Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

5 เบื้องหลังความโหดร้ายของนิทานก่อนนอนที่นิยมไปทั่วโลก

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

 




The Gruesome Origins of 5 Popular Fairy Tales

รู้จักพี่น้องกริมส์หรือเปล่า พวกเขาคือคนแต่งนิทานเทพนิยายที่โด่งดังไงละ เช่น หนูน้อยหมวกแดง, สโนว์ไวท์ฯ, ซินเดอเรล่า ฯลฯ

แต่... คุณรู้หรือเปล่าว่าเบื่องหลังนิทานเหล่านั้น มันมีต้นกำเนิดนะมันเป็นนิทานพื้นบ้านของยุโรป ซึ่งมีหลายเวอร์ชั่นนะครับ ซึ่งเนื้อหานี้เหลื่อเชื่อมากว่ามันเป็นนิทานก่อนนอนสำหรับเด็กและโครง เรื่องแสนลึกล้ำยากจะจินตนาการดู

ว่า กันว่า พระน้องตระ(กระผม)ลกริมส์เคยคิดเอาโครงเรื่องนิทานพวกนี้มาแต่งให้คงเอกลักษณ์รส ชาติเดิมไว้ ผลเหรอ...ทางสำนักพิมพ์ก็บอกว่าเอาไปแต่งใหม่ดีกว่าเพราะเนื้อหาของมันไม่ เหมาะต่อเยาวชนเด็กและสตรีเพราะมีแต่ความรุนแรง โหดร้าย ทารุณ เซ็กต์(อีกแล้ว) ก่อนที่จะถูกแปลงให้สะอาดและทอนเนื้อหาที่รุนแรง โหดร้ายลง (อย่างน่าเสียดาย)

และนี้คือ 5 นิทานโหด ที่คุณไม่เชื่อว่าต้นกำเนิดของมันช่างน่ากลัวยิ่งนัก


อันดับ 5. หนูน้อยหมวกแดง:เล่นเซ็กต์ระหว่างสัตว์,กินเนื้อคน (Little Red Riding Hood: Inter-Species Sex Play, Cannibalism)

เวอร์ชั่นที่คุณรู้:ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 เรื่องนี้ในฉบับภาษาเยอรมัน ถูกบอกเล่าให้แก่ พี่น้องตระ(กระผม)ลกริมม์. โดยคนพี่ เจค็อบ กริมม์ ฟังมาจาก Jeanette Hassenpflug (ค.ศ. 1791-1860) , ส่วนคนน้อง วิลเฮล์ม กริมม์ ฟังมาจาก Marie Hassenpflug (ค. ศ. 1788-1856) พี่น้องทั้งสอง ได้รวมเนื้อเรื่องจากทั้งสองฉบับนั้น เป็นเรื่องเดียว จนเป็นฉบับปี ค.ศ. 1857 ที่เป็นเนื้อเรื่องที่แพร่หลายในปัจจุบันซึ่งเนื้อเรื่องค่อนข้างจะ จินตนาการมากกว่าฉบับอื่น ๆ ที่ผ่านมา โดยหนูน้อยและคุณยายถูกหมาป่าจับกิน และในภายหลังคนตัดไม้ได้มาช่วย โดยการผ่าท้องหมาป่า ช่วยหนูน้อยและคุณยาย ออกมาได้โดยปลอดภัย

เวอร์ชั่นเดิม:ที่ มาของเรื่องนี้นั้น เป็นเรื่องที่เล่าปากต่อปาก แพร่หลายอยู่ในหลายประเทศในยุโรป ซึ่งคาดว่าเป็นก่อนช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 แต่เท่าที่ทราบโดยทั่วไป Le Petit Chaperon Rouge เป็นฉบับแรกสุด ที่ได้รับการตีพิมพ์ จากเนื้อเรื่องนิทานพื้นบ้านของฝรั่งเศส โดยเนื้อเรื่องนั้น ได้ถูกพิมพ์ในหนังสือ ในปี ค.ศ. 1697 ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวม นิทานและเรื่องเล่าต่าง ๆ พร้อมคติสอนใจ โดย ชาร์ลส แปร์โรลต์ เนื้อเรื่องของฉบับนี้จะค่อนข้างรุนแรง เพราะมีการร่วมเพศระหว่างคนกับสัตว์ โดยหนูน้อยหมวกแดงจะระบำเปลื้องผ้าให้หมาป่าที่ปลอมตัวเป็นคุณยายดู..... ก่อนที่หนูน้อยและคุณยายถูกหมาป่าจับกิน และตายไปเลย......... ซึ่งเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า.....



