คนนี้เขาเป็นฝรั่งอะ สอนโยคะมา 5 ปีแล้ว แล้วก็เคยไปเรียนโยคะที่อินเดียมา มาเจอพระที่ประเทศไทยเค้าสอนสมาธิได้ปรากฏว่าทำได้เร็วมากมีความสามารถพิเศษ มากอะ ช่อง9เลยเชิญมาออกทีวี
บทสัมภาษณ์
- คุณได้เห็นนรก-สวรรค์บ้างไหม
เห็นครับ
- แล้วคุณเห็นอะไรที่นั่น
ได้เห็นหลายอย่างครับ. ในนรก, เห็นการลงโทษที่แตกต่างกันหลายระดับมาก. เห็นผู้คน[สัตว์นรก]มากมายกำลังถูกสุนัขกัด มันดุร้ายและเกรี้ยวกราดมาก. พวกเขาพยายามวิ่งหนี - ปีนต้นไม้ที่มีหนามแหลม [ต้นงิ้ว]. ยังถูกสัตว์ที่คล้ายแร้งจิกทึ้งจนพลัดตกลงมาจากต้นงิ้ว แล้วก็ถูกสุนัขก็จะเข้ามาจัดการกับพวกเขา.
ผมได้เพ่งดูที่ศูนย์กลางดวงธรรมของสัตว์นรกเหล่านี้ เห็นเป็นสีดำมืด. ผมได้มองเข้าไปในจุดศูนย์กลางกายของพวกเขาเพื่อดูว่าทำไมพวกเขาจึงต้องไป อยู่ในนั้น - เป็นเพราะประพฤติผิดในกาม. และผมได้เห็น[ว่าเขาทำ]สิ่งที่น่าละอาย ความผิด และสิ่งที่ชั่วร้ายต่อจิตใจ.
ผมไปยังอีกระดับหนึ่ง [นรกอีกขุมหนึ่ง] เห็นผู้คน[สัตว์นรก]อยู่ในกระทะ[ทองแดง]ใหญ่ … ใหญ่มาก! ร้อน! มีสิ่งซึ่งดูเหมือนของเหลวร้อนหรือโลหะหลอมเหลว เหมือนตะกั่ว [หมายถึงน้ำทองแดงร้อนจัดที่สัตว์นรกต้องดื่ม]. มันแผดเผา[อวัยวะ]ภายใน. บางคนก็ต้องดื่มของเหลว ที่มีกลิ่นเหม็นมาก แย่มาก [หมายถึงน้ำทองแดงนั้นเอง].
และผมได้เพ่งดูที่ศูนย์กลางดวงธรรมของสัตว์นรกเหล่านี้อีก ได้เห็นว่า [พวกเขาได้รับวิบากกรรมเช่นนี้ เป็นเพราะ]ดื่มแอลกอฮอล์กันเป็นส่วนมาก. รวมทั้งยาเสพติดอื่นๆ, แต่ส่วนมากเป็นแอลกอฮอล์ [เพราะเป็นสิ่งเสพติดที่ถูกกฎหมาย และโฆษณาประชาสัมพันธ์ได้].
และแล้ว, ในนรก, สิ่งที่ร้ายสาหัสที่สุดที่ผมเห็น - ลึกลงไปกว่าระดับ[นรกขุม]ที่ 8 - ลึกกว่านรกของพวกที่ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต พวกที่พูดโกหกหลอกลวง และพวกที่ขโมย โกง คอร์รัปชั่น ของผู้อื่น - ในนรกขุมนั้น ผมเห็นผู้ที่สอนผู้อื่นผิดๆ พวกเขาเหล่านี้ถูกปิดตาจนมืดมิด. พวกเขาไม่สามารถมองเห็นได้และต่างคนต่างวิ่งเข้าหากันด้วยความสับสนอลหม่าน และทุกข์ทรมานมาก. ร่างกายของพวกเขาถูกเผาไหม้จนดำเหมือนกับถูกลวกด้วยน้ำกรด มีกลิ่นเหม็นเหมือนซากศพ กลิ่นตลบอบอวลมาก.
ผมได้เจริญภาวนาถึงธรรมกายที่สุดละเอียด ได้เห็นสวรรค์ซึ่งตรงข้ามกับนรก อย่างสิ้นเชิง. สว่างไสวมาก - สวยงามมาก. ศูนย์กลาง[กาย - ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกาย]ของเทพดาเหล่านี้ส่องรัศมีสว่างนัก. ในนรก สัตว์นรกมีศูนย์กลาง ดำมืดมัวมาก. ในสวรรค์ ผมเห็นเทพยดาบนสวรรค์มีรัศมีใสสว่างเป็นประกาย ประดุจดังแก้วผลึก. และผมสามารถดูไปที่ศูนย์กลางของเทพดาเหล่านี้ และรู้เห็นว่า ทำไมพวกเขาได้มาอยู่บนสวรรค์ - ก็เนื่องจากสิ่งที่เป็นบุญกุศลทั้งหมด, กรรมดีมากมายที่เขาได้ทำแก่[ตนและ]ผู้อื่น.
