Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[PIC!!!] ย้อนวันวาน เหตุการณ์รถไฟชนมรณะที่หัวลำโพง เมื่อปี 2529

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
หากใครเคยดูหนังเรื่อง Knowing มาแล้ว คงจำกันได้กับฉากโศกนาฏกรรมรถไฟตกราง พุ่งเข้าขยี้ฝูงคน







แต่คุณรู้ไหมว่า เหตุการณ์ทำนองนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ในประวัติศาสตร์รถไฟไทย!!















Click on the image for full size

มาดูสรุปเหตุการณ์สักหน่อยนะครับ ผมได้เก็บมาจากข่าวหนังสือพิมพ์หลายๆ ฉบับ แต่จะขอเว้นชื่อบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิด เพราะมีตัวตนอยู่ ไม่อยากกระทบกระเทือนผู้ใด ตั้งใจไว้เพียงว่า เกิดเหตุขึ้นเมื่อไหร่ ? อย่างไร ? และผลที่ได้รับ คงเข้าใจกันนะครับ

Click on the image for full size

Click on the image for full size

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2529 เวลาประมาณ 08.50 น.

ขณะที่ผู้คนกำลังพลุกพล่านเพื่อรอเดินทางและรับญาติที่มาจากขบวนรถไฟบริเวณ ชานชาลาสถานีกรุงเทพ ( หัวลำโพง ) อยู่นั้น พลัน...ต้องตื่นตระหนกด้วยเสียงประกาศผ่านลำโพงกระจายเสียงจากจากเจ้า หน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ พร้อมมีเจ้าหน้าที่ของสถานีวิ่งเป่านกหวีดออกมาไล่ต้อนผู้คนที่ยังงุนงงกับ เหตุการณ์ให้หลบหนีออกจากบริเวณชานชาลาสถานีโดยเร่งด่วน

Click on the image for full size

ไม่กี่อึดใจ ทุกคนได้ยินเสียงรถจักรดีเซลดังใกล้เข้ามาพร้อมภาพขบวนรถจักรดีเซล จำนวน 6 คัน แล่นสู่ชานชาลาที่ 4

แล้วภาพที่ทุกคนไม่คาดคิดได้ปรากฏขึ้น เมื่อขบวนรถจักรดัเซลดังกล่าว ได้พุ่งเข้าชนแป้นปะทะ เลยขึ้นบริเวณพื้นชานชาลา ชนแผงป้ายตารางเดินรถขนาดใหญ่โค่นลงทับผู้คนที่หลบหนีไม่ทัน เข้าหาอาคารหน่วยประชาสัมพันธ์ ที่ทำการสาขาธนาคารกรุงเทพ และอาคารร้านค้าที่ตั้งอยู่ในบริเวณสถานีพังพินาศ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว เศษข้าวของเกลื่อนกลาด จนกระทั่งรถจักรนำขบวนได้ล้มตะแคงขวางทาง ขบวนรถจักรดังกล่าวจึงหยุดสิ้นฤทธิ์ตรงหน้าประตูทางเข้าอาคารสถานี

หลังจากรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดบรรเทาสาธารณภัยของหน่วยงานต่างๆ นับร้อยคนได้ระดมกำลังรุดเข้าที่เกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายที่ อยู่ภายใต้ซากปรักหักพัง

Click on the image for full size

Click on the image for full size

จากการตรวจค้นสถานที่เกิดเหตุและนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตรวม 5 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัสรวม 8 ราย และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยนับสิบราย โดยเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ได้ประกาศปิดสถานีเป็นการชั่วคราวเพื่อดำเนินการกู้ภัย และจัดหาที่กั้นผู้คนที่มามุงดูไม่ให้กีดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ อีกด้วย

