โรงเรียนมัธยมในญี่ปุ่น
ตั้งกระทู้ใหม่
โรงเรียนของญี่ปุ่น หรือ "กักโค" (学校) ถ้านับตามประเภทใหญ่ๆแบ่งได้เป็น
1. โรงเรียนอนุบาล หรือ โยจิเอ็ง 幼稚園ซึ่งเป็นโรงเรียนเตรียมประถมนั่นเอง
2. โรงเรียนประถม หรือ โชกักโค 小学校เป็นโรงเรียนประถม
3. โรงเรียนมัธยมต้น หรือ จูกักโค 中学校โรงเรียนมัธยมต้น เรียน 3 ปี เหมือนบ้านเรา
4. โรงเรียนเฉพาะทาง หรือ เซมมองกักโค 専門学校คล้ายโรงเรียนอาชีวะบ้านเรา ส่วนใหญ่ใช้เวลาเรียนแค่ 2 ปี บางที่เรียน 3 ปี
5.โรงเรียนมัธยมปลาย หรือ โคโค 高校เป็นโรงเรียนมัธยมปลาย เรียน 3 ปี เช่นกัน
1. โรงเรียนอนุบาล หรือ โยจิเอ็ง 幼稚園ซึ่งเป็นโรงเรียนเตรียมประถมนั่นเอง
2. โรงเรียนประถม หรือ โชกักโค 小学校เป็นโรงเรียนประถม
3. โรงเรียนมัธยมต้น หรือ จูกักโค 中学校โรงเรียนมัธยมต้น เรียน 3 ปี เหมือนบ้านเรา
4. โรงเรียนเฉพาะทาง หรือ เซมมองกักโค 専門学校คล้ายโรงเรียนอาชีวะบ้านเรา ส่วนใหญ่ใช้เวลาเรียนแค่ 2 ปี บางที่เรียน 3 ปี
5.โรงเรียนมัธยมปลาย หรือ โคโค 高校เป็นโรงเรียนมัธยมปลาย เรียน 3 ปี เช่นกัน
โดยเฉพาะในระดับม.ต้น จะมี คะแนนการเข้าเรียน หรือว่า ฉุดเซกิ
( 出席) ซึ่งคะแนนนี้จะถูกนำไปรวมกับคะแนนทำเข้าสอบเพื่อเข้าเรียนระดับ ม.ปลาย ด้วย โรงเรียนของญี่ปุ่นเข้าเรียนตอน 8.30 น. ใครมาช้า ประตูโรงเรียนจะปิดจริงๆ ใครมาไม่ทันต้องไปรายงานตัวแล้วถูกตัดคะแนนในส่วนนี้โรงเรียนญี่ปุ่น แบ่งการเรียนการสอนออกเป็น 3 เทอมโดยแบ่งตามวันหยุดในช่วงฤดูต่างๆ ได้แก่
ฤดูหนาว ฟุยุยาสุมิ (冬休み)
ฤดูใบไม้ผลิ ฮารุยาสุมิ (春休み)
ฤดูร้อน นัทสึ (夏休み)
ฤดูหนาว ฟุยุยาสุมิ (冬休み)
ฤดูใบไม้ผลิ ฮารุยาสุมิ (春休み)
ฤดูร้อน นัทสึ (夏休み)
ฤดูใบไม้ผลิถือเป็นฤดูแห่งการเริ่มต้นสิ่งใหม่ในเดือนสาม โรงเรียนต่างๆ ก็มักเปิดเรียนช่วงนี้ ......ใครดูการ์ตูนนักเรียนเดินไปเรียน มีดอกซากุระเยอะแยะก็หมายถึงฤดูแห่งการเปิดเรียนนั่นเอง ส่วนฤดูที่นักเรียนชอบที่สุดคงเป็นฤดูร้อนเพราะมีวันหยุดยาวประมาณสองเดือน.......
