>> แนะน้องๆ กสพท 54 ค่า <<
ตั้งกระทู้ใหม่
ก่อนอื่น พี่ขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ พี่ติดคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้คะแนน กสพท รวมประมาณ 67 คะแนนจ้ะ
เรื่องที่พี่จะพูดเนี่ย มันยาวมากกกกก แต่พี่ก็หวังว่าจะมีประโยชน์แก่น้องๆรุ่นต่อไปนะคะ พี่ขอแบ่งหัวข้อที่จะพูดก่อนจ้ะ
1. การทำตารางอ่านหนังสือ (( สำคัญมากๆๆๆๆๆ))
2. เจาะเนื้อหารายวิชา (( วิชาไหน อ่านยังไง ??? สำคัญไฉน ))
3. นานาสาระพัน
-------------------------------------------------------------------------------------------
พี่ขอพูดเรื่องการเรียนพิเศษ จัดตารางเวลาการอ่านหนังสือต่างๆ ก่อนนะคะ
ส่วนตัวพี่เป็นคนที่ ถ้าไฟไม่ลนก้นเนี่ย จะไม่ยอมอ่านหนังสือเลยละ...555
ชีวิต ม 4-5 ของพี่ ก็เรียนไปเรื่อยๆนะ ไม่ได้อ่านทบทวนมาก แต่ก็เรียนพิเศษเก็บเนื้อหาให้จบทันก่อนเรียน ม 6 จ้า
พี่มาเริ่มคิดได้ว่า เออ ... เราต้องอ่านหนังสือแล้วนะ ก็ตอนที่เพิ่งสอบ GAT PAT ไปแล้วครั้งแรก แล้วออกมาพี่ก็ทำได้ไม่ดีเลย สิ่งที่พี่ทำเป็นอันดับแรก คือ ทำตารางอ่านหนังสือค่ะน้องๆ อย่าไปทำแบบ เดือน สองเดือน นะ พี่ทำตารางตั้งแต่เดือนนั้น จนถึงวันสอบเลยจ้ะ
พอน้องๆทำตารางเสร็จ ก็เริ่มมาร์ควันสำคัญต่างๆ จุ๊ๆๆ!! ไม่ใช่วันเที่ยว วันดูหนังนะคะน้อง แต่ว่าเป็นวันสอบมิดเทอม ปลายภาค แกท แพท อะไรนั่น (รวมทั้งกิจกรรมด้วยนะ เช่น กีฬาสี) เพราะถ้าเผื่อน้องหลุด กสพท น้องก็ต้องใช้เกรด ในการพิจารณาการเข้ามหาลัยผ่านแอดมิดชั่นกลางนะคะ!!!
(( อันนี้พี่ขอแนะนำว่า ถ้าน้องยังไม่รู้ว่าจริงๆมิดเทอม ปลายภาคมีเมื่อไหร่ ก็ให้เว้นเดือนนั้นไว้สองอาทิตย์นะคะ >> อาทิตย์นึง อ่านเตรียม อีกอาทิตย์สอบ ))
พอทำเสร็จ วันที่เหลือๆ ก็จะเป็นวันที่น้องมีเวลาอ่านหนังสือนะจ๊า พี่แนะนำให้น้องเผื่อวันพักไว้บ้าง เพราะคนเราไม่ใช่เครื่องจักรน้า
ของพี่เนี่ย พี่กำหนด วันเรียนหนังสือว่า จะต้องกลับมาอ่านสองทุ่ม จนถึงเที่ยงคืน แล้วค่อยเข้านอนจ้ะ แต่น้องๆบางคนที่(ทน)ตื่นเช้า ก็อาจจะเพิ่มรอบตีห้า ก่อนไปโรงเรียนก็ได้นะ พี่เคยพยายามตื่นมาอ่าน แต่ก็ไม่เวิร์ค คือ พี่ไม่ตื่นอ่ะ 555