Click on the image for full size

Click on the image for full size

จากการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุในเวลาต่อมา ขบวนหัวรถจักรที่ก่อเหตุ เป็นหัวรถจักรดีเซล จี.อี. จำนวน 6 คัน ประกอบด้วยหมายเลข 4029 , 4042 , 4044 , 4010 , 4006 และหมายเลข 4043 ซึ่งจอดอยู่ในโรงซ่อมรถจักรบางซื่อ แล่นออกมาโดยปราศจากคนขับ ผ่านหอควบคุมการเดินรถย่านสถานีบางซื่อ เมื่อเวลา 08.45 น. ซึ่งสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ และแจ้งเหตุให้พนักงานกั้นทางทุกแห่งให้เอาเครื่องกั้นลงเพื่อความปลอดภัย ของผู้ขับรถยนต์ และนายสถานีทุกแห่งบนเส้นทางได้เตรียมรับเหตุการณ์

แต่ในทางตัดที่ถนนประดิพัทธ์ พนักงานเอาเครื่องกั้นทางลงไม่ทัน ขบวนรถจักรได้พุ่งชนรถแท๊กซี่เสียหาย 1 คัน มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ และชนรถจักรยานยนต์เสียหายอีก 1 คัน ก่อนเข้าสู่บริเวณย่านสถานีกรุงเทพจนเกิดเหตุสลดใจดังกล่าว

Click on the image for full size

Click on the image for full size

หลังจากชุดเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยได้ค้นหาผู้บาดเจ็บและนำศพผู้เสีย ชีวิตทั้งหมดออกไปจากที่เกิดเหตุแล้ว ในเวลา 10.00 น.ชุดกู้ภัยของการรถไฟฯ ได้เริ่มกู้หัวรถจักรออกจากบริเวณ โดยนำหัวรถจักรหมายเลข 4043 และหมายเลข 4006 ซึ่งไม่ตกรางและอยู่ท้ายขบวน นำกลับโรงรถจักรบางซื่อ พร้อมกับวางรางฉุกเฉินเพื่อนำรถปั้นจั่นกู้ภัยเข้าเข้าจุดเกิดเหตุ โดยสามารถดึงเอาหัวรถจักรหมายเลข 4044 ออกไปได้สำเร็จเมื่อเวลาประมาณ 13.45 น. และได้นำหมายเลข 4010 กลับในเวลาต่อมา

Click on the image for full size

Click on the image for full size

ในระหว่างกู้ภัย คณะแพทย์และชุดเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยได้พยายามช่วยเหลือหญิงผู้ประสบ เคราะห์ร้ายรายหนึ่ง ซึ่งหลบหนีไม่ทัน ถูกรถจักรหมายเลข 4029 พลิกมาทับร่าง ขาขวาแหลกละเอียด กระดูกสันหลังหัก โดยพยายามใช้แม่แรงและอุปกรณ์ยกตัวรถขึ้น เพื่อนำตัวผู้บาดเจ็บเข้าส่งโรงพยาบาล

Click on the image for full size

แต่ตัวรถมีน้ำหนักมากถึง 75 ตัน ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปยากลำบาก และคนเจ็บเสียเลือดมาก เริ่มมีอาการน่าวิตก แพทย์ได้ตัดสินใจตัดขาขวาทิ้ง จึงสามารถนำตัวไปรักษายังโรงพยาบาลได้

Click on the image for full size

ในช่วงเวลาใกล้รุ่งของวันที่ 9 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่สามารถนำหัวรถจักรหมายเลข 4042 ออกมาได้ และสามารถกู้หัวรถจักรหมายเลข 4029 ซึ่งเป็นคันสุดท้ายได้สำเร็จ ในเวลาประมาณ 12.15 น.

