ทำไมต้องเรียนหมอ มีอะไรดี
ตั้งกระทู้ใหม่
        แล้วพ่อแม่ก็อยากให้ลูกเรียน  อย่างคนที่เก่งๆก็ส่วนมากนะ เลือกหมอ บางคนยอมซิ่ว ก็เพื่อหมออีกนั่นแหละ  มันคุ้มหรอ
        หมอนี่ดีตรงไหนหรอ เรียนก็เหนื่อย  งานก็หนัก  รู้ว่าถ้าเรียนได้คือเก่ง  แต่ไม่รู้สิ เหมือนค่านิยมหรือเปล่า หรืออยากโดนชมว่าเก่ง แล้วจบมา มันมั่นคงอย่างที่พูดกันหรอ หมอบางคนยังใช้จักรยานเลย  แล้วที่เก่งก็ไม่ทุกคน อย่างมหาลัยที่รับพวกเรียนดีจากบ้านนอกมา  จบมาก็เป็นหมอ แล้วที่บอกว่าอาชีพสูง มันสูงยังไง
......ขออีกนิดนะ พวกที่ซิ่วเพื่อเข้าหมออ่ะ ไม่ได้ว่านะ แต่อยากถามว่าเก่งจริงหรือเปล่า ทำไมสอบปีแรกไม่ได้ล่ะ  บางคนก็ซิ่วหลายปี  พวกเภสัช ไม่ก็พยาบาลไม่เก่งกว่าหรอ
ปล. อยากรู้จริงๆ ถ้าไม่พอใจก็แล้วแต่นะ ความคิดส่วนตัว แต่เราไม่เคยศรัทธาพวกที่ซิ่วเข้าหมอเลย เพราะ ถ้าซิ่วได้เรื่อยๆ อย่างบางคนหลายปี งั้นเราก็เป็นหมอได้สิ แล้วสรุปมันเก่งตรงไหนล่ะ ก็แค่สอบใหม่
75 ความคิดเห็น
^^ อยากจะบอกว่าเห็นด้วยมากๆ ค่ะ
เราเปนคนนึงนะ ที่เคยคิดอยากเรียนหมอ
แต่ตอนนี้ไม่แล้ว
เหมือนกันล่ะ เหนเพื่อนๆ ที่ รร เขาอยากเรียนกัน
รุ่นพี่ก็จะเรียนหมอกันหลายคน
เริมเกิดความสงสัย จะเรียนทำไมกัน ถ้าเรียนกันหมด
แล้วใครจะเปนคนไข้??
เราว่านะ อาชีพไหนๆ ก็มีเกียตริทั้งนั้นค่ะ
แต่ก็อย่างนี้ล่ะ ค่านิยมของคนไทย อะไรๆ ก็หมอๆๆ
เราไม่ชอบเลย แล้วเราก็ดีใจด้วยที่พ่อแม่ไม่ได้บังคับ
หรือแสดงให้เหนว่าต้องการให้เราเรียนอะไร
สำหรับพ่อแม่บางคน อยากให้ลูกเรียนหมอ เพราะอยากให้ลูกทำงานดีๆ
บางคนถงกับเครียดเลย...
บางครั้งก้สงสัยอยุ่นะ ว่าตกลงใครเรียนแน่ พ่อแม่เรียน หรือ ลูกเรียน?
