Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

บทความ เรื่องของ ในหลวง ที่เรา(อาจ)ไม่เคยรู้‏

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

บทความ เรื่องของ ในหลวง ที่เรา(อาจ)ไม่เคยรู้‏

เมื่อทรงพระเยาว์
1.ทรงพระราชสมภพเวลา 08.45น.


2.นายแพทย์ผู้ทำคลอดชื่อ ดับลิว สจ๊วต วิตมอร์ ทรงมีน้ำหนักแรกประสูติ 6 ปอนด์



3.พระนาม "ภูมิพล" ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7



4.พระยศเมื่อแรกประสูติ คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ภูมิพลอดุลยเดช



5.ทรงมีชื่อเล่น ว่า เล็ก หรือ พระองค์เล็ก



6.ทรงเคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมาแตร์เดอี เพราะช่วงพระชนมายุ 5 พรรษา ทรงเคยเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ 1 ปี มีพระนามในใบลงทะเบียนว่า "H.H Bhummibol Mahidol"หมายเลขประจำตัว 449



7.ทรงเรียกสมเด็จพระราชชนนีหรือสมเด็จย่า อย่างธรรมดาว่า "แม่"



8.สมัยทรงพระเยาว์ ทรงได้ค่าขนม อาทิตย์ละครั้ง



9.แม้จะได้เงินค่าขนมทุกอาทิตย์ แต่ยังทรงรับจ้างเก็บผักผลไม้ไปขาย เมื่อได้เงินมาก็นำไปซื้อเมล็ดผักมาปลูกเพิ่ม



10.สมัยพระเยาว์ทรงเลี้ยงสัตว์หลายชนิดทั้งสุนัข กระต่าย ไก่ นกขุนทอง ลิง แม้แต่งูก็เคยเลี้ยง ครั้งหนึ่งงูตายไปก็มีพิธีฝังศพอย่างใหญ่โต



11.สุนัขตัวแรกที่ทรงเลี้ยงสมัยทรงพระเยาว์เป็นสุนัขไทย ทรงตั้งชื่อให้ว่า"บ๊อบบี้"



12.ทรงฉลองพระเนตร(แว่นสายตา)ตั้งแต่พระชันษายังไม่เต็ม 10 ขวบ เพราะครูประจำชั้นสังเกตเห็นว่าเวลาจะทรงจดอะไรจากกระดานดำพระองค์ต้องลุกขึ้นบ่อยๆ



13.สมัยพระเยาว์ทรงซนบ้าง หากสมเด็จย่าจะลงโทษ จะเจรจากันก่อนว่า โทษนี้ควรตีกี่ที ในหลวงจะทรงต่อรองว่า 3 ที มากเกินไป 2 ทีพอแล้ว



14.ระหว่างประทับอยู่ สวิตเซอร์แลนด์นั้นระหว่างพี่น้องจะทรงใช้ภาษาฝรั่งเศส แต่จะใช้ภาษาไทยกับสมเด็จย่าเสมอ



15.ทรงได้รับการอบรมให้รู้จัก "การให้" โดยสมเด็จย่าจะทรงตั้งกระป๋องออมสินเรียกว่า "กระป๋องคนจน" เอาไว้ หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไร จะต้องถูก "เก็บภาษี" หยอดใส่กระปุกนี้ 10% ทุกสิ้นเดือนสมเด็จย่าจะเรียกประชุมเพื่อถามว่าจะเอาเงินในกระป๋องนี้ไปทำอะไร เช่น มอบให้โรงเรียนตาบอด มอบให้เด็กกำพร้า หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน



16.ครั้งหนึ่ง ในหลวงกราบทูลสมเด็จย่าว่าอยากได้รถจักรยาน เพราะเพื่อนคนอื่นๆ เขามีจักรยานกัน สมเด็จย่าก็ตอบว่า "ลูกอยากได้จักรยาน ลูกก็ต้องเก็บค่าขนมไว้สิ หยอดกระป๋องวันละเหรียญ ได้มาก ค่อยเอาไปซื้อจักรยาน"