อันดับ 4. สโนไวท์: เจ้าชายล่อลวงเด็ก,มนุษย์กินคน (Snow White: Prince Pedophile, More Cannibalism)

เวอร์ชั่นที่คุณรู้: (Snow White in her coffin, Theodor Hosemann, 1852) โดยมีเนื้อเรื่องย่อคือแม่เลี้ยงใจร้ายอิจฉาสโนไวท์ที่สวยกว่าตนเลยวางแผน ให้นายพรานพาเธอไปฆ่าที่ป่าทึบ และนำหัวใจกลับมาให้เธอดูเป็นหลักฐาน แต่นายพรานกลับปล่อยสโนเวท์ เธอหนีเข้าไปยังบ้านคนแคระทั้ง 7 พอแม่เลี้ยงทราบข่าวว่าเธอยังมีชีวิตอยู่เธอเลยปลอมตัวเป็นหญิงชราเอาแอ็ป เปิ้ลพิษให้เธอกิน และสโนไวท์ก็หลับและนอนในโลงแก้ง จนเจ้าชายผ่านมาและก็จูบเธอ และสโนไวท์ก็ตื่นและอยู่ด้วยกันกับเจ้าชายอย่างมีความสุข

เวอร์ชั่นเดิม: ต้น ฉบับดั้งเดิมเป็น นิทานพื้นบ้านของทาง ที่ มีเค้าโครงเรื่องจริงต้นฉบับเดิมคือ สโนไวท์มีแม่เลี้ยงที่บอกนายพรานเธอใส่อะไรนอกเหนือจากการนำหัวใจให้เธอดู ด้วย โดยมี ตับ, ปอด, ลำไส้, อวัยวะภายใน และรวมเลือด 1 ขวด กับนิ้วเท้าของเธอและแม่เลี้ยงจะนำไปกิน(คงแค้นมากนะนั้น) และพอเสร็จการฆาตกรรมด้วยแอ็ปเปิ้ล แม่เลี้ยงถามกระจกอีก แล้วกระจกบอกว่าสโนไวท์ไม่ได้ตาย และตอนจบสุดท้ายสโนไวท์ ก็แก้แค้นกระทำของแม่เลี้ยงโดยให้เลี้ยงใส่รองเหล้าเหล็กร้อนๆ และบังคับให้แม่เลี้ยงเต้นรำไปจนขาดใจตาย...

และ ที่น่าสนใจคือสโนไวท์ในฉบับดั่งเดิมนั้นอายุ 7 ขวบเท่านั้น(โอ้แม่เจ้า) แต่เธอต้องแต่งงานกับเจ้าชายที่แก่กว่าตนหลายเท่า ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของยุโรป(หรือเปล่า?)



อันดับ 3.รัมเปลสติลล์สกิน: ตัดเป็นชิ้นๆ, ตาย (Rumpelstiltskin: Dismemberment, Dead Toddlers)

เวอร์ชั่นที่คุณรู้: เรื่องนี้คนไทยอาจไม่รู้จักเท่าไหร่ แต่ถ้าอ่านก็อาจคุ้นๆ (Illustration of Rumpelstiltskin from Andrew Lang's The Blue Fairy Book, ca. 1889) คือกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เจ้าของโรงสีมีลูกสาวสวยที่สามารถม้วนฟางให้เป็นทอง จนเรื่องนี้เข้าหูพระราชาโลภมากเข้า เลยจับขังหอคอยและบอกให้เธอปั่นทองให้ได้เท่านี้ถ้าทำไม่ได้เอ็งตายอย่าง เขียด แต่เอยใครจะบ้าทำได้ในขณะที่หญิงสาวกำลังกลุ่มอยู่นั้นคนแคระก็มาหามันเสนอ แลกเปลี่ยนกับการแลกบุตรที่เธอคลอดคนแรกให้กับมันและจะช่วยให้เด็กสาวสม ปรารถนา จนกระทั้งเด็กสาวทำสำเร็จ ได้แต่งงานพระราชาโลภมาก(ดีไหมนั้น) มีบุตรคนแรก และคนแคระก็มารับเด็กตามข้อตกลงแต่เด็กสาวกลับคำ คนแคระเลยเพิ่มข้อแลกเปลี่ยนเพิ่มโดยทายชื่อเขาให้ถูก โดยมีเวลา 3 วัน (บางเล่มบอกว่าให้ทายแค่ 3 ชื่อในเวลา 3 วัน) เจ้าหญิงเดาชื่อคนแคระไปเรื่อยๆ ทั้ง 2 วันก็ไม่ถูกสักที จนกระทั่งมีคนผ่านไปแอบได้ยินมนุษย์แคระที่ร้องเพลงบอกชื่อของตนว่าเขาชื่อ “รัมเปลสติลล์สกิน”คนผ่านมาเลยไปบอกเจ้าหญิง และสุดท้ายคนแคระเลยอดได้เด็ก

