 ชนบทนะอากาศดีแถมยังเป็นอิสระด้วย 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
รียา สุนทรพงษ์ 19 มิ.ย. 52 เวลา 14:43 น. 6 "รียา" วก.กภ ไม่จริงหรอก  เราอ่ะนะ  เป็นฝ่ายค้าน  ด้วยญัตติที่ว่า  ชนบทดีกว่าเมืองกรุง แค่ชื่ออ่ะ ก็รู้แล้ว แต่เราอยากรู้นักนะว่ามันจะดีกว่ากันได้อย่างไร  ยังไง ๆ  เมืองกรุงก็ดีกว่าชนบทอยู่แล้วทั้งเรื่องของ การศึกษา  การคมนาคม  การอยู่อาศัย  สถานที่ท่องเที่ยว  สาธารณูปโภค  หรือเรียกได้ว่า  เมืองกรุงเป็นทุกอย่างของชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะเมืองกรุงก็คล้ายๆ กับปัจจัยสี่ของมนุษย์นั่นแหละ  ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ตาม  อะไรๆ ก็สะดวกสบายไปหมด  เพื่อนๆ ว่าจริงมั๊ยล่ะค่ะ  แถมไอที่ว่า ชนบทอากาศดีกว่า  บรรยากาศดีกว่า เป็นธรรมชาติกว่าอีกเยอะ  ดิฉันขอถามหน่อยเถอะ  ว่าไอที่บรรยากาศดีกว่าหนะนะ  ก็เป็นเพราะว่าเศรษฐกิจของคุณ  การเงินต่างๆ ของคุณ  เทคโนโลยีต่างๆ ของคุณ มันยังเข้าไม่ทั่วถึงพอต่างหาก  อากาศ  มลภาวะต่างๆ อ่ะนะ  มันก็เกิดมาจากการเผาไร่ เผานาของพวกคุณๆ ทั้งนั้น  และที่สำคัญ ถ้าหากว่ามันไม่ดีจริง ทำไมพวกคุณถึงอยากจะพัฒนาให้ดีขึ้น อยากจะมีรถให้มากขึ้น อยากจะทำถนน ทำโน้นทำนี่ให้มันดีขึ้นหล่ะ  ทำไมพวกขึ้นไม่ไปเอาหญ้ามาปูพื้นแทนยางมะตอยไปเลยหล่ะ  จะพัฒนาไปเพื่ออะไร ดิฉันขอถามหน่อย  เอาหล่ะ  แค่นี้ก่อน ของดีมีไว้โชว์ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
สปิริต 30 พ.ค. 53 เวลา 21:25 น. 7 งั้นขอเป็นฝ่ายเสนอ คุณอย่าลืมสมัยก่อน มนุษย์เรายังอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติได้อย่างสบายๆๆไม่มีภัยธรรมชาติมาเบียดเบียนเหมือนสมัยนี้ถามจิงถ้าเกิดคุณสร้างบ้าน หลังแรก ก็จะมีหลังอื่นๆตามมา พอมีบ้านได้มากกว่า 10 หลังขึ้นไป ก็จะเริ่มสร้างถนน พอได้สร้างถนน รถยนตร์ก็เริ่มวิ่งเข้ามาในพื้นที่นั้น แล้วคุณคิดว่าที่โลกเราร้อนอยู่ในปัจจุบันนี้ เพราะใคร หือ แล้วบ้านเนี่ยส่วนประกอบส่วนใหญ่ไม่ได้เอามาจากธรรมชาติหรือ งั้นขอเสนอว่าคุณเคยเห็นตัวตะขาบในบ้านไหม ในห้องน้ำอะ บ้านของคุณอะมันอาจจะเคยเป็นที่อยู่ของสัตว์อีกมากมายมาก่อน็ได้ เพราะมนุษย์เรารู้จักแต่คำว่าได้ แต่กลับคำว่าให้ไม่เคยมีและอีกอย่างคือ ในหลวงก็เชียร์ให้อยู่อย่างเศรษฐกิจพอเพียง เพราะมันทำให้มนุษย์เรารู้จักคำว่า พอและอีกอย่าง(สุดท้าย)(มั้ง) คุณรู้ไหมว่าประเทศไทยอะ ที่เรามีกินมีใช้อยู่นี่ เศรษฐกิจอะขับเคลื่อนด้วยอะไร ส่วนอะที่เรามีกินมีใช้อยู่นี่ไม่ใช่เงินจากการทำเกษตรกรรมของกลุ่มชาวชนบทเหรอแล้วก็การศึกษา หรือสารูบริโภคนี่ มันจะเอาไรนักหนา หือ ปกติคนชาวชนบทก็ตื่นเช้ากินค่ำ ตื่น แปรงฟัน อาบน้ำ กินข้าว ทำงาน กินข้าว ทำงาน อาบน้ำ กินข้าว แปรงฟัน อาบน้ำนอน ไม่เหนมีไรมากเหมือนคน เมืองต้องเสียตังทุกวันไม่ว่าจะทำไร จะเดินก็ต้อองเดินในห้างมันเย็น ดูของที่ล่อตาล่อใจให้เกิดกิเลสเล่น พอเหอะ เมืองก็ดีที่การศึกษาดี แต่อากาศ ออกจะโคตรเลวร้ายไปนิด1(โคตรเยอะ) คนกรุงเทพอะที่เปนโรคกันมากที่สุดคงเป็น มะเร็ง แต่รองลงมาน่าจะเป็นมะเร็งปอด ไว้ค่อยอธิบาย 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
อรทัย 15 ก.ค. 53 เวลา 15:42 น. 8 ยังไงชนบทก็ต้องดีกว่าอยู่แล้วเพราะมีอากาศที่ร่มรื่นกว่าเยอะเลย 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
VeNuS 16 พ.ย. 53 เวลา 18:39 น. 9 อยากบอกว่าในเมืองเป็นศูนย์รวมของความเจริญ    แล้วชนบทที่ว่ากำลังจะเจริญน่ะก็เป็นผลพลอยได้ของความคิดของคนที่อยู่ในเมือง ซึ่งมีความคิดที่จะช่วยพัฒนาชนบทให้ดีขึ้นเพื่อจุดมุ่งหมายในการพัฒนาประเทศ และการที่จะพัฒนาชนบทได้ก็ต้องอาศัยความรู้และความสามารถของคนในเมืองที่ได้รับการพัฒนาและฝึกฝนอย่างดีและกลุ่มคนเหล่านี้ก็ไขว่คว้าหาความเจริญโดยการที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองกรุงที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีกว่า สิ่งมีชีวิตที่หน้าตาดีกว่า  ผู้ชายที่หล่อกว่า และผู้หญิงที่น่ารักกว่าและความสะดวกสบายที่ต้องการ  ซึ่งทำให้คนส่วนมากในหลายๆคนต้องการที่จะอยู่ในเมืองกรุงดีกว่าอยู่ในชนบท 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
bee 1 ธ.ค. 53 เวลา 18:01 น. 10 ชนบทดีอย่างไรเหรอ  ใครตอบได้ ให้100สตางค์  55++ เค้าว่าชนบทดีออกนะ อากาศดี ต้นไม้เยอะ  เย็นสบาย สงบ ไม่มีสิ่งรบกวนจิตใจ ไม่มีเสียงรถวิ่งไปมา โอ้นี้เเหละสวรรค์... 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
