Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

บทความ- -ไม้มงคล

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

    คนไทยเรามีวิถีชีวิตผูกพันกับธรรมชาติมาช้านาน   เรารู้จักใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในหลายๆด้าน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือต้นไม้  คนไทยในอดีตจนกระทั่งปัจจุบันเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากต้นไม้มากมาย  คนไทยทั่วทุกภาคจึงนิยมปลูกต้นไม้เอาไว้ในบริเวณพื้นที่รอบๆที่อยู่อาศัยของตนเอง  การใช้ประโยชน์จากต้นไม้นั้นมีมากมายหลากหลาย  หลายชนิดเป็นพืชผัก  เก็บมาทำอาหารภายในครอบครัว  บางชนิดนำมาทำยา   บางชนิดนำมาทำเป็นเสื้อผ้า  เครื่องนุ่งห่ม  หรือของใช้ต่างๆ ฯลฯ ต้นไม้  จึงมีความสัมพันกับวิถีชีวิตมนุษย์มาช้านาน  และมีประโยชน์ต่อมนุษย์มากมายเช่นกัน
    ด้วยความที่วิถีชีวิตของคนไทยเรามีความสัมพันกับต้นไม้มาช้านานเช่นนี้  ต้นไม้จึงมีอิทธิพลต่อชีวิตคนไทย   เกิดเป็นความเชื่อ  หรือพิธีกรรมที่มีต้นไม้มามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย  ที่เห็นได้เด่นชัดคือคนไทยมีคติความเชื่อเกี่ยวกับความเป็นมงคลของต้นไม้แต่ละชนิด  ในพจนานุกรมได้ให้ความหมายของคำว่า ไม้มงคลเอาไว้ ดังนี้

ไม้มงคล

คำแปล

น. ไม้ที่มีผู้ถือว่าจะเป็น มงคลแก่บ้านเมือง เช่น ไม้ราชพฤกษ์ ไม้ขนุน ไม้มะขาม ไม้พะยูง ไม้กันเกรา ฯลฯ เป็นความเชื่อถือที่มาจากลัทธิพราหมณ์ นิยมใช้เป็นไม้ก้นหลุมของเสาเอกที่จะสร้างอาคารบ้านเรือน.


คนไทยจึงมีความเชื่อว่าการปลูกไม้มงคล จะให้สิ่งที่ดีแก่ครอบครัวเมื่อได้ปลูกในบริเวณบ้านของตนเอง  ซึ่งตามความเชื่อของคนไทยนั้น       ไม้มงคลแต่ละชนิด มีความพิเศษแตกต่างกัน  หากจะปลูกต้นไม้เพื่อความเป็นมงคลนั้น  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆด้วย


ทิศมงคลกับการปลูกต้นไม้

ทิศเหนือ

    
ให้ปลูกต้นพุทรา ต้นว่านต่างๆ ต้นมะตูม ต้นทุเรียน ต้นหว้า จะเสริมดวงให้เจริญก้าวหน้า มีวาสนาบารมี ปกป้องคุ้มครองให้ปลอดภัยไม่มีผู้ใดมาคิดร้ายรังแกไม่ได้
ทิศใต้

    ให้ปลูกต้นมะพลับ ต้นมะม่วง ต้นมะปราง
ต้นโตนด และต้นหว้าจะเสริมดวงให้รุ่งเรือง มีความมั่งคั่งร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี

ทิศตะวันออก

    ให้ปลูกต้นไผ่ ต้นมะพร้าว ต้นกุ่ม
ต้นสารภี จะเสริมดวงชะตาให้แข็งแรงไม่มีเรื่องทุกข์ใจ ไม่เจ็บป่วยทุกข์ร้อน มีแต่ความรุ่งเรืองอยู่ดีมีสุข

ทิศตะวันตก

    ให้ปลูกต้นมะขาม ต้นมะยม ต้นพุทรา
จะเสริมดวงให้แคล้วคลาดจากเภทภัยคดีความและเรื่องอื้อฉาวทั้งปวง

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

    ให้ปลูกต้นทุเรียน
ต้นสวาด ไม้ดอกนานาชนิดที่บูชาพระ เช่น ดาวเรือง บัว มะลิ จะเสริมดวงให้มีความสุขสบายร่มเย็นตลอดไป ไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนวุ่นวายในบ้าน

ทิศตะวันออกเฉียงใต้

    ให้ปลูกต้นยอ ต้นสารภี
ต้นกุ่ม ต้นไผ่ จะเสริมดวงให้เจริญก้าวหน้ามีลาภยศสูงส่ง ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง สำเร็จในอาชีพ มีเกียรติมีคนเคารพนบนอบ และป้องกันสิ่งชั่วช้าทั้งปวง

ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

    ให้ปลูกต้นมะนาว
ต้นมะกรูด ต้นสมป่อย ต้นมะงั่ว จะเสริมดวงให้มีผู้คนมาชื่นชมรักใคร่ ใครๆ ก็เกรงใจและมีแต่ความสุขความราบรื่นในทุกทาง

ทิศตะวันตกเฉียงใต้

    ให้ปลูกต้นราชพฤกษ์ (คูน)
ต้นขนุน ต้นสะเดา ต้นพิกุล จะเสริมดวงให้ชีวิตมีความคงมั่น ปราศจากความผิดพลาดและคดีความใดๆ ทำกิจใดจะสำเร็จไร้อุปสรรค ดึงให้ไกลจากอบายมุขและสิ่งชั่วร้ายให้โทษแก่ชีวิต
(ที่มาhttp://www.paisarn.com/tree/tree03.htm)

ไม้มงคลที่นิยมปลูก

 ต้นมะขาม

ต้นมะขาม ปลูกไว้ทิศตะวันตกของตัวบ้าน จะทำให้มีอำนาจ มีคนเกรงขาม ศัตรูจะทำอันตรายไม่ได้ ข้อสำคัญต้นมะขามเป็นต้นไม้ใหญ่ปลูกไว้ทิศตะวันตกในช่วงบ่ายถึงเย็นมะขามจะเป็นร่มเงาบังแสงแดดที่มีความร้อนมาสู่ตัวบ้าน เปรียบเหมือนมีคนปกป้องคุ้มครองเมื่อมีความเดือดร้อนวุ่นวาย

การจัดสวนตามอาคาร สถานที่ ตลอดถึงบ้านที่อยู่อาศัย ต้นไม้สายพันธุ์ต่างประเทศถูกนำเข้ามา เบียดพื้นที่ของพันธุ์ไม้มงคลเกือบหมดวิถีชีวิตวัฒนธรรมไทย ค่อยๆเลือนหายไปด้วยสมัยนิยม พันธุ์ไม้ต่างประเทศที่เน้นเอาความสวยงาม ส่วนเรื่องประโยชน์ในการใช้สอยนั้นแทบไม่มี

ต้นมะยม

ต้นมะยม ปลูกไว้ทิศตะวันตก หรือหน้าบ้าน
จะทำให้คนมานิยมชมชอบ เสริมเสน่ห์ให้กับเจ้าของบ้าน ไม้มะยมเป็นไม้มงคล 1 ใน 9 ชนิด ในพิธีกรรมทางวางศิลาฤกษ์ ทางไสยศาสตร์ที่เรียกว่า รัก+ยม ต้นมะยมที่ตายแบบยืนต้นเรียกว่า "ตายพราย" บรรดาเกจิอาจารย์ ขมังเวทย์ จะนำมาเป็นของขลังทางเสน่ห์ยาแฝด บางท้องถิ่นมีความเชื่อถือว่า ต้นมะยมเป็นต้นไม้ที่ป้องกันภูติผีปีศาจ สมัยก่อนใช้ก้านมะยมเป็นอาวุธสำหรับขับไล่ ความชั่วร้ายให้กลายเป็นดี

ทุกวันนี้ ต้นมะขาม และต้นมะยม ถูกพันธุ์ไม้อื่นมาเบียดให้ออกไปจากความนิยมศรัทธาเชื่อถือตลอดถึงต้นไม้อื่นๆ ที่เป็นมงคลนาม เช่น มะตูม สะเดา ขนุน พุทรา และต้นยอบ้าน ชมพู่ ฯลฯ

ด้วยเหตุผลว่า ต้นไม้ใหญ่ใช้พื้นที่กว้างขวางโดยเฉพาะหากจะปลูกชิดบ้านเกินไปเสี่ยงอันตรายในเรื่องความปลอดภัย พวกมิจฉาชีพจะปีนต้นไม้เข้ามาในบ้าน ฉะนั้น ใครอยากจะสัมผัสบรรยากาศแบบย้อนยุคก็ต้องออกไปตามท้องถิ่นยังพอมีให้ได้เห็นเพื่อเก็บไว้เล่าสู่กันฟังในกาลข้างหน้า 
ต้นไผ่ ยังมีต้นไม้อีกชนิดหนึ่ง คือ ต้นไผ่ ที่อยู่ได้ยั่งยืนอมตะนิรันดร์กาล สามารถแทรกตัวเองเข้าไปอยู่ในสวนประดับทั้งหลายได้อย่างสง่าผ่าเผย ก็ต้องยอมรับว่า ต้นไผ่เป็นไม้ยอดนิยมเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ว่ายุคนี้ ยุคหน้า ต้นไผ่ก็ยังครองแชมป์