เวอร์ชั่นเดิม:ที่ มาของเรื่องนี้นั้น เป็นเรื่องที่เล่าปากต่อปากจนกระทั้งพี่น้องตระ(กระผม)ลกริมส์นำมาแต่งใหม่ ซึ่งเวอรชั่นเดิมนั้นหญิงสาวไม่สามารถหาชื่อจริงของคนแคระคนนี้ได้เลย จนสุดท้ายเธอแก้ปัญหานี้โดยต้องเอาลูกคนอื่นสวมรอย พอคนแคระจับได้มันเลยวิ่งจับลูกคนแรกของเด็กสาว(รวมถึงเด็กสาวด้วย)กระทืบเท้าจนขาคนแคระจมพื้นดิน จากนั้นคนแคระกระชากขาดขาและแขนเธอและลูกจนฉีกขาด ซึ่งทหารผู้พิทักษ์ทั้งหมดต้องมาเอาคนแคระออก แต่ สายไปเสียแล้วเพราะสิ่งที่เหลือจากนั้นคือซากของเด็กสาวและลูกที่ตายคาที่ เหมือนก้อนเนื้อ จนมีคำถามตามมาว่าคนแคระนั้นคือซอมบี้สัตว์ประหลาดปลอมตัวหรือเปล่า



อันดับ 2. เจ้าหญิงนิทรา:โคม่า เซ็กต์ (Sleeping Beauty: Coma Sex)

เวอร์ชั่นที่คุณรู้: เวอร์ชันที่คุณรู้ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1697 เป็นเรื่องราวของเจ้าหญิงหนุ่มที่ถูกสาปแช่งโดยแม่มดที่เจ้าหญิงไม่เชิญเธอ ในงานเลี้ยง โดยแม่มดแช่งว่าเธอจะต้องโดนเข็มเย็บผ้าทิ่มแทงนิ้วมือ และตายเมื่อวันเกิดครบรอบ 15 ปี และเมื่อเธอโดนสาป เธอหลับมานานกว่า 100 ปี(ไม่ยายเหรอนั้นแถมไม่ตื่นอีกแสดงว่ายานอนหลับแรงจัด) และแล้วเมื่อถึงวันคลายคำสาปเจ้าชายเด็กก็บุกป่าผ่าดงและพบเจ้าหญิงอายุกว่า 100 ปี จากนั้นก็จูบ เจ้าหญิงตื่นและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข(อิจฉาจังคุณยายได้คั่วเด็ก)

เวอร์ชั่นเดิม: คุณรู้หรือเปล่า ว่าในนิทานพื้นบ้านฉบับดั้งเดิมนั้น เจ้าหญิงนิทราไม่ได้ตื่นเพราะเจ้าชายจูบ โดยเธอถูก ทำให้หลับโดยพระราชาที่มีมเหสีแล้ว โดยใช้เศษไม้ทิ่มที่ใต้เล็บ และเธอก็หลับไม่ตื่นอีกเลยทำให้พระราชาร่วมประเวณีกับเธอหลายครั้งมานานกว่า ร้อยกว่าปี(พ่อกับลูก!!) ขณะที่เธอยังหลับนั้นก็ได้ตั้งครรภ์ให้กำเนิดลูกแฝด? หลัง จากที่เธอได้ให้กำเนิดลูกแฝด แฝดคนหนึ่งต้องการดูดนมแม่ แต่กลับไปดูดเศษไม้ออกจากนิ้วโป้งของเธอ ทำให้เธอได้ตื่นจากนิทราที่ถูกสาป จนเราต้องตั้งคำถามว่ายานอนหลับนี้ยี่ห้ออะไรนี้ถึงหลับนานกว่า 100 ปี โดยไม่ตื่น