phone 30 มิ.ย. 54 เวลา 18:13 น. 11 ว้าว ขอความเห็นเกี่ยวกับชุมชนชนบทดีกว่าชุมชนเมืองหน่อยค่ะ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
NeMoN 3 ก.ย. 55 เวลา 20:58 น. 12 1.ปกติคนชาวชนบทก็ตื่นเช้ากินค่ำ ตื่น แปรงฟัน อาบน้ำ กินข้าว ทำงาน กินข้าว ทำงาน อาบน้ำ กินข้าว แปรงฟัน อาบน้ำนอน  ไม่เหนมีไรมากเหมือนคน เมืองต้องเสียตังทุกวันไม่ว่าจะทำไร  จะเดินก็ต้อองเดินในห้างมันเย็น  ดูของที่ล่อตาล่อใจให้เกิดกิเลสเล่น 2.ชนบทดีกว่าในเมืองตรงที่ส่วนใหญ่คนในชนบทจะสุขภาพร่างกายดีกว่าคนในเมืองจะไม่ค่อยเจ็ยไข้ได้ป่วยแต่คนในเมืองได้รับสารพิษมากจึงทำไห้ภูมิต้านทานอ่อนแอ เป็นทั้งภูมิแพ้ ร้ายแรงอาจเป็นมะเร็งปอดเพราะมลพิษในเมือง 3.ชนบทเป็นสถานที่ๆสงบ ร่มเย็น และสบาย อากาศแทบไม่มีมลพิษเลยต่างจากในเมืองมากเพราะมลพิษมีมากมายทำไห้อากาศไม่บริสุทธิ์หายใจมากก็นำมลพิษเข้าไปในร่างกายมาก 4.คนในชนบทส่วนใหญ่ยิ้มแย้มไห้กันเสมอมีอะไรก็แบ่งปันกันไม่เหมือนคนในเมืองที่ส่วนมากแบ่งปันกันแต่ในเครือญาติของตนเองไม่ค่อยจะแบ่งปันไห้คนอื่นสักเท่าไหร่นัก 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ฝึกงานที่ญี่ปุ่นกันมั้ย? ทุน ‘METI Japan Internship 2024’ สำหรับคนไทยอายุ 18-40 ปี เปิดรับสมัครแล้ว! Studyabroad
ม.มหิดล ปรับจำนวนรับ Admission แล้ว! เพิ่มอีก 743 ที่นั่ง รวมเป็น 2,207 ที่นั่ง TCAS/รับตรง/แอดมิชชั่น
14 ความคิดเห็น
ก็ต้องเงีบยสงบและร่มเย็นน่ะสิขอรับ
PS. วิถีนักรบ..คือ..การยอมรับที่จะตายโดยไม่บิดพริ้ว..แต่ก็ยังหมายถึงความตายที่ได้เลือก คือเลือกที่จะเป็นหรือตาย..มันก็เวียนวนอยู่เรื่อยไปเช่นนี้แล จงยอมรับและสู้ฟาดฟัน...>>ซามูไรสองเงา
ก็อากาศดีกว่ามีความสงบมากกว่า ขโมยขโจรก็น้อยกว่า ถ้าเป็นจังหวัดที่ไม่ได้เป็นหัวเมืองใหญ่ค่าครองชีพของกินจะถูกครับ
แต่มองอีกด้านกรุงเทพก็ยังดีกว่าในบางเรื่องแต่ให้ผมเลือกผมชอบกึ่งเมืองกึ่งชนบทครับแบบฝั่งธน นครปฐม เมืองนนท์อ่ะครับ
ชนบท รุจักกันหมด ทักทายยิ้มเเย้มเเจ่มใส ช่วยเหลือกัน
ในเมือง บ้านอยุ่ติดกันยังไม่รุจักกันเลย
ปิดบ้านตัวคัยตัวมันกันหมด
เซ็ง งงง
ดีกว่าทุกอย่าง!!!!!!!!