17.กล้องถ่ายรูปกล้องแรกของในหลวง คือ Coconet Midget ทรงซื้อด้วยเงินสะสมส่วนพระองค์ เมื่อพระชนม์เพียง 8 พรรษา



18.ช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงปั่นจักรยานไปโรงเรียนแทนรถพระที่นั่ง

พระอัจฉริยภาพ

19. พระอัจฉริยภาพของในหลวง มีพื้นฐานมาจาก "การเล่น" สมัยทรงพระเยาว์ เพราะหากอยากได้ของเล่นอะไรต้องทรงเก็บสตางค์ซื้อเอง หรือ ประดิษฐ์เอง ทรงเคยหุ้นค่าขนมกับพระเชษฐา ซื้อชิ้นส่วนวิทยุทีละชิ้นๆ แล้วเอามาประกอบเองเป็นวิทยุ แล้วแบ่งกันฟัง

20.สมเด็จย่าทรงสอนให้ในหลวงรู้จักการใช้แผนที่และภูมิประเทศของไทย โดยโปรดเกล้าฯให้โรงเรียนเพาะช่างทำแผนที่ประเทศไทยเป็นรูปตัวต่อ เลื่อยเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆเพื่อให้ทรงเล่นเป็นจิ๊กซอว์

21.ในหลวงทรงเครื่องดนตรีได้หลายชนิด เช่น เปียโน กีตาร์ แซกโซโฟน แต่รู้หรือไม่ว่าเครื่องดนตรีชิ้นแรกที่ทรงหัดเล่นคือ บเพลง (แอกคอร์เดียน)

22.ทรงสนพระทัยดนตรีอย่างจริงจังราวพระชนม์ 14-15 พรรษา ทรงซื้อแซกโซโฟนมือสองราคา 300 ฟรังก์มาหัดเล่น โดยใช้เงินสะสมส่วนพระองค์ครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งสมเด็จย่าออกให้


23.ครูสอนดนตรีให้ในหลวง ชื่อ เวย์เบรชท์ เป็นชาว อัลซาส

24.ทรงพระราชนิพนธ์พลงครั้งแรก เมื่อพระชนมพรรษา 18 พรรษา เพลงพระราชนิพนธ์แรกคือ "แสงเทียน" จนถึงปัจจุบันพระราชนิพนธ์เพลงไว้ทั้งหมด 48 เพลง

25.ทรงพระราชนิพนธ์เพลงได้ทุกแห่ง บางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องดนตรีช่วย อย่างครั้งหนึ่งทรงเกิดแรงบันดาลพระทัย ทรงฉวยซองจดหมายตีเส้น 5 เส้นแล้วเขียนโน้ตทำนองเพลงขึ้นเดี๋ยวนั้น กลายเป็นเพลง "เราสู้"

26. รู้ไหม...? ทรงมีพระอุปนิสัยสนใจการถ่ายภาพเหมือนใคร : เหมือนสมเด็จย่า และ รัชกาลที่5

27. นอกจากทรงโปรดการถ่ายภาพแล้ว ยังสนพระทัยการถ่ายภาพยนตร์ด้วย ทรงเคยนำภาพยนตร์ส่วนพระองค์ออกฉายแล้วนำเงินรายได้มาสร้างอาคารสภากาชาดไทย ที่ รพ.จุฬาฯ โรงพยาบาลภูมิพล รวมทั้งใช้ในโครงการโรคโปลิโอและโรคเรื้อนด้วย

28. ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง "นายอินทร์" และ "ติโต" ทรงเขียนด้วยลายพระหัตถ์ แล้วให้เสมียนพิมพ์ แต่ "พระมหาชนก" ทรงพิมพ์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์

29. ทรงเล่นกีฬาได้หลายชนิด แต่กีฬาที่ทรงโปรดเป็นพิเศษได้แก่ แบดมินตัน สกี และ เรือใบ ทรงเคยได้เหรียญทองจากการแข่งขันเรือใบประเภทโอเค ในกีฬาแหลมทอง(ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น"กีฬาซีเกมส์") ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ.2510