อันดับ 1. ซินเดอเรลลา ตัดนิ้วเท้า, เซ็กต์, สิ่งที่มากกว่าตัดนิ้วเท้า (Cinderella: Mutilation, Sex, More Mutilation)

เวอร์ชั่นที่คุณรู้: (Gustave Doré's illustration for Cendrillon) เป็นเทพนิยายปรัมปราที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงทั่วทั้งโลก มีการดัดแปลงเป็นรูปแบบต่างๆ มากมายกว่าพันครั้ง โดยที่โด่งดังสุดเป็นของชาร์ลส แปร์โรลต์ นักเขียนชาวฝรั่งเศส รวมถึงสองพี่น้องตระ(กระผม)ลกริมม์ ชาวเยอรมันเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กสาวกำพร้าผู้หนึ่งที่อยู่ในอุปถัมภ์ของ แม่เลี้ยงกับพี่สาวบุญธรรมสองคน แต่ถูกทารุณและใช้งานเยี่ยงทาสเพราะเกลียดที่เธอสวยกว่าพวกตน จนกระทั่งวันหนึ่งเทพธิดาก็ปรากฏตัวและเสก ซินเดอเรลลาสวยใส่เสื้ออาภรณ์ที่แสนหรู และรถม้าสี่ล้อขนาดใหญ่จากฟักทอง และพบรักกับเจ้าชาย แต่เจ้ากรรมมนต์นั้นจะหมดฤทธิ์เที่ยงคืนเวลา 24:00 นาฬิกา เธอรีบจนลืมรองเท้าแก้ว(บางเรื่องรองเท้าขนสัตว์) เจ้าชายจึงการออกไปและ พบซินเดอเรลลา, รองเท้าเหมาะสม, และเขาอาศัยอยู่อย่างมีความสุขหลังจากนั้น

เวอร์ชั่นเดิม:นิทานเรื่องนี้มีเวอรชั่นที่หลายหลายมากมายซึ่งเก่าแก่เท่าที่พบ พบว่ามันอยู่ในช่วง 850 ก่อน คริสตกาล ก่อนที่เจค็อบกับวิลเฮล์ม กริมม์ (สองพี่น้องตระ(กระผม)ลกริมม์) ซึ่งประพันธ์ขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19 แต่ครั้งแรกนั้น เด็กสาวในเรื่องนี้ชื่อว่า แอนน์ เดล ทาโคล หรือ แอนน์แห่งทาโคลบัน ใช้ชื่อตำนานว่า Aschenputtel ผู้มาช่วยเด็กสาวไม่ใช่นางฟ้าแม่ทูนหัว แต่เป็นผลจากคำอธิษฐานต่อต้นไม้วิเศษซึ่งงอกงามขึ้นบนหลุมฝังศพของแม่ของเธอ (ปลาบู่ทองเรอะ) ในเรื่องนี้ และเมื่อเจ้าชายไปตามหาเจ้าของรองเท้า แม่ก็ให้พี่เลี้ยงใจร้ายทั้งสองลองรองเท้า ปรากฏว่าใหญ่เกินไป แม่เลี้ยงเลยจัดการเอามีดตัดสิ้นเท้าทิ้งแล้วบังคับให้ลูกใส่รองเท้าลงไปให้ ได้ จนเจ้าชายเกือบจะหลงเชื่อ แต่ดันมีเจ้านกแถวนั้นผู้รู้เห็นเหตุการณ์มาบอกเจ้าชาย และเมื่อเจ้าชายทราบเรื่องในภายหลังก็แต่งงานกับนางเอก ส่วนพี่เลี้ยงแต่เลี้ยงต่อมานกพิราบสองตัวจิกลูกตาของพวกนาง ทำให้กลายเป็นขอทานตาบอดไปตลอดชีวิตถือว่าเป็นการลงโทษ(??)ที่เหมาะสมแล้วสำหรับความชั่วของพวกเธอ

ที่มาhttp://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=62346.0

PS.  ชีวิตคนเรายิ่งล้มเหลว ยิ่งเรียนรู้ และเรียนรู้มากเท่าไหร่ก็เป็นการเตรียมพร้อมสู่ความสำเร็จเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