ชนบทนะอากาศดีแถมยังเป็นอิสระด้วย
"รียา" วก.กภ
ไม่จริงหรอก  เราอ่ะนะ  เป็นฝ่ายค้าน  ด้วยญัตติที่ว่า  ชนบทดีกว่าเมืองกรุง
แค่ชื่ออ่ะ ก็รู้แล้ว แต่เราอยากรู้นักนะว่ามันจะดีกว่ากันได้อย่างไร  ยังไง ๆ  เมืองกรุงก็ดีกว่าชนบทอยู่แล้วทั้งเรื่องของ การศึกษา  การคมนาคม  การอยู่อาศัย  สถานที่ท่องเที่ยว  สาธารณูปโภค  หรือเรียกได้ว่า  เมืองกรุงเป็นทุกอย่างของชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะเมืองกรุงก็คล้ายๆ กับปัจจัยสี่ของมนุษย์นั่นแหละ  ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ตาม  อะไรๆ ก็สะดวกสบายไปหมด  เพื่อนๆ ว่าจริงมั๊ยล่ะค่ะ  แถมไอที่ว่า ชนบทอากาศดีกว่า  บรรยากาศดีกว่า เป็นธรรมชาติกว่าอีกเยอะ  ดิฉันขอถามหน่อยเถอะ  ว่าไอที่บรรยากาศดีกว่าหนะนะ  ก็เป็นเพราะว่าเศรษฐกิจของคุณ  การเงินต่างๆ ของคุณ  เทคโนโลยีต่างๆ ของคุณ มันยังเข้าไม่ทั่วถึงพอต่างหาก  อากาศ  มลภาวะต่างๆ อ่ะนะ  มันก็เกิดมาจากการเผาไร่ เผานาของพวกคุณๆ ทั้งนั้น  และที่สำคัญ ถ้าหากว่ามันไม่ดีจริง ทำไมพวกคุณถึงอยากจะพัฒนาให้ดีขึ้น อยากจะมีรถให้มากขึ้น อยากจะทำถนน ทำโน้นทำนี่ให้มันดีขึ้นหล่ะ  ทำไมพวกขึ้นไม่ไปเอาหญ้ามาปูพื้นแทนยางมะตอยไปเลยหล่ะ  จะพัฒนาไปเพื่ออะไร ดิฉันขอถามหน่อย  เอาหล่ะ  แค่นี้ก่อน ของดีมีไว้โชว์
งั้นขอเป็นฝ่ายเสนอ
คุณอย่าลืมสมัยก่อน มนุษย์เรายังอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติได้อย่างสบายๆๆไม่มีภัยธรรมชาติมาเบียดเบียนเหมือนสมัยนี้
ถามจิงถ้าเกิดคุณสร้างบ้าน หลังแรก ก็จะมีหลังอื่นๆตามมา พอมีบ้านได้มากกว่า 10 หลังขึ้นไป ก็จะเริ่มสร้างถนน พอได้สร้างถนน รถยนตร์ก็เริ่มวิ่งเข้ามาในพื้นที่นั้น แล้วคุณคิดว่าที่โลกเราร้อนอยู่ในปัจจุบันนี้ เพราะใคร หือ แล้วบ้านเนี่ยส่วนประกอบส่วนใหญ่ไม่ได้เอามาจากธรรมชาติหรือ
งั้นขอเสนอว่า
คุณเคยเห็นตัวตะขาบในบ้านไหม ในห้องน้ำอะ บ้านของคุณอะมันอาจจะเคยเป็นที่อยู่ของสัตว์อีกมากมายมาก่อน็ได้ เพราะมนุษย์เรารู้จักแต่คำว่าได้ แต่กลับคำว่าให้ไม่เคยมี
และอีกอย่างคือ ในหลวงก็เชียร์ให้อยู่อย่างเศรษฐกิจพอเพียง เพราะมันทำให้มนุษย์เรารู้จักคำว่า พอ
และอีกอย่าง(สุดท้าย)(มั้ง) คุณรู้ไหมว่าประเทศไทยอะ ที่เรามีกินมีใช้อยู่นี่ เศรษฐกิจอะขับเคลื่อนด้วยอะไร ส่วนอะที่เรามีกินมีใช้อยู่นี่ไม่ใช่เงินจากการทำเกษตรกรรมของกลุ่มชาวชนบทเหรอ
