เศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ Vs. จุฬาฯ ที่ไหนดีกว่ากันค่ะ ?
ตั้งกระทู้ใหม่
เราสับสนมากเลย!
หลักสูตรเศรษฐศาสตร์ของ มธ. ก็ติดอันดับต้นๆของเอเชียไม่ใช่หรอค่ะ
แล้วก็เปิดที่แรกของประเทศไทยด้วย[มั้ง](เคยอ่านในหนังสือพี่)
แต่ทำไมคะแนนแอดกลางของจุฬาสูงกว่าอ่ะค่ะ ?
หรือเพราะเขายึดติดกับสถาบัน
ขอบคุณสำหรับคำตอบนะค่ะ ^____^
21 ความคิดเห็น
ธรรมศาสตร์ดีกว่าแน่นอนค่ะ
ที่คะแนนจุฬา สูงกว่าก็รู้ๆกันอยู่ แต่ถ้าถามเรื่องคุณภาพรวมถึง ชื่อเสียงแล้ว ธรรมศาสตร์ดีกว่า ฟันธงค่ะ
เพราะว่าอิชั้นเรียนอยู่ค่ะ
พี่อยู่ธรรมศาสตร์ค่ะ  พี่คิดว่าท้งธรรมศาสตร์และจุฬาก็ดีเหมือนกานแหละ  แต่มันอยู่ที่ตัวน้องว่าน้องชอบมหาลัยมากกว่ากัน จากประสบการณ์ที่พี่อยู่มา1ปี พี่คิดว่าน้องควรเลือกมหาลัยที่น้องรัก เลือกมหาลัยที่น้องสามารถเดินทางไปเรียนได้สะดวก และสภาพสังคมของแต่ละมหาลัย  อย่างพี่อยุ่ธรรมศาสตร์ก็จะอยู่ที่รังสิต  ที่เที่ยวก้จะน้อยหน่อย ห่างไกลเมือง  และเด็กส่วนมากจะอยุ่หอ(แต่พี่ไปกลับนะ)  ยังไงน้องก้เลือกให้ดีๆๆนะ เพราะว่าน้องจะต้องอยุ่กับมันไป 4ปีเลย พี่ไม่อยากให้น้องเหมือนเพื่อนพี่ที่เรียนแล้วไม่มีความสุขจนต้องไปเอนใหม่
ตอนแรกผมก็คิดเหมือนคุณอ่ะคั้บ
เพราะผมติด 2 ที่อ่ะ
แต่สุดท้ายผมก็เลือกเศรษฐศาสตร์จุฬาฯ
สะดวกที่ไหน แล้วสังคมที่ไหน เข้ากับตัวเองได้มากกว่ากัน คิดว่าโดย วิชาการแล้ว ไม่แพ้กัน
อย่างจุฬา เขาอยู่ใจกลางเมือง เด็กไม่ได้อยู่หอกัน อาจารย์ค่อนข้างใส่ใจเด็กเหมือนอารมณ์ ม.ปลาย(เท่าที่สัมผัสมานะ)
ส่วน มธ. เขาอยู่รังสิตกัน ส่วนมากก็อยู่หอ ถ้าไม่ได้อยู่หอ มันก็ ขาด ชีวิต บางส่วนไป เพราะกิจกรรม ของ มหาลัย
ชอบจัดตอนกลางคืนอ่ะ
ผมเชียร์ ธรรมศาสตร์ อ่ะครับ
^_________________^
แล้วแต่ชอบนะ
เพราะว่าแบบอันไหนจะทำให้เราเก่งขึ้น ถ้าเปรียบระหว่างสองที่ที่ดีเหมือนกัน
อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของตัวเองแล้วอ่ะ
ปล. จะบอกว่าใครดีกว่าใครก็บอกไม่ได้หรอกค่ะ เพราะว่าคนที่เรียนที่นึง ก็คงไม่ได้เรียนอีกที่นึงด้วยจริงไหม
จุฬาคะแนนสูงกว่าโดยรวมก็แปลได้ว่าคนที่เรียนกับเราก็จะเก่งกว่า ส่วนการเรียนการสอนเป็นยังไงนั้นก็ไม่รู้ค่ะ
แนวคิดขั้นแรกนะ จะถามว่าคะแนนจุฬาสูงกว่ามั้ย...คำตอบคือใช่จ๊ะ แต่คะแนนสูสีกันนะ