30. ครั้งหนึ่ง ทรงเรือใบออกจากฝั่งไปได้ไม่นานก็ทรงแล่นกลับฝั่ง และตรัสกับผู้ที่คอยมาเฝ้าฯว่า เสด็จฯกลับเข้าฝั่งเพราะเรือแล่นไปโดนทุ่นเข้า ซึ่งในกติกาการแข่งเรือใบถือว่าฟาวส์ ทั้งๆที่ไม่มีใครเห็น แสดงให้เห็นว่าทรงยึดกติกามากแค่ไหน

31. ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับสิทธิบัตรผลงานประดิษฐ ์คิดค้นเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่มลอย หรือ "กังหันชัยพัฒนา" เมื่อปี 2536

33. ทรงเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาเชื้อเพลิงน้ำมันจากวัสดุการเกษตรเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน เช่น แก๊สโซฮอล์,ดีโซฮอลล์ และ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว

34. องค์การสหประชาชาติ ได้ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ แด่ในหลวงเมื่อ วันที่ 26 พฤษภาคม 2549 เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทย โดยมี นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางมาถวายรางวัลด้วยตนเอง
เรื่องส่วนพระองค์

35. พระนามเต็มของในหลวง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรา มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร

36. รักแรกพบ ของในหลวงและหม่อมสิริกิติ์เกิดขึ้นที่สวิสเซอร์แลนด์ แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น สมเด็จพระบรมราชินีนาถฯทรงให้สัมภาษณ์ว่า"น่าจะเป็น เกลียดแรกพบ มากกว่ารักแรกพบ เนื่องเพราะรับสั่งว่าจะเสด็จถึงเวลาบ่าย 4 โมง แต่จริงๆแล้วเสด็จมาถึงหนึ่งทุ่ม ช้ากว่าเวลานัดหมายตั้งสามชั่วโมง

37. ทรงหมั้นกับ ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2492 และจัดพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ที่วังสระปทุม เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2493 โดยทรงจดทะเบียนสมรสเหมือนคนทั่วไป ข้อความในสมุดทะเบียนก็เหมือนคนทั่วไปทุกอย่าง ปิดอากรแสตมป์ 10 สตางค์ เสียค่าธรรมเนียม 10 บาท

37. หลังอภิเษกสมรส ทรง"ฮันนีมูน"ที่หัวหิน

38. ทรงผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2499 และประทับจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา 15 วัน

39. ระหว่างทรงผนวช พระอุปัชฌาย์และพระพี่เลี้ยง คือ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช

40. ของใช้ส่วนพระองค์นั้นไม่จำเป็นต้องแพงหรือต้องแบรนด์เนม ดังนั้นการถวายของให้ในหลวงจึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นของแพง อะไรที่มาจากน้ำใจจะทรงใช้ทั้งนั้น

41. เครื่องประดับ : ในหลวงไม่ทรงโปรดสวมเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อยคอ ของมีค่าต่างๆ ยกเว้น นาฬิกา

42. พระเกศาที่ทรงตัดแล้ว : ส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่ธงชัยเฉลิมพลเพื่อมอบแก่ทหาร อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้สร้างวัตถุมงคล เพื่อมอบแก่ราษฎรที่ทำคุณงามความดีแก่ประเทศชาติ

43. หลอดยาสีพระทนต์ ทรงใช้จนแบนราบเรียบคล้ายแผ่นกระดาษ โดยเฉพาะบริเวณคอหลอด ยังปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปจนถึงเกลียวคอหลอด ซึ่งเป็นผลจากการใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์ช่วยรีด และ กดเป็นรอยบุ๋ม

