Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

LazY Eye คุณอาจอยู่กับมันอย่างไม่รู้ตัว

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

LazY Eye เรียกแบบไทยๆ ว่าตาขี้เกียจ


เราอยู่กับมันมาตั้งแต่เกิด แต่ไม่เคยรู้เลยว่าสายตาของตัวเอง อยู่ในภาวะนี้


อาการของมันก็แค่สายตาสั้นไม่เท่ากัน เราพึ่งมารู้ตัวเมื่อปีที่แล้ว


สายตาของเราที่วัดเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ R 0  L -4.6 (ข้างขวาปกติดี ซ้ายสั้น 460)





ตาสั้นขนาดนี้ทำไมไม่รู้??

สาเหตุที่ทำให้เราไม่รู้ตัวเนื่องจาก ตาข้างขวาของเราปกติดี มองเห็นอะไรก็ดูเหมือนจะชัดเจนไม่มีปัญหา

(ใช้ตาข้างเดียวในการมอง)


ตาขี้เกียจ (Amblyopia , Lazy Eye)
ในเด็กแรกเกิด การมองเห็นยังพัฒนาไม่เต็มที่ ซึ่งจำเป็นต้องมีพัฒนาการต่อจนกระทั่งเด็กอายุ 8-9 ขวบ จึงจะสมบูรณ์เต็มที่ ในช่วงเวลาดังกล่าว ถ้ามีความผิดปกติมาขัดขวางพัฒนาการของการมองเห็น ทำให้หยุดชะงัก ตาข้างนั้นจะเห็นไม่ดี เนื่องจากไม่ได้ใช้ในการมอง ถ้าทิ้งไว้ไม่ได้รับการแก้ไข ตาจะมัวลงเรื่อย ๆ  เรียกว่าภาวะนี้ว่า ตาขี้เกียจ (Amblyopia หรือ Lazy eye) ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้นในเด็ก 2-5 % ของประชากรมีผลทำให้ตามัวมาก ถ้าไม่ได้รับการรักษาให้หายก่อนอายุประมาณ 8-9 ขวบ การรักษาหลังจากนี้มักไม่ได้ผล ทำให้ตาข้างนั้นเห็นไม่ดีอย่างถาวรไปตลอดชีวิต

สาเหตุที่ทำให้สายตาเกิดตาขี้เกียจ คือ 1. เด็กที่เป็นตาเหล่ จะใช้ตาข้างที่ตรงเพียงข้างเดียวในการมองทำให้ตาข้างที่เหล่มัวลง เกิดเป็นตาขี้เกียจได้ การรักษาที่ให้ได้ผลดีที่สุด คือการปิดตาข้างที่ดี เพื่อกระตุ้นให้เด็กใช้เฉพาะตาข้างที่เหล่ สายตาก็จะดี จึงทำการผ่าตัดกล้ามเนื้อตา การรักษานี้ยิ่งเด็กอายุน้อยจะยิ่งได้ผลดี  2. สายตาผิดปกติ (สายตาสั้น , สายตายาว , สายตาเอียง) ถ้าตาทั้งสองข้างมีสายตาผิดปกติมากน้อยต่างกัน ตาข้างที่มีสายตาผิดปกติมากกว่าจะเห็นภาพไม่ชัดเจน เด็กจึงไม่ใช้ตาข้างนั้น แต่ตาขี้เกียจชนิดมาตาตรง ทำให้บิดามารดาไม่ทราบว่าเด็กมีความผิดปกติ ทำให้ได้รับการรักษาช้า การรักษาทำโดยให้ใส่แว่นสายตาที่เหมาะสม จะทำให้ตาขี้เกียจดีขึ้นได้ 3. เกิดจากโรคตาต่าง ๆ ที่ทำให้ตาไม่ได้ใช้ในการมอง เช่น เด็กที่เป็นต้อกระจกแต่กำเนิด , เปลือกตาตกแต่กำเนิดมาบังการมองเห็น การรักษาทำโดยรักษาโรคที่เป็นอยู่ก่อนโดยเร็วแล้วจึงรักษาตาขี้เกียจโดยการปิดตาข้างที่ดี โรคตาขี้เกียจในเด็กสามารถป้องกันและตรวจให้ทราบได้เนิ่น ๆ โดยการพาเด็กไปรับการตรวจตาจากจักษุแพทย์ เพื่อทำการรักษาก่อนที่จะสายเกินไป

                            พญ.สุดารัตน์  ใหญ่สว่าง
    ภาควิชาจักษุวิทยา  คณะแพทยศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ที่มา : คอลัมภ์   “ พบแพทย์จุฬาฯ”
หนังสือพิมพ์มติชน  ฉบับวันพฤหัสบดีที่  4  พฤษภาคม  2549

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตาเรากำลังขี้เกียจอยู่??

