Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ปอมเปอีซากเมืองแห่งความตาย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ปอมเปอี ซากเมืองแห่งความตาย   

ปอมเปอี เป็นเมืองที่มั่งคั่งสมบูรณ์ในทุกด้าน ทั้งอารยธรรม และทรัพย์สิน เพชรนิลจินดา อุดมไปด้วยสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามมากมาย แต่เพียงแค่ชั่วข้ามคืน นครที่น่าหลงใหลแห่งนี้กลับล่มสลายและหายไปจากความทรงจำของชาวโลก กระทั่งผ่านพ้นไปกว่า 1,500 ปี เมืองที่เคยรุ่งเรืองอย่างสูงสุดในอดีตกาลจึงถูกค้นพบ...


  เมืองปอมเปอี (Pompeii) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของคาบสมุทรอิตาลี บริเวณริมอ่าวเนเปิล เมื่อ 2,000 กว่าปีก่อน ปอมเปอีเป็นเมืองเก่าที่เจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ในยุคก่อนคริสต์ศักราชเมืองปอมเปอีนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของกรีกเรื่อยมา กระทั่งราว 80 ปีก่อนคริสต์ศักราชจึงถูกยึดครองเป็นอาณานิคมของอาณาจักรโรมัน

ปอมเปอีเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก มีการวางผังเมืองอย่างดี สร้างกำแพงล้อมรอบตัวเมืองอย่างแน่นหนา และอาคารบ้านเรือนก็สวยงามด้วยสถาปัตยกรรม และศิลปกรรมแบบโรมัน และนอกจากจะตั้งอยู่ริมอ่าวเมเปิ้ลแล้วฉากหลังของเมืองยังเป็นภูเขาใหญ่ที่มีต้นไม้เขียวขจี ซึ่งก็คือ "ภูเขาไฟวิสุเวียส" ที่หลับใหลอยู่มานานนับพันปี สภาพทั่วไปของเมืองจึงสวยงามคล้ายกับภาพวาด


 แม้ว่าจะเมืองปอมเปอีจะเป็นเมืองที่แทบจะเรียกว่าเมืองในอุดมคติ แต่เมืองนี้ก็มีจุดบกพร่องอยู่เช่นกัน และเป็นจุดบกพร่องที่ร้ายแรงขนาดทำลายเมืองทั้งเมืองได้เลยทีเดียว นั่นก็คือบริเวณที่ตั้งของเมืองอยู่เชิงภูเขาไฟวิสุเวียส ที่ไม่รู้ว่าจะปะทุขึ้นเมื่อไหร่ และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ชาวเมืองปอมเปอีไม่มีใครล่วงรู้ว่าภูเขาลูกใหญ่ที่ตระหง่านอยู่ใกล้เมืองนั้นคือภูเขาไฟที่รอวันระเบิด  อีกทั้งตัวเมืองยังเป็นจุดเดียวกับที่ตั้งของภูเขาไฟใต้น้ำชื่อว่า "ซอมมา" ซึ่งยังคงระอุอยู่เสมอ จึงทำให้บริเวณนี้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง โดยเฉพาะแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี ค.ศ.63 รุนแรงถึงขั้นทำให้เมืองปอมเปอีที่รุ่งเรืองกลายเป็นซากปลักหักพังได้


 แต่นั่นไม่ใช่จุดจบของนครแห่งนี้ การทำลายล้างโดยธรรมชาติครั้งรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ.79 เมื่อภูเขาไฟวิสุเวียสที่หลับใหลมาเนิ่นนานได้ส่งเสียงคำรามกึกก้อง จนแผ่นดินไหวสะเทือน พร้อมกับพ่นฝุ่นควันออกมาบดบังดวงอาทิตย์ที่กำลังฉายแสงให้มืดมิดราวกับเป็นกลางคืน ฝุ่นควันเหล่านี้พุ่งทยานสู่ท้องฟ้าก่อนจะตกลงท่วมทับเมืองปอมเปอีทั้งเมือง และในเวลาดึกของคืนนั้น วิสุเวียสก็ระเบิดกึกก้อง กลุ่มเถ้าภูเขาไฟจำนวนมหาศาลถูกปล่อยออกมาทับถมเมืองปอมเปอี อันเป็นการลบภาพเมืองที่งดงามให้หายไปจากความทรงจำของชาวโลก


 ภูเขาไฟวิสุเวียสนั้นหลับใหลอยู่ถึง 1,800 ปี ไม่เคยมีวี่แววว่าจะปะทุ กระทั่งเมื่อวันแห่งหายนะมาถึง การระเบิดจึงรุนแรงมาก การระเบิดของภูเขาไฟวิสุเวียสเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ.79 นั้น ไม่เหมือนกับการระเบิดของภูเขาไฟทั่วไปที่จะมีลาวาพวยพุ่งออกมา การระเบิดครั้งนี้เป็นแบบพลิเนียน ซึ่งเป็นการระเบิดที่อันตรายและน่ากลัวที่สุด ภูเขาไฟวิสุเวียสได้พ่นก๊าซร้อนจัด แมกม่า ก้อนหินและเถ้าถ่านออกมาก่อน แมกม่านั้นเมื่อถูกพ่นขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศจะเย็นลงและกลายเป็นหินภูเขาไฟตกลงมาบนพื้นโลกด้วยความเร็ว 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ราวห่าฝนก้อนหินที่ค่อยๆทับถมเมืองปอมเปอีกับผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในเมืองนับหมื่นให้จมลงพร้อมกัน


