ความแตกต่างระหว่างเรื่องสั้นกับนวนิยายนั้นคืออะไร????
ตั้งกระทู้ใหม่
แต่เราสับสนจริงๆ
เรื่องมันมีอยู่ว่า...วิชาที่เราเรียนอยู่ตอนนี้คือวิชาการเขียน
( ภาษาอังกฤษอะนะ )
แล้วอาจารย์ให้งานมาเขียน..เขียนอะไรก็ได้
ตั้งแต่เรื่องสั้นยันนิตยสาร...เลือกเอาตามสะดวกเลย
แล้วเราเลือกเขียนนวนิยาย....
แล้วเพื่อนๆก็เขียนเรื่องสั้นบ้าง...ชีวประวัติบ้าง....สารคดีบ้าง
นิตยสารบ้าง....แตกต่างกันไป
ทีนี้เนี่ย...มันมีปัญหาอยู่ที่ว่า...อาจารย์ท่านกำหนดจำนวนคำมา
ว่าให้ word count ( English) อยู่ที่ประมาณ4000-6000 คำ
ซึ่งจะมากกว่านั้นได้ไม่มีปัญหา
แล้วเพื่อนเราที่เขียนเรื่องสั้นมันบอกว่าเรื่องสั้นของมัน
มีจำนวนคำอยู่ที่ประมาณ8000
ปัญหาคือ....แล้วนวนิยายละ...จะต้องกี่คำขึ้นไป
อันนี้เราไม่แน่ใจว่าภาษาไทยกับภาษาอังกฤษนับจำนวนคำ
เพื่อตัดสินว่าอันไหนคือเรื่องสั้นอันไหนคือนวนิยายแบบเดียวกันรึป่าว
เลยอยากถามผู้รู้ในบอร์ดนี้ดูอะคะ..ว่าเขาแยกแยะยังไง..ใช้อะไรเป็นเกณฑ์กันแน่
18 ความคิดเห็น
นวนิยายฉันคิดว่าต้องมีหลักหมื่อนแหละ ถ้าอยู่หลักพันก็น่าจะเป็นเรื่องสั้นอยู่. ..
PS. Everyone want to be hero! That why I always be demon...
เอิ่ม...นิยายข้าพเจ้าหลักแสนเลยนะ
ข้าพเจ้าว่าถ้าจะเขียนส่งครูน่ะเขียนเรื่องสั้นดีกว่านะ นิยายมันจะเป็นโครงการมโหฬารเกินไป มันจะส่งไม่ทันเอานะท่าน
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 20 มกราคม 2553 / 21:11
PS. You may call me a freak, Or someone like me for that matter, But in our eyes, You are a freak too.
เรื่องสั้นคือเรื่องราวที่จบในตอนไม่มีการมาต่อเป็นภาคๆ
นวนิยายเรื่องยาวก็คือ เรื่องราวที่แบ่งเป็นตอนๆ และทุกตอนจะัเชื่อมโยงเข้าหากัน
อันนี้คือที่ผมเข้าใจนะ - - ...
ป.ล.นิยายผมบทเดียวก็หมื่นหกพันคำแล้วครับ
PS. หา!? พูดถึงเรื่องสั้นต้องนึกถึงอะไรเรอะ ถามมาได้...เรื่องสั้นมันก็ต้องหักมุมนะเซ่!!!
ตามที่จำได้
อาจารย์ว่าไว้เรื่องสั้นมีตัวละครไม่กี่ตัว ไม่ถึงแปดมั้ง
มันมีเรื่องสั้นขนาดยาวด้วยนะ
แต่ถ้าจะทำส่งอาจารย์แนะนำเรื่องสั้นดีกว่านวนิยาย ตามที่คหอื่นๆว่ามา
คำถามของเราคือ....แล้วเรื่องสั้นมันแบ่งเป็นตอนด้วยหรอฟะ????
แล้วพอถามว่า...อ้อ..เธอจะทำหนังสือรวมเรื่องสั้นว่างั้น???