ยังไงก็ สู้ๆ นะคะ เพื่อนๆ ทั้งหลาย จะเรียนอะไร เราว่า เรียนตามที่ตัวเองชอบดีกว่า
แล้วทำให้มันออกมาดีทีสุด
เราเองก็อยู่ ม5 เหอๆๆ อ่านสือแทบไม่ทัน เฮ้อ
เป็นคนตั้งกระทู้ค่ะ คือ ลืมถามพวกที่อยากเรียนอีกว่า 
เหตุผลที่บอกว่าช่วยเหลือคนนั้น อย่าพูดเลย มีสักกี่คน มันเหมือนคำพูดสวยหรู  ดูดี  ส่วนใหญ่ก็หน้าตา โก้หรู
แล้วถ้าไม่มีอาชีพอื่นคอยค้ำจุน เช่น เภสัช พยาบาล จะทำงานรอดไหม  แล้วที่ว่า เสียสละ แน่ใจหรอ อย่างที่ซิ่วนะ เราว่าความต้องการส่วนตัวมากกว่า
มีอะไรดีหรอๆๆๆๆ
อื้ม ลอง โดนรถชนดูดิ
จะรู้ว่ามีดียังไง
ปล.ไม่ได้เปงหมอ แต่นับถือหมอที่มีจรรยาบรรณ
ความเหนที่ 3
นายแน่มาก
ชอบ ๆ ๆ
เจ้าของกระทู้
โคตรใจแคบเลย
ถ้าคิดอย่างคุณกันหมด
อย่างนั้นก็ไม่ต้องให้มีหมอเลยสิ
แล้วเวลาคุณป่วย คุณก็เชิญรักษาตัวเองเลยนะ
เกลียดพวกมือไม่พาย แต่เอาเท้าราน้ำ
แล้วอีกอย่างนะ
เด็กซิ่วไปทำไรเธอเหรอ
เวลาคนจะซิ่วน่ะ เค้าต้องเสียอะไรไปมากแค่ไหน แต่คำพูดที่เธอมาว่าน่ะ
พูดอย่างกะเค้าไร้ค่ามากอ่ะ
เราว่าเธอนั่นแหละที่น่าสมเพช
ก็ไม่ได้ทำอะไรเราหริก เพราะเรามีที่เรียนแล้ว แค่อยากรู้ว่าถ้าสอบไม่ติดหมอก็ซิ่ว แล้วทุกคนก็เป็นได้หมดดิ หมอน่ะ แล้วมันเก่งตรงไหนล่ะ
เอ้า ก็เค้าพยายามเอาความรู้ใส่หัวอะ
คือเข้าใจไหมว่าเค้าคัดคนเข้าไป เค้าไม่มานั่งถามหรอกว่า
ไม่ฉลาด ไม่เก่ง ไม่เอา
คือเรียนไปจบออกมา ก็เป็นหมอเหมือนกันอะ
แล้วทุกคนจะเป็นหมดได้ยังไงอะ ในเมื่อ เค้าจำกัดคนเข้าแต่ละปี
สมมตินะ 50 คน ปีนี้ ปีหน้าก็ 50 คน อีก ถึงคนจะแห่กันไปเรียนยังไง
เค้าก็คัดคนเก่งสูงสุดแค่ 50 คนอะ เราก้อไม่รู้คัดยังไงสอบยังไง แต่มันต้องจำกัดคนเข้าไปนะ
อีกอย่างถ้าคุณว่าการที่เค้าซิ่วพยายามอ่านหนังสือมีความพยายามที่จะเข้าหมอ
แล้วเข้าได้ จะไปว่าเค้าไม่เก่งหรอ เราเข้าใจนะที่เธอสื่ออะ คือ ในเมื่อสอบใหม่ๆเรื่อยๆแล้วคนเก่งอยู่ที่ไหนใช่ไหม
หมอไม่ต้องการคนเก่ง เค้าต้องการคนพร้อมต่างหาก พร้อมที่จะเรียน พร้อมที่จะรู้ออกมาช่วยคนอะ ถ้าไม่แน่จิงคงไม่จบออกมาหรอก
ปล. ไม่ได้อะไรแค่เห็นเพื่อนหยุดเรียนปีหนึ่งเพื่อนเข้าหมอแล้วเข้าได้ แค่เสียความรู้สึกที่คนพยายามอย่างสุดๆ แล้วกลับมาพบกับคำว่า
ไม่ศรัทธา งั้นเธอก็อย่าไปหาหมอนะเพราะหมอคนนั้นอาจจะซิ่วมาหลายปีละเพราะเค้าไม่เก่ง
เราจะเรียนหมอ
อยากเป็นหมอ
