ใครเก่งภาษาไทยช่วยทำหน่อยคร้าบบม.5
ตั้งกระทู้ใหม่
เนี้ยๆเราเรียนเรื่อง ลิลิตตะเลงพ่ายอะอาจารย์สั่งงานมา เยอะอ่า
ทำไม่เป็นอะเพื่อนๆช่วยทีนะครับ
ภูธรเมิลอมิตรไท้ ธำรง สารแฮ
บ่จวนบ่จวบองค์ อุปราช แลฤา
พลางเร่งขับคชเต้า แต่ตั้งตาแสวง
อาจารย์ผมเค้าให้ 1.ถอดคำประพันธ์
2.หาคำศัพท์
3.วิเคราะห์ศิลปะการประพันธ์ (อธิพจน์ , สัตพจน์ อะไรประมาณเนี้ย)
4.ข้อคิดอะ
5.ความรู้ที่ได้รับ
6.โวหารและรสวรรณคดี (สวรจนีย์ไรพวกนั้นอะคร้าบ)
ช่วยทีน้าเรื่องคอขาดบาดตาย!
10 ความคิดเห็น
PS. just have a little faith...
ยากไป
ถ้าเปนตอนที่พี่ เรียนดาวองก์ เตรียมเอนท์ คงช่วยได้
แต่นี่ ผ่านมาเปนปีแล้ว ลืมหมด
เสียใจด้วย จิงๆ
สู้ต่อไป .. ทาเคชิ
คำขึ้นต้นน่ะ
แน่ใจว่าพิมถูก
PS. Love U SJ CraZy E.L.E
ถูกค่ะในบทพิมพ์อย่างนั้น
ลองไปหาที่ thaigoodview.com ดูสิ
สู้ๆครับ
PS. ปฏิทินที่นับพ้นข้ามปี เเต่ละเข็มนาทีที่เลยผ่าน ต้องกอดกับความเดียวดายอีกนานเท่าไหร่ >.<
ไม่รู้ จขกท.จะได้คำตอบหรือยัง
แต่ก็ขอลองหาให้เที่ได้นะ
ภูธรเมิลอมิตรไท้ ธำรง สารแฮ
ครบสิบหกฉัตรทรง เทริดเกล้า
บ่จวนบ่จวบองค์ อุปราช แลฤา
พลางเร่งขับคชเต้า แต่ตั้งตาแสวง
1.ถอดคำประพันธ์ >> เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมองเข้าไปในกองทัพของข้าศึก
ก็พบว่ามีการจัดช้างทรงไว้ ๑๖ ช้าง (คือในการรบ เจ้านายหรือกษัตริย์จะทรง
ช้างศึก โดยช้างทรงนั้น จะได้รับการตกแต่งให้สง่างามและเด่นกว่าช้างอื่นๆ
แต่ในที่นี้ มีช้างในลักษณะที่คล้ายคลึงกับช้างทรงถึง ๑๖ ช้าง) แต่ก็ไม่ทรงพบ
พระมหาอุปราชาเลย พระองค์จึงเร่งไสช้างเข้าไปเพื่อหาพระมหาอุปราชา
2.หาคำศัพท์ อันนี้หาเองล่ะกัน ต่างคนต่างความคิด
3.วิเคราะห์ศิลปะการประพันธ์ น่าจะเป็นบรรยายโวหาร
4.ข้อคิด มีความรอบคอบในการทำการศึก อย่างเช่นมีการจัดช้างทรงแบบลวงๆไว้
5 กับ 6 นี้จนปัญญาไปหาเองนะครับ
เนี้ยๆเราเรียนเรื่อง ลิลิตตะเลงพ่ายอะอาจารย์สั่งงานมา เยอะอ่า
ทำไม่เป็นอะเพื่อนๆช่วยทีนะครับ
      ภูธรเมิลอมิตรไท้    ธำรง สารแฮ                                         
------------------  ภูธร = น.พระราชา    ,  เมิล = ก.ดู  , อมิตร = ว.ไม่ใช่เพื่อน น.ข้าศึก ศัตรู  , ธำรง = ก.ทรงไว้ ชูไว้---------------------------------
  ครบสิบหกฉัตรทรง    เทริดเกล้า             
-----------------  ฉัตรทรง = น. เครื่องสูงชนิดหนึ่ง มีรูปคล้ายร่มที่ซ้อนกันขึ้นไปเป็นชั้น ๆ ชั้นบนมีขนาดเล็กกว่า ชั้นล่างลดหลั่นกันไปโดยลําดับ สําหรับแขวน ปัก ตั้ง หรือเชิญเข้ากระบวนแห่เป็นเกียรติยศ. (ส. ฉตฺร; ป. ฉตฺต ว่า ร่ม);
---------------------ส่วนที่ต่อจากปุ่มฆ้องเป็นฐานแผ่ออกไปแล้วงองุ้มลงมาเป็นขอบโดยรอบอย่างฉัตร; ชื่อดาวฤกษ์อารทรา. , เทริด =  น. เครื่องประดับศีรษะ รูปมงกุฎอย่างเตี้ย มีกรอบหน้า.------------------------------
  บ่จวนบ่จวบองค์        อุปราช แลฤา
------------------จวน = น. ที่อยู่ของเจ้าเมือง, บ้านที่ทางราชการจัดให้เป็นที่อยู่ของผู้ว่าราชการจังหวัดเรียกว่า จวนผู้ว่าราชการจังหวัด. ,น. ผ้าชนิดหนึ่ง.  , ว. เกือบ, ใกล้, เช่น จวนถึง จวนตาย จวนได้.--------------------------
----------------------จวบ =  ก. พบ, ประสบ, ร่วม, ถึง. จวบจวน ว. จนถึง, ถึงที่.        ,      อุปราช =  น. ผู้สําเร็จราชการต่างพระองค์ประจําภาคหนึ่ง ๆ ในอาณาจักร.  ----------------------------
พลางเร่งขับคชเต้า    แต่ตั้งตาแสวง
--------------------แสวง =  ก. เที่ยวหา, ค้นหา, เสาะหา.