44. วันที่ในหลวงเสียใจที่สุด คือวันที่สมเด็จย่าเสด็จสวรรคต มีหนังสือเล่าไว้ว่า วันนั้นในหลวงไปเฝ้า แม่ถึงตีสี่ตีห้า พอแม่หลับจึงเสด็จฯกลับ เมื่อถึงวัง ทางโรงพยาบาลก็โทรศัพท์มาแจ้งว่า สมเด็จย่าสิ้นพระชนม์แล้ว ในหลวงรีบกลับไปที่โรงพยาบาล เห็นแม่นอนหลับตาอยุ่บนเตียง ในหลวงคุกเข่าเข้าไปกราบที่อกแม่ ซบหน้านิ่งอยู่นาน ค่อยๆเงยพระพักตร์ขึ้นมาน้ำพระเนตรไหลนอง

งานของในหลวง

45. โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จนถึงปัจจุบนมีจำนวนกว่า 3,000 โครงการ

46. ทุกครั้งที่เสด็จฯไปยังสถานต่างๆจะทรงมีสิ่งของประจำพระองค์อยู่ 3 สิ่ง คือ แผนที่ซึ่งทรงทำขึ้นเอง(ตัดต่อเอง ปะกาวเอง) กล้องถ่ายรูป และดินสอที่มียางลบ

47.ในหลวงทรงงานด้วยพระองค์เองทุกอย่างแม้กระทั่งการโรเนียวกระดาษที่จะนำมาให้ข้าราชการที่เข้าเฝ้าฯถวายงาน

48. เก็บร่ม : ครั้งหนึ่งเมื่อในหลวงเสด็จฯเยี่ยมโครงการห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาถึง ปรากฏว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก ข้าราชการและราษฎรที่เข้าแถวรอรับเปียกฝนกันทุกคน เมื่อทรงเห็นดังนั้น จึงมีรับสั่งให้องครักษ์เก็บร่ม แล้วทรงเยี่ยมข้าราชการและราษฎรทั้งกลางสายฝน

49. ทรงศึกษาลักษณะอากาศทุกวัน โดยใช้ข้อมูลที่กรมอุตุนิยมวิทยานำขึ้นทูลเกล้าฯ ร่วมกับข้อมูลจากต่างประเทศที่หามาเอง เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจก่อความเสียหายแก่ประชาชน

50. โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา เริ่มต้นขึ้นจากเงินส่วนพระองค์จำนวน 32,866.73บาท ซึ่งได้จากการขายหนังสือดนตรีที่พระเจนดุริยางค์ จากการขายนมวัว ก็ค่อยๆเติบโตเป็นโครงการพัฒนามาจนเป็นอย่างที่เราเห้นกันทุกวันนี้

51. เวลามีพระราชอาคันตุกะเสด็จมาเยี่ยมชมโครงการฯสวนจิตรลดา ในหลวงจะเสด็จฯลงมาอธิบายด้วยพระองค์เอง เนื่องจากทรงรู้ทุกรายละเอียด

52. ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามว่า เคยทรงเหนื่อยทรงท้อบ้างหรือไม่ ในหลวงตอบว่า "ความจริงมันน่าท้อถอยอยู่หรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ

53. ทรงนึกถึงแต่ประชาชน แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระดูกสันหลังในอีก 5 ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549) ยังทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เดินสายออนไลน์ไว้ เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้มอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน

ของทรงโปรด

54. อาหารทรงโปรด : โปรดผัดผักทุกชนิด เช่น ผัดคะน้า ผัดถั่วงอก ผัดถั่วลันเตา

55. ผักที่ไม่โปรด : ผักชี ต้นหอม และตังฉ่าย

56. ทรงเสวย ข้าวกล้อง เป็นพระกระยาหารหลัก

57. ไม่เสวยปลานิล เพราะทรงเป็นผู้เลี้ยงปลานิลคนแรกในประเทศไทย โดยใช้สระว่ายน้ำในพระตำหนักสวนจิตรลดาเป็นบ่อเลี้ยง แล้วแจกจ่ายพันธุ์ไปให้กรมประมง

58. เครื่องดื่มทรงโปรด : โปรดโอวัลตินเป็นพิเศษ เคยเสวยวันหนึ่งหลายครั้ง

59. ทีวีช่องโปรด ทรงโปรดข่าวช่องฝรั่งเศส ของยูบีซี เพื่อทรงรับฟังข่าวสารจากทั่วโลก