 มิใช่แต่เพียงเมืองปอมเปอีเท่านั้นที่ต้องล่มสลายลงด้วยความพิโรธของภูเขาไฟวิสุเวียส ยังมีเมืองเฮอร์คูลาเนียม ที่เป็นเมืองคู่แฝดของปอมเปอี ซึ่งถูกฝังอยู่ใต้หินและเถ้าถ่านลึกถึง 25 เมตร  ว่ากันว่า ปริมาณ แมกม่า ก๊าซ และเถ้าถ่านที่ภูเขาไฟวิสุเวียสพ่นออกมาในครั้งนั้น สามารถคิดเป็นปริมาตรได้มากกว่า 4 ลูกบาศก์กิโลเมตร และสามารถพบร่องรอยได้ไกลถึงแอฟริกา


 หลังจากเมืองปอมเปอีจมอยู่ใต้เถ้าถ่านภูเขาไฟจนถูกลืมเลือนไปกว่า 1,500 ปี ได้มีการฟื้นฟูการศึกษาประวัติศาสตร์โบราณขึ้น และชื่อของเมืองปอมเปอีก็ถูกค้นพบ แต่ก็หามีใครทราบว่าเมืองโบราณแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ไหน กระทั่ง ค.ศ.1784 จึงได้พบร่องรอยของเมืองและมีการขุดค้นซากเมือง เมื่อขุดดินที่ทับถมออกจนหมดก็ได้พบกับซากเมืองขนาดใหญ่ ที่สร้างด้วยหินอย่างแข็งแรง บางแห่งพบซากชาวปอมเปเอียน และสัตว์เลี้ยงของพวกเขาที่ถูกฝังพร้อมกับเมืองจนกลายเป็นหิน ส่วนใหญ่จะอยู่ในสภาพเกือบเหมือนเดิมทุกประการ ท่วงท่าอาการและใบหน้าของซากเหล่านั้นแสดงความหวาดกลัวต่อความตายออกมาอย่างชัดเจน บางคนนั่งเอามือปิดหน้า บางคนซบหน้ากับกำแพงบ้าน บางคนนั่งกอดเข่าฟุบหน้า ปอมเปอีจึงถูกเรียกว่า "ซากเมืองแห่งความตาย"


 ปัจจุบันเมืองปอมเปอี ได้รับการฟื้นฟู จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของอิตาลี และขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ ในปี ค.ศ.1997 

มาดูรูปกันดีกว่านะค่ะ เป็นรูปที่ชาวปอมเปอีหนีเถ้าหลากไม่ทันและนอนตายในท่าตอนยังมีชัวิตอยู่ค่ะ





มาดูกันที่ลาวาภูเขาไฟคีลูเอียกันนะค่ะ(แต่ไม่เกี่ยวกับเมืองปอมเปอีนะ)
เห็นรูปมันสวยดีก็เลยเอามาหั้ยชมกันค่ะ





ธารลาวา






อ้างอิงจาก :  www.wonder7th.com/wonder_natural/010pompeii.htm
                 www.matichon.co.th/youth/youth.php?

ยังไงแล้วก็ช่วยเม้น+โหวตหั้ยด้วยนะค่ะหรือจะเม้นติชมก็ได้ เอาไว้ว่างๆเดี๋ยวจะนำสาระดีๆมาฝากกันอีกค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

16 ความคิดเห็น

Cl๏$e—--฿eTa 26 ต.ค. 51 เวลา 11:39 น. 1
เราเคยดู สารคดีนะ

น่าสงสารมากๆๆ เลยอะค่ะ

แม้กระทั่งสุนัข ก็โดนลาวา ทับ ง่า

จมใต้ลาวาทั้งเมืองเลย
 
Y^Y
0
Gamera 26 ต.ค. 51 เวลา 11:56 น. 2

ถ้าโดนลาวาอย่างงี้

ขอเลือกโดนน้ำท่วมดีกว่า

น้ำท่วมเรายังลอยได้

แต่ลาวาท่วมนี้สิ

สยอง

0
AR-GIM 27 ต.ค. 51 เวลา 01:23 น. 4

อาจานเคยเล่าให้ฟังว่า  ตอนแรกก่อนที่จะถูกขุดค้นพบ

นักโบราณคดีเค้าไปเจอ ก้อนหิน แต่ข้างในกรวง เลยเอามากระเทาะออก 

แล้วภาพที่เห็นคือ  คนผู้ชายกำลังนั่งกอดหมาอยู่  แต่มีสภาพที่สมบูรณ์มาก 

ทำให้เกิดการขุดเจาะขึ้น  แล้วเลยเจอเมืองทั่งเมืองเลย

ถ้าตอนนี้ไม่โดยลาวาทับ  คงเป็นเมืองอห่งศิลปะแน่เลย เพราะอารยธรรมเค้าดีมาก

0
noname 14 ส.ค. 53 เวลา 11:56 น. 9

อื้ม

นักแต่งการ์ตูนเอามาเขียนด้วยนะ

ตอนแรกนึกว่าไม่มีจริง
พอลองพิมพ์เล่นๆ
ดันมีจริง
เห็นใจชาวปอมเปอีนะ
ทรมานสุดๆ

0
rid 5 ต.ค. 53 เวลา 18:35 น. 10

ประเทศไทย..ดีนะครับ ห่างภูเขาไฟ&nbsp ห่างแผ่นดินไหว ... โชคดีที่อยู่เมืองไทยครับ

0
แอม เด็ก ญ.ส 15 ก.พ. 54 เวลา 16:45 น. 12

ประเทศไทยมีภูเขาไฟค่ะ แต่ดับสนิทไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่า มีที่บุรีรัมย์ด้วยนะคะ
แต่ถึงปม้ว่า จะดับสนิทไปแล้ว แต่ก้อยังมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวได้ค่ะ

0