Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

มิติที่ 1 2 3 4 5 6 ... 11 ใครเก่งๆมาคุยกันหน่อย+เรื่อง จักรวาลจากคุณ ศุภฤกษ์ ผู้ติดตามบอร์ดนี้อย่างใกล้ชิด

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ผมเคยอ่านผ่านๆจากในเวปที่หนึ่งเค้าบอกว่า สามารถค้นพบ 11 มิติได้แล้ว
เลยอยากรุ้ว่ามันเป็นอย่างไร เช่น
1 มิติ คือ จุกใช่มะ
2 มิติ คือ กว้าง*ยาว
3 มิติ คือ กว้าง*ยาว*สูง
4มิติ คือ กว้าง*ยาว*สูง*เวลา (เห็นเค้าบิกไว้)
แล้ว 5 มิติละ มันเป็นยังไง แค่ 5ก็นึกไม่ออกแล้วอ่ะ แล้ว 11มิติ มันจะเป็นยังไง จินตนาการไม่ถึงจริงๆ

ข้อดีของการค้นพบมิติ เค้าบอกไว้ว่ามดสามารถมองถาพได้แค่ 2 มิติ คือ กว้าง*ยาว เช่น มดอยู่บนเพดานซึ่งต้องการที่จะกินน้ำตาลซึ่งอยู่บนโตะ เวลามดจะมากินนั้นมันต้องไต่กำแพงลงมากินแล้วจึงไำปทึี่โต๊ะ แต่ถ้ามดมองได้ 3 มิติ มดก็จะกระโดดจากเพดานลงมาที่โต๊ะเลย
เขาบอกว่า ใช้หลัก11มิติแล้ว  เจะทำให้เราเดินทางไปดาวอื่นทำให้เราเดินทางได้เร็วขึ้นด้วยเทคโนโลยีของ 11 มิติ (อันนี้ผมก็ไม่เข้าใจ)




ก็อยากให้เพื่อนๆช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยว่ามันเป็นอย่างไร