งานหนักแล้วไง? อย่างน้อยก็ทำชีวิตให้มีคุณค่าล่ะวะ
รวยหรือจน ไม่สำคัญ
สำำคัญที่ว่า เกิดมา ทำประโยชน์อะไรได้บ้าง
ทำตัวให้มีคุณค่า
ถ้าไม่เป็นหมอ ก็จะเป็นนักวิจัย หรือไ่ก็เภสัชอ่ะแหละ
ที่พ่อแม่อยากให้ลูกเป็นหมอ เรพาะอนาคตมั่นคง
แต่เชื่อมั้ย คนเป็นหมอแต่ละมีจบมามากมาย แต่สาธารณสุขไทยไม่พัฒนา เพราะไม่มีใครอยากอยู่ต่างจังหวัด กันดารๆกันหรอก
เหอะๆ
(สาธุ ขอให้ติดหมอ~~)
หมอที่ดี มีเกียรติแน่นอนครับ...และทุกอาชีพถ้ายึดมั่น ทำด้วยใจ ทำให้ดีที่สุด ย่อมมีเกียรติเหมือนกันหมด
ถ้าไม่มีหมอ คุณไม่ได้เกิดมาอย่างปลอดภัยหรอกครับ และคุณคงไม่ได้รับวัคซีน จนมีชีวิตรอดมา ปากกล้าได้ขนาดนี้เช่นกัน
ใช้จักรยานแล้วไงครับ อาจจะใกล้บ้าน หรือว่าเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย คุณว่าแค่รถซักคนมันยากเย็นขนาดนั้นเลยหรอครับ
ส่วนประเด็นเรื่องซิ่วไม่ซิ่ว ผมว่าคนที่ซิ่วยิ่งน่านับถือนะ หมายความว่าเค้าอยากจะเป็นหมอนะ ไม่ได้เข้าเพราะคะแนนถึง ถึงปีนี้ไม่ได้ปีหน้าเค้าก็พยายามใหม่...
เรื่องที่ว่าไม่เก่งปีแรกเลยไม่ติด ผมว่ามันมีปัจจัยมากมายนะที่ทำให้คนติดหรือไม่ติด
ลองหาเพลง อื่นอื่นอีกมากมาย ฟังดูแล้วจะเข้าใจ
แต่คุณเจ้าของกระทู้ถ้าคิดแบบนี้ได้ แปลว่าโลกแคบมากเลยครับ
แล้วคุณเจ้าของกระทู้คิดว่าตัวเองเก่งนักเหรอคะ
ถึงมาวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นแบบนี้
เอาเวลาไปปรับปรุงนิสัยก่อนดีมั้ย?
ต้องนับถือคนที่เรียนหมอนะค่ะ
เพราะเขาต้องเสียสละอย่างมาก เวลาส่วนตัวก็ไม่ค่อยจะมี
จะเรียนหมอชอบอย่างเดียวไม่พอหรอกค่ะ แต่ต้องอยู่ที่ใจด้วยว่ารักในอาชีพนี้หรือป่าว
พ่อแม่ปลูกฝังความคิดเป็นสิ่งที่ดี แต่ลูกควรพูดกับพ่อแม่ให้เข้าใจว่า
ตนชอบหรือไม่ชอบอะไร คิดว่าพ่อแม่คงเข้าใจ เพราะท่านต้องการให้ลูกมีความสุข
ไม่ใช่เรียนแล้วทุกข์หรือไม่สบายใจนะค่ะ
อย่าไปว่าคนที่ซิ่วเพื่อจะเรียนหมอเลย เพราะเขามีความตั้งใจจริงต่างหากล่ะ
สมควรจะยกย่องและให้กำลังใจ
ที่ว่าหมอโดนฟ้องบ่อยๆ นั่นอยู่ที่ตัวหมอแล้วแหละว่ามีความความตั้งใจจริงและมุ่งมั่นในการรักษาหรือป่าว
ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ แต่อย่าให้บ่อยเพราะจะกลายเป็นความเคยชิน
ปีแรกที่กุไม่ติดเพราะกุไม่ได้เลือกไงเข้าใจมั้ยว่าพวกที่ซิ่วเค้าค้นหาตัวเองเว้ย ปีแรกกุเรียนถาปัต