อาจารย์ผมเค้าให้
1.ถอดคำประพันธ์
-----------แปลความได้ว่า  เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมองเข้าไปในกองทัพของข้าศึก
ก็พบว่ามีการจัดช้างทรงไว้ ๑๖ ช้าง (คือในการรบ เจ้านายหรือกษัตริย์จะทรง
ช้างศึก โดยช้างทรงนั้น จะได้รับการตกแต่งให้สง่างามและเด่นกว่าช้างอื่นๆ
แต่ในที่นี้ มีช้างในลักษณะที่คล้ายคลึงกับช้างทรงถึง ๑๖ ช้าง) แต่ก็ไม่ทรงพบ
พระมหาอุปราชาเลย  พระองค์จึงเร่งไสช้างเข้าไปเพื่อหาพระมหาอุปราชา----------
2.หาคำศัพท์ 
------อยู่ตรงกลอนนะคะ------
3.วิเคราะห์ศิลปะการประพันธ์ (อธิพจน์ , สัตพจน์ อะไรประมาณเนี้ย)
-----------------    ภาษาที่ใช้ในวรรณกรรมร้อยกรองนั้นมักจะเป็น
ภาษาที่ไพเราะ สามารถโน้มน้าวอารมณ์และความรู้สึกของผู้อ่านทำให้เกิด
จินตนาการและมโนภาพ ผู้ประพันธ์จะต้องเลือกกรองถ้อยคำหรือสำนวนโวหาร
มาร้อยเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดความงาม เพราะนอกจากบทร้อยกรองจะมีเนื้อหา
สาระและความคิดที่ดีแล้วยังต้องมีศิลปะการประพันธ์ หรือวรรณศิลป์ หรือเรียก
ว่าแง่งามของบทร้อยกรองอีกด้วยซึ่งพิจารณาจากสิ่งต่อไปนี้
4.1            เสียงเสนาะ  การแต่งบทร้อยกรองไม่ได้มุ่งหมายความไพเราะ
เท่านั้น ยังต้องนึกถึงความไพเราะแก่ผู้ฟัง นั้นคือต้องมีเสียงสัมผัสทั้งสระและตัว
อักษร เสียงวรรณยุกต์ มีการเลียนแบบเสียงธรรมชาติ เป็นต้น
4.1.1      การใช้สัมผัส
                          คำประพันธ์นอกจากไพเราะด้วยเสียงสัมผัสบังคับแล้ว
ยังเพิ่มความไพเราะด้วยเสียงสัมผัสในได้แก่  คำว่า โอ้-อัส, ลง-แล้ว,นง-นุช
และเล่นคำว่า  รอนรอน-เรื่อยเรื่อย ซึ่งเป็นคำสัมผัส ร ทั้งหมด นอกจากนี้
จะได้เสียงสัมผัสและยังแสดงความรู้สึกโศกเศร้าได้อย่างชัดเจน คำว่า รอนรอน
ทำให้เห็นภาพดวงอาทิตย์กำลังจะตกเหมือนหัวใจที่รอนรอน เรื่อยเรื่อย แสดง
อาการดวงอาทิตย์กำลังจะลับลงช้า ๆ เช่นเดียวกับการรอคอยที่ยาวนาน
4.1.2  การเล่นสัมผัส
            พลางพระดูดงเฌอ  พิศพุ่มเสมอเหมือนฉัตร เป็นขนัด
เนืองนันต์  หลายเหล่าพรรณพฤกษา  มีนานาไม้แมก  หมู่ตระแบกกระบาก  มาก
รวกโรกรักรังรง  ปริกปริงปรงปรางปรู  ลำแพนลำพูลำพัน
                  ( ลิลิตตะเลงพ่าย : สมเด็จพระมหาสมรเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส )
                            คำประพันธ์ข้างต้นนี้แสดงให้เห็นการเล่นสัมผัสพยัญชนะ
ในแต่ละวรรคมีคำที่เสียงคล้องจองทำให้เกิดเสียงที่กลมกลืนกัน เช่น พลาง-พระ
พิศ-พุ่ม,เนือง-นันต์,พรรณ-พฤกษา,สมอ-สมี-แสม,ม่วง-โมก,ซาก-ซึก, โศก-สน-สัก
รวก-โรก-รัก-รัง-รง, ปริก-ปริง-ปรง-ปราง-ปรู,แพน-พู-พัน เป็นต้น
4.1.4    การเลียนเสียงธรรมชาติ
คำประพันธ์ต่อไปนี้เป็นการเลียนเสียงการบินของผึ้ง  ในคำว่า  หึ่ง หึ่ง 