แนวคิดขั้นต่อมา หลักสูตรและอาจารย์สอนอันเดียวกันมั้ย...คำตอบคือไม่ใช่ จุฬามีวัฒนธรรมการเรียนการสอนอีกทีแบบหนึ่งที่อาจไม่ตรงกับธรรมศาสตร์
แนวคิดขั้นต่อมา คนเก่งคะแนนแอดสูงใช่ว่าแนวคิดLogicจะสูงทุกคนนะ อันนี้เรื่องจริง คนเก่งแต่ทำอะไรไม่เป็ฯพลิกเพลงสถานการณ์ไม่เป็นเราเห็ฯเกลื่อนมาก เราเจอมากับตัว คนเรียนเก่งได้ A เกือบทุกวิชา เข้าสังคมกับใครไม่ได้เลย แก้ปัญหาจากCase Study จริงไม่ได้เลย
อันนี้ก็เหลือตัวแปรสุดท้ายคือ หลักสูตร และ อาจารย์ผู้สอน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ดีที่สุดที่จะหลักดันนิสิต นักศึกษาให้ไปสู่เป้าหมายได้ ผลของงานเป็นตัวชี้วัดคุณภาพมากที่สุดนะเราว่า
สรุปนะ
Input...เด็กที่มีคะแนนแอดมิชชั่นอยู่ในมือ อาจสูงหรือต่ำกว่า
Process...ตัวแปรที่สำคัญคือ หลักสูตรการเรียน และ ครูอาจารย์ หลักสูตรดีอาจารย์เด่น เด็กก็ไปสู่เป้ายหมาย
Output...ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผลของงาน
ฉะนั้นอย่ามองให้ความสำคัญที่ Inputแต่เพียงด้านเดียวให้มองปลายน้ำ้ด้วย เพราะปลายน้ำหรือOutputเป็นตัวบ่งบอกประสิทธิภาพของตัวแปรที่อยู่ใน Input และ Process ได้ดีที่สุด
ยกตัวอย่างOutputของคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ติดอันดับ 5 ของโลก ศิษย์เก่ามีชื่อเสียงระดับประเทศมากมาย เป็นต้น
เสดสาด มธ ติดอันดับโลกจ๊ะ
บอกได้เท่านี้ ที่เหลือคิดต่อเอง เป็นหน้าที่ของคุณ
ขอร้อง พวกตั้งคำถามแบบนี้ รู้สึกเห็นมาหลายและ สุดท้ายไม่มีปัญญาติดสักที่
ขอร้องเหอะ ให้ติดก่อนแล้วค่อยถามได้มั๊ย บางคนอย่างโง่ ไม่มีปัญญาเข้า แต่ชอบเปรียบเทียบ ให้ทะเลาะกัน
ธรรมศาสตร์
    มี ป.ตรี  โท เอก INTER
    จำนวนอาจารย์ประจำ 88 คน
    รวมอายุ 60 ปี
เกษตรศาสตร์
    มี ป.ตรี  โท เอก INTER
    จำนวนอาจารย์ประจำ  92 คน
    รวมอายุ 67 ปี
จุฬา
    มี ป.ตรี  โท เอก INTER
    จำนวนอาจารย์ประจำ 57 คน
    รวมอายุ 40 ปี
แล้วคิดว่าที่ไหนเครือข่ายเยอะสุด
ยังไงหลักสูตรเศรษศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ก่อตั้งก่อน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เพราะอยู่ในหลักสูตร "ธรรมศาสตร์บัณฑิต" ที่เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนตั้งแต่เริ่มต้น มหาวิทยาลัย !!