ง่ายๆคะ เพียงแค่ลองหลับตาหนึ่งข้าง ถ้าตาคุณมองเห็นภาพชัดเจนใกล้เคียงกันทั้งสองข้าง


ตาคุณไม่มีปัญหาคะ

แต่ถ้าหลับตาข้างซ้ายแล้วใช้ข้างขวามองมันมัวมากๆ นั่นควรจะไปพบแพทย์นะคะ

รีบไปตั้งแต่ตอนนี้ ดีกว่าปล่อยให้ดวงตาของคุณมองไม่เห็น

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

ZePhyrE 15 พ.ค. 52 เวลา 21:32 น. 1

เราก็เป็นนะ ตอนนี้ข้างขวาประมาณ 950 แล้ว ตอนแรกที่เจอน่ะ ประมาณ 600 (เจอตอน ป.4) แต่ที่เพิ่มนั่นนะ จากการเรียนมหาวิทยาลัยนี่แหละ ส่วนข้างซ้ายถือว่าปกติ 350 เพราะทำตัวเอง เราอ่านหนังสือสอบมากไป

เราไม่แนะนำให้คนที่เป็น lazy eye เรียนคณะทันตแพทย์ (เราเรียนอยู่เลยรู้ดี) มันทรมานสายตา เพราะการกรอฟันเป็นระดับ 0.x มิลลิเมตรมันต้องใช้สายตาเพ่งมากๆ บางครั้งทำคนไข้ต้องมองผ่านกระจกอีกถ้าทำฟันบน ยิ่งเพ่งหนักเข้าไปอีก ตอนนี้สั้นขึ้นแบบฮวบฮาบเลย

อาการของเราไม่หนักมาก เราไปหาหมอมาแล้ว เค้าแนะนำให้ใส่คอนแทคเลนส์ แต่ 2 ข้างไม่เท่ากัน ไม่แนะนำให้ใส่แว่น เพราะ ภาพที่ได้จะมีขนาดต่างกันมาก ให้นึกถึง เลนส์เว้าที่กำลังขยายไม่เท่ากันนั่นแหละ ภาพที่ปรากฏในสมองจากตา 2 ข้างไม่เท่ากัน ตอนสมองแปลผลออกมาจะทำให้มึน และปวดหัวได้ง่าย ควรไปพบแพทย์เป็นประจำทุกๆ 3 เดือน เพื่อตัดแว่น หรือเปลี่ยนเบอร์คอนแทคเลนส์


*** อย่าคิดว่าแพง + เสียดายเงินนะ เพราะตามีแค่คู่เดียว เสียแล้วเปลี่ยนไม่ได้ด้วย


เราใส่คอนแทคเลนส์ไปก็กลัวว่าจะติดเชื้อ คนที่ใส่คอนแทคเลนส์ควรต้องล้างมือ"ทุกครั้ง" ทั้งก่อนใส่ และถอด เปลี่ยนตลับคอนแทคทุก 1 เดือน เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่จะฟักตัวในตลับคอนแทคเลนส์

มีเพื่อนอีกคนในชั้นปีเดียวกันก็เป็น lazy eye แต่เค้าอาการหนักกว่าเรา เค้ามองได้แค่ข้างเดียว อีกข้างใช้อะไรแทบไม่ได้เลย เพราะบางครั้ง ตอนกรอฟันอยู่ตาเขาเบลอขึ้นมาเลย ต้องหยุดทำงานดื้อๆ บางทีอาจารย์ก็ไม่เข้าใจด้วย

เราไม่แน่ใจว่าหลังจากการรักษาแล้วจะสามารถทำเลสิกได้หรือเปล่า แต่การทำเลสิก สายตาจะต้องคงที่แล้วไม่สั้นเพิ่ม และค่าใช้จ่ายสูง ผลข้างเคียงก็มาก ตอนถามจักษุแพทย์ เค้าแนะนำให้ใส่คอนแทคเลนส์ตลอดชีวิต แต่เราไม่แน่ใจว่า เค้าต้องการขายสินค้าในร้านหรือเปล่าเลยพูดอย่างนั้น


PS.  จงมองโลกใบนี้ และหัวเราะเยาะเย้ยให้กับมัน จงมีชีวิตอยู่โดยเหยียดหยามทุกสิ่ง ไม่เว้นแม้แต่ตัวเอง สิ่งเดียวที่ควรบูชา คือ เลือด !!!
0
*** 16 พ.ค. 52 เวลา 12:25 น. 2

เราสั้น 500 แล้วอะ

อายุเพิ่ง 15 ปีเอง

มันสั้นลงเร็วมากๆเลย

สั้นลงประมาณ ปีละ 100 เลย

เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

แต่เราลองทดสอบโดยปิดตาข้างหนึ่ง

คิดว่าทั้ง 2 ข้าง สายตาน่าจะเท่ากันนะ

เราไม่ได้เป้น Lazy eye ใช่ไหม

*เราใส่แว่น

0
เน็ต 1 ต.ค. 52 เวลา 21:34 น. 3

เราตรวจสายตาที่รร.หมอเขียนมาว่าอาจเป็นเลซี่อาย แต่ตามันสั้นไม่เท่ากันแต่แรกแล้ว109

0
ื์Nattaporn 15 พ.ค. 54 เวลา 17:42 น. 4

เราเป็นlazy eyeอ่ะ ตอนนี้เราอายุ14อ่ะ เป็นข้างขวาอ่ะ แล้วอยากรู้ว่าจะรักษายังไงให้ดีขึ้นที่สุด ได้ดีผลที่สุด

0