Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ระวัง!! โรคผิวหนังเครียด!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่



ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า ปัจจุบันคนเราเกิดความเครียดกันมาก

ยิ่งตอนนี้ จขกท.เครียดเพราะลุ้นคะแนนแอดฯเข้ามหา'ลัย

ไม่รู้ว่าโรคนี้จะมาเยือนรึเปล่า 

มันคือโรค  ...
  โรค...



โรคผิวหนังเครียด!
โรคประหลาดในสารบบ


แพทย์ผิวหนังระบุคนไทยเครียดมาก ยังผลให้โรคผิวหนังพุ่ง ทั้งสิว เริม งูสวัด ผมร่วง แผลเป็น รอยย่น ลมพิษ สะเก็ดเงิน แนะออกกำลังกาย พักผ่อน นั่งสมาธิลดเครียด



เริมที่ปาก





งูสวัด








สะเก็ดเงิน





โรคผมร่วง





โรคลมพิษ








และ โรคที่วัยรุ่นไม่อยากเป็น
 T T
       




สิว




นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ดสาขาโรคผิวหนัง บรรณาธิการตำราโรคผิวหนังในเวชปฏิบัติปัจจุบัน กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยเป็นโรคเครียดกันมาก เป็นที่ทราบกันว่าความเครียดส่งผลเสียต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น ทำให้ลืมง่าย หงุดหงิด ติดยาเสพติด เหนื่อยง่าย ปัสสาวะบ่อย นอนไม่หลับ ความเครียดยังทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง แผลในกระเพาะอาหาร หืด ต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ และโรคจิตโรคประสาท
       
นอกจากนั้น พบว่าความเครียดทำให้เกิดโรคผิวหนังหลายอย่าง มีงานวิจัยแสดงว่าผู้ป่วยโรคผิวหนังอย่างน้อยร้อยละ 30 มีปัญหาทางจิตใจ ปัจจุบันจึงมีตั้งสาขาวิชาใหม่คือ จิตวิทยาโรคผิวหนัง (Psycho dermatology) ที่เน้นศึกษาผลกระทบของสภาพจิตใจต่อผิวหนัง พบว่าเมื่อเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียด คือ คอร์ติซอล ทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น เกิดอาการผิวมัน สิว และโรคเริมกำเริบ งูสวัด แผลหายช้า และมะเร็งผิวหนังสูงขึ้น
       
"ความเครียดยังกระตุ้นให้เกิดโรคผิวหนังอีกหลายโรค เช่น โรคเซ็บเดิมซึ่งมีอาการเป็นผื่นแดงตามหน้าผาก แก้ม คิ้ว แนวไรผม ความเครียดทำให้เกิดโรคผิวหนังภูมิแพ้ โรคสิว ทั้งสิวอักเสบธรรมดา และสิวแปลกๆ เช่น สิวหน้าแดง สิวแกะเกา ที่เกิดจากการบีบและแกะสิวผิวอย่างมาก จนเมื่อตรวจดูผิวหนังแล้วไม่พบรอยสิว พบแต่รอยถลอก แผล และแผลเป็น ทำให้ผมร่วง ทั้งร่วงทั่วศีรษะ ร่วงเป็นหย่อม ร่วงจากการดึง ความเครียดยังทำให้เป็นด่างขาว ลมพิษ โรคสะเก็ดเงิน คันหนังศีรษะ คันผิวหนังและเกาจนเป็นตุ่มนูนหรือเป็นปื้นหนาแข็งเหมือนเปลือกไม้ รู้สึกว่ามีแมลงไต่ หรือพยาธิไช" แพทย์ผิวหนังระบุ
       
ในแง่ความงามนอกจากความเครียดจะทำให้เป็นสิวแล้ว นพ.ประวิตร ยังเพิ่มเติมว่า ความเครียดทำให้เป็นฝ้าได้ บางคนเวลาเครียดจะกัดเล็บ ซึ่งนอกจากมีผลเสียต่อบุคลิกภาพแล้ว ยังอาจทำให้เกิดการถ่ายทอดเชื้อโรคจากเล็บเข้าสู่ปาก ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือความเครียดทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าเกร็งตัว เกิดเป็นรอยย่นลึกที่ใบหน้า เช่น หน้าผาก และหัวคิ้ว เพื่อลดความเครียด ควรทำจิตใจให้แจ่มใสเสมอ ออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งสารความสุขที่เรียกว่าเอ็นโดฟิน สารนี้มีฤทธิ์คลายปวดและทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย พักผ่อนให้เพียงพอ และฝึกสมาธิ


Credit : KSKS.