จากค.ห.ที่ 12 ขอบคุณมากครับ
เออผมคิดว่าที่คุณพูดก็น่าฟังอยู่
มิติที่1 กว้าง*ยาว*สูง
มิติที่2 เวลา
มิติที่3 แรงโน้มถ่วง
มิติที่4 ปฎิกริยานิวเคลีย(เป็นfission นะ การแตกออกของ atom ไม่ไช่ fusion)
ไหนๆก็กล่าวมาและพูดต่อเลยละกันในจักวาลนี้มีแรงนิวเคลีย2แบบ
อ่อน และ แก่
แยกไปได้อีกว่าประเภทไหน
1.fusion การ รวม ของธาตุ He(ปล.ฮ๊เลี่ยม)เป็นส่วนหลักและจะให้พลังงานสูง พบ ในดวงอาทิตย์ครับ
2.fision  การกระจายของอะตอมนิวเคลียของ ไอสไตย์ (ปล.ไม่รู้เขียนถูกป่าว)ระเบิดนั้นเอง
กลับกันมามิติต่อ
ถ้าคุณเคยเรียนเคมีตอนคุณเป็นdek-d ละก็จะจำได้ว่าโครงสร้างอะตอมเป็นยังไงประกอบไปด้วยอะไร
ผมมีคำถามจะถามคุณ ฟังนะ
จุดศูนกลางของมวลต่างๆเรียก center of the mass คำถาม (center of the mass)ของจักวาลอยู่ตรงไหนละ?????
ดวงอาทิตย์หลอ ผิดถนัดครับคุณรู้หลอว่าวงโครจรทางช้างเผือกที่เราอยู่ทุกวันเนี่ยใหญ่สุด
เราอาจเป็นแค่กลุ่มดาวเคราะน้อยลองมองกลับไปดูสิครับ(ดาวเคราะห์น้อยนั้นอะ)ผมเชื่อว่าต้องมีสิ่งมีชีวิตอยู่แน่นอนนอกจากชาวโลก
(อันนี้ทฤษฐีของผมเองกล่าวคือ บุคคลที่มาจากอุณหภูมิต่ำย่อมพัฒนากว่าอุณหภูมิสูงเป็นแน่แท้)ปล.อันนี้ผมไม่ได้เข้าข้างใครนะครับ
ต่อเลย(กฎstring theory) เส้นสายstringคืออะไรตอบไม่ได้แน่ชัดแต่คือสายใยที่มีค่าแรงโน้มถ่างในตัว มันเอง(ปล.จิตนาการกันหน่อยผมลงภาพไม่เป็นsorryนะครับ)กล่าวคือ string อยู่ในควาก(ปล.รู้นะควากคืออะไร)ลองจิตนาการดูอีกทีstringคล้ายจักวาล ไหม????
เราลองคิดดูเราอยู่ในควากซึ่งเล็กมากเราคิดว่าเราใหญ์หลอ(ปล.ไม่ได้หาเรื่องนะครับ)คิดว่าที่เราอยู่เนี่ยมันใหญ่มากนักหรือไง???
มุมกลับกันควากเล็กปะ(เล็กมากปะแล้วสติงอะเล็กปะ)ตอนนี้คุณคิดว่าทางช้างเผือกกว้างใหมละครับคำตอบนี้
ขึ้นอยู่กับเอกภพสัมพัส(universeนะครับ)ของบุคคลนั้นสมมุตให้เข้าใจง่ายๆตามผมให้ทันนะ
มีใครไม่รู้มาถามคุณว่า
คนถาม ; เฮ้นาย นายว่าจักวาลเล็กปะ
คุณ      ; จะบ้าหลอเล็กอะไรกันกว้างจะตายชัก
มุมกลับกันนะ
คนถาม ; เฮ้นาย นายว่า ควากเนี่ยใหญ่ปะ
คุณ      ; ใหญ่อะไรเล็กเป็นบ้าเลย
คำถามที่1(ถามเล่นๆ)
1.ถ้าคุณเกิดหูดีขนาดได้ยินเสียง eletron วิ่งชนกันและได้ยินเสียงไครไม่รู้ตะโกนออกมาจากควาก จาก string ในนั้น และจากวงโครจร นั้น
พูดว่า อะไรคือมิติที่หายไปน้า....  คุณคิดว่าเอกภพของเขาเล็กไหมครับ(คิดเองนะ)
2.ถ้าคุณวันหนึ่งตะโกนสุดเสียงเลยดั่งเวอร์ๆ(และมีไครไม่รู้ได้ยินเข้าปล.ผม หมายถึงอีกคนที่อยู่ไกลจากเรามากเช่น อยู่ไกลเป็นระยะทาง จากเอกภพของคุณ - ภพของคนนั้น(อธิบายยากจังแฮะ)กรณีเดียวกับอันแรกนั้นแหละแค่สับเปลี่ยนตำ เหน่งจากคนฟังไปเป็นคนตะโกนแทน
และคูดันดีอีกดันไปได้ยินเขาตอบกลับมา ว่า สบายดีจ้า (เป็นไปไม่ได้หรอกเว่อร์ไปหน่อย)คุณคิดว่าเอกภพของคุณเล็กป่าวและคิดว่าของ เขาคงกว้างมากมายเลยสินะ
ทีนี้คุรก็เข้าใจแล้วสินะ103
ตอนนี้มีการค้นคว้า+ทดของของปฎิกริยา fusionแล้วนะครับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งยวด
ด้วยขดลวดทอรอยต์(toroid)เมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านทิศสนามไฟฟ้าจะชี้ไปทางสนามแม่ เหล็ก(เออ เข้าในยากหน่อยสำหรับพวกเรียนไฟฟ้าแล้วนะครับใครยังไม่เรียนไม่ต้องไปจนใจ มันนะ)ตอนนี้มีห้องnuclear fusionแล้วผมดีใจมาก อยากทดลองมั่งT-T
ด้วยความไม่มีประสบการณ์+ไม่มีเงิน(ผมเลยเสียโอกาศนี้ไปT-T)พูดแบบง่ายๆเลย นะสนามแม่เหล็กจะต้องมีความเข้มข้นสูงจนทำให้เกิดพลังงานยิ่งยวหลักการนี้ เรียก(tokamak)นะครับซึ่งจะให้พลังงานมหาสารมากมาย
เรื่องขั้นตอนการทำให้สนามแม่เหล็กจนทำให้อนุภาคไวขนาดนั้นอยู่ในการทดลอง เครื่องเร่งอนุภาคนะครับชื่อนะเผื่ออ่านแล้วไปเถียงกับใครเขาได้ครับ(large hadrons collider)lhc/เครื่องเร่งอนุภาค cern
ประกอบไปด้วยสนามแม่เหล็กยิ่งยวด!!r=16.5กิโลเมตร ครับ
ในการทำให้ประจุไวแบบนั้นต้องใช้ปติสสารติดระบบในaliceและปล่อยให้อนุภาตชน กันจะเกิดความร้อน100.000เท่าของใจกลางดวงอาทิตย์ร้อนไหมละตือว่าnewtronจะ หลอมละลายทำให้ควากกระเด็นออกมาเรียก
quark-gluon plasma ซึ่งน่าจะเกิดหลัง big bang ครับเมือquark-gluon plasmaเย็นตัวลงเราจะรู้สสารก่อเกิดจักวาล
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด
'จิตนาการสำคัญกว่าความรู้'


