Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

(สำหรับคนอยากเรียนหมอ) แล๊บกริ๊ง หรือแล๊บกรี้ดดด!!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ใครอยากเรียนหมอ ลองอ่านนี้ดูเผื่อเปลี่ยนใจได้น่ะ อิอิ


แล๊บกริ๊ง…หรือแล๊บกรี้ด... ภาค1

 สำหรับชีวิตของนักศึกษาวิทยาศาสตร์สายสุขภาพ จะมีการสอบอยู่แบบหนึ่งที่ทุกคนจะต้องรู้จักกันดี ซึ่งถือว่าเป็นบอสใหญ่ของแต่ล่ะวิชาเลยก็ว่าได้... ถึงขั้นเป็นตำนานของแต่ล่ะวิชาที่ถือได้ว้าป็นฝันร้ายของนักศึกษาหลายๆคน ด้วยชื่อที่แสนจะน่ารักธรรมดาๆ และมีความหมายตรงตัว "แล๊บกริ๊ง"
 
 สำหรับคนที่ไม่รู้จักแล๊บกริ๊ง มันก็เป็นแค่การสอบแล๊บหรือปฏิบัติการแบบหนึ่ง  ที่คล้ายๆกับการเล่นเกมส์ฐาน ฟังๆดูก็น่าสนุกดีน่ะ... ถ้าใครจำได้ถึงเกมส์ฐานสมัยที่เป็นเด็กประถมไปเข้าค่ายลูกเสือ – เนตรนารี เพียงแต่ว่าในแล๊บกริ๊งแต่ล่ะฐานไม่ได้มีเวลาถมถืดแบบนั้นหรอกน่ะ เพราะมันให้เวลาเฉลี่ยเพียงฐานล่ะ1นาที (หรือมากน้อยกว่านี้ตามความพอใจของอาจารย์และความยากของแล๊บ) และแต่ล่ะฐาน ก็ไม่มีกิจกรรมสนุกๆอย่างไต่เชือก ปีนรั้ว โหนราว ฯลฯ เพราะแต่ล่ะฐานจะมี1-2คำถามที่ให้คิดในเวลาจำกัด ซึ่งแต่ล่ะคำถามก็อาจจะประมาณให้เติมคำ หรือให้ดูรูปแล้วชี้อะไรบางอย่าง แล้วให้เราตอบว่าที่ชี้น่ะมันคืออะไร... ถ้าอัพเกรดมาหน่อยก็ให้ดูกล้องจุลทรรศน์? แล้วให้ตอบว่าที่เห็นในกล้องคืออะไร พอหมดเวลาก็จะมีเสียงกริ๊งงงงงงงงงงงง...!!! นั้นเป็นสัญญาณว่าให้รีบเดินไปยังข้อต่อไปทันที หมดเวลาคิดข้อเดิมแล้ว จึงเป็นที่มาของคำว่า "แล๊บกริ๊ง"
 
 ครั้งแรกของการสอบแล๊บกริ๊งของผม เป็นวิชาชีวะ ที่สอบส่องกล้องดูเนื้อเยื่อบุผิว(Epithelium) โดยให้สอบครั้งล่ะ16คน นั้นก็แปลว่าจะมีคำถาม16ข้อที่แตกต่างกัน และก็หมายความว่าทุกคนจะไม่ได้เริ่มที่ข้อ1ด้วย ด้วยความที่เป็นแล๊บกริ๊งครั้งแรก นักศึกษาทุกคนจึงต้องรอบคอบสุดๆ เขียนชื่อเลขที่เรียบร้อย วงกลมข้อแรกที่ตนเองทำในกระดาษคำตอบให้พร้อม (สำคัญมาก อย่างที่บอกว่าไม่ใช่ทุกคนจะได้เริ่มที่ข้อ1) เข้าไปประจำที่ตามฐานข้อต่างๆ แย่งกันเลือกข้อสอบที่ตอบได้ และ กริ๊งงงงงงงงงง...
 
 อ้าว...! ถ้ามีการเลือกแย่งข้อสอบที่ตอบได้ แบบนี้เราก็อ่านอยู่แค่ไม่กี่เรื่อง และไปแย่งเอาข้อสอบในหัวเรื่องที่เราทำได้สิครับ

 แล๊บครั้งนั้นได้ทำเพียงแค่4ข้อจาก16ข้อ และเพื่อให้แน่ใจว่านักศึกษาจะต้องอ่านเนื้อหามาครบทุกส่วน เพราะฉะนั้นข้อสอบจึงแบ่งเป็น4ชุด แต่ล่ะชุดก็จะครอบคลุมเนื้อหาทุกหัวข้อ อย่างเช่น

