[ขอคำปรึกษา] เมื่อนิยายมาถึงทางตัน จะทำยังไงดีคะ?
ตั้งกระทู้ใหม่
มีใครเคยเป็นหรือตอนนี้ประสบปัญหาเดียวกับเรามั่งคะ
แบบว่า หาคำพูด หาคำบรรยายที่จะแต่งลงไปแต่ละตอนไม่ได้
ความจริงพล็อตเรื่องมันถูกวางไว้แล้วว่าจะไปทิศทางไหน
แต่พอจะมานั่งพิมพ์กลับรู้สึกว่า
ไม่รู้จะให้ตัวละครทำอะไร(เล็กๆน้อย)จนเชื่อมไปถึงอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ตั้งไว้
เซ็งตัวเองไปหมดเลยค่ะ มันเอียนจนอยากจะหยุดแต่งต่อเลย
แต่พอนึกถึงคนอ่านมันทำให้รู้สึกว่าเราต้องผิดมากๆถ้าจะหยุดเรื่องเอาไว้แบบนั้น
ที่สำคัญก็พยายามจะรักษาระยะเวลาอัพให้คงที่ด้วย...
ตอนนี้เครียดมากค่ะ เหมือนไม่มีแรงบันดาลใจ
พยายามฟังเพลงผ่อนคลายอารมณ์แล้วพอมานั่งพิมพ์ก็ไม่ไหวจริงๆ
เราควรทำยังไงดีคะ
ยังไงใครมีคำแนะนำช่วยบอกหน่อยนะ :) ขอบคุณมากๆเลยค่ะ...
PS. I love DJ.Tukutzความรักของเราเหมือนสายลม...ไม่สามารถมองเห็นแต่รู้สึกได้
16 ความคิดเห็น
พัก อย่าเครียด แล้วจะดีเอง - -b
PS. อะไรคือความหมายของคำว่า ดี อะไรคือความหมายของคำว่า เลว ทั้งที่จริงๆแล้วมันก็เป็นเพียงแค่คำๆหนึ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อแบ่งแยกการกระทำที่ต่างจากตัวเองเท่านั้นไม่ใช่หรอ หรือมันมีอะไรที่มากกว่านั้น
เครียดมากก็หันไปทำอย่างอื่นบ้างเน่อ
ในโลกนี้ยังมีเรื่องให้ต้องเครียดอีกเยอะ มาเครียดกับสิ่งที่เรารักมันไม่ดีนะ
PS. ชมรมสเก็ตดัน บริการสนับสนุนการใช้ชีวิตในวัยเรียน!!
ครับๆลักษณะแบบนี้น่าจะมาจากกดดันมากไปมั้ยครับ ลอยคลายๆออก ไปทำอย่างอื่นบ้าง แล้วเดี๋ยวพอไอเดียผุดมาเมื่อไหร่
ก็รีบมาเขียนเลยครับ มันจะคล่องมากๆแบบนั้นๆ ยิ่งฝืนยิ่งไม่ดีฮะ
เป็นกำลังใจให้ครับ ผมเคยเป็น แถมหยุดไปแบบนานมากๆๆๆ
PS. อิสระภาพ คือราคาอันแสนแพงของความรัก, แต่ความรัก ก็นำมาซึ่งอิสระภาพ
ผมเคยตัน และผ่านมาแล้วครับ ผมประกาศหยุดเขียน แต่สุดท้ายก็กลับมาเขียนต่อเพราะได้กำลังใจจากคนอ่าน ที่ผมอยากจะแนะนำก็คือ ลองเดินออกไปข้างนอก แล้วก็ลองคิดๆ เดี๋ยวไอเดียมันก็ออกมาเองแหละครับ บางทีบรรยากาศแบบเดิมๆ มันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตันได้นะครับ ยิ่งถ้าได้ไปเที่ยวได้ยิ่งดี เปิดหูเปิดตาบ้าง เปิดรับไอเดียใหม่ๆ ให้เข้ามา เดี๋ยวทุกอย่างมันก็จะดำเนินไปด้วยด้วยดีเองล่ะครับ
PS. "ทว่านั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเราค่อยพูดถึงในโอกาสต่อไป"
เปลี่ยนมุมมอง แนวคิดดูครับ ย้อนกลับไปมอง แรงบรรดาลใจ อีกครั้ง แล้วจับมันกลับหัวเลย
อ่อ อีกวิธี ที่ผมชอบใช้ คือ ไปอ่านงานเขียนอื่นๆเพื่อปรับมุมมองเราครับ
จะเครียดก็ได้นะครับ เพราะคงเครียดไปแล้ว ^^ แต่อย่าให้มันเลยระดับที่เราคุมไม่ได้ อะไรที่มันมากไปก็มักไม่ดี สบายๆไว้ก่อนล่ะกันครับ
PS. Why so Serious ~
ไปอ่านหนังสือเยอะๆสิ
PS. ชะตาฟ้าลิขิต แต่ชีวิตน่ะ ของกู!!!