แล้วก็การศึกษา หรือสารูบริโภคนี่ มันจะเอาไรนักหนา หือ ปกติคนชาวชนบทก็ตื่นเช้ากินค่ำ ตื่น แปรงฟัน อาบน้ำ กินข้าว ทำงาน กินข้าว ทำงาน อาบน้ำ กินข้าว แปรงฟัน อาบน้ำนอน ไม่เหนมีไรมากเหมือนคน เมืองต้องเสียตังทุกวันไม่ว่าจะทำไร จะเดินก็ต้อองเดินในห้างมันเย็น ดูของที่ล่อตาล่อใจให้เกิดกิเลสเล่น พอเหอะ
เมืองก็ดีที่การศึกษาดี แต่อากาศ ออกจะโคตรเลวร้ายไปนิด1(โคตรเยอะ) คนกรุงเทพอะที่เปนโรคกันมากที่สุดคงเป็น มะเร็ง แต่รองลงมาน่าจะเป็นมะเร็งปอด ไว้ค่อยอธิบาย
ยังไงชนบทก็ต้องดีกว่าอยู่แล้วเพราะมีอากาศที่ร่มรื่นกว่าเยอะเลย
อยากบอกว่าในเมืองเป็นศูนย์รวมของความเจริญ   
แล้วชนบทที่ว่ากำลังจะเจริญน่ะก็เป็นผลพลอยได้ของความคิดของคนที่อยู่ในเมือง
ซึ่งมีความคิดที่จะช่วยพัฒนาชนบทให้ดีขึ้นเพื่อจุดมุ่งหมายในการพัฒนาประเทศ
และการที่จะพัฒนาชนบทได้ก็ต้องอาศัยความรู้และความสามารถของคนในเมืองที่ได้รับการพัฒนาและฝึกฝนอย่างดีและกลุ่มคนเหล่านี้ก็ไขว่คว้าหาความเจริญโดยการที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองกรุงที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีกว่า สิ่งมีชีวิตที่หน้าตาดีกว่า  ผู้ชายที่หล่อกว่า
และผู้หญิงที่น่ารักกว่าและความสะดวกสบายที่ต้องการ 
ซึ่งทำให้คนส่วนมากในหลายๆคนต้องการที่จะอยู่ในเมืองกรุงดีกว่าอยู่ในชนบท
ชนบทดีอย่างไรเหรอ  ใครตอบได้
ให้100สตางค์  55++
เค้าว่าชนบทดีออกนะ อากาศดี
ต้นไม้เยอะ  เย็นสบาย สงบ
ไม่มีสิ่งรบกวนจิตใจ
ไม่มีเสียงรถวิ่งไปมา
โอ้นี้เเหละสวรรค์...
ว้าว ขอความเห็นเกี่ยวกับชุมชนชนบทดีกว่าชุมชนเมืองหน่อยค่ะ
1.ปกติคนชาวชนบทก็ตื่นเช้ากินค่ำ ตื่น แปรงฟัน อาบน้ำ กินข้าว ทำงาน กินข้าว ทำงาน อาบน้ำ กินข้าว แปรงฟัน อาบน้ำนอน  ไม่เหนมีไรมากเหมือนคน เมืองต้องเสียตังทุกวันไม่ว่าจะทำไร  จะเดินก็ต้อองเดินในห้างมันเย็น  ดูของที่ล่อตาล่อใจให้เกิดกิเลสเล่น
2.ชนบทดีกว่าในเมืองตรงที่ส่วนใหญ่คนในชนบทจะสุขภาพร่างกายดีกว่าคนในเมืองจะไม่ค่อยเจ็ยไข้ได้ป่วยแต่คนในเมืองได้รับสารพิษมากจึงทำไห้ภูมิต้านทานอ่อนแอ เป็นทั้งภูมิแพ้ ร้ายแรงอาจเป็นมะเร็งปอดเพราะมลพิษในเมือง
3.ชนบทเป็นสถานที่ๆสงบ ร่มเย็น และสบาย อากาศแทบไม่มีมลพิษเลยต่างจากในเมืองมากเพราะมลพิษมีมากมายทำไห้อากาศไม่บริสุทธิ์หายใจมากก็นำมลพิษเข้าไปในร่างกายมาก
4.คนในชนบทส่วนใหญ่ยิ้มแย้มไห้กันเสมอมีอะไรก็แบ่งปันกันไม่เหมือนคนในเมืองที่ส่วนมากแบ่งปันกันแต่ในเครือญาติของตนเองไม่ค่อยจะแบ่งปันไห้คนอื่นสักเท่าไหร่นัก
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?