ข้อ1 ข้อ5 ข้อ9 ข้อ13 อาจจะเป็นคำถามเกี่ยวกับเนื้อเยื่อทรงกระบอก
ข้อ2 ข้อ6 ข้อ10 ข้อ14 ก็เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับเนื้อเยื่อทรงลูกบาศก์
ข้อ3 ข้อ7 ข้อ11 ข้อ15 ก็เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับเนื้อเยื่อทรงแบน
ข้อ4 ข้อ8 ข้อ10 ข้อ16 ก็เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับฐานเนื้อเยื่อ

 ดังนั้น สมมติว่าผมเริ่มที่ข้อ6 ผมก็จะได้ทำข้อสอบข้อ 6 , 7 , 8 , 9 ถ้าดูจากข้างต้น ก็จะได้ทำครบทุกเนื้อหาอยู่ดีนั้นแหละ (เซ็งอาจารย์ ดันมาดักแบบนี้เอาซะได้)
 
 หลังจากนั้น ครั้งที่2ของผมที่สอบแล๊บกริ๊ง เป็นแล๊บเกี่ยวกับการผ่ากบ วิธีสอบก็เหมือนเดิมเปี๊ยบเลย ต่างกันที่ว่าคราว่อนได้ส่องกล้องดูเนื้อเยื่อ คราวนี้กลับมีศพกบวางเรียงราย พร้อมกับเข็มจิ้มบางจุดแล้วให้ตอบว่าที่เข็มจิ้มน่ะ... มันคืออะไร ยี้!!! จะมาทำขยะแขยงไม่ได้หรอกครับ เพราะนักศึกษาสายแพทย์ยังมีสิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัวกว่านี้รอคอยเราอยู่อีกมาก
 
 ในแล๊บกริ๊งวิชาชีวะ เนื่องจากไม่ได้ทำครบทุกข้อ ทำแค่4ข้อก็หมายถึงใช้เวลาแค่4นาทีต่อรอบ ซึ่งถือว่ายังไม่เข้าถึงอารมณ์กดดันของแล๊บกริ๊งของจริงที่ใช้เวลาสอบรอบล่ะเป็นชั่วโมงอย่างวิชาGross Anatomy และ Micro Anatomy
 
 เริ่มจากง่ายๆก่อนล่ะกันครับ วิชาMicro Anatomy เราจะได้รับคำชี้แจงก่อนที่จะเริ่มทำข้อสอบทั้งหมด60ข้อ แต่ว่านักศึกษาในแต่ล่ะปีไม่ได้มี60คนเสียหน่อย ถ้าอย่างนั้นสมมติถ้ามี64คน แล้วอีก4คนนี้ต้องมานั่งรอสอบรอบสองอีก1ชั่วโมงให้เสียเวลาอาจารย์หรือครับ ไม่เลยครับ!  ฉะนั้น จึงต้องเพิ่มจำนวนฐานเข้าไปด้วยการเพิ่มฐานที่เป็น "จุดพัก" เข้าไปไว้ทุกๆ5-6ข้อ เพื่อให้นักศึกษาได้มีเวลาพักหายใจ ใช้จุดพักทบทวนข้อที่ทำไปว่ามันคืออะไรน้า??? ซึ่งในข้อสอบMicro Anatomy นั้นเกือบเป็นส่องกล้องจุลทรรศน์ทั้งหมด100% ดังนั้นจึงมีข้อห้ามสำหรับโจทย์หลายๆฐานว่าห้ามเลื่อนสไลด์เด็ดขาด เพราะถ้าหากสไลด์ถูกเลื่อไปมั่วชี้โดนอะไรก็ไม่รู้ ทำให้คนที่ทำข้อสอบหลังเราตอบผิด ฟังๆดูอาจจะเป็นวิธีที่ดีถ้าเราต้องการจะวางยาเพื่อน ด้วยการแอบเลื่อนสไลด์ทำให้เพื่อนตอบผิด แต่เรื่องแบบนี้ควรจะฝังอยู่ในหัวของจรรยาบรรณแพทย์ที่ดี ทำให้โอกาสที่จะเจอเรื่องแบบนี้แทบไม่มีเลย (จะเป็นหมอต้องซื่อสัตย์น่ะครับ) ซึ่งเนื้อหาเราก็แยกเนื้อเยื่อ แยกชนิด ยังคงไม่ยากเท่าไหร่ แต่พอเริ่มแยกอวัยวะก็จะเริ่มสติแตกกัน ซึ่งบางครั้งเลื่อนสไลด์ (ถ้าโจทย์อนุญาตให้เลื่อนได้ เพราะบางครั้งการส่องกล้องดูอวัยวะจะต้องใช้พื้นที่กว้างๆในการดู)  ไปทั่วแผ่น ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่านี้คืออวัยวะอันใดหว่า...?
 