นอนตากแอร์ แล้วจะคุยอะไรดี ๆ ออก
PS. ไม่จับปากาก ไม่มีทางเขียน ...
พล็อตก็วางไว้แล้วนี่นา ยังไม่เรียกว่าตันหรอก
ที่ตันอ่ะคือตัวเราเองมากกว่า อาการน่าจะคล้าย ๆ กับเรานะ
ประมานว่าตรูรู้และตอนนี้มันต้องเป็นงี้แหละ พอเปิดเวิร์ดขึ้นมา อ่าวตรูจะเริ่มยังไงดี
ทางแก้ของเราอ่ะหรอ
นั่งจ้องแป้นพิมพ์ เคาะมันไปเรื่อย ๆ พิมพ์อะไรที่คิดได้ไปซักบรรทัดนึงเดี๋ยวที่เหลือมันจะค่อย ๆ ตามมา ฟังเพลง ในกรณีที่มีพล็อตที่จะเขียนในตอนนั้นแล้วเดี๋ยวอะไรมันก็แว๊บบเข้ามาเอง รึไม่ก็คิดประโยคเด็ด ๆ ไว้ซักประโยค ประโยคตอนจบก็ได้ แล้วลากต้นไปหาปลายให้ได้
ถ้ายังไม่มีพล็อต  ไปหาอะไรก็ได้อ่าน หนังสือประวัติศาสตร์ยันทฤษฎีพันธุกรรม เดี๋ยวก็ปิ้งอะไรดี ๆ เองอ่ะ
พี่ก็เป็นค่ะ แค่จากบทพระเอกเดินออกจากห้องพักไปยังห้องงานเลี้ยง
แค่นั้นเองที่หาบทเชื่อมไม่ได้
พี่เลยปล่อยวาง นั่งทำโน่นทำนีอย่างวาดรูป หรือฟังเพลง ปล่อยสมองให้ไหลไปเรื่อยๆ
หรือจะเป็นเพราะพี่ชอบสร้างโลกของตัวเองชนิด หลุดไปเลย
ส่วนที่ขาดหายไปมันจะไหลเข้ามาเองโดยที่เราไม่ตัวค่ะ
สรุปง่ายๆคือ ลองปล่อยใจ อย่าไปหมกมุ่นกันมันสักพัก แล้วเราจะคิดขึ้นมาได้เอง
อย่าไปเคร่งเครียดกับความฝัน เพราะเราบงการมันไม่ได้
PS. งานหนังสือนี้ฝาก รอยเท้าบนผืนทราย นิยายฟาโรห์หลงยุคของสนพ.สถาพร กับ บาบิโลน อาณาจักรนักรบ ของสนพ.เพื่อนกันด้วยค่ะ
นั่งตากแอร์ดูหนังจิ แล้วหัวมันจะแล่น(หนังหนุกๆนะ) ของแคทเวลาดูหนังแล้วอารมณ์ดีแต่งได้เยอะขึ้นแยะเลยอ่า ยิ่งถ้ามีอแอร์เปิดไว้ด้วยนะ จำนวนหน้าพ่งเลยอ่า (แต่ตอนนี้กะลังอยู่ในช่วงประหยัดค่าไฟ เปิดมากไม่ได้ T^T)
PS. ...หนึ่งเพื่อทั้งหมด...ทั้งหมดเพื่อหนึ่ง... ... one for all ... all for one ...