60. ทรงฟัง จส.100 และเคยโทรศัพท์ไปรายงานสถานการณ์ต่างๆใน กทม.ไปที ่ จส.100ด้วย โดยใช้พระนามแฝง

61. หนังสือที่ในหลวงอ่าน : ตอนเช้าตื่นบรรทม ในหลวงจะเปิดดูหนังสือพิมพ์รายวันทั้งไทยและเทศ ทุกฉบับ และก่อนเข้านอนจะทรงอ่านนิตยสารไทม์ส นิวสวีก เอเชียวีก ฯลฯ ที่มีข่าวทั่วทุกมุมโลก

62. ร้านตัดเสื้อของในหลวง คือ ร้านยูไลย เจ้าของชื่อ ยูไลย ลาภประเสริฐ ถวายงานตัดเสื้อในหลวงมาตั้งแต่ปี 2501 เมื่อนายยูไลยเสียชีวิต ก็มี ลูกชาย นายสมภพ ลาภประเสริฐ มาถวายงานต่อ จนถึงตอนนี้ก็เกือบ 50 ปีแล้ว

63. ห้องทรงงานของในหลวง อยู่ใกล้ห้องบรรทม บนชั้น 8 ของตำหนักจิตรลดาฯเป็นห้องเล็กๆ ขนาด 3x4 เมตร ภายในห้องมีวิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์ โทรสาร คอมพิวเตอร์ เครื่องบันทึกเสียง เครื่องพยากรณ์ แผนที่ ฯลฯ

64. สุนัขทรงเลี้ยง นอกจากคุณทองแดง สุวรรณชาด สุนัขประจำรัชกาล ที่ปัจจุบันอยู่ที่พระราชวังไกลกังวล แล้ว ยังมีสุนัขทรงเลี้ยงอีก 33 ตัว

รู้หรือไม่ ?

65. ในหลวง เกิดจากคำที่ชาวเหนือใช้เรียกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า "นายหลวง" ภายหลังจึงเปลี่ยนเป็น ในหลวง

66. ทรงวชาญถึง 6 ภาษา คือ ไทย ละติน ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน และ สเปน

67. อาชีพของในหลวง เมื่อผู้แทนพระองค์ไปติดต่อเอกสารสำคัญใดๆทรงโปรดให้กรอกในช่อง อาชีพ ของพระองค์ว่า "ทำราชการ"

68. ในหลวงทรงพระเนตรเทียมข้างขวา เป็นผลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เมืองโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ รถพระที่นั่งชนกับรถบรรทุกอย่างแรง ทำให้เศษกระจกเข้าพระเนตรข้างขวา ตอนนั้นมีอายุเพียง 20 พรรษา และทรงใช้พระเนตรข้างซ้ายข้างเดียว ในการทำงานบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชนชาวไทยมาตลอดกว่า 60 ปี

69. ครั้งหนึ่งหนังสือพิมพ์อเมริกันลงข่าวลือเกี่ยวกับในหลวงว่า แซกโซโฟนที่ทรงอยู่เป็นประจำนั้นเป็นแซกโซโฟนที่ทำด้วยทองคำเนื้อแท้บริสุทธิ์ ซึ่งได้มีพระราชดำรัสว่า"อันนี้ไม่จริงเลย สมมติว่าจริงก็จะหนักมาก ยกไม่ไหวหรอก"

70. ปีหนึ่งๆ ในหลวงทรงเบิกดินสอแค่ 12 แท่ง ใช้เดือนละแท่ง จนกระทั่งกุด

71. หัวใจทรงเต้นไม่ปรกติ ในหลวงเคยประชวรหนักจนหัวใจเต้นไม่ปกติ เนื่องจากติดเชื้อไมโครพลาสม่า ขณะขึ้นเยี่ยมราษฎรที่อำเภอสะเมิงติดต่อกันหลายปี

72. รู้หรือไม่ว่า ในหลวงเป็นคนประดิษฐ์รูปแบบฟอนต์ภาษาในคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้อย่าง ฟอนต์จิตรลดา ฟอนต์ภูพิงค์

73. ในนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จัดขึ้นที่อิมแพ็ค มีประชาชนเข้าชมรวม 6ล้านคน

74. ในหลวงเริ่มพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2493 จน 29 ปีต่อมาจึงมีผู้คำนวณว่าเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร 490 ครั้ง ประทับครั้งละ 3 ชม. ทรงยื่นพระหัตถ์พระราชทาน 470,000 ครั้ง น้ำหนักปริญญาบัตรฉบับละ 3 ขีด รวมน้ำหนักทั้งหมด 141 ตัน

75. ดอกไม้ประจำพระองค์ คือ ดอกดาวเรือง

76. สีประจำพระองค์คือ สีเหลือง

77. นั่งรถหารสอง : ทรงรับสั่งกับข้าราชบริพารเสมอว่า การนั่งรถคนละคันเป็นการสิ้นเปลือง จึงให้นั่งรวมกัน ไม่โปรดให้มีขบวนรถยาวเหยียด

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระเกษมสำราญ มีพระพลานมัยแข็งแรงสมบูรณ์ มีพระชนม์ยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย ตลอดกาลนานเทอญ. ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ... ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ...

เรื่องดีๆที่อยากให้เพื่อนๆได้อ่าน....ลูกหลานรุ่นใหม่ร่วมใจสามัคคี ทำความดีเพื่อพ่อหลวงของเรากันเถอะ

ขอบคุณ http://atcloud.com/stories/41245


PS.  ไม่มีอะไร..แค่คนสวย

แสดงความคิดเห็น

12 ความคิดเห็น

phingheavyhog 16 มี.ค. 53 เวลา 16:23 น. 3
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

อยุ่กับประเทศไทยไปนานๆ

ในหลวงท่านลำบากมามากแล้ว

เพื่อความสุขของคนไทย
0
first 16 มี.ค. 53 เวลา 17:15 น. 4

ไม่รู้ดิ  ไม่กล้าพูดเต็มๆปากว่า รักในหลวงอ่ะ ,,ToT


PS.  ดอล ..เคยกล่าวเอาไว้ว่า "ความตาย ทำให้มนุษย์เท่าเทียมกัน" และมันคือเรื่องที่จริงที่สุด
0
doraemon119 16 มี.ค. 53 เวลา 22:35 น. 5
Boots High Heels Boots Nike Shoes Born Shoes Thigh High Boots Knee High Boots Earth Shoes Clarks Shoes Cowboy Boots Rockport Shoes Ellie Shoes Stockings High Heels Merrell Shoes Womens Shoes Easy Spirit Shoes Justin Boots Discount Shoes Red Wing Boots High Heels Models Ecco Shoes Motorcycle Boots Bass Shoes Hiking Boots Bakers Shoes Red Wing Shoes Ugg Boots Work Boots Lucchese Boots Cheap Shoes Danner Boots Galleries Of High Heels And Stockings Mens Shoes Discount Uggs Boots Tony Lama Boots Ariat Boots Sexy Shoes High Heels And Stockings Sheepskin Boots Rocky Boots Double H Boots Muck Boots Wide Shoes Nine West Shoes Timberland Shoes Chippewa Boots Women That Love High Heels Wolverine Boots Leather Shoes Western Boots Short Skirts And Boots Pictures Rain Boots Jessica Simpson Shoes Frye Boots Hot Legs High Heels Nike Running Shoes Thigh Boots Wide Width Shoes Dora And Boots Discount Vans Shoes Emu Boots Redwing Boots Black Boots Sperry Shoes Harley Davidson Hand Painted Shoes Timberland Boots Bates Boots Georgia Boots Kids Shoes Cheap Jordan Shoes Sexy High Heels Rubber Boots Prada Shoes Mason Shoes High Heels Short Skirt Boots The Chemist Cowgirl Boots Stiletto Boots Steve Madden Shoes Dexter Shoes Riding Boots Simple Shoes Ladies Western Boots High Heels Legs Fashion Boots Steel Toe Boots Girl In Boots Military Boots Thigh High Black Leather Boots Nike Golf Shoes Harley Davidson Boots Magnum Boots Leather Boots Nike Basketball Shoes Cole Haan Shoes Earth Spirit Shoes Ostrich Boots Stockings And High Heels Ballet Boots
รักในหลวงค่ะ
0
รักชาติ 19 มี.ค. 53 เวลา 09:11 น. 7