มันก็บอกว่า...ป่าว....ทำเรื่องเดียว...แต่มีหลายตอน...ต่อกัน
แล้ว?????.....สรุป...ว่าแบบนั้นมันคือเรื่องสั้นหรอ
เพราะฉันก็จะเขียนแบบนั้นแหละ...เขียนเรื่องเดียวแต่มีหลายตอนต่อกัน
แต่ฉันเรียกว่านวนิยาย...ส่วนเธอเรียกว่า...เรื่องสั้น...โอ้แม่เจ้า....
เด็กไทย...งงตาแตกแล้วนะเนี่ยตอนนี้นะ
มันเป็นเรื่องสั้นขนาดยาว?
เพราะตอนเรียนก็งง ระหว่างเรื่องสั้นขนาดยาวกับนิยาย
เรื่องสั้น (Short Story) ต้องจบเรื่องในตอนเดียวครับ
ปกติจะไม่นิยมเขียนยาวเกิน10หน้า
ถ้ามันมีตอน2 ตอน3 ตอน4 ไม่เรียกว่าเป็นเรื่องสั้นครับ เป็นนวนิยาย (Novel) แทน
PS. ไม่มีใครปั้นหม้อที่สวยงามและมีมูลค่าได้ โดยที่มือไม่เปื้อนดินหรอก
คือ...นิยายภาษาอังกฤษอะ...ขนาด word count ได้10000 กว่ายังเป็นเล่มบางๆเลย
ฉะนั้น....หากนิยายเรามีแค่ 6000 เอ่อ...มันก็คงไม่ใช่นิยายละมั้ง
แต่อาจารย์บอกว่าทำได้นะ...แล้วแต่เราดีไซน์
อาจารย์จะดูภาษามากกว่าอะ
แล้วก็...อาจารย์ให้เวลาเขียนสามเดือนอะนะ
คือวิชานี้เนี่ย...มีงานชิ้นเดียว...ไม่มีการสอบทั้งกลางภาคและปลายภาค
ทว่า...คะแนนทั้งหมดจะอยู่งานเขียนชิ้นเดียวนั้นของคุณ
นั่นหมายความว่า...มันต้องเป็น masterpiece ชิ้นที่ดีที่สุดในชีวิตของเราเท่าที่จะเป็นได้
ป.ล. เรียนศิลปศาสตร์ภาษาอังกฤษก็เงี่ย....วนเวียนอยู่แต่
ฟัง พูด อ่าน เขียน วิเคราะห์ ไวยากรณ์ ท่องจำ...
แต่ทำไงได้เลือกที่จะเรียนแล้ว...เราต้องไม่หันหลังกลับ
เดินหน้าอย่างเดียวลูกพิ้ง...55
ฉันก็คิดเหมือนคุณนี่แหละ...แต่มันยังไม่ค่อยแน่ใจ
ฉะนั้น...เรื่องของเราก็เป็นนิยายได้ใช่มั้ย
แล้ว....มันจำเป็นต้องถึงหมื่นกว่ารึป่าว
น้อยกว่านั้นจะได้มั้ย
ป.ล. ตอนนี้พล็อตเรื่องไม่มีปัญหาเลย...ปัญหาคือภาษานี่แหละ
ปัญหาเรื่องภาษามันเริ่มมาแล้ว....เริ่มเหงื่อแตก 0_0!
มันต่างกันที่ความยาวงับ...
PS. ...มันไม่ใช่พีเอสนะ มันคือปัจฉิมลิขิตต่างหาก...
