Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

l l l ประสบการณ์ความรัก(y) ที่ขอเรียกว่า *ร๊าก ชั้น เรียก ว่า เทอร์* ตอน 5 กะ 6 *l l l

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
       ผ่านไปหนึ่งวัน โดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ลางสังหรณ์เริ่มปรากฏ 

หรือเป็นเพราะว่า เค้าไม่ได้ คิดอะไรกับเราจริงๆ คิดจะมาก็มา คิดจะไป

ก็ไป อยู่ดีๆวันนี้ เค้าก็ไม่ติดต่อกับมา ไม่มีแม้แต่เบอร์โทรศัพท์ของเค้าที่

ขึ้นโชว์ในโทรศัพท์ของเรา เค้าหายไปไหน?? แล้วทำไมวันนี้เราถึงได้

กังวลใจจัง
!!  ทั้งๆที่เรากับเค้าเพิ่งจะได้รู้จักกันไม่กี่วันเอง นี่เรากำลัง

เป็นอะไรไป ดูเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย ใจจดใจจ่ออยู่แต่กับ

โทรศัพท์ นั่งเฝ้าโทรศัพท์ แต่เอ๊ะ
! แล้วทำไมเราไม่โทรไปหาเค้าดูละ..


(ขอโทษค่ะ ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้ ) เสียง

ตอบกลับจากปลายทางของเบอร์ ที่โทรออกไป..เค้าหายไปไหน??  ปิด

เครื่อง ติดต่อไม่ได้ ไม่ติดต่อกลับมา..ทำไมเราดูกระวนกระวายใจจังเลย

วันนี้ ในใจคิดลึก หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเค้า? แต่เอ๊ะ
! เค้าคงไม่เป็น

อะไรหรอกมั้ง.. หลังจาก ครุ่นคิดเรื่องของเค้าอยู่นานพอสมควร ก็ถึง

เวลาผละตัวเองออกจากความคิด แล้วดำเนินกิจกรรม ภารกิจส่วนตัว 

กินข้าว อาบน้ำ อ่านหนังสือ และเตรียมตัวเข้านอน..ทำไมวันนี้รู้สึก

แปลกๆ รู้สึกเหงาๆชอบกล..ไฟบนหัวเตียงถูกปิดลง พร้อมๆกับเสียง

เพลงที่เริ่มดังขึ้นเบาๆจากวิทยุ อากาศก็เริ่มเย็นๆแล้วสิน่ะ เสียงเพลง

เบาๆจากวิทยุ ทำให้หลับง่ายขึ้นดีจัง..หลังจากปิดตาลงนอนพร้อมกับ

เพลงที่ดังจากวิทยุ ทำให้รู้สึกว่าหลุดออกมาอยู่อีกโลกหนึ่ง โลกแห่ง

จินตนาการ..นี่เรากำลังฝัน
!! ..ฝันว่าเค้าโทรมาหาเรา ออกไปกินก๊วย

เตี๋ยวร้านเดิมด้วยกัน นั่งหัวเราะกัน..มีความสุขจริงๆ
^ ^ ทั้งๆที่มันเป็น

แค่จินตนาการ แต่ทำไมเราถึงมีความสุขเหมือนเกิดขึ้นจริงกับเรา ใน

ฝัน..เราเองก็ดูมีความสุข เค้าเองก็ดูมีความสุขเช่นกัน...ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ 

เป็ด อาบน้ำในคลอง ปลาก็จ้องแลมอง เพราะในคลองมีหอย ปู ปลา 

ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ...เอ๊ะ
!! เสียงโทรศัพท์ดัง ใครน่ะ โทรมาตอนนี้ เหลือบตา

มองนาฬิกา ตี
1 กว่าแล้ว แต่ยังมีคนโทรมาหาอีก ใครน่ะ?? ชั่งกล้าโทร

มาทำลายความสุข ทั้งที่กำลังฝันหวานอยู่น่ะ...วิว
!! เบอร์ วิว   วิวโทรมา

แล้ว...เก็ก เสียงหน่อยล่ะกัน


( ฮัลโหล
!! ) ทั้งๆที่เพิ่งตื่นนอน แต่ก็ต้องพยายาม เก็กเสียงในดู

ธรรมชาติ เหมือนว่ายังไม่ได้นอน

( ฮัลโหล เต้ย
!! นอนหรือยัง??) เสียงจากปลายโทรศัพท์ ฟังดูเกรงใจๆ

ยังไงพิกล


( อ๋อ
!!  ยังไม่ได้นอนเลย นั่งอ่านหนังสืออยู่ มีอะไรหรือป่าว?? ) นั้น 

โกหกไปเต็มๆ ทั้งๆ กำลังหลับฝันหวาน

( อืม ทำไมอ่านหนังสือดึกจัง ไม่ง่วงนอนหรอ? หรือว่ารอ วิวอยู่ อิอิ ) 