เป็นเสียงที่มีลักษณะทอดซ้ำ  วนเวียนอยู่เหมือนการบินของผึ้ง  ช่วยเสริมจินตนาการให้แก่ผู้อ่านให้คิดถึงการเคลื่อนไหวของผึ้ง
(อ่านดูแล้วหัดวิเคราะห์นะคะจะได้เป็น)
4.ข้อคิดอะ
----------------ความดีเด่น เป็นการยึดมันถือมันในการกระทำในสิ่งที่ดี และเป็นเสมือนสิ่งที่เตือนใจของผู้ที่เข้ารับการถือสัตย์ประติญาณ
ข้อดี เป็นการอนุรักษ์ความเป็นจารีดประเภณี
คติธรรมที่ได้ เป็นการสั่งสอน อบรมให้ยึดมั้นในอุดมการณ์ของความถูกต้อง -----------------------
5.ความรู้ที่ได้รับ
------------จากการที่เราได้รับการศึกษาเรื่องลิลิตตะเลงพ่ายเราจะเห็นได้ชัดเจนว่าในช่วงตอนที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเปลี่ยนแผนการรบเป็นรับศึกพม่าแทนไปตีเขมร 
    พระองค์ได้ทรงจัดการวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอนอย่างไม่รอช้า  ทรงแต่งตั้งให้พระยาศรีไสยณรงค์เป็นแม่ทัพหน้าและพระราชฤทธานนท์เป็นปลัดทัพหน้าตามด้วยแผนการอื่นๆอีกมากมายเพื่อทำการรับมือ 
และพร้อมที่จะต่อสู้กับข้าศึกศัตรูทางฝ่ายพม่า เมื่อเราเห็นถึงคุณธรรมทางด้านการวางแผนแล้วเราก็ควรเอาเยี่ยงอย่างเพื่อใช้ในการดำเนินชีวิตให้เป็นไปอย่างมีระเบียบ  มีแบบแผน
ซึ่งจากคุณธรรมข้อนี้ก็อาจช่วยเปลี่ยนแปลงให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน  ให้กลายเป็นบุคคลที่มีคุณภาพชีวิตทางด้านการวางแผนในการดำเนินชีวิตก็เป็นได้ถ้าเรารู้จักการวางแผนให้กับตัวเราเอง --------------------------
6.โวหารและรสวรรณคดี (สวรจนีย์ไรพวกนั้นอะคร้าบ)
-------  ลิลิต คือ คำประพันธ์ชั้นสูง ที่ต้องใช้ถ้อยคำ สำนวนโวหารทั้งของไทย และที่ได้จากต่างประเทศ การแต่งลิลิตจะประกอบด้วยร่าย และโคลง มี ๒ ประเภท 
          ๑.ลิลิตสุภาพ แต่งด้วยร่ายสุภาพ และโคลงสุภาพ 
๒.ลิลิตโบราณ แต่งด้วยร่ายดั้น และโครงดั้น
    ลักษณะบังคับของร่ายสุภาพ ร่ายสุภาพบทหนึ่งมีตั้งแต่ ๕ วรรคขึ้นไป และตอนท้ายต้องจบด้วยโคลงสองสุภาพ ร่ายสุภาพแต่ละวรรคกำหนดให้มี ๕ คำ
สำหรับสัมผัสบังคับของร่ายสุภาพ กำหนดให้คำสุดท้ายของวรรคหน้าส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๑ หรือที่ ๒ หรือที่ ๓ เพียงดำใดคำหนึ่งในวรรคถัดไป การส่งสัมผัสเป็นไปเช่นนี้จนกระทั่งจบด้วยโคลงสองสุภาพ
ส่วนสัมผัสในซึ่งเป็นสัมผัสที่ไม่บังคับในร่ายสุภาพใช้ไดทั้งสัมผัสพยัญชนะและสัมผัสสระ แต่นิยมสัมผัสพยัญชนะมากกว่า 
ช่วยทีน้าเรื่องคอขาดบาดตาย!
++++++++++++++++++ไม่รู้ใช้ได้อะป่าว เพราะผ่านมา 6 ปีละ++++++++++++++++++++
อืม... ส่วนตัวคิดว่า
ผู้แสดงความคิดเห็นน่าจะแนะนำวิธีทำ หรือให้แนวทางหรือแหล่งที่นำไปสู่คำตอบ
มากกว่าที่จะบอกคำตอบไปเลยนะคะ
(มันคือ จสน. ด้านดี)
แต่ถ้ามีคนบอกคำตอบ เป็นเราเราก็เอา 555
(มันคือ จสน. ด้านไม่ดี หุหุ)
PS. First impression is last impression.
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?