Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ปวดท้องอย่างไหนเป็นไส้ติ่งอักเสบ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อาการ ปวดของไส้ติ่งแบบมาตรฐาน จะเริ่มปวดทั่ว ๆ บอกตำแหน่งแน่นอนไม่ได้ มักเป็นรอบ ๆ สะดือ อาจเป็นพัก ๆ หรือตลอดเวลาก็ได้ แต่โดยทั่วไปมักเป็นแบบตลอดเวลา หลังจากนั้นประมาณ 6-10 ชม. อาการปวดจะย้ายมาที่บริเวณท้องน้อยด้านขวา ต่ำกว่าสะดือ ปวดตลอดเวลา อาจมีไข้ขึ้น มีเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย อาการปวดแบบมาตรฐาน(classical symptom) จะพบประมาณ 25% เท่านั้น ส่วนที่เหลืออาจไม่เป็นแบบนี้ เช่น อาจไม่มีย้ายจุดปวด อาจปวดเป็นพักๆได้ (กรณีระยะแรก หรือเป็นชนิดที่อยู่หน้าหรือหลังลำไส้เล็ก pre-ileal or post-ileal type) แต่ประเด็นสำคัญคือปวดด้านขวาล่าง ๆ กดเจ็บ เดินตัวงอ มีเบื่ออาหาร มักปวดตลอดเวลา

อาการ เบื่ออาหารเป็นอาการที่สำคัญมาก พบเกือบ 100% ฉะนั้น ถ้าปวดท้องแต่ไม่เบื่ออาหาร กินข้าวได้ดี โอกาสเป็นไส้ติ่งอักเสบแทบจะไม่มี ถ้าไส้ติ่งแตก ไข้จะสูงลอยครับ 40 องศา ปวดทั่วท้องทั้งซ้ายและขวา ท้องจะแข็งเกร็งไปหมด เดินไม่ไหว ต้องนอนนิ่งๆ

การรักษา ไม่ว่าจะแตกหรือไม่ ผ่าตัดอย่างเดียวค่ะ


ปวดท้องทั่วไปจากโรคอื่น ๆ โดยทั่วไป มักปวดเป็นพัก ๆ


- ถ้าเป็นจากโรคแผลในกระเพาะ มักปวดใต้ลิ่นปี่ สัมพันธ์กับ อาหาร โดยจะท้องอืด เหมือนอาหารไม่ย่อย หรือปวดจุกเสียดก็ได้ มักเป็น หลังอาหาร( คือทานอาหารแล้วแย่ลง) แต่ถ้าเป็น แผลในลำไส้เล็กส่วนต้น อาจเป็นที่ใต้ลิ่นปี่หรือชายโครงขวา มักปวดจุกเสียดก่อนอาหาร พอทานอาหารแล้วจะดีขึ้น
- อาการปวดจากถุงน้ำดี มักเป็นที่ ชายโครงขวาครับ อาจมีร้าวไป บริเวณมุมล่างของสะบักขวาหรือบริเวณระหว่างสะบัก จะมีลักษณะที่สำคัญ คือ จะมีอาการแน่นหรืออืด หลังทานอาหารมันๆ(Fat Intolerance) หรือมีปวดท้องหลังอาหารเย็นเป็นพัก ๆ ที่ชายโครงขวา (Biliary Colic)
- ปวดจากนิ่วในท่อไต อาการปวดจะเป็นพัก ๆ มากบริเวณเอวด้านหลังอาจร้าวมาขาหนีบ หรือบริเวณอัณฑะ ร่วมกับมีปัสสาวะเป็นเลือด หรือเป็นสีน้ำล้างเนื้อ
- ปวดจาก ปีกมดลูก หรือรังไข่ จะปวดบริเวณ ท้องน้อย ไม่สัมพันธ์กับอาหาร มักมีเลือดหรือตกขาวผิดปกติ ทางช่องคลอดร่วมด้วย