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

ในด้านคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของการรถไฟฯ ได้ดำเนินการสอบปากคำพนักงานซ่อมบำรุงระดับหัวหน้าของโรงซ่อมรถจักรบางซื่อ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเดินรถ และเจ้าหน้าที่หอสัญญาณ ได้ทราบว่า หัวรถจักรดีเซล จี.อี. ที่เกิดอุบัติเหตุ อยู่ในสภาพใช้งานได้ดีทุกคัน เมื่อซ่อมเสร็จเรียบร้อย ได้นำจอดพ่วงเรียงกันไว้ ในรางที่ 6 ของโรงซ่อม โดยมีหัวรถจักรหมายเลข 4044 จอดอยู่คันหน้าสุด

ในช่วงเวลาเกิดเหตุ ไม่ทราบว่าเป็นพนักงานผู้ใดขึ้นไปติดเครื่องยนต์หมายเลข 4044 ซึ่งได้เข้าคันบังคับเดินหน้าและล็อกคันเร่งเอาไว้ โดยอาจลงจากรถเพื่อไปรับโทรศัพท์ในขณะนั้นพอดี

หัวรถจักรรุ่นดังกล่าว มีระบบทำงานโดยใช้ลมอัด เมื่อเดินเครื่องไว้สักครู่ ลมอัดจะเข้าไปในระบบทำให้ทำงานครบวงจร จึงทำให้รถออกวิ่งโดยอัตโนมัติ โดยนำหัวรถจักรอีกสามคันที่พ่วงอยู่ออกไปด้วย และได้กระแทกกับหัวรถจักรที่จอดอยู่ข้างหน้าอีก 2 คัน ที่จอดในรางเดียวกัน ขอพ่วงได้ล็อกอัตโนมัติ ทำให้รถจักรอีก 2 คันติดพ่วงไปด้วย

Click on the image for full size

จากเสียงกระแทกขอพ่วง ทำให้พนักงานที่อยู่ใกล้เคียงได้ยิน จึงวิ่งออกมาดูและพยายามขึ้นไปบังคับรถ แต่ความเร็วของหัวรถจักรที่เพิ่มขึ้นจึงไม่อาจทำได้ ประกอบกับเครื่องตกรางที่ติดตั้งไว้เพื่อกันอุบัติเหตุกรณีรถจักรวิ่งออกไป นอกโรงซ่อมสู่ทางประธาน ได้เปิดออกเพื่อให้พนักงานซ่อมบำรุงทางเข้าไปปฏิบัติงานในช่วงเวลาดังกล่าว จึงทำให้รถจักรวิ่งออกทางประธาน

ซึ่งเจ้าหน้าที่บนหอควบคุมการเดินรถเริ่มเห็นผิดปกติ เนื่องจากขบวนรถจักรวิ่งออกมาโดยไม่มีการสื่อสารขออนุญาตเข้าทางประธาน จึงได้สั่งการให้นายสถานี และที่กั้นรถทุกแห่งได้ทราบเหตุร้ายดังกล่าว

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

ผลการตรวจสภาพของหัวรถจักรในที่เกิดเหตุพบว่า หัวรถจักรหมายเลข 4044 เป็นเพียงคันเดียวที่ติดเครื่องยนต์ เพราะในห้องขับด้านหน้าเข้าสถานีกรุงเทพ ตำแหน่งคันเปลี่ยนอาการอยู่ในท่าเดินหน้า คันเร่งอยู่ที่หมายเลข 0 ห้องขับด้านหลัง คันเปลี่ยนอาการซึ่งไม่มีคันจับอยู่ในท่าถอยหลัง คันเร่งอยู่ที่หมายเลข 5 ห้ามล้ออยู่ในท่าห้ามที่ MU 2 B ซึ่งเป็นตัวเปลี่ยนทิศทางลมการห้ามล้อฟรี จึงต้องสอบสวนหาตัวผู้ขึ้นไปติดเครื่องยนต์ของหัวรถจักรคันดังกล่าว โดยพุ่งประเด็นไปที่เจ้าหน้าที่พนักงานผู้หนึ่งที่อยู่ใกล้ชิดเครื่องมากที่ สุด และหายตัวไป ไม่ยอมมาให้ปากคำ