ถ้าจะวัดกันที่ความยาวก็กะยากเหมือนกันนะ
ดูที่จุดประสงค์ดีกว่า  ตามความเ้ข้าใจผม เรื่องสั้นคือเรื่องที่ตีแผ่บางแง่มุม บางเหตุการณ์ หยิบยกประเด็นหลักมาอันเดียวแล้วเล่าเรื่องผ่านเหตุการณ์หนึ่งๆ  จึงใช้ตัวละครน้อย 1-5 ตัว  น่าจะราวๆ นี้  ความยาวจำกัด จึงไม่นิยมยืดเยื้อมาก  มักจะมุ่งเข้าเป้าเข้าประเด็นไปเลย ทำให้คนอ่านอ่านจบได้ในเวลาอันสั้น
ส่วนเรื่องยาวก็อย่างที่รู้จักกัน  ยืดเยื้อไปเรื่อย จะยาวมากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่บริบทของเรื่อง
กรณีเรื่องสั้น ผมเคยเจอที่ประหลาดเหมือนกันนะ เหมือนจะแหกคอกในเรื่องความยาว  มีเรื่องสั้นของสติเฟ่น คิง  แกขึ้นปกว่า "เรื่องสั้นขนาดยาว"  คือยาวจริงๆ พอๆ กับเรื่องยาวทั่วไป  เป็นร้อยหน้าเลยล่ะ  แต่ก็ตีแผ่ขยายความในประเด็นเดียว ตัวละครหลักตัวเดียว มีตัวประกอบสองสามคน  อันนี้ก็...ปล่อยแกบ้าไปละกัน  ฮา
กรณีว่า เรื่องสั้นจะแบ่งเป็นตอนได้หรือไม่  ความเห็นผม  น่าจะเป็นว่าไม่ถึงกับแบ่งเป็นตอน แต่น่าจะเป็นการตัดฉากมากกว่า 
อืม
ก็ประมาณนี้ครับ
PS. คนเราย่อมต้องพลัดพรากจากของรักเป็นธรรมดา
เวลาสามเดือนแต่งนิยาย...ไม่น่าจะทันนะ ข้าพเจ้าแต่งมาเป็นปีๆ แล้วยังไม่จบเลย
ขอตอบคห.9 หน่อย
หมื่นกว่ามันก็ยังเรื่องสั้นอยู่เลยนะครับ นิยายข้าพเจ้าน่ะ ตอนนึงก็ปาเข้าไปหมื่นกว่าคำแล้ว (ย้ำว่าตอนเดียว)
ถ้าจะให้นับเป็นนิยายมันก็ต้องหลักสักร้อยหน้าขึ้นไปนั่นแหละครับ (ประมาณห้าหกหมื่นคำน่ะครับ)
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 21 มกราคม 2553 / 14:05
PS. You may call me a freak, Or someone like me for that matter, But in our eyes, You are a freak too.
มันก็จริงอย่างที่คุณว่านะ
แต่ภาษาอังกฤษอะ....หมื่นกว่าก็เห็นเขาเย็บเล่มเป็นนิยายได้แล้วอะ
เราก็งงเหมือนกันแหละ
แต่เราเคยลองแปลนะ...ภาษาอังกฤษหน้านึง(หนังสือเล่มเล็กอะนะ)
แปลออกมาแล้วขยายเป็นภาษาไทยได้ตั้งไม่รู้เท่าไหร่
ตอนนี้กำลังอ่านเรื่อง The Adventures of Pinoccio อยู่เพื่อดูเป็นแนว
เล่มก็ไม่หนามากนะ....ทั้งเล่มมีบทย่อย 36 บท ( 36 Chapters)
ซึ่งแต่ละบทก็มีแค่หน้าเดียว (หนังสือขนาดเล็กอีกต่างหาก)
ป.ล. ยิ่งคิดยิ่งมึน
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 21 มกราคม 2553 / 19:15
โอ้ว ซาก็มึน (ที่จริงไม่รู้เรื่องต่างหาก -*-) ยังไงก็ขอเอาใจช่วยแทนละกันนะค่า (ช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย)
PS. จินตนาการคือความคิด ใครก็มีสิทธินึกได้ เหมือนกันบ้าง แตกต่างกันไป อยู่ที่ใจ จิตสำนึก ของแต่ละบุคคล
ท่าน...เขามีแต่แปลเป็นไทยแล้วจะสั้นกว่าอังกฤษ ท่านแปลอีท่าไหนให้อังกฤษสั้นกว่าภาษาไทย
PS. You may call me a freak, Or someone like me for that matter, But in our eyes, You are a freak too.