เทวดาบางตนอยู่บนพื้นดิน; บางตนอยู่ในอากาศ และผมเห็นเทวดาอยู่ในต้นไม้ก็มาก.
แต่, ความแตกต่างสำคัญระหว่างสวรรค์กับนรก ก็คือ สิ่งที่ผมเห็นที่ศูนย์กลางกายของสัตว์นรกและเทพดาเหล่านั้น - ไม่กรรมดีก็กรรมชั่ว อย่างใดอย่างหนึ่ง [สองอย่างนี้เท่านั้น ที่พวกเขาได้ทำลงไป เห็นปรากฏได้ที่ศูนย์กลางกาย - บุญกุศลนำให้มาเกิดเป็นเทวดา ส่วนบาปอกุศลนำให้ไปเกิดเป็นสัตว์นรก].
- คุณก็ได้เห็นทั้ง 2 ฝ่าย - ระหว่างสวรรค์กับนรก ระหว่างกรรมดีกับกรรมชั่ว ที่ผู้คนพากันทำ. แล้วคุณได้เห็นพระนิพพานไหม ?
ครับ, ผมเห็น. พระนิพพานอยู่นอกเหนือไปจากสิ่งที่เราคิดว่าเป็นดิน น้ำ ลม ไฟ. ผมไม่เห็นธาตุทั้ง 4 เหล่านี้เลย. ผมได้เห็นพระนิพพานธาตุ นับไม่ถ้วน - เท่าที่ผมจะเห็นได้. และมีรัศมีเจิดจ้า สว่างไสว.
- คุณคิดว่าอะไร คือประสบการณ์ที่ดีที่คุณได้ปฏิบัติเข้าถึง ได้รู้ และได้เห็นจากการเจริญภาวนานี้ ?
ผมรู้สึกว่า วิธีเจริญภาวนาวิชชาธรรมกายนี้ มีความพิเศษ เป็นการปฏิบัติทางตรง ทำให้ผมได้มีประสบการณ์อย่างสูง.
- เมื่อคุณกลับไปสหรัฐอเมริกาแล้ว คุณจะทำอะไร ?
ผมวางแผนไว้ว่า จะสอนวิชชาธรรมกาย. ผมมีลูกค้าซึ่งผมสอนโยคะ, การเจริญภาวนา และการนวดอยู่แล้ว และผมเชื่อว่าการแนะนำวิชาธรรมกายให้จะช่วยให้พวกเขาให้ช่วยตนเองได้
–
บทสัมภาษณ์นี้ได้มาจากฟอร์เวิร์ดเมล์อีกทีนึงนะ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เรื่องนี้เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคลจ้ะ
credit by http://blogger.sanook.com
7 ความคิดเห็น
เราเชื่อเรื่องนี้นะ เราได้ยินมนานแล้วเหมือนกัน
เกี่ยวกับผูที่เคยไปสัมผัสกับ นรก-สวรรค์
เรื่องนี้เราเชื่อแบบสุดๆเลยนะ  ยอมรับว่างมงายเลยแหล่ะ
แต่มันก็เปนเครื่องเตือนสติเราได้ดีนะ
ลองสังเกตผู้ที่เคยไป นรก สวรรค์มาแล้วจิงๆสิ
จะไม่ค่อยมีใครพูดถึงสวรรค์ เพราะ เบื้องบนท่านกำหนดมา ว่าห้ามพูด
แต่นรกอ่ะ ทุกคนพูดกันหมด เล่าสู่กันฟังทั้งนั้น
เพราะ เปนเครื่องเตือนสติ
ลองสังเกตสิ มีแต่ภาพของนรก ไม่ค่อยมีภาพสวรรค์
เวลาไปวัดอะ จามีแบบรูปปั้นไรแบบเนี้ย ส่วนมากก็จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนรก
อันนี้เราเชื่อแบบเต็มๆอะ
เราเชื่อนะจริงๆเรื่องพวกเนียมีอยู่จริงแน่นอนขอรับลองเลยค่ะ
เรื่องนี้มีจริง นรกมีจริง สวรรค์มีจริง บาปบุญมีจริง
สวรรค์อยู่ที่โลกเรานี่แหละ แต่มนุษย์มองไม่เห็นเท่านั้น และอยู่รวมกันทั้งหมดไม่มีชั้นที่เรียกชั้นเพราะหมายถึงวุฒธิภาวะหรือความรู้ หมายถึงอำนาจหรือบารมีก็ได้ หรือสมมุติตามความจริงตามภาวะที่มี ผมก็คุยกับเขาอยู่ที่พวกเราเรียกว่าเทวดา เทพ พรหม เขาไม่ได้ห้ามไม่ให้เรารู้ แต่มนุษย์ไม่เข้าใจไม่มีพลังที่จะเห็น จึงจินตนาการณ์กันเองว่าเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ ความจริงคืออยู่ที่นี่ แต่ต่างมิติกัน