เรื่องการย้อนเวลาอธิบายโดยคณิตศาสตร์ โดยคุณศุภฤกษ์
ตอนนี้ผมศึกษาการเขียนแกน
ในรูปของ vector 4 มิติอยู่ ยังไงก็ถ้าทำได้แล้วจะมาบอก
เขียนโดย {a i + b j + c k + d T}
โดยนิยามว่า a i คือ กว้าง
                 b j คือ ยาว
                 c k คือ สูง
                 d T คือ เวลา
คุณคงเคยเรียนกันมาแล้วว่า t ไม่มีทางติดลบ
เราลองให้มันติดลบจะเป็นไง เคยติดลองไหมถ้าเรา ให้  T คือเวลา
กำหนด ระยะเวลา สมมุติ
เวลาวินาที ที่ 1 จะได้ ขนาดของ ai + bj + ck + d T
เขียนได้ว่า vector คือ (a.b.c.d)
โดยกำหนดถ้า T ติดลบ จะเขียนได้ว่า
(a.b.c.d)แล้ว อินเวิส
สมมุติตัวเลข
ณ เวลา = 1 (1 1 1 1)
ณ เวลา = -1(-1 -1 -1 -1) จะเห็นได้ว่า เครื่อง หมาย จะเปลี่ยน cis นั้นเองกลับขั้ว(คนไม่เคยเรียนไม่ต้องสนใจ เอาเป็นว่า เครื่องหมายเปลี่ยน)
เพราะฉะนั้น ถ้ามี vector หนึ่งได้เกิดมา 2 วินาทีแล้ว จะสรุปได้ ถ้า เราต้องการรู้เหตุการณ์ ก่อนหน้านี้2 วินาทีละ
คำตอบคือ ให้ vector ใด้ๆแทนด้วย
( a.b.c.d)
จากโจทน์
( a.b.c.2)
หลังจากนั้น
(a.b.c.2-2) (นี้ไง vector ที่เราเรียนกัน  vector3 มิติ สรุป ที่เรา เรียนกันคือ ไม่มีแกนเวลามาเกี่ยว
แต่ผมอยากให้มันเกี่ยว) ต่อ
ถ้า want เวลา หลังจากที่ไม่มีเวลาละ?????เวลาย้อนกลับ
t = -2เขียนได้ว่า
(-a.-b.-c.-2) งง ไหม นี้
ถ้าเอามาทำเป็นสมการ ซะ
สมมุติให้
นาย ก ชกนาย ข. เวลา 12.00 น.หมัดไปโดนหน้า 12.03 น.
t = 3 โดยเขียน vector หมัดได้
(a.b.c.3)
ถามว่า เวลาที่0 ละ
(a.b.c.0) มือนิ่งๆไม่มีไรเกิดขึ้น เข้าใจไหม (หมายความว่าคงสภาพตอนเริ่ม)
ลอง ติด  -  ไหม
(-a.-b.-c.-3)
ก่อนหน้ามืออยู่เฉยๆ แสดงว่าถ้าเราทำให้ tติด - มือของนาย ก ย่อมชกโดน ใบหน้า ตัวเอง เพราะ ทิศทาง ตรงกันข้าม


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 17 พฤศจิกายน 2552 / 21:06

PS.  หมอรู้...หมอเรียนมา มิติที่ 1 2 3 4 5 6 ... 11 ใครเก่งๆมาคุยกันหน่อย+เรื่อง จักรวาลจากคุณ ศุภฤกษ์ http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1441081

แสดงความคิดเห็น

>

97 ความคิดเห็น

GGGGGGGGGG 16 ก.ย. 52 เวลา 20:37 น. 1

มันเป็นจินตนาการไงครับ

อะไรที่ไม่มีอยู่จริง

ซึ่งหากคุณสามารถจินตนาการไปกับคนค้นคิดได้

ก็แปลว่าคุณเข้าใจ

^^

0
-†-•Chaos•-†- 16 ก.ย. 52 เวลา 22:02 น. 4

คห.1 เดกไทยถึงไม่เจริญไงครับ
หากคิดว่ามันไม่มีอยู่จริง
อย่างในอดีต การที่คนจะบินบนฟ้าได้ใครๆก็ว่าเพ้อฝัน เป็นไปไม่ได้ 
โลกกลม ก็ว่าบ้า เพ้อเจ้อ 

การค้นพบมิติเพิ่มขึ้น ทำให้เราสามารถสร้างอะไรได้เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
อย่างที่เห็นชัดๆก็เรื่องของอาวุท
2มิติ คนสร้างได้แค่ดาบ หอก
3มิติ ธนู เครื่องยิงหิน
และเมื่อมิติที่4ถูกค้นพบ และได้รับการยอมรับก็ช่วงของไอสไตน์
ก็คือการสร้างระเบิดปรมนู ที่ต้องใช้คาบของเวลามาเกี่ยวข้องด้วย
ถ้าไมได้เรียน มันก็ยากที่จะเข้าใจ แต่11มิติมีจริงครับ

0
กิ๊ง 16 ก.ย. 52 เวลา 22:27 น. 5

พระพุทธเจ้าท่านก็บอกไว้ค่ะ ว่ามีจริง

-----------------------เราเอาจากที่ไปอ่านมา เว็บนึง น่าสนใมกค่------------------------