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยรวมทั้งเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงปกปักรักษาคุ้มครองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ ให้ทรงหายจากอาการประชวรโดยเร็วพลันและทรงมีพระพลามัยที่แข็งแรงสมบรูณ์ ปราศจากโรคภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวงด้วยเทอญ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

0
BRY 14 ม.ค. 54 เวลา 10:09 น. 9

ในหลวงคือพ่อของแผ่นดิน
ในหลวงคือพ่อของปวงประชา
ทรงปกครองแผ่นดินโดยทศพิศราชธรรม
พระองค์ทรงเป็นที่รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย
เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของแผ่นดิน
ทรงติดตามสถานการณ์ภาคใต้อย่างใกล้ชิด
ข้าพเจ้าจะทำความดีให้กับประเทศชาติ
ข้าพเจ้าจะปลูกต้นไม้ถวายในหลวง
ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามคำสอนของพ่อหลวง
ในหลวงทรงเป็นผู้คิดค้นในการทำฝนเทียมเพื่อช่วยเหลือ เกษตรกรไทย
พ่อหลวงของประชาคือนักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่
ในหลวงมทรงได้นำหญ้าแฝกมาใช้ประโยชน์ในการรักษาหน้าด ินได้ดี
ทรงลำบากพระวรกายเพื่อปวงชนชาวไทย
บารมีพ่อแผ่ไปไกลทุกแห่งหน
ทรงเป็นที่รักใคร่ของประชาชนทั่วประเทศ

0
นศท.กฤตนู 14 ก.พ. 55 เวลา 14:38 น. 11

บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด

ถ้ากล่าวถึงในหลวงทุกท่านคงจะทราบดีว่าท่านคือพ่อหลวงของปวงชาวไทยที่ทรงทำนุบำรุงประเทศของเรามานานมากแล้ว ท่านทรงงานหนักเพื่อปวงชนชาวไทย ทั้งเรื่องการแปลงผลผลิตการเกษตร โครงการต่างๆและที่สำคัญท่านทรงห่วงใยปวงชนชาวไทยทุกคน ท่านทรงไม่ถือตัวเดินลงไปคุยกับชาวบ้านดังเหมือนญาติมิตรสหาย และทรงถามไท่ความเป้นอยู่พร้อมทั้งถามปัญหาของราษฎรแล้วนำไปแก้ไขอิกด้วย ท่านทรงเป้นเหมือนครุในยามที่ทรงสอนการอยู่แบบพอเพียงด้วยตนเองพร้อมทั้งวิธีแก้ไขปัญหาในอนาคต ทรงเป้นเหมือนสิ่งศักสิทธิ์ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคนไทยทั้งปวงยามที่ทุกคนมีทุก ทรงลงมาแก้ไชปัญหาการเมืองในบางโอกาสพร้อมทั้งบอกให้ทุกคนสมานฉันท์ซึ่งกันและกัน วันหนึ่งผมได้มีโอกาสไปเฝ้าไข้ท่านที่ศิริราช เป็นอะไรที่ประทับใจมาก ผมก็เฝ้ารอผลจากหมอ 2-3วัน ท่านทรงให้คนนำอาหารและน้ามดื่มในโครงการสวนจิตของท่านมาแจกจ่ายให้ผู้มาเฝ้าไข้ท่าน ที่กล่าวมานั้นเป้นเพียงแค่ส่วนน้อยที่กระผมพอจะรุ้ติดตัวบ้างเล็กๆน้อยๆแต่เชื่อว่าสิ่งที่ท่านทำให้ประศกนิกรชาวไทยมีมากมายมหาศาจนนับไม่ได้ เพราะฉะนั้นพี่น้องชาวไทยควรจะทำตามพระราชดำรัสและพระราชดำริของพระองค์ ผมเชื่อว่าในอนาคตสังคมไทยจะต้องดีขึ้นได้ด้วยการทำตามที่พระองค์ตรัส