>

31 ความคิดเห็น

จิ้ง 27 ม.ค. 53 เวลา 17:36 น. 1

ไม่รู้ว่านิทานทั้งหมดนี้ถูกเปลี่ยนแปลงไปเมื่อไหร่ แต่ผมว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีนะคับ เพราะลบจุดกำเนิดด้านลบของมันจนหมดความสำคัญไปเลย
แต่กลับกัน เดี๋ยวนี้เห็นมีคนพยายามที่จะนำต้นฉบับนิทานเหล่านี้ไปดันแปลงให้กลับไปสู่ความรุนแรงอีกครั้งซะงั้น

0
ชนกหมาย 27 ม.ค. 53 เวลา 17:42 น. 3

จ้า
อยากฟังความคิดเห็นของทุกคนเลยค่ะ...
จะว่าจะชม อยากฟังความคิดคนรุ่นใหม่หน่อย


PS.  ชีวิตคนเรายิ่งล้มเหลว ยิ่งเรียนรู้ และเรียนรู้มากเท่าไหร่ก็เป็นการเตรียมพร้อมสู่ความสำเร็จเท่านั้น
0
เดี๋ยวนะ... ขอนึกก่อน 27 ม.ค. 53 เวลา 17:54 น. 4

เอ้อ... ตัดจนไม่เหลืออะไรเลยจริง ๆ แฮะ...

ดีละ ตัดได้สร้างสรรค์ อย่างน้อยก็อาจจะดีกว่ากองเซ็นเซอร์บางประเทศแถวนี้...


PS.  ...มันไม่ใช่พีเอสนะ มันคือปัจฉิมลิขิตต่างหาก...
0
Sirisobhakya 27 ม.ค. 53 เวลา 18:14 น. 6
ขอบคุณที่เอามาลงให้ครับ
แต่อย่าหวังว่ามันจะสนับสนุนกระทู้ที่แล้วของคุณได้
เพราะความเป็นจริงก็คือ มันโดนยุคสมัยกลบจนสิ่งไม่ดีทั้งหลายหายไปหมดแล้วอยู่ดี

PS.  Mju AERO [Who are We? INTANIA!!!] Boeing 747-4D7 Thai Airways GE CF6-80C2B1F HS-TGX Sirisobhakya
0
ลูกศร ต้นนที 27 ม.ค. 53 เวลา 18:17 น. 7

มันตัดจนไม่เหลือคติสอนใจน่ะสิ

อ้อ...หลังจากอ่านอีกกระทู้นึงก็เข้าใจว่าท่านต้องการจะสื่ออะไร

แต่ว่า เรื่องฉบับดั้งเดิมของนิทานพวกนี้มันเกี่ยวอะไรกับ NC ล่ะครับ

ชะตากรรมของเรื่องฉบับดั้งเดิมมันก็บอกอยู่แล้วว่า เรื่องที่ไม่เหมาะสมจะประสบชะตากรรมอย่างไร

ก็เหมือนนิยาย NC นั่นแหละครับ



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 27 มกราคม 2553 / 18:45

PS.  You may call me a freak, Or someone like me for that matter, But in our eyes, You are a freak too.
0
BeMong 27 ม.ค. 53 เวลา 18:39 น. 8

เจอเจ้าหญิงนิทรา กับ นางซิน ฉบับดั้งเดิมไปแทบช็อค


พ่อกับลูก...รับเรื่องแบบนี้ไม่ได้จริงๆ...


PS.  ผู้ที่หาความดีไม่ได้...
0
Oshimasakura 27 ม.ค. 53 เวลา 18:53 น. 9

ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย ขอบคุณที่เอามาลงนะคะ


PS.  จินตนาการคือความคิด ใครก็มีสิทธินึกได้ เหมือนกันบ้าง แตกต่างกันไป อยู่ที่ใจ จิตสำนึก ของแต่ละบุคคล
0
-o- น๊อคเทินร์ -o- 27 ม.ค. 53 เวลา 19:04 น. 10

ผมดีใจนะที่ยุคนั้น The Grims Brothers ที่เขาดัดแปลงเรื่องออกมาในทางที่ดี  สงสัยสมัย