ห๊ะ
!! ดู มันถาม ถามยังงี้เรยหรอ?

( ห๊ะ จะบ้าหรอ รอวิวเนี่ยน่ะ
!! เหอะๆ พอดีอ่านไปเรื่อยๆ ง่วงก็ค่อยไป

นอน แต่มันยังไม่ง่วง ก็เลยยังไม่นอน พอดีขยันน่ะ มีอะไรปะ??) โกหก

เป็นรอบที่สอง ทั้งๆที่นั่งรอ โทรศัพท์ ทั้งวัน..

( โห
!! อารายว้าส์ ไม่คิดถึงกันมั้งเรยหรอ เราอุตส่าห์คิดถึงแทบแย่) 

น้ำเสียงเบาๆ บวกน้อยใจ ฟังไม่ค่อยชัดจากปลายโทรศัพท์ รอดเข้ามา

ในหู

(ห๊ะ ว่าอะไรน่ะ? ไม่ได้ยิน พูดใหม่ดิ พูดชัดๆหน่อย พอดีหูตึงอ่ะ) ทั้งๆที่ก็

ได้ยินอยู่น่ะ แต่แค่อยากจะกวนประสาทเล่นไปก็เท่านั้น

(ป่าวๆ ไม่มีอะไรหรอก ?) เหอะๆ
!  ท่าทางจะน้อยใจจริงๆ นี่เค้าคิดถึง


เราจริงหรอ? หรือว่าเค้ากำลัง หลอกเรา?

เอาไงต่อดีๆ

( แล้วไปไหนมาเนี่ย โทรมาดึกๆ ไปเที่ยวมาหรอ?เมาป่าวเนี๊ย
!! ไม่เอาๆ 

ไม่อยากคุยกับคนเมาน่ะ คุยไม่รู้เรื่องๆ)

อ๋อ ที่แท้ เค้าก็ต้องไปเที่ยวมาแน่เลย เราก็ อุตส่าห์เป็นห่วง เหอะๆ ไม่

น่าคิดเป็นห่วงมันเลย

( ป่าวๆ น่ะ วิวไม่ได้ไปเที่ยว แต่ไปทำธุระมา นี่ก็เพิ่งกลับมาถึงห้องอ่ะ 

เหนื่อยมากๆ) อ้าว สรุปไม่ได้ไปเที่ยวมาหรอ เราก็คิดลบไปซะแล้ว

(ห๊ะ
!! ธุระ ยันดึกๆดื่นๆ ป่านนี้เนี๊ยน่ะ? ไม่ดูเวลามั้ง อันตรายจะตายดึกๆ) 

เสียงอุทานดังขึ้นจากลำคอ

( ทำไมหรอ เป็นห่วงหรือไง? ไม่เห็นมีอะไรเลย นี่ไง กลับมาแล้ว แล้วก็

ได้โทรหาเต้ยแล้วด้วย..ฮ่าๆ) ทำไมเค้าพูดจาแปลกๆ ดูหยอดเราตลอด

เลยน๊ะ

(ว่าแต่เต้ยเถอะ ไม่เห็นโทรหากันมั้งเลยน๊ะ?? น้อยใจว่ะ
!!) แหมๆ ทำ

เป็นรู้ดี โทรไปแล้วโว้ย แต่ไม่ติด

(อ๋อ +?
!! $#%$% ก็อ่านหนังสืออยู่อ่ะ) ตอบว่าไงดีๆ เอาตัวรอดไปก่อน

ล่ะกัน


(แน่ใจหรอ? เต้ย ทำไม มีข้อความ ว่าเบอร์เต้ยโทรมาด้วยล่ะ?) ซวย

แล้ว คราวนี้ งานเข้า โกหกไม่เนียนแล้วไง ทำไงดีล่ะคราวนี้ ไม่รอดแน่ๆ

( เหอะๆๆ ก็โทรไปแล้ว ไม่ติด ก็ไม่รู้จะโทรอีกทำไม?) นั้น สุดท้ายก็ต้อง

ยอมรับ
เสียหน้าเลยเรา

( อ้าวไหน มะกี้บอกว่าไม่ได้โทร) แล้วจะถามเอาอะไรเนี๊ย
!!   