0
LOVEIIIII 24 ก.พ. 56 เวลา 13:48 น. 12

ความประทับใจที่มีต่อพระเจ้าอยู่หัว
&nbsp&nbsp&nbsp นับว่าเราโชคดีที่มีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นประมุขเพราะว่าชาติอื่นมักจะเป็นประธานาธิบดี และพระเจ้าอยู่หัวเรานั้น ท่านได้มีการช่วยประชาชนชาวไทยมากมายไม่หยุดไม่สิ้นแม้ท่านเหนื่อยแต่ท่านไม่เลิกทำเพื่อประชาชนชาวไทย และท่านได้จัดตั้งโครงการหลายอย่าง เช่น โครงการฝนเทียม โครงการเศรษฐกิจพอเพียงและอื่นๆอีกมากมาย แล้วท่านได้มีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสแนะแนวทางในการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาตลอดนานกว่า 25 ปี โครงการส่งเสริมอาชีพ ทำให้เกิดการได้อาชีพแก่ประชาชนชาวไทยในพื้นที่ใกล้เคียง
&nbsp&nbsp&nbsp 

ปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้สอนให้ประชาชนรับรู้ว่าเราจงใช่จ่ายอย่างพอเพียง
วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของ
> > ท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวง
> > มากมายพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระ
บาทหลวงที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบ
พระบาทแล้วก็เอามือของแก่มาจับพระหัตถ์ของในหลวง
> > แล้วก็พูดว่ายายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง แล้วก็พูดว่า
> > ยายอย่างโน้น ยายอย่างนี้ อีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรง
> > เฉย ๆ มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร แต่พวกข้าราชบริภารก็
มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัย
> > หรือไม่ แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิง
> > ชราคนนั้น ก็ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหวเพราะ
> > พระองค์ทรงตรัสว่า " เรียกว่ายายได้อย่างไร
> > อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ ต้องเรียกน้าซิ ถึงจะถูก "
> >
> > เรื่องที่ 2. พระองค์ท่านเสด็จไปที่จังหวัดสกลนคร เพื่อเยี่ยม
> > เยียนชาวบ้าน และพระองค์ก็ทรงตรัสถามชายคนหนึ่งที่มา
> > เข้าเฝ้าเพราะแขนเจ็บเข้าเฝือก ในหลวงทรงรับสั่งถามว่า
> > " แขนเจ็บไปโดนอะไรมา " ชายคนนั้นตอบว่า " ตก
สะพาน " แล้วในหลวงทรบรับสั่งกลับไปอีกว่า " แล้วแขนอีกข้าง
หนึ่งละ " ชายคนนั้นก็ตอบกลับมาอีกว่า " แขนข้างนี้ไม่ได้ตกลง
ไปด้วย ตกข้างเดียว " ในหลวงของเราก็ทรงพระสรวล
> >
> > เรื่องที่ 3. พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรที่
> > ทางภาคใต้ คือจังหวัดนราธิวาส ทางใต้นี้มีปัญหาเรื่องดิน
> > เป็นกรด มีความเค็ม พระองค์จึงทรงรับสั่งถามกับชาวบ้านที่
มาเฝ้ารับเสด็จว่า " ดินหลังบ้านเป็นอย่างไร เค็มไหม "
> > ชาวบ้านก็มองหน้ากันแล้วทำหน้างง ก่อนตอบกลับมาว่า
> > " ไม่เคยชิมซักที " ในหลวงก็รับทรงสั่งกับข้าราชบริภารที่
> > ตามเสด็จว่า " ชาวบ้านแถวนี้เขามีอารมณ์ขันกันดีนะ "
พระองค์สุดยอดมากๆครับ ^_________^ ทรงพระเจริญ

0