คงมีคนไม่เห็นด้วยกับนิยาย NC แรงๆมั้งครับ  

อย่างน้อยนิทานโกหกที่พวกเขาสร้างขึ้น  ก็มีคนสรรเสริญไปทั่วโลก

0
Hypertonic 27 ม.ค. 53 เวลา 20:12 น. 13

เสริมนิดหนึ่งจริงๆ แล้วอีตาสองพี่น้องนี่เขาแค่รวบรวมเรื่องเล่าพื้นบ้าน แต่จุดประสงค์ของกริมไม่ได้รวบรวมเพื่อนให้เด็กอ่านด้วย เขารวมไว้เป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์ แสดงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นนะคะ ฉบับของกริมก็เลยค่อนข้างจะดิบเถื่อน และห้วนตรงมาก (กริมม์ไม่ใช่คนดัดแปลงนะคะแค่รวบรวม)

ในสมัยต่อมาจึงมีคนอื่นมาดัดแปลงแก้ไขให้เหมาะสมกับเด็กในภายหลังค่ะ (ยกตัวอย่างประกอบเรื่องอื่นที่ไม่ใช่นิยายกริมม์นะคะ เรื่องคนค่อมแห่งนอตเตรอะดามหรือ Notre - dame de Paris ของ Victor Hugo เองก็ไม่ใช่เรื่องสำหรับเด็กค่ะ จบเศร้าด้วยเพราะสุดท้ายสาวยิปซีถูกแขวนคอ คนค่อมฆ่าตัวตายตาม ชีวิตของฮูโก้นี่เศร้านะคะเขาแต่งตามแนวคิดของตนที่เป็นฝ่ายต่อต้านระบบนิยมกษัตริย์ในสมัยนโปเลียนที่สามจนต้องถูกบีบให้หนีออกนอกประเทศ เรื่องนี้ยังถูกดิสนี่ย์ยำเสียจนคนคิดว่าเป็นนิทานเด็กเสียเยอะเหมือนกัน)

ถึงคุณชนกหมายนะคะ ดิฉันจำได้ว่าคุณเป็นคนแรกที่เอานิยายเอ็นซีที่มาลงในเด็กดีและเป็นคนแรกที่แต่งเอ็นซีจนได้ติดท็อปอันดับหนึ่งตั้งแต่สมัยเอ็นเตอร์เทนแล้ว (เรื่องวิวาห์รักอะไรสักอย่าง จำได้แค่ว่าเป็นซีรี่ยส์ภาคต่ออยู่ในหมวดซึ้งกินใจและรักหวานแหววนี่แหละ) นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้วดังนั้นดิฉันว่าคุณน่าจะมีวุฒิภาวะพอที่จะพิจารณาถึงความเหมาะสมในการเผยแพร่นวนิยายที่มีเนื้อหาล่อแหลมและไม่เหมาะสมเรื่องพฤติกรรมทางเพศในเวบ "เด็ก" นะคะ

ป.ล. เห็นด้วยกะมิว พิมพ์ตรงๆ นะคะ ถ้าไม่พอใจก็ขออภัยด้วยค่ะ

แก้ไขอีกครั้งไม่ใช่ชาร์ลสค่ะ นโปเลียนที่สาม (สติเลอะ ตากผ้าเลยจำได้)

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 27 มกราคม 2553 / 20:24
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 27 มกราคม 2553 / 21:01


PS.  ทฤษฎีรุมประชาทัณฑ์นี่น่ากลัวจริงๆ เหอเหอ
0
Sirisobhakya 27 ม.ค. 53 เวลา 20:37 น. 14

ก่อนที่จะถูกแปลงให้สะอาดและทอนเนื้อหาที่รุนแรง โหดร้ายลง (อย่างน่าเสียดาย)

เพิ่งสังเกตประโยคนี้ ไม่ทราบว่าเติมในวงเล็บลงไปเองหรือเปล่าครับ ?


PS.  Mju AERO [Who are We? INTANIA!!!] Boeing 747-4D7 Thai Airways GE CF6-80C2B1F HS-TGX Sirisobhakya
0
Earende| G!|m!rath 27 ม.ค. 53 เวลา 20:44 น. 15