หากสังเกต จะเห็นว่าตามอาคารบ้านเรือนที่มีต้นไม้ประดับ ต้นไผ่ถูกนำมาเสริมให้สถานที่นั้นดูกลมกลืนกับไม้อื่นๆ ทุกชนิด และแพร่หลายเข้ามาภายในตัวอาคารบ้านเรือน ถนนหนทาง หน้าบ้าน ร้านค้า ต้นไผ่มีอยู่ทุกหนทุกแห่งจนถึงธุรกิจการตกแต่งประดิษฐ์ต้นไผ่ปลอมก็ขายได้ขายดี

อาจจะเป็นเพราะ ต้นไผ่เป็นไม้ที่เลี้ยงง่ายตายยาก อยู่ในกระถางก็ยังเจริญเติบโตได้ดี และมีอยู่ในทุกภาคของเมืองไทย มีคุณประโยชน์ทั้ง ต้น ใบ และราก แต่ความอัศจรรย์ของต้นไผ่นั้นน่าเรียนรู้ ประโยชน์ของต้นไผ่นั้นมีมากมาย ลำต้นแข็งแรงนำมาเป็นเสาบ้านเรือนได้ ดัดแปลงเป็นไม้เล็กนำมาสานมัดเป็นภาชนะนานาชนิดพร้อมที่จะนิ่ม, งอ, โค้ง ได้สารพัดตามใจกิเลส หรือความต้องการของมนุษย์ได้มากกว่าต้นไม้ใดๆ

ลักษณะของไผ่ มีลำต้นที่สูงอยู่ด้วยกันเป็นกอใหญ่ กระแสลมไม่สามารถทำร้ายต้นไผ่ได้เพราะความกลมทำให้ลู่ไปตามลมได้ดี เป็นตัวอย่างให้เราเห็นว่าการรู้จักโอนอ่อนผ่อนตามกระแสต่อต้าน จะทำให้เอาตัวรอดได้

สารพัดประโยชน์จากหน่อไม้ที่นำมาเป็นอาหาร ส่วนใบนั้นนำมาห่อหุ้มอาหาร เช่น บ๊ะจ่าง และทำปุ๋ย เป็นต้น จึงไม่น่าจะสงสัยเลยว่าต้นไผ่นั้นมีคุณค่าอเนกอนันต์

ไม้ไผ่จึงเป็นไม้ 1 ใน 9 ชนิด ของไม้มงคลนาม ฉะนั้น พิธีก่อตั้งวางศิลาฤกษ์ที่สำคัญต้องมีไม้ไผ่สีสุกอยู่ด้วย สัญลักษณ์ของไผ่ คือ เลี้ยงง่าย ตายยาก มีประโยชน์มาก เจริญเติบโตเร็ว ทนต่อสถานการณ์ดินฟ้าอากาศ

การอยู่รวมกันเป็นกอ เปรียบเหมือนความสามัคคีกลมเกลียว หากใครทำตัวอยู่รวมกันได้แบบกอไผ่ จะมีความเจริญเติบโตรุ่งเรือง มีหลักฐานมั่นคงได้เช่นกัน

ต้นวาสนา

อยากจะเอ่ยไม้ยอดนิยมที่ปลูกอยู่ตามบ้านอีกชนิดหนึ่งนั้นคือ ต้นวาสนา ความหมาย ของต้นวาสนา เพียงเป็นสิ่งบอกเหตุของโชคลาภ วาสนา ของคนปลูกเท่านั้น

ส่วนประโยชน์ หรือ คุณค่านั้นตรงข้ามกับต้นไผ่ ปลูกไว้เพื่อรอดูความเจริญเติบโต และรอเวลาที่ต้นวาสนาจะออกดอก เพราะนั่นหมายถึงความมั่งคั่งร่ำรวยมีผลประโยชน์รายได้ พร้อมทั้งตำแหน่งหน้าที่การงานก็จะดีขึ้น การเงินมีสภาพคล่องดีกว่าเดิม แต่เห็นด้วยเต็มร้อย % คือจิตใจของผู้ดูแลจะสดชื่นแจ่มใสมีความสุขเต็มไปด้วยความหวังเพราะดอกวาสนาไปจุดประกายให้มีอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส

ต้นวาสนายังเป็นไม้ประดับตามอาคารบ้านเรือนให้สวยงาม ปราศจากมลพิษให้โทษ ความหมายของต้นไม้สองชนิดนี้ ต่างกันลิบลับ