คือ...มันก็ไม่เสมอไปทุกเรื่องหรอกนะคะ
แล้วคุณไม่สังเกตุเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์หรอ
ฉบับภาษาอังกฤษนั้นเล่มแรกก็ดูเล็กนิดเดียว
แต่ทำไมพอไปดูฉบับภาษาไทยแล้วมันเยอะกว่า (ในที่นี้หมายถึงเล่มใหญ่กว่า)
จะว่าไปมันก็แล้วแต่เรื่องแล้วแต่บริบทแล้วแต่ส่วนขยายอะนะ
หากภาษาอังกฤษใช้คำสั้นๆแล้วเข้าใจ...แต่พอเราแปลเป็นไทย
เราอาจจะต้องใช้คำมาอธิบายความหมายให้มันดูเข้าใจง่าย
เข้าใจในแบบภาษาไทยอะ...ไม่ใช่แปลแบบคำต่อคำ
คุณจะแปลให้ภาษาไทยสั้นกว่าภาษาอังกฤษทุกครั้งไปมันคงจะเป็นไปไม่ได้หรอกนะคะ..แหะๆ
แล้วเรื่องที่เราเคยแปลมามันเป็นนิยายเล่มบางๆอะ...บางมากๆๆๆๆๆ
เอางี้ดีกว่า...คุณเคยอ่านนิยายภาษาอังกฤษฉบับอังกฤษเลยมั้ย
The Case Of The Lonely Lady >> John Milne
The Ghost Of Genny Castle >> John Escott
Under the Moon >> Rowena Akinyemi
Dead Man's Island >> John Escott
Black Beauty >> Anna Sewell
ทั้งหมดนั่นเป็นรายชื่อหนังสือส่วนหนึ่งที่เรามีอยู่
หนังสือทั้งหมดเป็นหนังสือเล่มเล็กๆบางๆ...คุณลูกศรช่วย
ตัดสินให้หน่อยว่า....มันคือนิยายใช่หรือไม่
นิยายเรื่องยาวๆเราก็มีนะ...เช่น The Alchemist by Paulo Coelho
หนังสือฉบับดั้งเดิมมันก็เล่มเล็กนะ...แต่เป็นนิยายที่ดี
เป็นอีกเล่มโปรดหนึ่งของเรา
เอาเป็นว่า...ถ้าคุณลูกศรสนใจก็
http://www.gutenberg.org/wiki/Children's_Literature_(Bookshelf)
นั่นจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่คุณสามารถอ่านได้ฟรี...
(แต่ไม่รู้จะมีเรื่อง The Alchemist หรือเปล่านะ)
นั่นละคะ...ถ้าคุณว่างและสนใจก็ลองดู
เพราะเราก็จะทำหนังสือประมาณนั้นแหละ
ท่าน Amma ข้าพเจ้าพอจะนึกออกแล้วว่าท่านหมายถึงอะไร
นิยายเล่มเล็กๆ บางๆ ที่ท่านพูดถึงนั่นมันไม่ใช่นิยายจริงๆ นะครับ
มันคือ The Oxford Bookworms Library ครับ มันคล้ายๆ กับเรื่องย่อของวรรณกรรมคลาสสิกที่ออกซ์ฟอร์ด เอามาย่อเป็นภาษาเข้าใจง่ายๆ เพื่อให้เด็กๆ หัดอ่านวรรณกรรมอมตะครับ
อย่าง Pinocchio ที่ท่านกล่าวถึง ตัวนิยายจริงๆ มันก็หนาตั้งเกือบ 300 หน้านะครับ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 21 มกราคม 2553 / 22:58
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 21 มกราคม 2553 / 23:01
PS. You may call me a freak, Or someone like me for that matter, But in our eyes, You are a freak too.
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?