เศรษฐศาสตร์ ทั้ง มธ และ จุฬา ไม่ได้ติดอันดับโลกครับ ไม่ติดอันดับเอเชียด้วยครับ เป็นความเข้าใจผิดมานานแล้วไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนเริ่มพูด
เนื้อหาการเรียนการสอนของธรรมศาสตร์จะแน่นกว่ามาก เกรดก็ยากกว่ามาก การเรียนการสอนที่ธรรมศาสตร์ ทั้งตรี โท เอก ยากกว่า จุฬามาก  ที่จุฬาเรียนสบายๆ เกรดง่ายกว่า
จุฬาได้เปรียบด้านชื่อเสียงของสถาบันและ สถานที่ตั้งที่มีการเดินทางสะดวก ในขณะที่ธรรมศาสตร์
ย้ายการเรียนการสอนไปรังสิต ทำให้คุณภาพของเด็กลดลง บั่นทอนศักยภาพในการทำงานของอาจารย์
ติดรับตรงทั้งสองที่เลยครับ แต่เลือกจุฬาอะ
เรื่องอันดับโลกของ มธ เห็นเขาว่าเป็นอดีต ตอนอาจารย์ป๋วยเป็นคณบดี แต่ไม่รู้จริงเท็จรึป่าว แต่ปัจจุบัน ไม่ติดครับ
ข้อแตกต่างหลักๆ 2 มหาลัยคือ
1.มธ จะเป็นคณะใหญ่ นศ เยอะ อาจารย์เยอะ ถือว่าเป็นคณะใหญ่ๆ คณะ 1 ในมธ
แต่จุฬา เป็นคณะเล็กกว่ามาก ก็แล้วแต่คนชอบ ถ้าชอบ network เยอะๆ หรือจำนวนวิชาให้เลือกอาจเยอะกว่า(อันนี้ไม่คอนเฟิร์ม) ก็มธได้เปรียบ ถ้าชอบสังคมเล็ก อาจรู้จักสนิทกันเกือบทั้งคณะ ก็จุฬา
2.สถานที่ อย่างที่รู้ๆ รังสิต vs สยาม ข้อดีอยู่รังสิต ถ้าเป็นเด็กต่างจังหวัด ก็ได้เปรียบที่นศ.อยู่หอเกือบหมด เดินทางไปเรียน 5 นาทีถึง(โดยจักรยาน) ใน ม.มี facility ครบ (ที่จัดกีฬามหาลัยโลก) เหมือนมีโลกอยู่ในรั้วมหาลัย แต่ถ้าจุฬาก็รู้ๆ อยู่ว่าที่พักส่วนใหญ่ก็อยู่ข้่างนอก เดินทางก็ใช้เวลานิดนึง รถติดบ้าง ไรบ้าง ถึงมี BTS ก็เหอะ ข้อเสีย ไม่ได้อยู่ในเมือง มีงาน มีธุระอะไรที ต้องเสียเวลาไป ไม่ค่อยสะดวก แล้วเหมือนอยู่ห่างไกล ข่าวนู้นนี้ๆ ในเมืองอาจได้รับน้อยกว่าจุฬา (ความรู้่สึกนะ ผมเรียนอยู่ มธ ใกล้จบและ)
เศรษฐศาสตร์ จุฬา ก็เปิดมานานแล้วนะ แต่สมัยนั้นอยู่ รวมกับ รัฐศาสตร์ ซึ่งเป็น 4 คณะแรกของจุฬา
และจุฬาเป็นมหาลัยเก่าแก่ อันไหนน่าจะนานกว่า
เอ๊ะโอ ????