เหมือนกำลังดูคุณดิ้นรนจะต่อสู้อะไรสักอย่างเลยนะคะ

ความจริงยิ่งยกตัวอย่าง มันก็ยิ่งเห็นได้ชัดนะคะ อย่าพยายามเลยค่ะ

แต่ถ้าจะถามความเห็นคนรุ่นใหม่แล้ว

แวร์ก็ไม่ค่อยจะกล้าพูดนัก เดี่ยวจะเหมือนสอนรุ่นพี่

แต่ถ้าให้พูดคือแวร์มองในเรื่องกาลเทศะ

ถ้ามันไม่ถูกกาลเทศะ ผลก็ออกมาแบบกริมม์ที่คุณยกตัวอย่างมาแหละค่ะ


PS.  จากนคราห่างมาหลายแสนลี้ จากราตรีค่อยเคลื่อนเลือนลับหาย จากคิมหันต์วสันต์เหมันต์กลาย จากชีพวายไม่สิ้นกลิ่นไอรัก
0
Tsukuyomi 27 ม.ค. 53 เวลา 21:48 น. 16

O_O

เจอความจริงแบบนี้

พูดไม่ออก บอกไม่ถูก


PS.  บุคคลผู้ไม่หวังดี ไม่จริงใจ และต้องการแสวงหาผลประโยชน์ แอบแทรกนิยายแบบเนียนๆ http://writer.dek-d.com/tsukuyomi-sama/story/view.php?id=573719
0
amma 27 ม.ค. 53 เวลา 22:55 น. 17
จริงๆเรอะนั่น....

ให้ตาย...สโนไวท์ เจ้าหญิงซิน และเจ้าหญิงนิทราของข้า

ป.ล. จาก สโนไวท์ คงต้องเปลี่ยนมาเป็น สโนดาร์คซะแล้ว
ลองจินตนาการดูว่าหากนิทานเหล่านี้ไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงปรับปรุง
เด็กๆของ โลก ที่อ่าน...จะเป็นยังไงนะ...จินตนาการจะกว้างไกลขึ้นหรือ???????


PS.  Tell the heaven that please let me be a writer. Hell ya!!! It's my life.
0
~r@kIa~ 28 ม.ค. 53 เวลา 00:32 น. 18

ทีแรกแค่รู้สึกแปลก ๆ ไม่คิดว่ามีเบื้องหลังด้วย

เอาเถอะค่ะ  ถ้ามันจะดราม่า  รอบนี้ขอเป็นแค่ผู้ชม (และให้กำลังใจ) ละกัน 


PS.   อันตัวเรานี้หนอ ก็แมงกะพรุนดีๆนี่เอง - - ลอยไปลอยมาไม่ทำไร - - แต่ถ้าใครมากวนใจ = = ตาย !! "ตอบมาสิ เธอจะเป็นมนุษย์ต่างดาวหรือหุ่นยนต์ ทุกคนต้องเลือกอันใดอันหนึ่ง"
0
Lancer 28 ม.ค. 53 เวลา 13:06 น. 19

เอิ่มอึ้งเเละ

.........
.............
................
พูดไม่ออกบอกไม่ถูก


PS.  โลกนี้ ดีเลวเรากำหนด
0
g.ice(ปุณิกา) 28 ม.ค. 53 เวลา 15:40 น. 20

ในเรื่องนี้เคยได้มีคนเอามาเขียนเป็นนิยายแล้วค่ะ แต่เป็นหนังสือแปลนะค่ะ เรื่องนิทานฆาตกรรมนี่แหละค่ะ�

มันเริ่มต้นที่ได้เกิดการฆาตกรรมเลียนแบบนิทานชื่อดังของ 2 พี่น้องตระกุลกริมจ์ และในนั้นยังลงข้อสังเกตหลายๆอย่างไว้ด้วยค่ะ

ทั้งเรื่องเจ้าหญิงเงือกน้อย (ไอซ์คิดว่าเรื่องนี้แม้แต่ในปัจจุบันก็ไม่สมควรให้เด็กอ่านนะ)��

อีกทั้งบางคนว่าพี่น้องตระกุลกริมจ์นี่แหละลงมือขโมยเด็กเองเพื่อเอามาใช้ประโยชน์ในการแต่งนิยาย� เดี๋ยวต้องออกไปค้นหาหนังสือนิยายที่ว่าก่อนนะค่ะ ไม่แน่ใจว่าอยู่ลังไหน� แต่อ่านแล้วอึ้งๆจริงๆค่ะ (แต่สนุกนะค่ะตอนที่พระเอกไล่ล่าหาความจริง)




PS.  สิ่งที่มีค่าของเรา อาจจะไม่มีค่าในสายตาคนอื่น แต่สิ่งที่ไม่มีค่าของเรา คนอื่นอาจจะเห็นว่ามีค่าก็ตาม
0