 ถ้าแล๊บริ๊งที่ยากกว่าMicro Anatomy ก็คงจะเป็นGross Anatomy นั้นแหละ เพราะสถานที่สอบก็คือห้องผ่าศพ และแน่นอนว่าคำถามเกือบทุกข้อจะเป็นอาจารย์ใหญ่วางเรียงราย พร้อมกับเข็มหมุดหลากสีสัน ปักอยู่บนเส้นเลือด เส้นประสาท หรือกล้ามเนื้อต่างๆ แน่นอนว่าคำถามส่วนใหญ่จะออกแนวประมาณ "จงบอกชื่อกล้ามเนื้อที่หมุดสีฟ้าปักอยู่" ซึ่งบางครั้งโจทย์ก็ดัดหลังเราขึ้นมา อย่างเช่น เข็มหมุดสีแดงปักที่เส้นประสาทเส้นหนึ่ง ถ้านักศึกษาร้อนรน ก็จะตอบชื่อเส้นประสาทอย่างมั่นใจ แต่โจทย์ดันถามว่า "จงบอกชื่อกล้ามเนื้อที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทที่ปักหมุดเข็มสีแดง" แน่นอนว่าถ้าตอบชื่อเส้นประสาทไป ก็ผิดเลยทันที... ฉะนั้น ข้อสำคัญในการทำโจทย์แล๊บกริ๊ง ก็คืออ่านโจทย์ให้ดีถี่ถ้วนซะก่อนว่าโจทย์ถามอะไร จนบางครั้งก็ทำให้นักศึกษาเกิดอาการ กรี้ดขึ้นมาได้ เพราะบางทีตอบได้ว่าเข็มหมุดปักอะไร แต่ดันตอบไม่ได้ว่ามันไปเลี้ยงอะไร ยิ่งเวลาคิดที่มีขีดจำกัดยอ่งบีบคั้นเข้าไปใหญ่ และกดดันมากขึ้น เฮ้อ... เหนื่อย...
 
 แต่บางที Gross Anatomy ก็มีคำถามที่ไม่ได้ใช้อาจารย์ก็มีเหมือนกัน อย่างเช่น ให้กระดูกอาจารย์ใหญ่มา1ชิ้น แล้วถามว่านี้คือกระดูกอะไร แต่ถ้าโจทย์ประยุกต์หรืออาจารย์อยากเล่น(หรือแกล้ง)กับเราขึ้นมา ก็อาจจะเอาสก๊อตเทปสีมาแปะกระดูก แล้วถามว่าบริเวณที่สก๊อตเทปสีแปะอยู่นั้นมีกล้ามเนื้ออะไรมายึดเกาะ
 
 และแน่นอนว่าบางครั้งเส้นประสาทของอาจารย์ใหญ่นั้นเล็กและบางมากๆ แค่จับบีบนิดเดียวก็อาจขาดได้แล้ว ฉะนั้น กรุณาจับด้วยความนุ่มนวล(ให้สมกับเป็นทันตแพทย์) เพราะถ้าขาดขึ้นมา เพื่อนที่ตามหลังเรามาก็จะไม่มีอะไรให้ตอบ ก็จะเสียคะแนนไป กรณีนี้เช่นเดียวกับMicro Anatomyที่เลื่อนสไลด์วางยาเพื่อน ฉะนั้น... ถ้ายังมีจิตสำนึกอยู่ล่ะก็...
 
 สรุปแล้ว การทำแล๊บกริ๊งนั้นต้องอาศัยความพร้อมอย่างมาด เช็คข้อแรกที่ทำให้ละเอียด ดูโจทย์ให้ถี่ถ้วน ปากกา , ลิควิดห้ามหมดกลางคัน ห้ามท้องเสียระหว่างสอบ ถ้าสอบGross Anatomyก็เตรียมเสื้อกาวด์ให้พร้อม ถุงมือจะใส่ก็ได้ แต่ไม่ใส่จะแยกเส้นประสาทกับเส้นเลอดง่ายกว่าน่ะ และที่สำคัญ! ต้องเตรียมความรู้ให้พร้อม มิฉะนั้นแล๊บกริ๊ง จะกลายเป็นแล๊บกรี้ด!ทันที


ธาราวรรษ ไชยศิริ
KKU DT27



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 29 กันยายน 2551 / 14:10

PS.  ตาหนูคอมเม้นจริงไม่มีตัดแปะ เพราะไม่มีอะไรต้องปกปิด แต่อยากให้เข้าใจว่ามันเป็นความลับ

แสดงความคิดเห็น

13 ความคิดเห็น

toxic star 29 ก.ย. 51 เวลา 17:42 น. 4

เห็นด้วยอย่างยิ่ง ตอนสอบ anatomy นะ มหัศจรรย์มาก โลกเรากับโลกของอาจารย์เหมือนโลกเดียวกันอ่ะ อาจารย์ก็นอนเต็มห้อง เด็กก็เดินสอบ 1 คน 1 อาจารย์ ตอนเรียนนะใส่ถุงมือด้วย พอสอบมือเปล่านี่แหละ ใกล้ชิดดี