เท่าที่ทราบน่ะครับเรื่องมิติของกาลเวลาที่เหลื่อมซ้อนกันนี้
โดยปรกติเราจะรู้จักกันดีแค่มิติที่ 4 ซึ่งประกอบด้วย
กว้าง ยาว หนา และเวลา แต่ในทางวิทยาศาสตร์จริงๆ แล้ว
( ทางทฤษฎี ) พบว่ามิติของเวลานั้นอาจจะมีได้ถึง 12 หรือ 13 มิติ
แต่ในความเป็นจริงแล้วเราไม่สามารถมองเห็นได้
เพราะขอบเขตความละเอียดของนัยน์ตามนุษย์นั้นมีขอบเขตจำกัด
ถึงจะใช้เครื่องมือวัดทางวิทยาศาสตร์ที่ละเอียดแค่ไหน ก็มีปัญหาเรื่อง หลักความไม่แน่นอน ของไฮเซนเบริก์ด้วย ซึ่งนั้นก็คือ ถ้าเราต้องการวัดวัตถุให้ได้ความแม่นยำที่สูงๆ
เราต้องใช้ความเร็วสูงๆในการวัด แต่ความเร็วที่สูงๆ ที่ใช้ในการวัดก็จะทำให้ตำแหน่งของวัตถุนั้นผิดเพี้ยนไปด้วย
เปรียบได้ง่ายๆ ก็เหมือนกับ เราต้องการเห็นแสงว่าวิ่งยังัยไปในทาง
ทิศไหนเราก็ต้องวิ่งด้วยความเร็วเท่ากับแสงนั้นแหละครับ
แต่ความเร็วของเราก็จะไปกระทบกับแสง ทำให้ตำแหน่งของแสงที่เราเห็นนั้นผิดเพี้ยนไปอีก

ดังนั้นจากเหตุผลดังกล่าปัจจุบันนั้นจึงยังไม่สามารถทำการวัดได้
ว่ามี 12 หรือ 13 มิติ จริงๆ หรือไม่ ซึ่งเป็นแค่ทฤษฎีที่
ศาสตราจารย์สตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง ได้กล่าวอ้างถึงเท่าันั้น
ซึ่งทฤษฎีที่เขาอาจถึงมีหลากหลายมากๆครับ
ตั้งแต่ทฤษฎีสตริง ทฤษฎี M ทฤษฎี Pi
แต่ขั้นตอนรายละเอียดเยอะมากๆ
เอาแค่พอหอมปากหอมคอก็พอ
เขาอธิบายให้ฟังคร่าวๆว่า เจาทฤษฎีที่ว่ามีมิติของเวลาที่
เหลือมซ้อนกันนี้เปรียบเทียบได้เหมือนกับว่า ให้เราสังเกต
หลอดกาแฟม้วนกันเป็นขดๆ เหมือนก้นหอย ที่อยู่ในแก้วน้ำ
ในระยไกลเราจะมองเห็นว่าหลอดกาแฟนี้เป็นส่วนตรงทั้งหมด
แต่เมื่อเราเข้าไปดูใกล้มากๆๆ เราจะมองเห็นการขดม้วนของตัวหลอดอยู่ภายใน
ซึ่งนั้นก็คือ มิติที่ขดตัวอยู่อีก 11-12 มิติครับ

0
ดาร์กแองเจิล 16 ก.ย. 52 เวลา 22:31 น. 6

ในชีวิตประจำวันของเราก็มี3มิติคือ
กว้าง
หนา
บาง
และทฤษฎีของไอสไตน์จะมีเพิ่มมาอีกมิติคือ
เวลา
หากเราพบมิติที่4จะทำให้เราเดินทางข้ามเวลาได้อย่างอิสระ
ส่วนมิติอื่นๆยังคงเป็นปริศนาครับ


PS.  ิัิัbyดาร์กแองเจิล
0
1526 16 ก.ย. 52 เวลา 22:37 น. 7

เห็น คห.4 แล้วผมคิดจริงจังบ้างดีกว่า

มิติที่11 คืออะไร เรื่องนี้ผมไม่รู้และไม่เคยได้ยินครับ แต่ก็ไม่ได้ไม่เชื่อว่ามันจะมีจริง
ใช่ครับผมก็เชื่อ สาเหตุก็เพราะ ในอดีตถ้าเราบอกว่าอนาคตจะมีสิ่งที่เรียกว่าคอมพิวเตอร์
คนในอดีตก็คงจะไม่เชื่อ แต่ในวันนี้คอมพิวเตอร์ได้เกิดขึ้นแล้วจริง

แต่ผมไม่เชื่อว่ามิติที่ผ่านกาลเวลาได้จะมีอยู่จริง(มิติที่4)
เหตุผลเพราะผมคิดว่าเวลาเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดมาโดยระบบสุริยะและการหมุนรอบตัวเองของโลก
ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถเกี่ยวข้องใดๆ ได้เลย(ในปัจจุบัน)

เอาล่ะ คิดอีกแง่ดีกว่า ถ้าในทางกลับกัน มิติที่เดินผ่านกาลเวลาได้มีจริง
คงจะต้องมีกฎหมายควบคุมการเดินทางผ่านกาลเวลา
ไม่เช่นนั้นจะเกิดไทม์พาราด็อกซ์
ซึ่งก็คือ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในอดีตจะส่งผลถึงโลกในปัจจุบัน
เราจึงไม่เห็นพวกมนุษย์ที่เดินทางผ่านกาลเวลาเลยสักคนเพราะอาจเกิดจากกฎต้องห้ามในโลกอนาคต
ที่ห้ามคนในโลกอนาคตพบกับคนในโลกปัจจุบัน