(อะไร ยังไม่ได้บอกว่าไม่ได้โทร บอกแค่ว่า อ่านหนังสืออยู่ หรอก
!! ) จะ

ถามทำไมนักหนาว่ะเนี๊ย เดี๋ยวจนมุม

(ฮ่าๆ ๆ คิดถึงกันล๊ะ สิ รู้แค่นี้ก็ ดีใจตายแล้ว...เอาเถอะคับ นี่ดึกแล้ว เต้ย

นอนเถอะ เดี๋ยวค่อยอ่านหนังสือ พรุ่งนี้ก็ได้ คืนนี้ฝันดีน่ะคับ) ฝันดี 

ตั้งแต่ก่อนที่ นายจะโทรมาอีก รู้ไหมว่าตอนนี้ หน้าแดงไปหมดแล้ว พูด

อะไรไม่ถูก ขืนถามมาอีก คงใบ้รับประทานแน่ๆ

(อืมๆๆ ฝันดีเหมือนกัน บาย) ประโยคสุดท้าย ก่อนที่จะวางโทรศัพท์ แต่

ไม่ใช่ประโยคสุดท้ายก่อนที่เค้าจะวางโทรศัพท์

(ขอโทษน่ะเต้ย ที่โทรมารบกวนดึกๆ แบบนี้ พรุ่งนี้ตอนเย็นๆว่างไหม? 

ไปกินข้าวกัน แล้วเดี๋ยว วิว โทรไปเตือนน่ะ ฝันดีอีกรอบคับ บาย) เห้ย
!! 

เค้าชวนไปกินข้าวด้วย เค้าคิดอะไรแน่ๆ มั่นใจๆ ชัวร์ ป๊าบๆ

(อืม ได้สิ โทรมาเตือนด้วยล่ะกัน คิวเยอะน่ะ ฮ่าๆๆๆ) หลังจากวาง

โทรศัพท์ ความกังวลใจ อะไรๆ ที่เคยคิดว่าทำไมเค้าหายไปไหน? เค้า

ไม่โทรมา ก็หายไปในพริบตา ตอนนี้ได้แต่นั่งอมยิ้ม อยู่คนเดียว เขิลไป 

เขิลมา เขิลจริงๆแบบ ไม่เคยเขิลอะไรอย่างนี้มาก่อน.... ก่อนที่จะทิ้งตัว

ลงนอนอีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้ม ที่ยังคงค้างอยู่ที่มุมปาก
 ฝันดีจ๊ะ ^ ^

ตอนที่ หก

เช้าที่สดใส ต้อนรับวันใหม่ วันนี้อากาศดีจัง อากาศเย็นน้อยๆ ชอบ

อากาศแบบนี้จัง วันนี้เตรียมตัวไปเรียนแต่เช้า แต่ก็ไม่วายที่จะหยิบเอา

ไดอารี่ มาเขียนบันทึกเรื่องของเมื่อวาน

               
3 dec 08

อยากรู้จิง วันนี้จะเป็นยังไง จะมีอะไรน่าสนุกหรือป่าวน่ะ....
ประโยคสุด

ท้ายที่เขียนไว้เมื่อวานตอนเช้าๆ เขียนต่อ อีกสักหน่อยดีกว่า

                วันนี้ไม่มีอะไรสนุกเลย แอบนอยด์ แอบเบื่อด้วย ดีน่ะ ที่วันนี้ 

วิวยังโทรมาหา ถึงแม้ว่ามันจะดึกไปหน่อย แต่ก็ ถือว่ามีความรับผิดชอบ

ดี
55 เกี่ยวอะไรกันว่ะเนี่ย ก็ยังดีที่ยังโทรมาหา มีการน้อยใจเราด้วย 

ท่าทางชักเริ่มไม่น่าไว้ใจแล้วสิเรา.. พรุ่งนี้ จะเป็นยังไงติดตามตอนต่อ

ไป ทาเคชิ ชิ ชิ
!!