หมอ ก้อไม่ได้ทำงานหนักอะไรซะหน่อย พวกที่ทำงานหนักอ่ะ คือเค้าเลือกที่จะทำมากกว่า หมอทำงานวันละไม่กี่ชม. ก้อได้เงินหลักแสนต่อเดือน แล้วหมดก้อเปนอาชีพที่ได้ช่วยเหลือคน ทุกวินาทีในการทำงาน แล้วมันไม่ดีตรงไหนหรอ
ต่างคน ก็ต่างมุมมอง
เภสัชเก่งกว่าหมอ ก็ต้องดูว่าเก่งกว่าเรื่องอะไร
มันก็ต้องเก่งกันคนละ sec หรือ sec ที่เรียนเหมือนกัน อันนี้อาจจะเทียบกันได้
แต่จะให้เภสัชมาผ่าตัด ก็คงจะตลกล่ะ
เรื่องงานหนัก มันก็มีบ้าง คุณจะหวังงานสบายๆอย่างเดียว ก็คงจะไม่ได้หรอกครับ
ส่วนเรื่องซิ่วมาสอบ / ไม่เก่งนี่ ผมว่าคุณเข้าใจผิดล่ะ คณะแพทย์เป็นหนึ่งในไม่กี่คณะที่มี ที่ 1 ของประเทศเลือกที่จะเข้า คะแนนเฉลี่ยก็สูงมาก
ผมคิดว่าเด็กซิ่วไม่ใช่ไม่เก่งนะ ดีเสียอีก เพราะส่วนใหญ่เค้าจะรู้จักตัวตนของตัวเอง ว่าเค้าต้องการเรียนคณะอะไร
และไม่ใช่ว่าใครจะเข้าก็เข้าได้ ซิ่วๆไปเรื่อยๆก็เข้าได้หรอกนะครับ
ถ้าซิ่ว แต่ไม่อ่านหนังสือ มันก็คงไม่ติดเหมือนกันล่ะ
แ ก อ ย า ก เ ป็ น ห ม อ ใ ช่ ไ ห ม ห ล ะ 
แ ล้ ว ก ลั ว พ ว ก ซิ่ ว จ ะ ม า เ อ า ที่ เ รี ย น ไ ป... เ ล ย ข อ อ อ ก ม า บ่ น 
ฟังๆดูก็รู้ว่าจะพูดอะไร
ลองพ่อแม่ป่วยขึ้นมา
พระผู้เปนเจ้าที่คิดถึง
ก้อคือ"หมอ"แน่นอน!!
เราทุกคนควรจะทำความเข้าใจว่า หมอไม่ได้เก่งอยู่วิชาชีพเดียว และไม่ได้ทำงานรักษาผู้ป่วยอยู่คนเดียวนะครับ ทุกวิชาชีพทางด้านการแพทย์ ก็มีส่วนทั้งนั้น คนที่มองไม่เห็นบทบาทหน้าที่ของบุคคลากรเหล่านี้ต่างหากล่ะ ที่จิตใจคับแคบ ไม่ว่าจะเป็นพยาบาล เภสัชกร นักเทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด รังสีเทคนิค กิจกรรมบำบัด และสาธารณสุข (ครบรึยัง ?) เขาเหล่านี้ต่างก็มีบทบาทหน้าที่ของตนเองทั้งนั้น อย่างที่คห.9 พูดว่า "ถ้าไม่มีหมอ คุณไม่ได้เกิดมาอย่างปลอดภัยหรอกครับ และคุณคงไม่ได้รับวัคซีน จนมีชีวิตรอดมา ปากกล้าได้ขนาดนี้เช่นกัน" โอ้ คุณช่างมีจิตใจคับแคบและหยิ่งผยองลำพองอะไรขนาดนี้ ผมอยากจะบอกคุณว่า วัคซีนหรือยา เภสัชเป็นคนทำ แล้วพยาบาลหรือสาธารณสุขก็เป็นคนฉีด น้อยรายมากที่หมอจะฉีดเอง ส่วนพยาบาลก็ทำคลอดเป็นนะ ใช่ป่าว ? ยิ่งท้องที่ห่างไกลไม่มีหมอ บทบาทหน้าที่ตกอยู่กับสาธารณสุขหนักมาก ทำงานเยี่ยงหมอเลยทีเดียว หรือจะบอกว่าไม่ใช่ ถ้าคห.9 ได้ออกฝึกงานก็คงเห็นเองแหละครับ .....