ส่วนวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ ส่วนใหญ่พี่ก็อยู่บ้านอ่านหนังสือทั้งวันนะ ก็จะมีตอนเย็นที่พักไปออกกำลังกายบ้าง แล้วก็มี break บ้าง (แต่อย่า break บ่อยนะ ไม่ดี๊ไม่ดี)
ส่วนจะอ่านวิชาไหนก่อน ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ + ความถนัดนะ อย่างของพี่ พี่ก็อ่าน อังกฤษ >> เคมี >> ชีวะ >> ฟิสิกส์ >> เลข >> ไทย สังคม จ้ะ โดยตอนแรกเราก็ต้องแบ่งส่วนของเวลาที่เรามีอยู่ก่อนใช่มะ พี่ก็นับเลยว่าพี่มีเวลากี่วันก่อนสอบ แล้วพี่ก็มานั่งจัดหนังสือที่พี่คิดว่าจำเป็นจริงๆ ที่ต้องใช้ในการสอบเป็นวิชาๆ (อันนี้ต้องใช้เวลาหน่อยนะ) พอพี่จัดเสร็จ ตรงนี้เนี่ย ทำได้ 2 วิธี (เท่าที่พี่รู้นะ)
1. (วิธีพี่) พี่นั่งเขียนว่า วิชาอะไร มีบทไหนบ้าง อย่างฟิสิกส์ ก็มี กลศาสตร์ เอย อะไรเอย แล้วพี่ก็มานั่งประมาณเวลาว่า เออ... บทนี้เราน่าจะอ่านจบกี่วัน ฝึกทำโจทย์อีกกี่วัน เช่น กลศาสตร์ ของพี่เนี่ย พี่ให้เวลาอ่านเนื้อหา อาทิตย์นึงเลย เพราะเนื้อหาเยอะ และต้องใช้ความเข้าใจมาก แล้วก็แถมอีกครึ่งอาทิตย์ ตะลุยโจทย์เอาจ้ะ
น้องๆก็นั่ง Mark ลงไปเรื่อยๆ ว่าวันนี้ ถึงวันนี้ ชั้นจะอ่านบทนี้ให้จบ
** พี่ขอแนะน้องๆว่า ให้เผื่อเวลาแต่ละบทไว้สองวัน เพราะเอาเข้าจริง พี่ไม่เคยอ่านได้จบตรงกับตาราง แล้วก็จบลงด้วยการไม่ได้นอนจ้า **
2. (วิธีของเพื่อนสนิทพี่) เค้าเอาหนังสือทั้งหมดที่เค้าคิดว่าต้องอ่านมานับหน้าจ้ะ แล้วเอาเวลาที่มีมาหาร
เท่านี้น้องก็จะได้ตารางอ่านหนังสือของน้องๆเรียบร้อยแล้วนะคะ สิ่งที่น้องต้องทำต่อไปก็คือ ทำตามตารางนั้นให้ได้ เพราะสิ่งที่คนส่วนมากทำไม่ได้ ก็คือตรงนี้แหละค่ะ ตอนเรากรอกตาราง เราอาจจะคิดว่า โอ๊ย แค่นี้ ชั้นทำได้อยู่แล้ว (หรือพี่คิดคนเดียว?? 55) แต่เอาเข้าจริงมันทั้ง เหนื่อย + สาหัส มากเลยค่ะน้อง
------------------------------------------------------------------------------------
หัวข้อต่อไปเลยนะคะ เจาะเนื้อหารายวิชาค่ะ ** ((พี่ๆคนไหนอยากเสริมเชิญเลยนะคะ แล้วจะมาแก้ทีหลังค่ะ))