ที่บอกว่าต่างมิติเพราะเรามองด้วยอายตนหรือด้วยกายเนื้ยนี้ไม่ได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะมองเห็นไม่ได้ ตามหลักจริงๆนั้นมีวิธีที่ทำให้เห็นได้ ไม่จิตนาการณ์ไม่วิปลาสเป็นไปตามวิชา เพราะผมกำลังศึกษาอยู่ สิ่งที่เรากำลังพูดถึงนี่แหละกำลังสอนอยู่ ท่านอาจคิดว่าผมบ้าอยู่แต่ผมพูดความจริงตามหลักฐานและผมมีหลักฐาน แต่ไม่ใช่หลักฐานทั่วไปที่เราจะเข้าใจได้ด้วยการบอกกล่าวทางนี้ ผมมีก็แล้วกัน วัดได้ทางวิทยาศาสตร์ตามความจริง
เรื่องเหล่ากับเรื่องจริงไม่เหมือนกันนะครับ ถ้าคุณเข้าใจ รูป ถ้าเข้าใจ นาม และถ้าคุณแยกรูปเป็นแยกนามเป็น ผมหมายถึงอารมย์ความรู้สึกที่เข้าใจได้เป็นปกติ คุณก็สัมผัสได้และเห็นได้ด้วย ปกติแล้วอายตนทั้ง6เป็นทีรับรู้ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ในทั้ง 6 อย่างมีสัมผัสได้อย่างแน่นอน เช่น ใจ ที่เป็นนามธรรม ซึ้งเป็นอารมย์ความรู้สึก ที่เราใช้คำว่า เห็นได้ แต่ถ้าเราจะรับรู้ที่เต็มไปด้วยรูปธรรมไม่มีปรุงแต่ง เราจะต้องเข้าไปศึกษาจริงๆเพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ทำให้เราเจริญขึ้น มีความรู้มีวิวัฒทนาการเกิดขึ้นกับเราจริง ทุกเรื่องจะไม่เป็นเรื่องปรุงแต่ง มันจะเป็นเรื่องจริงที่ประจักษ์ได้ จะไม่เป็นเรื่องเหล่าสำหรับเราแน่นอน เราจะเห็นได้รู้ได้และประจักษ์ชัดสัมผัสกับเขาได้ ขอให้คุณไม่เชื่ออย่างงมงายเป็นพื้นฐาน ผมบอกให้คุณรู้เป็นข้อแรกคือ เทวดา เทพ จะอยู่ตามวัดต่างๆที่เป็นสักการะที่เป็นความเชื่อ ในทุกศาสนาไม่ใช่พุทธอย่างเดียว ในบางสถานที่จะอยู่เป็นบางเวลา แต่บางที่ก็ตลอดเวลา เขามาดูว่าผู้ใดมีความเหมาะสมหรือสภาวะที่จะเห็นได้หรือสื่อได้กับเขา แต่บางครั้งก็เป็นเรื่องอื่นที่อธิบายไม่ได้ ตามเหตุที่สมควรจะเป็น แล้วแต่เรื่อง คุณอาจคิดว่ามันมีวิธีด้วยหรือที่จะเห็นเทวดาได้เพราะเรายังไม่ตาย เทวดาบอกว่ามีถ้าเครืองรับของมนุษย์เปิดแล้ว รออีกหน่อยคงไม่นานคิดว่าคุณคงจะได้เห็น แบบเป็นเรื่องจริงไม่ใช่เรื่องเหล่าไม่ใช่ปรุงแต่ง ถ้าหากกาลนั้นเป็นที่เหมาะสมแล้วและเครื่องเปิดถึงที่สุดแล้วมนุษย์ก็จะเห็นทุกประการ
ดิฉั้น เคยไปมา และคิดว่าคงเปนสวรรค์ ไปแบบกพริบตาทีเดียว มีแสงสว่างจ้าแต่ไม่เคือง ไม่แสบตา เปนช่องรุปประตุ แล้วเราก้อเหมือนไร้น้ำหนัก ลอยอยุ่บนก้อนเมฆ อารมตอนนั้นมีความสุขแบบที่ไม่สามารถอธิบายได้และเลื่อนๆไป แต่ไม่รุ้สึกถึงร่างกายว่ากำลังเลื่อน แต่รุ้ว่าลอยๆไป และอยุ่ท่ามกลางคนอีก7-8คนที่ไม่เคยรุ้จักกันมาก่อนเลย นชีวิต มีทั้งผุ้ชายผุ้หยิง เด้ก คนหนุ่มสาว วัยกลางคน ชั่วครุ่กั้อกลับมา แล้วก้อไปแบบนี้อีก หลายสิบรอบค่ะ.นี่คือ ประสบการณจริงของตัวเองทีเกิดขึ้นตอนนั้นอายุ 29. ปัจจุบัน ดิฉันอายุ 59 แต่ไม่เคยลืมเหตุการณนี้เลยค่ะทุกวันนี้ บอกทุกคนที่รุ้จักให้สุ้ทำความดีต่อไป เรื่อยๆ ค่ะ ชีวิตหลังความตาย สวรรค์ นรก มีจริง
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?