หมอคือ อาชีพที่มีเกียรติ  ดพราะเขาช่วยเหลือคนให้พ้นทุกข์
อย่าพูดแบบนี้ดิ่
หมออ่ะเป็นอาชีพที่มีเกียตริ
แล้วเวลาคุณเจ็บคุณป่วยนะใครรักษาคุณ
ตอนคุณเกิดนะใครทำคลอดให้คุณ
ลองนึกดูดีๆสิ
เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่สอบได้หมอแล้วเราก็เลือกที่จะเรียนก็เพราะว่าเป็นอาจารย์ที่สามารถดูแลพ่อแม่เราได้
เวลาญาติพี่น้องเจ็บป่วยจะได้ช่วยดูแล
ได้ช่วยเหลือคน  นี่คือเหตุผลส่วนเรื่องโดนฟ้องอ่ะ
เรามั่นใจว่าถ้าตั้งใจรักษาอย่างดีที่สุด
ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องโดนฟ้อง
คนตั้งกระทู้ถามจริงๆนะคะ
คิดได้ยังไง
หมอเป็นอาชีพที่มีเกียรติมาก
เกียรติของเค้าไม่ได้อยู่ที่ว่าให้ใครชมว่าเก่ง
แต่มันอยู่ที่พื้นฐานจิตใจที่พร้อมจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
นี่แหละค่ะ
เกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เพื่อนเราที่เรียนหมอคนนึงเคยอยากเรียนสถาปัตย์แต่สอบติดหมอ
ตอนแรกเค้าคิดว่าเค้าจะซิ่วแต่เพื่อนในคณะคนหนึ่งพูดกับเค้าว่า
ถึงเรียนหมอจะเหนื่อย จะหนักและอาจถูกฟ้อง
แต่ถ้าเราจบมาแล้วได้ช่วยชีวิตคนสักคน ขอแค่คนเดียว ที่เรียนมาหกปีก็คุ้มแล้ว
นี่แหละค่ะ
จิตวิญญาณของคนเป็นหมอ
ลองคิดดูว่าจิตใจของคุณสู้จิตใจแค่เศษเสี้ยวของเค้าได้หรือเปล่า
แล้วที่ว่าเด็กซิ่วเก่งตรงไหนก็แค่สอบใหม่ขอบอกว่าไม่จริง
ที่คณะเรามีเด็กซิ่วมากมาย
ไม่ใช่ว่าเค้าไม่เก่ง
เก่งกว่าเด็กที่สอบได้ในรอบแรกอย่างเรามาก
ขอย้ำว่ามาก
คะแนนตอนเข้ามาไม่ได้มีผลเลย
เมื่อคุณเข้ามาก็เหมือนเริ่มต้นใหม่หมดคือเริ่มจากศูนย์
เด็กซิ่วบางทีใช่ว่าเค้าอยากจะซิ่ว
แต่เมื่อเรียนไปแล้วมันไม่ใช่มันไม่ชอบ
จะให้เอาชีวิตทั้งชีวิตไปแลกกับเวลาหนึ่งปีหรอ
คิดว่าอย่างไหนคุ้มค่ากว่ากับการที่ต้องเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ ทำงานในสิ่งที่ไม่ชอบอยู่กับมันทั้งชีวิต
เพราะมีคนอย่างคุณที่ใจแคบ ไม่เปิดใจยอมรับ
กับเริ่มต้นสิ่งใหม่ที่จะทำให้เรามีความสุขกว่าเดิม
ปล. เราไม่รู้ว่าคุณเป็นพวกองุ่นเปรี้ยวหรือเปล่า
หวังว่าคงเข้าใจความหมายของคำพังเพย
ถ้าเป็นก็น่าสงสารที่ไม่มีความสามารถจะเรียนเลยพยายามบอกว่าสิ่งนั้นไม่ดี
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?