สำหรับเรานะ เวลาคิดงานอะไรไม่ออก เราจะไปวิ่ง ดูถนนหนทางดูรถดูคนไปเรื่อย พอเหงื่อออกก็จะดีขึ้น
หรือไม่ก็ถ้าขี้เกียจแต่งตัวออกไปวิ่ง ก็จะเล่นโยคะอยู่ที่บ้าน แก้เครียด สมองปลอดโปร่งแล้วถึงจะกลับมาทำงานต่อ
หรือเอาแบบด่วนๆ ซุปไก่สกัดซักขวดช่วยได้ ถึงแม้สารอาหารมันจะเท่ากับไข่ไก่ฟองเดียวก็เถอะนะ
แต่มันดูดซึมเอาไปใช้ได้เร็ว ดื่มแล้วก็ช่วยให้สดชื่นขึ้นคิดอะไรออกได้เหมือนกันน่ะ
แล้วอีกตัวที่เพิ่งออกใหม่ ที่เป็นโปรตีนสกัดจากถั่วเหลืองน่ะ นานๆ ทีดื่มทีก็โอเคนะ (เพราะมันแพงด้วยล่ะ)
แต่ตอนเรากินครั้งแรก อึกแรกตกใจเลย กลิ่นอย่างลิโพ พอดูข้างขวด อ๋อ มันเป็นผลิตภัณฑ์ของโอสถสภา เจ้าของเดียวกับลิโพนี่เอง
(เหมือนมาโฆษณาให้เลยแฮะ - -*)
งืมม ถ้ามีเวลาว่างมากหน่อยก็ ไปนวด ไปสปา ไปทำเล็บโลดเลยจ้า อารมณ์ดีแล้วน่าจะคิดออกนะ
เวลาไปไหนมาไหนก็ชวนคนรอบๆ ตัวคุยไปด้วย เผื่อจะได้ไอเดียใหม่ๆ มาเขียนนิยาย
PS. Life is a maze which we take the wrong way before we have learnt to walk.
เป็นเหมือนกัน T T แต่เรา นานๆทีจะคิดออก ซึ่งคนอ่านของเราก็มีน้อยอ่ะ แรงบันดาลใจ กำลังใจก็ไม่ค่อยจะมี เลยต้องให้กำลังใจตัวเองแทน (โฮ... ชีวิตมันเศร้า) เราก็เลยแวะเข้าไปดูกลเม็ดเคล็ดลับตามลิงค์นี้ http://www.dek-d.com/writer/tip/ ลองเข้าไปดูวิธีการที่จะทำให้นึกนิยายออก อ่านไปหลายๆหัวข้อ เดี๋ยวเราก็จะมีกำลังใจเอง ของเราขึ้นอยู่กับอารมณ์ อารมณ์ดี สุนทรี สมองปลอดโปร่งเมื่อไหร่รีบเขียนเลย ไม่งั้นเราจะมานึกเสียดายทีหลังว่า ทำไมตอนนั้นเราไม่เขียนฟะ? เราก็ขอให้เธอสู้ต่อไป พยายามงให้ได้ เราองก็จะพยายามเหมือนกัน
อืม...สาเหตุของหลายคน
หาอย่างอื่นทำซะ...อย่าเครียด
เหตุผล + สิ่งที่ดีที่สุดที่คนทำกัน
PS. /me คว่ำโต๊ะแล้วเดินจากไป •๏water๏•~sageal >>> http://www.whenifallinlove.net/diary/diary.php?sarinubia
ก็หยุดพักไว้ก่อน ไม่นานมันก็คิดออกเองแหละ จริงๆนะ
ถ้าเป็นเราเหรอคะ
คงอ่านหนังสือ แล้วก็อ่านหนังสือ
สักครู่ก็จะนึกอะไรขึ้นได้เองอ่ะค่ะ
PS. ... ไ ม่ รั ก ก็ ไ ม่ ว่ า แ ต่ อ ย่ า ม า บ อ ก คิ ด ถึ ง รู้ ไ ห มว่ า มั น เ จ็ บ...
การแต่งนิยาย ไม่ควรจะเขียนนะคะ ปล่อยให้จิตนาการเรามันไหลไปเรื่อยๆ อย่าพยายามปิดกั้นความคิด(เพราะมันจะตัน) ลองหาแนวการแต่งที่เราชอบ แล้วเราจะสนุกกันการแต่งอ่ะนะ สู้ๆ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?