เข้าเรื่องมิติที่11
จากที่จขกท.เขียนไว้ว่า
"เขาบอกว่า ใช้หลัก11มิติแล้ว จะทำให้เราเดินทางไปดาวอื่นทำให้เราเดินทางได้เร็วขึ้นด้วยเทคโนโลยีของ 11 มิติ"
นั่นสามารถตีความได้หลายอย่างว่า
มิติที่11อาจเป็นการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือธรรมชาติ
หรือ มิติที่11ก็อาจเป็นการเคลื่อนที่โดยการย้ายมวลสาร
หรือที่เรียกกันว่า่ เครื่องเทเลพอร์ต หรือ อาจเป็นอะไรก็ได้นอกจากนี้

ถ้ามิติที่11เป็นการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือธรรมชาติได้จริงและมีเทคโนโลยีแบบที่ว่า
เราจะสามารถทะลุจากโลกไปสู่อาวกาศได้อย่างสบาย

หรือบางทีหลักมิติที่11อาจเป็นแค่การสร้างแบบจำลองของตัวเองจากเครื่องนึงไปยังอีกเครื่องนึง
อย่างที่กล่าวไว้ว่าใช้เครื่องเทเลพอร์ต
ซึ่งก็หมายถึงมิติที่11 คือการย้ายสารทั้งมวลบนโลก หรือ เรียกว่าวาร์ป


ปล.ความคิดเห็นนี้ตีความจากสิ่งที่จขกท.

ปล.2
ผมว่าที่ คห.1 บอกว่ามันเป็นจินตนาการ นั้น หมายถึง การที่มดเห็นน้ำตาล แต่มดมองได้แค่2มิติ ซึ่งไร้ความสูง(ลึก) มดจึงต้องไต่กำแพงลงมาเพราะว่ามดมองไม่เห็นความสูง(ลึก)ซึ่งนั่นก็เกิดจากจินตนาการของมดนั่นเอง และสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็คือคจินตนาการของมนุษย์ ซึ่งถ้าคุณจินตนาการไปกับผมได้แสดงว่าคุณเข้าใจ(55 เลียนแบบหน่อยนะ คห.1)

ปล.3 ผมคือความคิดเห็นที่3

0
คห.ที่ 5 16 ก.ย. 52 เวลา 22:42 น. 8

เรื่องมิติ นี้ มันเป็นเรื่งของ วิทยาศาสตร์+พังจิต ค่ะ

ซึ่ง ดูตัวอย่างนะ&nbsp เดจาวู&nbsp ... เคยเป็นรึป่าวคะ

อาการที่ อยู่เราก็รู้สึกว่าเราเคยทำสิ่งนี้มาแล้ว...

อื้ม นี่มีคนเคยบอกไว้ว่า มันหไปสัพันธ์กะ ทฤษฎีจักรวาลคู่ขนานอ่ะค่ะ

ซึ่งจักรวาลคู่ขนานก็คือ โลกอีกมิตินึง...ประมาณว่า&nbsp ถ้ามีทางแยก ตัวเราโลกนี้อาจจะเดินไปแยกซ้าย

แต่ตัวเราอีกโลกอาจจะเดินไปแยกขวา ... ซึ่ง ถ้า เราโลกนี้กับอิกโลกนึง ทำสิ่งที่เหมือนกัน

นั่นแหละค่ะ เดจาวู&nbsp อีกตัวอย่างนึงของทฤษฎีมิติคู่ขนาน....คือเรื่อง ดราก้อนบอลอ่าค่ะ

ตอนที่ ทรั้ง นั่งทามแมชชิน มา เพื่อบอกเรื่อง มนุษย์แปลง....และ ช่วยพวกโงกุน สู้กับมนุษย์แปลง

ซึ่ง&nbsp โลกของทรั้ง ในอนาคตนั้น ทุกคนตายกันหมดแล้ว แต่อีกโลกนึง ทุกคนยังมีชิวิต

ประมาณว่า โลกนึงทุกคนตายหมดยกเว้นทรั้ง&nbsp 

แต่อีกโลกนึง ทรั้งยังอยู่และทุกคนยังไม่ตาย...เพราะทั้งในอนาคตมาบอก

เหอะๆไม่รู้ว่าเธอจะเข้าใจรึป่าว..แต่ เราก็สนใจเรื่องนี้เหมือนกัน

0
เก้าอี้ตัวนั้นที่ฉันซาบซึ้ง 17 ก.ย. 52 เวลา 12:49 น. 10

 - -''

เอาแบบ เรื่องลี้ลับ หรือว่า เรื่องวิทยาศาสตร์ล่ะคับ???