ต้นไผ่ออกดอกเป็นลางไม่ดี ต้องแก้ไข แต่มีคุณค่า และความหมายหาค่ามิได้
ต้นวาสนา
มีคุณสมบัติทางโชคลาง ในเวลาออกดอกมาให้ดีใจ ได้ปลื้มเท่านั้น   




 

ประโยชน์ของต้นไม้มีดังนี้
1.
ต้นไม้จะ ช่วยคายออกซิเจนในช่วงกลางวัน ทำให้เราได้อากาศบริสุทธิ์ ซึ่งการได้สูดอากาศบริสุทธิ์ มีผลดีต่อสุขภาพ ของเรา
2.
ช่วยดูดซับก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นตัวการให้เกิดภาวะเรือนกระจก ทำให้
เกิดภาวะโลกร้อน
3.
เป็นร่มเงา บังแสงแดด ให้เกิดความร่มรื่น
4.
เป็นที่อยู่ อาศัยของสัตว์ป่า
5.
พืช ผล สามารถนำมารับประทานเป็นอาหาร หรือ ยารักษาโรคได้
6.
เป็นแหล่งต้นน้ำ ลำธาร เนื่องจากที่บริเวณราก ที่ดูดซับน้ำ และ แร่ธาตุ เป็น
การกัก เก็บน้ำไว้บริเวณผิวดิน
7.
บริเวณรากของต้นไม้ ที่ยึดผิวดิน ทำให้เกิดความแข็งแรงของบริเวณผิวดิน
ป้องกันการพัง ทลายจากดินถล่ม เนื่องจากมีรากเป็นส่วนยึดผิวดินอยู่ ตัวอย่าง
ที่เห็นเด่นชัด คือ การสาธิต การนำหญ้าแฝกมาประยุกต์ ป้องกันการพังทลาย
ของหน้าดิน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นพระปรีชา สามารถของพระมหากษัตริย์ ประเทศของเรา
8.
เป็นแนวป้องกัน การเกิดน้ำท่วม เนื่องจาก เมื่อเกิดสภาพที่น้ำเกินสมดุล ท่วมลงมา
จากยอดเขา จะมีแนวป่า ต้นไม้ ช่วยชะลอความแรง จากเหตุการณ์น้ำท่วม
9.
ลำต้น สามารถ นำมาแปรรูปทำประโยชน์ ต่างๆ เช่น บ้านเรือน ที่พักอาศัย สะพาน
เฟอร์นิเจอร์ เรือ
10.
การปลูกต้นไม้ เป็นการผ่อนคลายความเครียดได้อย่างนึง
11.
เมื่อเจริญ สามารถนำไปขายได้ราคา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมาก
12
ต้นไม้ เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญต่อบรรดาสัตว์ป่า เป็นส่วนนึงในระบบนิเวศวิทยา 

       การปลูกไม้มงคล นอกจากจะเป็นการสร้างความร่มเย็นภายในจิตใจแล้ว   ยังเป็นการช่วยกันดูแลสภาพแวดล้อมของโลกอีกทางหนึ่ง  เพราะต้นไม้ทุกชนิด  มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ  และมีความสำคัญต่อสิ่งมีชืวิตทุกชนิดทั้งมนุษย์และสัตว์  หากมีต้นไม้เพิ่มมากขึ้น   สภาพอากาศก็จะดีขึ้นตามไปด้วย   ดังนั้น  ความเชื่อเรื่องไม้มงคล จึงเป็นสิ่งที่ดี  การลองปลูกไม้มงคลของตัวเองก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย  เพราะนอกจากจะเป็นมงคลกับตัวเองและที่อยู่อาสัยแล้ว   หากทุกคนปลูกต้นไม้แม้เพียงคนละต้น ก็จะมีส่วนช่วยดูแลสภาพแวดล้อมของเราในระยะยาวได้  


*เราจะเขียนส่งอาจารย์อ่ะนะ 
คืออาจารยืให้เขียนบทความส่งอ่ะ   เราเลยลองเขียนแบบร่างๆ  แล้วก้เอามาให้ดูกัน
ติชม   หรือมีข้อเสนอแนะอย่างไรก้เขียน เม้นได้นะ
อย่างเช่นว่า น่าจะเพิ่มหัวข้อตรงไหน  หรือความเป็นแบบใด ยังไง
ถ้าเข้ามาแล้วก็เม้นด้วยนะ



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 22 กันยายน 2552 / 13:33

แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

ทุทิ 13 ก.พ. 56 เวลา 19:52 น. 7

ควรอ้างอิงให้ชัดเจนค่ะว่าเอามาจากพจนานุกรมอะไร ฉบับไหน ปีพศ.อะไร หน้าไหน พอดีจะเอาไปทำรายงานเหมือนกันแล้วอารจารย์เค้าให้อ้างอิงอ่ะค่ะ

0