 ฮ่าๆ ว่าไปเขียนไดอารี่ก็ สนุกดีเนอะ เหมือนคนบ้าดี หยิบมาอ่านที่ไร ก็ 

อดยิ้มไม่ได้...ได้เวลาไป เรียนแล้วสิน่ะ..เห้อ รู้สึกเซ็งจริงๆ ...เอาเถอะถึง

ยังไง วันนี้ก็ ตั้งใจเรียนเป็นพิเศษ ไม่รู้สิเพราะว่าอะไร อาจจะเป็นเพราะ

ว่าขยันมั้งน๊ะ ถึงได้ดุ ตั้งใจเป็นพิเศษ จนเวลา ล่วงเลยมาถึงเวลากลับ

บ้าน...เห้อ
!! หมดเวลาแล้วสิ ยังสนุกอยู่เลย..หลังจาก หมดเวลาเรียน ยัง

ไม่ทันจะก้าวออกจากห้องเรียน โทรศัพท์ ก็ สั่น ครืด ครืดๆ ขึ้นใน

กระเป๋า กางเกง เอ๊ะ
! ใครโทรมาอีกแล้วล่ะ.. อ้าว วิว โทรมาแล้ว โทรมา

ทำไม? นี่เราเพิ่งเลิกเรียนเองน๊ะ..

(ฮัลโหล วิว ว่าไง? เพิ่งเลิกเรียนสดๆ ร้อนๆเลยเนี๊ย ) บอกตรงๆตอนนั้น 

ลืมนัดไปสนิทใจ

( อืมๆ ดีแล้วๆ จะกลับหรือยังล๊ะ ไปกินข้าวกัน
!! ) เออ!! วันนี้ วิวชวนไป

กินข้าวนี้ว้าส์ 

(อ๊ะ ที่ไหนดีล๊ะ? กี่โมง? ) ทำไงดี ยังไม่ได้บอก คนที่บ้านเลย โอเคๆ 

ไหนๆก็ตกลงไว้แล้ว ไปก้ไป

( อืม ที่..... มาเรยก็ ได้น๊ะ เจอกันที่นั้นเลย โอเคน๊ะคับ) เสียงเค้าฟังดู มี

ความสุขดีเนอะ ต่างจากเรา จะบอก แม่ว่าไงดี กลับบ้านเย็นกว่าเดิม 

เอาว่ะ เดี๋ยว ค่อยโทรไปบอกก็ได้นิ ไม่ใช่ปัญหา

หลังจาก ตกลงและนัดสถานที่กันเรียบร้อยแล้ว ไม่ถึง หนึ่งชั่วโมงก็มา

ถึงยังที่นัดหมาย อ้าว วิวอยู่ที่นั้น สงสัยจะมารอนานแล้วแน่ๆเลย

(เฮ้
!! มานานยัง?) ท่าทางร่าเริงและ รอยยิ้มของเรา อาจจะทำให้เข้าไม่

หงุดหงิดก็ได้มั้ง

(อ๋อๆ ไม่นานๆ เพิ่งมาได้สักครู่เอง หิวยัง ไปหาอะไรกินกันป๊ะ) เอ๊ะ
!เค้าดู

ไม่หงุดหงิดด้วย รู้ก็รู้ว่า น่าจะมาถึงนานแล้ว แต่ก็ยังบอก ว่าเพิ่งมาถึง 

เหอะๆ แปลกคน เราทั้งคู่ตกลงที่จะกิน ข้าวเย็นที่ร้านแห่งหนึ่ง หลังจาก 

สั่งอาหารเรียบร้อย ระหว่างรออาหารบทสนทนาก็เริ่มเกิดขึ้น

(มาทำอะไรแถวนี้ ถึงได้โทรมาชวน กินข้าวที่นี่อ่ะ??) ข้อสงสัยแรก ถูก 

ตั้งเป็นประเด็นในระหว่างรออาหาร

( มาทำธุระน๊ะ พอดีเสร็จไว ก็เลยรีบโทรชวน กลัวเต้ยกลับถึงบ้านก่อน) 