ถ้าเอาเรื่องลี้ัลับ ผมก็ตอบไ่ม่ได้

แต่ถ้าเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ ก็ต้องเริ่มจากการศึกษาทฤษฎีสตริง ก่อนครับ

แล้วจะพบอะไรมากขึ้น

อ่อ ส่วนเรื่องของ กาล-อวกาศ สี่มิติของไอสตไน์ เนี่ย คือ เขาบอกประมาณว่า

สมัยก่อน ยุคของนิวตัน นิวตันเชื่อว่า อวกาศ และ เวลา เป็นสิ่งสัมบูรณ์ และ แยกอย่างชัดเจน

ทำให้ สมัยก่อน โลกจึงมา 3 มิติ

แต่หลังจากทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปออกมา ทำให้ เวลา และ อวกาศ รวมตัวกันเป็นเนื้อเดียวกัน

เกิดเป็น กาล-อวกาศ 4 มิติ โดย การเปลี่ยนแปลงของ อวกาศ ทำให้เวลาเปลี่ยนแปลงได้

(ยกตัวอย่างเช่น บริเวณที่มีความโค้งของอวกาศสูง เวลาจะเดินผิดเพี้ยนไป)

หรือยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น บนผิวโลก ที่ความโค้งของอวกาศเนื่องจากแรงดึงดูดมากกว่าบนเครื่องบิน

เวลาของสองจุดก็จะเดินต่างกันไป


อ่าฮะ

ทีนี้ เข้าเรื่อง 11 มิติ

คือ ในทางทฤษฎีสตริง บอกว่า อวกาศมิติอื่นๆ นั้นขดตัวจนมีขนาดเล็กมาก (ประมาณ 10^-33 เมตร)

จนเครื่องมือในยุคปัจจุับันไม่สามารถตรวจพบได้ แต่การตรวจไม่พบ ไม่ได้แปลว่าไม่มี

และก็เกิดปัญหาตามมาอีกว่า ทำไมธรรมชาติ จึง "เลือก" ที่จะปล่อยมิติออกมาแค่ 3

ทำไมไม่ให้มี 4 มิติอวกาศ + 1 มิติเวลา



อะไรประมาณนี้

เด่วไปรวบรวมความคิดอีกนิดจะมาต่อคับ 


PS.  อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวจนเยี่ยวหด บรรจงตดเบาๆอย่างเศร้าหมอง
0
-†-•Chaos•-†- 17 ก.ย. 52 เวลา 20:12 น. 11

คห.7 
ไทม์พาราดอกนั้น ล้มล้างได้ หากยึดทฤษฎีดรากอนบอล(ลืมชื่อ 55+)
ที่ทรังค์กลับไปแก้ไขอดีตไม่ให้หมายเลข17 18อาละวาด แต่เมื่อทำลายหมายเลข17 18ไป 
โลกของตนเองก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง นั่นหมายความว่า มีแค่มิติเวลาที่ทรังย้อนกลับไปเท่านั้นที่เปลี่ยน
อาจมองเป็นภาพได้ว่า ทุกครั้งที่เราตัดสินใจทำอะไรลงไป ก็จะเกิดมิติเพิ่มมาอีก2มิติ คือมิตินึงที่เราทำตามที่เรา
ตัดสินใจ อีกมิติหนึ่งก็ทำในอีกแบบ อาจงงๆไปหน่อย ยกตัวอย่างเช่น ผมเดินมาถึงทางแยก แล้วผมเลี้ยวซ้าย
ก็จะเกิดอีกมิติหนึ่งที่ผมเลี้ยวขวา แล้วดำเนินชีวิตในมิตินั้นของมันแยกไป ซึ่งสามารถอธิบายได้ด้วย เดจาวู 
ที่เรารุ้สึกเหมือนเคยเห็น หรือทำอะไรมาก่อน ทั้งๆที่เราไม่เคยทำ แต่จริงๆแล้ว เป็นตัวเราในอีกมิติหนึ่งทำไป

สรุปแล้วคือ สามารถย้อนอดีตและเปลี่ยนแปลงได้ แต่ที่เปลี่ยนแปลงก็จะมีแต่มิติเวลานั้นเท่านั้น เรากลับไปฆ่าตัวเราเมื่อ2ขวบ
เราก็ไม่ได้หายไป เพียงแต่ตัวเราในมิติเวลาที่เราย้อนกลับไปจะตายไปแค่นั้น

ในความคิดของผม ผมว่าน่าจะเดินทางข้ามอนาคตมากกว่าที่จะย้อนอดีต
จะเป็นประโยชน์มากกว่า อย่างเช่น ไปอนาคตในอีก10ปี แล้วสืบหาข้อมูลดูว่า10ปีที่ผ่านมา มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
แล้วกลับไปยุคของเราแก้ไข ป้องกันไม่ให้เรื่องนั้นมันเกิด(ซึ่งสามารถแก้ได้ ดังที่บอกไปแล้ว) ดูท่าจะดีกว่า
มานั่งพยายามแก้ไขอดีตที่ผิดพลาดไปนะครับ