Click on the image for full size

จนเมื่อเวลา 23.00 น. ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2529 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวเจ้าหน้าที่นายตรวจเครื่อง ที่อยู่ปฏิบัติงานใกล้ชิดหัวรถจักรคันที่เกิดอุบัติเหตุ และนำตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจรถไฟ นพวงษ์

จากการสอบสวน เจ้าหน้าที่นายตรวจเครื่องรายดังกล่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ขึ้นไปสตาร์ทเครื่องยนต์หัวรถจักรหมายเลข 4044 ซึ่งจอดที่ราง 6 ขณะที่ติดเครื่องอยู่นั้น ได้มีพนักงานเอาใบบุ๊คมาแจ้ง ให้ไปตรวจดูช่องลมที่หัวรถจักรหมายเลข 4118 ซึ่งจอดในรางที่ 4 ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร โดยตนใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 10 นาที

จากนั้น จึงเดินกลับมาที่หัวรถจักรหมายเลข 4044 แต่ปรากฏว่า ได้หายไปแล้ว มาทราบภายหลังว่า ได้เกิดเหตุที่หัวลำโพง และได้ร่วมเดินทางไปกับเจ้าหน้าที่ของโรงซ่อมรถจักรบางซื่อโดยขบวนรถ ปั้นจั่นไอน้ำกู้ภัย ไปกู้รถที่เกิดอุบัติเหตุจนถึงบ่ายวันที่ 8 พฤศจิกายน

แต่เนื่องจากความตกใจเพราะได้เห็นผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จึงหลบหนีไปอยู่บ้านเพื่อนจนถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว

Click on the image for full size

ในวันที่ 10 พฤศจิกายน คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน ได้เดินทางไปสอบบริเวณโรงซ่อมหัวรถจักรบางซื่อ และหอบังคับการเดินรถ โดยมีการพิสูจน์ทุกขั้นตอน เพื่อพิจารณาหาข้อมูลซึ่งคณะกรรมการสอบสวนได้พบประเด็นที่น่าสงสัยว่า รถที่วิ่งออกไปอาจเป็นการขัดข้องทางเทคนิคจริง เพราะจากการทดลองติดเครื่องแล้วทิ้งไว้นาน 8 นาที รถได้เคลื่อนตัวออกไปโดยมีสัญญาณเตีอน แต่ผู้อยู่รอบข้างไม่สามารถได้ยิน เนื่องจากในบริเวณโรงซ่อมดังกล่าวมีเสียงดังอยู่ตลอดเวลา

Click on the image for full size

Click on the image for full size

ในส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้น มีประชาชนเสียชีวิตจำนวน 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน เป็นหญิง 1 คน ชาย 2 คน ซึ่งการรถไฟฯ ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นค่าทำศพผู้เสียชีวิตรายละ 10,000 บาท และรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้บาดเจ็บด้วย

ในด้านหัวรถจักรทั้งหมด 6 คัน ซึ่งใช้งานมาแล้ว 23 ปี ( พ.ศ.2529 ) เครื่องยนต์ไม่เสียหายสามารถซ่อมให้ใช้การได้ทุกคัน ค่าเสียหายประมาณ 200,000 บาท ส่วนอาคารที่ทำการหน่วยบริการเดินทาง และส่วนประกอบต่างๆ ค่าเสียหายประมาณ 800,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 1,000,000 บาท




เครดิตข้อมูลและภาพจาก : http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=660&postdays=0&postorder=asc&start=0

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 พฤษภาคม 2552 / 19:24

แสดงความคิดเห็น

>

17 ความคิดเห็น

Jangjup 24 พ.ค. 52 เวลา 20:39 น. 4

ฮ๊ะ!! เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดจริงๆเหรอ?? น่ากลัวจัง

เราเคยดูหนังเรื่อง Knowing ตอนรถไฟตกรางนี่แหละ สยองมากเลย

ขอบคุณ จขกท มากเลยนะคะที่เอาภาพเหตุการณ์แบบนี้มาให้ได้ดูกัน >O<"

0
MrsKhwanlaa&#039;* 24 พ.ค. 52 เวลา 21:11 น. 6

สงสารง้ะ
ขออย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกเลย
เพี้ยงง.