จะสังเกตว่าอาการปวดท้อง ในระยะแรกไม่ว่าจะเป็นไส้ติ่ง หรือโรคอื่น ๆ ก็ตาม จะแยกกันยาก ต้องใช้การสังเกตอาการ ดังนั้น ในกรณีที่เริ่มปวดท้องที่ยังไม่ทราบว่าเป็นอะไร อย่าเพิ่งกินยาแก้ปวด ควรไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยก่อน เพราะการกินยาแก้ปวดจะทำให้ แพทย์วินิจฉัยแยกโรคลำบาก เนื่องจากยาจะบดบังอาการปวด
PS.  รั ก ต ะ เ อ ง น๊ า ส์ รั ก ม า ก ด้ ว ย - - - - - > เ ร า จ ะ ไ ม่ ทิ้ ง กั น ไ ป ไ ห น บ อ ก รั ก ตั ว เ ร า เ อ ง ทุ ก วั น น ะ แ ล้ ว จ ะ มี ค ว า ม สุ ขไม่รักตัวเอง แล้ว ใครจะมารักเรา

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

ฝากหน่อย ฮ่า ๆ -0- 27 พ.ค. 53 เวลา 21:50 น. 3

โรคไส้ติ่งอักเสบ

&nbsp&nbsp&nbsp เป็นโรคที่เกิดกับไส้ติ่ง เป็นภาวะฉุกเฉินทางอายุรศาสตร์ ซึ่งผู้ป่วยทุกรายจะต้องผ่าตัดเอาไส้ติ่งออก หากไม่ได้รับการรักษา อาจส่งผลถึงชีวิตได้ ส่วนใหญ่การเกิดโรคนี้จะเกิดจากการที่เยื่อบุช่องท้องอักเสบและภาวะช็อค โดยในปัจจุบันโรคไส้ติ่งอักเสบ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการปวดท้องรุนแรงเฉียบพลันที่พบบ่อยที่สุดทั่วโลก

สาเหตุ

&nbsp&nbsp&nbsp จากหลักฐานในปัจจุบัน เชื่อกันว่า โรคไส้ติ่งอักเสบเกิดจากการอุดตันของไส้ติ่ง ซึ่งเมื่อมีการอุดตันขึ้นแล้ว ส่วนที่อุดตันนี้ จะมีการคั่งของมูกมาอัดแน่นและบวมขึ้น จนเกิดความดันภายในส่วนที่อุดตันและตัวผนังไส้ติ่งจะสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดเล็ก ซึ่งไปขัดขวาางการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง น้อยครั้งที่จะเกิดไส้ติ่งถึงขั้นนี้แล้วกลับหายเป็นปกติได้
&nbsp&nbsp&nbsp เมื่ออาการดำเนินต่อไป ไส้ติ่งจะขาดเลือดและจะตายไปเฉพาะส่วน ต่อมาแบคทีเรียนที่อยู่ในลำไส้จะผ่านผนังไส้ติ่งที่ตายแล้วออกมา ทำให้เกิดหนองขึ้นรอบ ๆ ไส้ติ่ง จนสุดท้ายไส้ติ่งที่อักเสบมากนี้จะแตกออก ทำให้เกิดเยื่อบุช่องท้องอักเสบ และอาจทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นพิษ จนต่อมา อาจเสียชีวิตได้
&nbsp&nbsp&nbsp นอกจากนี้ยังมีอีกหลาย ๆ สาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตันของไส้ติ่ง เช่น การมีวัตถุแปลกปลอม การมีบาดแผล พยาธิ ซึ่งสาเหตุที่พบมาก คือ การมีนิ่วอุจจาระไปอุดตัน โดยส่วนใหญ่จะพบนิ่วอุจจาระในผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบในประเทศที่พัฒนาแล้วมากกว่าในประเทศที่กำลังพัฒนา และการมีนิ่วอุจจาระอุดตันนี้ มักจะมีความสัมพันธ์กับไส้ติ่งอักเสบรุนแรง โดยภาวะท้องผูกก็อาจมีส่วนด้วย ผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบจะมีจำนวนครั้งในการถ่ายอุจจาระต่อสัปดาห์น้อยกว่ากลุ่มคนปกติทั่วไป การที่อุจจาระไปคั่งในลำไส้ใหญ่ส่วนขึ้นและมีช่วงเวลาในการบีบไล่อุจจาระนาน
&nbsp&nbsp&nbsp โดยส่วนใหญ่ ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งไส้ตรง มักเป็นโรคไส้ติ่งอักเสบนำมาก่อนด้วย จากหลายการศึกษาพบว่า การรับประทานอาหารที่มีกากใยต่ำ มีส่วนใการทำให้เกิดโรคไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งตรงกันกับข้อมูลที่ว่า การรับประทานอาหารที่มีกากใยต่ำ ทำให้มีช่วงเวลาในการบีบไล่อุจจาระนานขึ้น

0