0
เติกร์ 18 ก.ย. 52 เวลา 22:14 น. 12

เออผมคิดว่าที่คุณพูดก็น่าฟังอยู่
มิติที่1 กว้าง*ยาว*สูง
มิติที่2 เวลา
มิติที่3 แรงโน้มถ่วง
มิติที่4 ปฎิกริยานิวเคลีย(เป็นfission นะ การแตกออกของ atom ไม่ไช่ fusion)
ไหนๆก็กล่าวมาและพูดต่อเลยละกันในจักวาลนี้มีแรงนิวเคลีย2แบบ
อ่อน และ แก่
แยกไปได้อีกว่าประเภทไหน
1.fusion การ รวม ของธาตุ He(ปล.ฮ๊เลี่ยม)เป็นส่วนหลักและจะให้พลังงานสูง พบ ในดวงอาทิตย์ครับ
2.fision&nbsp การกระจายของอะตอมนิวเคลียของ ไอสไตย์ (ปล.ไม่รู้เขียนถูกป่าว)ระเบิดนั้นเอง
กลับกันมามิติต่อ
ถ้าคุณเคยเรียนเคมีตอนคุณเป็นdek-d ละก็จะจำได้ว่าโครงสร้างอะตอมเป็นยังไงประกอบไปด้วยอะไร
ผมมีคำถามจะถามคุณ ฟังนะ
จุดศูนกลางของมวลต่างๆเรียก center of the mass คำถาม (center of the mass)ของจักวาลอยู่ตรงไหนละ?????
ดวงอาทิตย์หลอ ผิดถนัดครับคุณรู้หลอว่าวงโครจรทางช้างเผือกที่เราอยู่ทุกวันเนี่ยใหญ่สุด
เราอาจเป็นแค่กลุ่มดาวเคราะน้อยลองมองกลับไปดูสิครับ(ดาวเคราะห์น้อยนั้นอะ)ผมเชื่อว่าต้องมีสิ่งมีชีวิตอยู่แน่นอนนอกจากชาวโลก
(อันนี้ทฤษฐีของผมเองกล่าวคือ บุคคลที่มาจากอุณหภูมิต่ำย่อมพัฒนากว่าอุณหภูมิสูงเป็นแน่แท้)ปล.อันนี้ผมไม่ได้เข้าข้างใครนะครับ
ต่อเลย(กฎstring theory) เส้นสายstringคืออะไรตอบไม่ได้แน่ชัดแต่คือสายใยที่มีค่าแรงโน้มถ่างในตัวมันเอง(ปล.จิตนาการกันหน่อยผมลงภาพไม่เป็นsorryนะครับ)กล่าวคือ string อยู่ในควาก(ปล.รู้นะควากคืออะไร)ลองจิตนาการดูอีกทีstringคล้ายจักวาลไหม????
เราลองคิดดูเราอยู่ในควากซึ่งเล็กมากเราคิดว่าเราใหญ์หลอ(ปล.ไม่ได้หาเรื่องนะครับ)คิดว่าที่เราอยู่เนี่ยมันใหญ่มากนักหรือไง???
มุมกลับกันควากเล็กปะ(เล็กมากปะแล้วสติงอะเล็กปะ)ตอนนี้คุณคิดว่าทางช้างเผือกกว้างใหมละครับคำตอบนี้
ขึ้นอยู่กับเอกภพสัมพัส(universeนะครับ)ของบุคคลนั้นสมมุตให้เข้าใจง่ายๆตามผมให้ทันนะ
มีใครไม่รู้มาถามคุณว่า
คนถาม ; เฮ้นาย นายว่าจักวาลเล็กปะ
คุณ&nbsp &nbsp &nbsp ; จะบ้าหลอเล็กอะไรกันกว้างจะตายชัก
มุมกลับกันนะ
คนถาม ; เฮ้นาย นายว่า ควากเนี่ยใหญ่ปะ
คุณ&nbsp &nbsp &nbsp ; ใหญ่อะไรเล็กเป็นบ้าเลย
คำถามที่1(ถามเล่นๆ)
1.ถ้าคุณเกิดหูดีขนาดได้ยินเสียง eletron วิ่งชนกันและได้ยินเสียงไครไม่รู้ตะโกนออกมาจากควาก จาก string ในนั้น และจากวงโครจร นั้น
พูดว่า อะไรคือมิติที่หายไปน้า....&nbsp คุณคิดว่าเอกภพของเขาเล็กไหมครับ(คิดเองนะ)
2.ถ้าคุณวันหนึ่งตะโกนสุดเสียงเลยดั่งเวอร์ๆ(และมีไครไม่รู้ได้ยินเข้าปล.ผมหมายถึงอีกคนที่อยู่ไกลจากเรามากเช่น อยู่ไกลเป็นระยะทาง จากเอกภพของคุณ - ภพของคนนั้น(อธิบายยากจังแฮะ)กรณีเดียวกับอันแรกนั้นแหละแค่สับเปลี่ยนตำเหน่งจากคนฟังไปเป็นคนตะโกนแทน
และคูดันดีอีกดันไปได้ยินเขาตอบกลับมา ว่า สบายดีจ้า (เป็นไปไม่ได้หรอกเว่อร์ไปหน่อย)คุณคิดว่าเอกภพของคุณเล็กป่าวและคิดว่าของเขาคงกว้างมากมายเลยสินะ
ทีนี้คุรก็เข้าใจแล้วสินะ103

0
เติกร์ 18 ก.ย. 52 เวลา 22:23 น. 13

ถ้ามีข้อสงสัยจาก บล็อกที่ 12 โทรมาบอกเลย ถามได้เลยครับ
02-5263960 อิเตอร์เซ็ท 089-6719167 บอกขอสายคุณ ศุภฤกษ์นะฮะ