PS.  ไม่ผิดใช่มั้ย ถ้าจะแสดงความเห็นตรงๆออกไป จะได้ปรับปรุงตัว !! ♥ ปรึกษาได้ ที่ไอดี. แต่ขอบคุณน่ะมีมั้ย ?
0
bassFGT 24 พ.ค. 52 เวลา 21:33 น. 8
ณ ตอนนั้นอายุการใช้งานก็23ปีแล้ว แต่ ณ ปัจจุบันมันก็ยังวิ่งอยู่ กี่ปีแล้วเนี่ย เหอๆ
0
AuttazA 25 พ.ค. 52 เวลา 06:57 น. 10

เกิดไม่ทัน เง้อ

เวลาไปหัวลำโพงต้องกลัวมั๊ยเนี่ย ง่าา


PS.  o*-"...A man is not born in the possession of knowledge..."-*o
0
ACCEL 20 มิ.ย. 52 เวลา 11:40 น. 11

พูดได้อย่างเดียว

อึ้ง ทึ้ง เสียว


PS.  ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ...สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
0
PRINCE_AEK 21 มิ.ย. 52 เวลา 18:06 น. 12

ตอนที่ไปดูKnowingง่ะ

บอกได้คำเดียวว่าหนังเรื่องนี้สุดยอดมาก

เกินบบรยายจริงๆ

นั่งๆดูในโลงล่ะโคตรเสียวเลยกลัวมันจะพุ่งออกมาจากจอ-*-


PS.  นี่ๆๆ มีปัญหาอะไรกับGuนักหนาเนี่ย ชอบมาป่วนกระทู้Guจริงนะมิงอ่ะ
0
Jimmy 5 ต.ค. 52 เวลา 22:16 น. 13

เกิดทันครับ ตอนนั้น11ขวบ ผมเกิด2518 แต่มานั่งคิดแล้วน่าจะเกิดจาก ผู้ก่อการร้ายครับ

0
pat 6 ม.ค. 53 เวลา 12:41 น. 14

ต้องโทดคนติดเครืองเท่านัน
ท่าไอคนไม่ไปติดเครือง
มันก็ม่ายเกิดแบบนี้หลอก

0
ลูก ร.ฟ.ท 17 ก.พ. 56 เวลา 15:15 น. 15

เหอๆ พ่อเราเป็นนายสถานีรถไฟหัวลำโพงตอนนั้น เป็นคนสั่งให้พนักงานสับรางให้เข้าชนหัวลำโพงเอง เพราะพอรู้ว่าหัวรถออกมาแล้วหยุดไม่ได้แล้ว ถ้าสับรางไปสถานีอื่นจะยิ่งไกลและหยุดไม่ได้ อันตรายกับประชาชนที่ไม่รู้เรื่องเพราะแจ้งและป้องกันไม่ได้ อาจจะมีคนตายมากกว่านี้ แต่หัวลำโพงมีเครื่องหยุดปะทะ มีประชาสัมพันธ์ประกาศ มีตำรวจ มีหน่วยกู้ภัยพร้อม จึงต้องตัดสินใจอย่างนั้น ต้องรีบต้อนคนออก คนที่ตายส่วนใหญ่เป็นคนห่วงของแล้ววิ่งกลับมาเอาของ

0
ohm4520 9 พ.ย. 56 เวลา 12:40 น. 16

ความจริงน่าจะสับรางเข้ารางตันในย่านนะคับ ถ้าทำแบบนี้อาจจะไม่มีใครตายนะคับ

0