พี่ขอเริ่มด้วยอังกฤษก่อน (วิชาถนัด) ขอบอกน้องๆเลยว่า ใครที่คิดว่าจะอ่านเดือนสองเดือนแล้วเทพเนี่ย พี่ว่าแทบเป็นไปไม่ได้ค่ะ เพราะวิชานี้เกิดจากการสั่งสม
ตัวพี่เอง ก็เรียนพิเศษกับครูสมศรีค่ะ คือ พี่ไม่ได้บ้าเรียนแหลกลาญไปทุกคอร์สนะคะ แต่เรียนเฉพาะคอร์สจำเป็น คือ Ad 1 , Ad 2 แล้วก็ซีร็อกส์ Vocab เพื่อนมาท่องจ้ะ
โดยเฉพาะ Vocab สำคัญมาก พี่ท่องวันละ สิบ ยี่สิบคำ แต่ท่องเป็นปีค่ะน้อง
สำหรับ กสพท พี่ขอแนะนำว่า น้องควรจะหัดอ่าน passage ยาวๆให้คล่อง จับใจความได้ (ไม่ใช่สักแต่ว่าอ่าน) เพราะ หมอ ออก passage เยอะมากๆ ***
ต่อไป ก็ เคมี
พี่ก็เรียน อาจารย์ อุ๊ น่ะจ้ะ แนะนำว่า ถ้าน้องคนไหนเป็นแฟนพันธุ์แท้อาจารย์อุ๊ มาตั้งแต่ ม 4 ก็ไม่ต้องดั้นด้นไปเรียน คอร์ส Ent อีกนะจ๊ะ เพราะแทบไม่แตกต่างกันเลย (อันนี้พี่ทำมาแล้ว มันก็ดีที่มีคนทวนให้ แต่พี่เลยไม่ได้เรียนคอร์สตะลุย TT)
ถ้าน้องคนไหนเรียนเนื้อหาครบหมด พี่แนะนำให้เรียนตะลุยโจทย์ดีกว่านะจ๊ะ
แต่ถ้าน้องคนไหนไม่เค๊ยไม่เคยเรียน แล้วอยากเตรียมสอบให้ทัน ก็ลง คอร์ส Ent จ้ะ พี่ขอแนะนำว่า ถ้าน้องไม่ได้แย่เคมีมากๆๆๆๆๆๆ เนี่ย ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนปรับพื้นฐานหรอกจ้ะ เพราะคอร์ส Ent ก็ไม่ได้สอนเรวจากคอร์สพื้นปกติเลย
แต่สำหรับน้องคนไหนที่ไม่เรียนจริงๆ พี่ก็แนะนำให้น้องอ่านจับประเด็นของแต่ละเนื้อหา ทำความเข้าใจกับการใช้สูตรให้คล่อง แล้วทำโจทย์ 15 พ ศ เอาก็ได้จ้ะ
ส่วนข้อสอบ กสพท ปีพี่ เคมีก็ไม่ยากมากนะ เน้น Concept แล้วก็คำนวณ ไอบทท่องจำเยอะๆ ไม่ต้องไปเสียเวลาอ่านหรอกนะน้อง เพราะออกน้อยมาก (พวก ปิโตรเลียม อุตสาหกรรม อะไรนั่นน่ะ) ถ้าน้องตั้งใจเรียน แล้วหมั่นทำโจทย์มากๆ พี่ว่าวิชานี้น้องคงเก็บได้ไม่ยากมากมายนะคะ
ต่อไปก็วิชา ชีววิทยา
บอกไว้ก่อนเลยว่า ถ้าน้องๆคิดว่าจะเข้าหมอ ต้องเก่งชีวะมากๆ แล้วไม่อ่านอย่างอื่นเท่าที่ควร เป็นความเชื่อที่ผิดมากจ้ะ น้อง
เพราะ กสพท ให้น้ำหนัก ของวิชาวิทย์แต่ละสาขา เท่ากัน
เพราะฉะนั้น น้องอ่านชีวะ แต่พองามนะจ๊ะ ไม่ต้องไปทุ่มขนาดอ่านของปีหนึ่งจ้ะ ไม่มีประโยชน์...