เค้าตอบคำถามแรก พร้อมรอยยิ้มอีกแล้ว โอ้ว พระเจ้า ทำไมเวลาเค้า

ยิ้มให้เราที เรารู้สึกเขิลยังนี้

( อ้าวกลับถึงบ้านก่อนแล้วไง ก็กินแถวบ้านไง ไม่เห็นต้องมากินแถวนี้

เลย แล้วนี่มากับใครอ่ะ ไม่เห็นมีเพื่อนเลย)

(มาคนเดียว) ทำไมดูเค้าตอบ เหมือนไม่อยากตอบเราเลย

(เป็นอะไรหรือป่าว เพื่อนทิ้งหรอ? แหมๆๆ ไม่ต้องเสียใจไป นี่ไงอยู่กับ

เต้ยซะอย่าง กลัวไร ม๊ะ เดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อน ดูดิ อย่าทำหน้ายังงั้นดิ ยิ้ม

หน่อยๆ) เค้าดูแปลกไปจริงๆ ทันทีที่เราถามเรื่องเพื่อน เค้ามีปัญหาอะไร

กันหรอ?

(จริงๆน่ะเต้ย เต้ยอยู่เป็นเพื่อน วิวน่ะ ) อ้าวดู เค้าตอบ ทำไม 

ดูซีเรียสจัง
!!

(อืม ได้ดิ ..มาพอดีเลยๆ กำลังหิวๆ) ระหว่างกำลังสนทนากัน อาหารก็

พร้อมเสริฟ ก็ลำเลียงมาเรื่อยๆ ว้าว ๆทำไมเยอะจังว้าส์ น่ากินๆทั้งนั้น

เลย เราสองคนมองหน้ากันอย่างรู้หน้าที่ พร้อมลงมือ ทานอาหารกัน

อย่าง อร่อย..บทสนทนา ยังคงเกิดขึ้นเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่ประโยค

เด็ด ประโยคหนึ่ง

(เต้ย วิวชอบเต้ย
!! ) คำสารภาพ ถูก พูดออกมาจาก ปากของวิว นี่วิว

กำลังพูดอะไรอยู่รู้ตัวบ้างไหม?

ทันทีที่ได้ยิน ประโยคนี้ อาหารที่อยู่ในปาก ก็แทบสำลักออกมา อาหาร

ติดคอ น้ำๆ น้ำๆ หลังจากเคลียร์ อาหารในปากหมด ในใจคุ่นคิด หาคำ

พูด ประโยคต่อๆไป จะพูดว่าอะไรดี? จะต่อประโยคว่าอะไรดี?

(เต้ย ได้ยินที่วิวพูดไหม? ) วิวยังคง ย้ำ คำพูด เดิมที่พูดออกมาเมื่อสัก

ครู่

( อืม
!! ได้ยินแล้ว วิวเป็นอะไรหรือป่าว ชอบเต้ยเนี๊ยน่ะ? ) พูดไป พลาง

เอานิ้วชี้มาที่ตัวเอง

( อืม ใช่
!!  วิว ชอบ เต้ย ..วิวรู้น่ะ ว่ามันเร็วมากที่พูดแบบนี่ แต่ วิวชอบ

เต้ยจิงๆน่ะ) ดูท่าทางเค้าจะมั่นใจ ในคำพูดของเค้าจริงๆเลยน่ะ

( แต่ วิว วิว กับเต้ย เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่กี่วันเอง วิวรู้แล้วหรอ?ว่าเต้ย