0
เติกร์ 19 ก.ย. 52 เวลา 21:52 น. 15

เออผมคนเดียวกับ คห.12 และ 13 นะครับเพิ่มเติมข้อมูลนะ
ตอนนี้มีการค้นคว้า+ทดของของปฎิกริยา fusionแล้วนะครับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งยวด
ด้วยขดลวดทอรอยต์(toroid)เมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านทิศสนามไฟฟ้าจะชี้ไปทางสนามแม่เหล็ก(เออ เข้าในยากหน่อยสำหรับพวกเรียนไฟฟ้าแล้วนะครับใครยังไม่เรียนไม่ต้องไปจนใจมันนะ)ตอนนี้มีห้องnuclear fusionแล้วผมดีใจมาก อยากทดลองมั่งT-T
ด้วยความไม่มีประสบการณ์+ไม่มีเงิน(ผมเลยเสียโอกาศนี้ไปT-T)พูดแบบง่ายๆเลยนะสนามแม่เหล็กจะต้องมีความเข้มข้นสูงจนทำให้เกิดพลังงานยิ่งยวหลักการนี้เรียก(tokamak)นะครับซึ่งจะให้พลังงานมหาสารมากมาย
เรื่องขั้นตอนการทำให้สนามแม่เหล็กจนทำให้อนุภาคไวขนาดนั้นอยู่ในการทดลองเครื่องเร่งอนุภาคนะครับชื่อนะเผื่ออ่านแล้วไปเถียงกับใครเขาได้ครับ(large hadrons collider)lhc/เครื่องเร่งอนุภาค cern
ประกอบไปด้วยสนามแม่เหล็กยิ่งยวด!!r=16.5กิโลเมตร ครับ
ในการทำให้ประจุไวแบบนั้นต้องใช้ปติสสารติดระบบในaliceและปล่อยให้อนุภาตชนกันจะเกิดความร้อน100.000เท่าของใจกลางดวงอาทิตย์ร้อนไหมละตือว่าnewtronจะหลอมละลายทำให้ควากกระเด็นออกมาเรียก
quark-gluon plasma ซึ่งน่าจะเกิดหลัง big bang ครับเมือquark-gluon plasmaเย็นตัวลงเราจะรู้สสารก่อเกิดจักวาล
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด
'จิตนาการสำคัญกว่าความรู้'
'คนที่มีความรู้อย่างมากแต่ขาดจินตนาการเปรียบเสมือน นักรบวการต่อสู้แต่ขาดการวางแผนอันแยบยล'

0
นุก 15 ต.ค. 52 เวลา 15:27 น. 17

https://ads.dek-d.com/adserver/adclick.php?log=yes&bannerid=1650
(เดียวผมบอกมิติทั้งให้ครับ)**
มิติที่1*คือกว้าง/
มิติี่ที่2*คือยาว/
มิติที่3*คือสูง/
มิติที่4*คือเวลา/
มิติที่5*คือช่องว่างของเวลา/
มิติที่6*คือความเร็วแสง/
มิติที่7*คือช่องว่างของความเร็วแสง/
มิติที่8*คือแสง/
มิติที่9*คือเสียง/
มิติที่10*คือช่องว่างของหลุมดำ/
มิติที่11*คือพลังงานของพัลซาร์/
(และมีอีกมากมายครับแต่บอกไม่ได้)++103

0
ศุ๓ฤกษ์ 26 ต.ค. 52 เวลา 20:32 น. 18

ขอโทษนะฮะพัลซาคือดาวนิวตรอนที่หมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วสูงมาก และแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาเป็นจังหวะ คาบการหมุนที่สังเกตได้อยู่ระหว่าง 1.4 มิลลิวินาที ถึง 8.5 วินาที เราสามารถสังเกตเห็นการแผ่รังสีได้จากลำรังสีที่ชี้มาทางโลกเท่านั้น ลักษณะปรากฏการณ์เช่นนี้เรียกว่า ปรากฏการณ์ประภาคาร (lighthouse effect) และการที่สังเกตเห็นรังสีเป็นช่วงๆ (pulse) นี้เองเป็นที่มาของชื่อพัลซาร์ พัลซาร์บางแห่งมีดาวเคราะห์โคจรอยู่รอบๆ เช่น ดาว PSR B1257+12 เวอร์เนอร์ เบ็คเกอร์ แห่งสถาบันมักซ์ พลังค์เพื่อการศึกษาฟิสิกส์นอกโลก (Max Planck Institute for Extraterrestrial Physics) ได้กล่าวเอาไว้ในปี 2549 ว่า "ทฤษฎีว่าด้วยเหตุที่พัลซาร์แผ่รังสีออกมายังคงเป็นสิ่งลึกลับ แม้จะมีการเฝ้าศึกษามาเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้วซึ่งพูดง่ายๆก็คือพัลซาไม่ไช่มิติสิ่งที่เป็นมิติเรียกว่า
มิติของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต่างหาก

0