สำหรับพี่ พี่ก็อ่านเก็บเนื้อหาไป แต่ด้วยความที่ว่าพี่เป็นคน "ขี้ลืม" พี่ก็เลยต้องทวนบ่อยๆ อาจจะไม่ต้องถึงขนาดมาอ่านใหม่ สมมุติพี่ขึ้นลิฟอยุ่ พี่ก็จะถามตัวเองว่า
เอ๊... Phylum Arthropoda Class Crustacea เนี่ย มันมีลักษณะยังไงนะ
ถ้าเกิดอาการ พี่ก็จะวิ่งไปเปิดหนังสือทันทีจ้ะ
แล้วพี่ก็แนะนำให้น้องๆหัดทวนให้เพื่อนๆนะ เพราะเพื่อนๆมักจะถามอะไรที่ตรงจุดเสมอ แล้วถ้าเราอธิบายได้ เราก็จะรู้เลยว่าตรงนี้เราเข้าใจแล้ว (เย่ เย่)
ชีวะ กสพท ถ้าถามพี่ว่า ยากมั้ย ออกลึกมั้ย พี่ก็ตอบได้เลยว่า มีทั้งยาก ปานกลาง และง่าย แต่ไม่ออกเกินหลักสูตรแน่นอนจ้ะ ขึ้นอยู่กับว่าน้องเข้าใจ และจำได้มากน้อยแค่ไหนมากกว่า
สำหรับน้องๆที่เวลาอ่านไม่พอ พี่แนะนำให้อ่านครอบคลุมเนื้อหา แบบไม่ต้องเจาะรายละเอียดมารอบนึงก่อน (Scan น่ะแหละจ้ะ) แล้วค่อยกลับมาเก็บรายละเอียดทีหลัง ถ้ามีเวลานะจ๊ะ
ต่อไป วิชา ฟิสิกส์ จ้า. . .
ฟิสิกส์เป็นอะไรที่พี่ไม่ถนัดพอสมควรเลยแหละ (ตามประสาผู้หญิงส่วนใหญ่) แต่ตอนสอบ กสพท พี่ก็ทำได้ค่อนข้างเยอะทีเดียว
ฟิสิกส์ กสพท จะเน้น ความเข้าใจค่ะน้อง การทำโจทย์เท่านั้นที่จะช่วยน้องๆได้ เพราะการทำโจทย์ จะทำให้เรา จำสูตรได้ และใช้สูตรเป็น ที่สำคัญคือ รู้จัก link ประเด็นต่างๆในโจทย์ จ้ะน้อง
ส่วนตัวพี่ คือ พี่อ่านทำความเข้าใจ แล้วก็จำๆๆๆสูตร แล้วก็ฝึกกับโจทย์น่ะจ้ะ
แต่ตอนพี่อ่าน เวลาพี่ไม่พอ พี่เลยตัดเรื่องแสงทิ้ง เพราะเนื้อหาเยอะ พี่จำไปแต่สูตรสำคัญๆ ของแสง แล้วพอดีว่า กสพท ก็ไม่ออกสูตรที่พี่ไม่ได้จำด้วยน่ะสิ ... อิอิ
** วิชานี้พี่ไม่ค่อยสันทัด รอพี่ๆคนอื่นมาพูดเสริมละกันนะจ๊ะ
ต่อไป วิชา คณิตศาสตร์
วิชานี้พี่ไม่ถนัดสุดๆๆๆ เลย แถมได้คะแนนน้อยสุดในห้าวิชาที่สอบอีกต่างหาก
ส่วนตัวพี่เอง พี่ก็ทบทวนชีทเรียนพิเศษ แล้วก็ทำโจทย์อ่ะจ้ะ แต่อย่างที่พี่ๆคนอื่นๆพูดกันในกระทู้ก่อนหน้านี้ทั้งหลายคือ ข้อสอบเลขปีพี่ มันคนละแนวกับโจทย์เอ็นน่ะสิ