เราเลือกเรียนที่เศรษฐศาสตร์ จุฬา นะ
ตอนนี้ก็ปีสุดท้ายแล้ว แต่ไม่เคยรู้สึกผิดหวังเลยที่ตัดสินใจเลือกเรียนที่นี่
เพราะเราได้มีโอกาสเรียนรู้กับอาจารย์ที่มากประสบการณ์และความสามารถ
อีกทั้งยังมีเพื่อนๆที่คอยแลกเปลี่ยนความรู้กัน
พวกเราไม่ได้คิดจะแข่งขันกันหรือจะแข่งขันกับใคร
เราคิดถึงแต่การได้เรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองในทุกๆด้าน
ไม่ใช่ว่าเราจะเรียนรู้เศรษฐศาสตร์อย่างเดียว เรายังสามารถเรียนรู้ในศาสตร์อีกหลายๆแขนง
เรามีสังคมร่วมกันในมหาวิทยาลัยเดียวกัน มหาวิทยาลัยอื่นๆในประเทศ และมหาวิทยาลัยนานาชาติมากมาย เราอาจจะไม่ได้มีทักษะทางวิชาชีพมาก แต่ถ้าเป็นทักษะทางวิชาการเราก็รับรองได้ว่า
เราก็ไม่ได้น้อยหน้าชาติใดในโลก
ทุกๆวันที่จุฬา คือโอกาส ในการพัฒนาความรู้ความสามารถ เพราะจุฬามุ่งเน้นผลิตบัณฑิตให้เป็นเสาหลักของแผ่นดิน และที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นเรื่องจริง
เรารับรองได้ว่าทั้งคณะเศรษฐศาสตร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่นี่คือขุมทรัพย์แห่งปัญญา
ของคนเก่งและคนดี เพื่อที่จะได้เป็นคนที่เก่งขึ้นและดีขึ้นไปเรื่อยๆตลอดชีวิต เพื่อที่จะได้เป็นส่วนประกอบเล็กๆส่วนหนึ่งที่มีคุณค่าแก่สังคมไทยและสังคมโลก
เราเพียงแต่อยากเพื่อนๆมองแบบไม่มีอคติต่อกัน เราให้เกียรติสถาบันของเรา เราไม่เคยแม้แต่คิดหมิ่นเกียรติสถาบันอื่น และคงจะรู้สึกไม่ดีหากมีการวิจารณ์สถาบันของเราในแง่ที่มีอคติ
ทุกสถาบันมีเกียรติเหมือนกันหมด เพราะผลิตบัณฑิตเพื่อมาเป็นส่วนเติมเต็มให้กับสังคม
ดังนั้น หากจะแนะนำรุ่นน้อง ขอแนะนำให้รุ่นน้องลองศึกษาลักษณะวิชาที่แต่ละที่เปิดสอน ก่อนตัดสินใจ ควรหาข้อมูลมาให้มากพอ ลองคุยกับคนที่มีความรู้ด้านนี้ พี่เชื่อว่าถ้าน้องตั้งใจ สนใจ และเอาใจใส่กับการเรียนในรั้วมหาวิยาลัย และมีความเชื่อมั่นกับสิ่งที่น้องทำและได้พยายามแล้ว แม้อาจจะเจออุปสรรคและความกดดันบ้าง แต่นั่นคือโอกาสที่น้องจะไปเป็นคนที่แกร่งขึ้น สำหรับพี่ปัญหาคือโอกาส น้องอาจลังเลใจระหว่างสองที่นี้ แต่ถ้าน้องลองตั้งใจศึกษาข้อมูลให้ดี น้องก็จะพบคำตอบที่ต้องการ และน้องก็จะเดินหน้าต่อไป
ทุกสถาบันดีเหมือนกันหมด ขึ้นอยู่กับตัวเรามากกว่าว่าอยากเรียนที่ใดมากกว่ากัน ดูสภาวะแวดล้อมด้วยและความพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกของครอบครัว
มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง (มธก.) สถาปนาในปี ๒๔๗๗ แต่มีที่มาจากโรงเรียนกฎหมายแห่งกระทรวงยุติธรรม ซึ่งสถาปนาในปี พ.ศ. ๒๔๔๑ เท่ากับปีนี้อายุครบ ๑๑๕ ปี) มธก. เปิดสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ครั้งแรกโดยเป็นวิชาในชั้นปีสุดท้ายของหลักสูตรธรรมศาสตร์บัณฑิต ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เน้นวิชากฎหมาย อาจารย์ป๋วยท่านก็ได้เรียนหลักสูตรธรรมศาสตร์บัณฑิตนี้