นิสัยยังไง? ) ไม่ได้อยากให้สถานการณ์มันตึงเครียด แต่ แค่อยากต้อง

การความมั่นใจจาก เค้าเท่านั้นเอง

(ไม่แปลกหรอกเต้ย ที่ เต้ยจะคิดยังนี้ เพราะยังนี้ไง วิวถึงอยากรู้จักกับ

เต้ย อยากศึกษานิสัยของเต้ยไปเรื่อยๆ วิวถึงตัดสินใจบอกเต้ย วิวแค่

กลัวว่า เต้ยจะมีคนอื่น
!!!) ห๊ะ กลัวเราจะมีคนอื่นงั้นหรอ? ทำไมไม่ถาม

ตรู ดูมั้งล่ะ ว่ามีใครเข้ามาไหม?? เห้อ
!! เอาไงต่อดีว่ะเนี่ย...ตอนนี้ทำ

อะไรไม่ถูกจริงๆ จะกินต่อ ก็กินไม่ลง แล้วจะให้พูดอะไรต่อก้พุดไม่ออก

จริงๆ

( วิวไม่อยากให้เต้ยคิดมากในตอนนี้น่ะ แต่วิวแค่อยากให้เต้ยรู้ไว้ ว่า วิว

รู้สึกยังไงกับเต้ย
!!) ดูท่าทางเค้าจะรู้ว่าเรารู้สึก อึดอัดขนาดไหน ใน

สถาณการณ์ตอนนี้ กลืนไม่เข้า คายไม่ออกจริงๆ ...หลังจาก อะไรๆ

หลายๆอย่างคลี่คลายลง เราทั้งคู่ก็ตัดสินใจเดินเล่นกันสักพัก ก่อนที่จะ

กลับบ้านด้วยกัน

(วิว นั่งรถเมล์กลับกันน่ะ มืดขนาดนี้แล้ว รถคงไม่ติด อากาศก็เย็นดี

ด้วย ) ท่าที ของเราตอนนี้ไม่ได้ต้องการให้ เค้ายังคิดว่าเราคิดเรื่องๆ นั้น

อยู่ จะเอยปากชวนกลับบ้านด้วยรถเมล์ อย่างน้อยๆ ลมพัดเย็นๆ ลอด

หน้าต่างเข้ามาก็ทำให้รู้สึกสบายดีน่ะ

(อืมได้สิ รถน่าจะไม่ติดแล้วด้วย) เค้ายังคง มีรอยยิ้ม ตลอดทุกครั้งที่พูด 

กับเรา แต่ผิดกับเรา ทั้งๆที่ต้องฝืนยิ้ม เพราะกำลังคิดมากเรื่องที่เค้า

บอกกับเรา ...เราสองคนยืนรอรถเมล์ได้สักพัก รถเมล์สายที่ผ่านบ้าน

ของเราทั้งคู่ก็มา บนรถ คนดูน้อยถนัดตา เมื่อเปรียบกับเวลาที่ผู้คนพลุก

พล่าน เราสองคนเลือกที่จะนั่งเบาะยาว เกือบท้ายสุดของรถเมล์ วันนี้รถ

เมล์ วิ่งเร็วเป็นพิเศษ เพราะรถบนถนนดูน้อยลงไปเยอะ เราเลือกนั่งริม

หน้าต่าง เพราะอยากให้ลมพัดเข้าหน้า จะได้สบายๆ ตลอดทางกลับ
บ้าน 

เราไม่มีบทสนทนากันเลย มีเพียงแค่มองหน้ากันและยิ้มให้กัน เค้าคงรู้

ว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่ เพราะสังเกตเอา เรียกง่ายๆว่าเดา แต่ท่าทาง

ของเค้าก็กำลังคิดอะไรอยู่แน่ๆ หรือ เค้าจะคิดเรื่องเราอีก...ทำไมตอนนี้

เราสับสนกับตัวเองจริงๆ ..ทั้งๆที่เราก็ แอบปลื้ม แอบชอบ แอบเป็นห่วง

เค้าอยู่ แล้วทำไมเราไม่บอกเค้าไปล่ะ ว่าเราก็ชอบเค้า ...ไม่นานนัก เรา

ทั้งคู่ก็มาถึงป้ายรถเมล์ที่ใกล้บ้านเราที่สุด เค้าขอเดินไปส่งเราที่บ้าน 

เค้าบอกว่าเค้าเป็นห่วงเรา ..เราเองก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะให้เค้าไปส่งที่บ้าน 

ในที่สุดเราเองก็เดินมาถึงประตูหน้าบ้าน เราทั้งคู่บอกว่ากันก่อนที่จะขอ

ตัวเข้าบ้าน...