ของคณะเภสัชนะ วิชาหฤโหดที่จะต้องสอบแลปกริ๊ง เป็นวิชา Sources of Medicine หรือว่า&nbsp Botany นั่นแหละ ชื่อก็บอกอยู่แล้ว แหล่งที่มาของยา แล้วไม่ใช่แค่สารเคมีนะ มันเป็นต้นไม้ สูตว์ แร่ธาตุ จุลินทรีย์แล้วก็ทุกอย่างที่ทำยาได้ ก็ต้องท่องกันไปทุกอย่างอีกทั้งชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อไทย สรรพคุณ ใช้ส่วนไหนเป็นยา โทษของมัน แล้วถ้าเป็นภาษาอังงกฤษก็ต้องเขียนให้ถูกด้วย เขียนผิดก็ไม่มีคะแนน ตอนสอบนะ ถ้าใจดีก็ให้มาเป็นต้นเลย ถ้าใจร้ายหน่อยก็ให้มาเเค่เศษของมันเราก็ต้องดมดูว่ามันเป็นกล่นของอะไร แล้วคิดดูนะ ให้ทำทุกอย่างนี้ภายในเวลาแค่ 1 นาที แค่คิดยังคิดไม่ค่อยจะออกเลย เพราะมีต้นไม้เป็นร้อย สัตว์เป็นล้าน อะไรมากมายก็ไม่รู้ บางข้อถามทุกอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่วางอยู่ตรงหน้า โอ้โฮ้!!! เขียนไม่ทันอ่ะดิ่ ยากมาก แต่ตอนเรียนก็สนุกมากเหมือนกัน จากนั้นหลังสอบเพียงไม่นาน เราก็ต้องเรียกแลปกริ๊งว่าแลปกรี๊ด

ย้ำ!!! ถ้าเรียนสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ ไม่ใช่แค่หมออย่างเดียวนะ มีทั้งหมอ เภสัช ทันตะ สาธา เทคนิคการแพทย์ พยาบาล สัตวแพทย์ ก็แล้วยังมีคณะวิทย์บางสาขาด้วยนะ ที่ต้องเจอแลปกริ๊งสุดหฤหรรษ์(((รึเปล่า)))

ยังไงก็ตาม ถ้าใครฝันที่จะเป็นอะไร ก็ก้าวตามความฝันนั้นไป อย่าเพิ่งกลัวกับสิ่งที่ยังไม่เกิด สิ่งที่เป็นเรื่องเล่า ก็เเค่คำบอกออกจากลมปากของคนเราเท่านั้น จะรู้ว่ามันยาก รับไหวไหมก็ต่อเมื่อเราเจอกับสิ่งนั้นเเล้ว

เป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังตามหาฝันและคนที่ก้าวเดินบนความฝันค่ะ
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp หนึ่งใน Rx25KKU43

0
... 29 ก.ย. 51 เวลา 21:54 น. 7

โอ้โห

ขอบคุณมากครับพี่ ^^

เทอมหน้าแล้วสิเนี่ย - -*

ส่องกล้องนี่แหละ หนักใจ ปวดลูกกะตามากๆ ต้องมานั่งเพ่งกษิณ

60 ข้อ หึหึ สอบเสร็จไปตัดแว่นพอดี

0
~๐นู๋อ่อนสอนเทพ๐~ 1 ต.ค. 51 เวลา 00:06 น. 8

งืมๆ


แล็บกรี๊ดดดจริงๆค่ะ



ว่าแต่


จขกท.

เรียน DT หรอคะ

อิอิ


PS.  *-*+*-*M-i-n-E*-*+*-* รักใครรักจริง รักไม่จริงรักทำไม รักใครรักจากใจ รักทำไมรักไม่จริง*-*+*-*M-i-n-T*-*+*-*
0
123 3 ต.ค. 51 เวลา 11:10 น. 9

5 5 5 5 5+

แอดปีนี้ง่า

แต่เคยสัมผัสบรรยากาศแล้วในค่ายโอ ชีวะ

สุดๆๆอ่ะ หนุกมาก จิ้มกล้ามเนื้อกบ

วงเส้นเลือด รุ้สึกจาเปน hepatic portal vein

กะให้แยกเพศตั๊กแตน + พวกอีโคอีก

ดูลิมโฟไซต์ ดูเซลล์ ส่องกล้อง

สนุกดีนะ แต่เรียนในมหาลัยคงยากก่านี้แน่ๆๆ

ยังงัยก้อต้องสุ้ง่า

เพื่อหมอที่ร๊ากกกของเรา 5 5

0