ต่อมามหาวิทยาลัยได้เปิดสอนหลักสูตรธรรมศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาเศรษฐศาสตร์ทันที (หลักสูตรประกาศพร้อมกันทั้งปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก) สมัยนั้น มธก. ยังไม่แยกคณะ ผู้สำเร็จการศึกษาจะได้รับปริญญาธรรมศาสตรบัณฑิต ธรรมศาสตรมหาบัณฑิต ธรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตตามลำดับ โดยการศึกษาระดับธรรมศาสตร์มหาบัณฑิต  (ปริญญาโท) นั้นมีสาขากฎหมาย เศรษศาสตร์ รัฐศาสตร์ และการทูต
อนึ่ง มธก. เคยมีโรงเรียนเตรียมปริญญามหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง (ตมธก.) ๗ ร่น และเสริมขึ้นอีก ๑ รุ่น วิชาความรู้ที่เป็นรากฐานให้กับนักเรียนด้านสังคมศาสต์ก็ได้รับการถ่ายทอดในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายด้วย และในสมัยนั้นที่ ๑ ประเทศไทยแผนกที่เรียกกันทั่วไปในสมัยนี้ว่าสายศิลป์ก็มาจาก ตมธก. อยู่บ่อยครั้งครับ
ครั้นต่อมาธรรมศาสตร์จึงแยกเป็นคณะ ซึ่งในยุคแรกก็มีคณะนิติศาสตร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี คณะรัฐศาสตร์ และคณะเศรษฐศาสตร์ ก่อนที่จะมีคณธทางสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ เพิ่มมาภายหลัง และขยายสาขาวิชาที่เปิดสอนมาทางด้านวิทยาศาสตร์ด้วย
อนึ่ง ขอกล่าวถึงการศึกษาด้านบัญชีควบคู่กันไปด้วยเลยครับ มธก. เปิดสอนวิชาบัญชีครั้งแรกในหลักสูตรธรรมศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาเศรษฐศาสตร์ ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าในปี ๒๔๗๘ หรือ ๒๔๗๙ หลังสถาปนามหาวิทยาลัยเพียง ๑ ปี หรือ ๒ ปี ต่อมา มธก. และจุฬา ได้เปิดสอนหลักสูตรสาขาบัญชีโดยตรงในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน โดยที่ มธก. เปิดหลักสูตรประกาศนียบัตร ๕ ปี สาขาบัญชี (เทียบเท่าปริญญาโท) ศิษย์เก่าหลักสูตร ๕ ปี ที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษ ได้แก่ ท่านบุญชู โรจนเสถียร อดีตผู้บริการธนาคารกรุงเทพ มหาชนฯ และอดีตรองนายกรัฐมนตรี สมัยที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์เป็นนายกรัฐมนตรี
ข้อมูลนำมาจาก อ. จรุงเกียรติ
OSK ๑๐๑-๑๐๕ ๑๒.๔๘ hrs. Fevruier ๘ Vendredi ๒๕๕๖
เราเชียร์เศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ หลายๆคนบอกว่าที่นี่ดีกว่า เรายังไม่ได้เรียนเลยไม่รู้รายละเอียดมากนัก แต่เรากำลังจะได้เปนเฟรชชี่ที่นี่แล้ววว เชียร์ๆๆ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?