(ถึงบ้านเต้ยแล้ว..หายห่วง ปลอดภัย สบายใจได้
^ ^ ) เรายิ้มพร้อม

กำลังจะไขประตูเข้าบ้าน

(คับ คนที่บ้านคงนอนกันหมดแล้ว ปิดไฟทั้งบ้านเลย นอนหลับฝันดีน่ะ

คับ ไม่ต้องคิดมากเรื่องที่วิว คุยกับเต้ยน่ะ วิวยืนยันคำเดิม ว่า วิวแค่

อยากบอกเต้ยจริงๆ) เค้าดูท่าทาง ยืนยันคำเดิมที่เค้าบอก แต่ตรงกัน

ข้ามกับเรา เราเองก็มีอะไรอยากจะบอกเค้าเหมือนกัน

(วิว
!! ถ้าเต้ยมีอะไรจะบอกวิวมั้งล่ะ) ประโยคนี้ ทำให้เค้าดู สนใจเรามาก

ขึ้นเป็นพิเศษ..


( ?? ) ดูเค้า จะอยากรู้มาก กับเรื่องที่เราจะบอกเค้า

( จริงๆแล้ว เต้ยก็ชอบวิวเหมือนกันน่ะ) แค่นี่แหละที่อยากบอกจริงๆ 

ประโยคนี้จริงๆ ที่คิดมาตลอดทาง ในที่สุด เราก็ตัดสินใจ พูดประโยคนี้

ออกไป บนใบหน้าของเค้าตอนนี้ ทำไมเค้าถึงยิ้มกว้างกว่าเก่า แต่ทำไม 

ตัวเราถึงได้รู้สึก ตื่นเต้น จนรู้สึกได้ว่าตัวเองสั่น...แต่ก็ดีใจน่ะ ที่ได้พูด 

สิ่งที่อยากบอกออกไป คิดว่าเค้าคงรู้สึกดีเช่นกัน ...เราทั้งคู่ ยืนมองหน้า

กัน แต่เป็นเค้าที่เลือกเข้ามาดึงตัวเราเข้าไปกอด ไออุ่นที่เรารู้สึกครั้งนี้ 

มันชั่งรู้สึก ดีจริงๆ อ้อมกอดของเค้าชั่งดู อ่อนโยนอย่างบรรยายไม่ถูก

จริงๆ ไม่รู้ว่านานเท่าไรที่เราทั้งคู่ยืนกอดกันอยู่หน้าประตูบ้าน ความรู้สึก

เหมือนกับว่า เวลาหยุดทุกๆอย่าง ในอ้อมกอดของเค้าเรารับรู้ได้ถึง 

ความอบอุ่น...ใบหน้าของเค้ามีแต่รอยยิ้มที่ปรากฏ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับบน

ในหน้าของเราเช่นกัน...สุดท้ายทั้งเค้าและเราก็ได้รับรู้ความรู้สึกของกัน

และกันแล้ว    พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยๆ เราเองก็ดีใจ ที่เราก้ได้

พุดในสิ่งที่เรารู้สึกเช่นกัน...หลังจากที่ เค้าดึงตัวเราเข้าไปกอดสักพัก 

เค้าก็คลายมือของเค้าออกจากตัวเรา พร้อมปล่อยให้เราเดินเข้าบ้าน 

โดยที่เค้าก้เดินกลับบ้านของเค้าเช่นกัน...คืนนี้ช่างมีความสุขจริงๆ...ข้อ

ความจากส่วนหนึ่งของ
ไดอารี่


                 
4 dec 08


วันนี้จะเรียกว่าวัน พิเศษ ก็ได้น่ะ เราไปกินข้าวด้วยกัน เค้าสารภาพ

บอกว่าชอบเรา..ยอมรับแรกๆ มันทำให้เรารู้สึกอึดอัด แต่มันก็ทำให้เรารู้

ใจตัวเราเอง ว่าเราก็ชอบเค้าเหมือนกัน กอดที่แสนอบอุ่น วันนี้เรารู้สึก

ได้ เค้าดึงเราเข้าไปกอด เราเองก็ไม่ปฏิเสธที่จะให้เค้ากอด วันนี้รู้สึกดี

จัง...เต้ย ก็ ชอบ วิว เหมือนกัน...


PS.  มาย เนม เฟลิเซ่!!

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

..sAAc.. 29 เม.ย. 52 เวลา 09:53 น. 1

เล่ามาเป็นตอนๆ

ทำไมไม่เอาไปเขียนใน writer ล่ะครับ


PS.  ~อย่าเป็นคนปากดี ที่ ดีแต่ปาก~
0