เห็นแต่ละโรคเนี่ย  แทบไม่อยากเครียดเลย
T T

แสดงความคิดเห็น

5 ความคิดเห็น

เหล็กใน 22 ต.ค. 57 เวลา 23:52 น. 4

ลองศึกษาการรักษาแบบใหม่ดูสิคับ
การฟื้นฟูรักษาด้วยชีวะโมเลกุล สำหรับการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
ปัจจุบันนี้คนเราเกิดภาวะตรึงเครียดเนื่องด้วยหลายๆสาเหตุ และปัจจัย ทำให้ร่างกายและจิตใจของเกิดโรคต่างๆขึ้นมากมาย แต่พวกเรายังโชคดีที่ว่ามีการค้นพบการป้องกันสภาพที่เสื่อมโทรมนี้
โดยปรัชญาเบื้องต้น สิ่งที่สำคัญพื้นฐานสำหรับการมีสุขภาพที่ดีคือ แสงแดด, ออกซิเจน, น้ำ, การได้รับสารอาหารที่สมดุล และ การออกกำลังกายที่เพียงพอ
การวิจัยใหม่ค้นพบว่าห้าข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญของชีวิต แต่เนื่องด้วยชีวิตปัจจุบันทำให้สิ่งต่างๆ สารอาหาร น้ำดื่ม อากาศที่ไม่บริสุทธิ์ การได้รับแสงแดดที่ไม่เพียงพอหรือผิดช่วงเวลา ทำให้เราได้รับสิ่งไม่มีคุณภาพเพียงพอเราจึงต้องอาศัยตัวช่วยเพื่อให้ได้รับสิ่งสำคัญที่เพียงพอ

ผลของการบำบัดด้วยเซลล์ :
-ต่อต้านความชราและการแก่ก่อนวัยอันควรที่เกิดจากความเหนื่อยล้าทั้งทางร่ายกายและจิตใจ
-ฮอร์โมนไม่สมดุลและไม่มีประสิทธิภาพของต่อมไร้ท่อ
-ปัญหาเรื่องความเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจ, ความเจ็บป่วยเนื่องจากความเครียด
-อาการอ่อนล้าเรื้อรัง(Chronic Fatigue Syndrome CFS)
-การพักฟื้นหลังจากโรคหรืออุบัติเหตุ
-กระดูกสันหลังและไขข้อเสื่อม
-ความบกพร่องของกล้ามเนื้อและระบบประสาทบางประเภท
-โรคเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเนื้อเยื้อเรื้อรัง
-ปัญหาระบบหมุนเวียน
-โรคเกี่ยวกับระบบย่อย
-ระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมสภาพและการติดเชื้อ
-การสร้างเซลล์ เนื้อเยื่อและอวัยวะขึ้นมาใหม่
-ภูมิคุ้มกัน สารต่อต้านอนุมูลอิสระและยับยั้งการอักเสบ
-การควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ
-โปรโมทและบำรุงรักษาการหมุนเวียนเลือด
-เพื่อให้มั่นใจการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและการรักษาบาดแผล
-การเพิ่มประสิทธิภาพของการฟื้นฟูระบบประสาท
-ควบคุมความสมดุลของระบบฮอร์โมน
-ปรับปรุงระบบทางเดินอาหารที่จะนำไปสู่การกำจัดอาการท้องผูก
-เพิ่มความยืดหยุ่นที่ข้อต่อและหมอนรองกระดูก
-ปรับปรุงการรับรู้และการตื่นตัวของสมองและเสริมสร้างความชุ่มชื้นของผิวหนังชั้นนอกซึ่งนำไปสู่ผิวที่กระชับ สดใสและเรียบเนียน
-เพิ่มความหนาแน่นของชั้นหนังแท้โดยการเร่งคอลลาเจน
ยังไงก้อย่าเคลียดเลยเดวสิวมาหา

0