เครื่องแบบนักเรียนของญี่ปุ่นเป็นที่ขึ้นชื่อมานานด้านความน่ารัก น่าใส่ มาถึงตอนนี้ ก็บอกไม่ได้ว่าเครื่องแบบนักเรียนญี่ปุ่นมาจาก "การ์ตูน" หรือว่า "การ์ตูน"ลอกแบบมาจากชุดนักเรียนจริงๆ ชุดนักเรียนของญี่ปุ่นมีลักษณะต่างๆ กันไม่ว่าจะเป็นแบบ Sailor หรือ กะลาสีเรือหรือแบบธรรมดา แต่กระนั้นเครื่องแบบนักเรียนญี่ปุ่นก็ยังแบ่งย่อย เพื่อสวมใส่แยกตามฤดูอีกด้วย เช่น ฤดูร้อนฤดูหนาว หรือ แบบธรรมดา..... ก็ใส่ไม่เหมือนกัน
ระบบ "ครูประจำชั้น" กับ " นักเรียนมีความสัมพันธ์กันมากในการเรียนของญี่ปุ่น โดยเฉพาะระดับ ม.ปลาย และ มหาลัยต้องมีครูที่ปรึกษาเพื่อให้การเรียนต่อ....เป็นคนรับรองให้โรงเรียนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีโรงอาหารจะมีเพียงร้านขายอาหารเล็กน้อยเท่านั้นโรงเรียนที่มีโรงอาหารส่วนใหญ่จะเป็นโรงเรียนใหญ่ และมีชื่อนิดหน่อย.....บางโรงเรียนจะมีการปรุงอาหารให้นักเรียน และมีบางคนที่เอา " เบนโต " 弁当หรือ ปิ่นโต บ้านเรานี่แหละมาเอง โดยแยกไปกินตามห้องต่างๆ หรือไม่ก็สนาม หรือแม้แต่ ดาดฟ้า
ชมรมของโรงเรียนในญี่ปุ่นแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้ ดังนี้....
1. บุงคะบุ 文化部เป็นชมรมเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม เช่น ชมรมชงชา ชมรมนิยายของโทโจ
2. อุนโดบุ 運動部เป็นชมรมกีฬาประเภทต่างๆ ไม่ว่า เบสบอลใน หรือ ว่ายน้ำก็อยู่ในส่วนนี้เช่นกัน
3. โดโคไก 同好会ชมรมที่แยกประเภทออกมาอีกที ไม่ค่อยเข้าพวกเช่น ชมรมค้นคว้าเรื่องการ์ตูนและเกมส์, ชมรมตอบปัญหา เป็นต้น
PS. ขอบคุณที่มาโพสให้น่ะ แล้วมาใหม่น่ะ
9 ความคิดเห็น
อ่านแล้ว...... งง
PS. ( -.-) บ้า บอ เหนื่อย เซ็ง (-.- )
การศึกษาก็ไม่ต่างจากเรามาก
555
ว๊าวววว ว วว
น่าสนใจจัง
เรากะว่าตอนจบ ม.3 จะสอบชิงทุนต่อญี่ปุ่นอ่ะนะค่ะ ^^
ถึงเรายังไม่แน่ใจว่าจะติดไหม แต่ถ้าติดเราก็คงจะเตรียมเล็งที่เรียนทันอ่ะนะค่ะ ถ้ารู้ข้อมูลอ่ะค่ะ
(ยังไมทันรู้เลยว่าจะติดไหม ดันดี๊ด๊ายังกับว่าจะติดค่ะ -_-")
ขอบคุณนะค่ะ ^^
PS. นางฟ้าไร้ปีก...คงไม่มีคุณค่าอะไร...เหมือน...ฉันไร้เธอ...ฉันก็คงไร้ค่า...เช่นกัน...
ใครอยากไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น แล้วชอบเมืองที่เป็นธรรมชาติๆนะ
ขอแนะนำ โรงเรียนโจซุยคัง
อยู่ที่จังหวัดฮิโรชิม่า เมือง มิฮาระ
บรรยากาศดีสุดๆ อยู่บริเวณตีนขา (พื้นโรงเรียนมันจะดูเฉียงๆอ่ะ)
รู้สึกจะมีทุนให้เป็นรายปีนะ
เราไปซัมเมอร์มาเฉยๆ ประทับใจมาก
ใครสนใจก็ไปดูเวบที่ http://www.josuikan.ed.jp
*จู๊บุๆ*
PS. Im crossing the bridge over the trouble river~~
ต่างจากเรา คือ การตรงต่อเวลา
คุ้นๆแฮะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?