พี่ขอแนะนำให้น้องไปหาโจทย์แนวประยุกต์ แล้วก็ผสมเนื้อหานะจ๊ะ โจทย์แปลกๆ ยิ่งแปลกยิ่งดี มาลองทำเอาประสบการณ์จ้ะ
ต่อไป วิชาสุดท้าย สังคมและภาษาไทย จ้าา
พี่ก็ทำตามวิธีสุดฮิตที่ทุกคนนิยม คือพี่ไปเรียน Davance [Turbo] จ้ะ ขอบอกว่าช่วยมากเลย เพราะนิสัยพี่ตอนเรียนคือ สองวิชานี้ พี่หลับตลอด
แต่ก็ได้อาจารย์ปิงนี่แหละ มาช่วย เพราะแค่อ่านเล่มนี้แล้วจำได้หมด น้องก็ไม่ต้องห่วงแล้ว เพราะอาจารย์ปิงเก็งไว้ ตรงมากๆๆๆๆ (พี่อ่านก่อนสอบสองอาทิตย์ น้องๆคิดเอาเอง 555)
แต่ถ้าน้องคนไหนไม่สะดวก หรือว่าไม่อยากเรียนพิเศษ พี่ก็แนะนำให้อ่านเก็บๆไป นะจ๊ะ พี่จำได้ว่า ปีพี่ออกภูมิศาสตร์เยอะ ส่วนภาษาไทยก็ออกหลักภาษาเยอะอ่านะจ๊ะ
-------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องที่สาม ; นานาสาระพันจ้ะ
ในเรื่องนี้ ประเด็นแรกที่พี่จะเขียน คือ เรื่องของ "กำลังใจ" จ้ะน้อง
ตลอดเวลาที่พี่หมกมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือเป็นเวลา 1 ปี พี่ยอมรับเลยค่ะว่า มีหลายครั้งมาก ที่พี่ท้อ ท้อจนไม่อยากทำอะไรแล้ว
แต่สิ่งเดียวที่ทำให้พี่ลุกขึ้นมาสู้ต่อได้ คือ "พ่อแม่"
ถึงแม้ว่าพี่จะมาสอบเพราะพี่อยากเรียน
แต่สุดท้าย สิ่งที่ให้กำลังใจมากที่สุด ก็คือ พ่อแม่ค่ะน้อง
อันนี้มาจากประสบการณ์ส่วนตัวของพี่เอง แต่พี่ก็อยากให้น้องทราบไว้ จะได้ไม่ทำผิดอย่างพี่อีก คือ ตอนมอต้น พ่อแม่พี่คาดหวังให้พี่สอบเข้า รร ชื่อดัง รร หนึ่ง
แต่พี่กลับไม่สนใจ วันๆไม่ทำอะไร เอาแต่ดูทีวี เล่นเกม หนังสือหนังหาไม่ยอมอ่าน
ไปเรียนก็ไปนอน ชีทก็ไม่อ่าน
ผลลัพธ์ ... ก็คือ พี่สอบไม่ติด
ภาพในวันนั้น พี่ยังจำมันติดตาจนวันนี้ ภาพที่คุณพ่อของพี่ ผิดหวัง และคุณแม่ของพี่ ...ร้องไห้ ท่านไม่ด่า ไม่ว่าอะไรพี่ ได้แต่พูดว่าไม่เป็นไร แต่ภาพที่สะท้อนออกมา มันทำให้พี่รู้สึก เลว มาก ที่ทำให้พ่อแม่เป็นแบบนี้
มันเลยมาเป็นกำลังใจในการเรียนให้พี่ และการอ่านหนังสือค่ะน้อง ว่าพี่ไม่ยอมๆๆๆ จะให้เหตุการณ์นั้นกลับมาอีกเป็นอันขาด
แล้วในวันประกาศผล พี่ก็ติดอันดับแรกที่พี่เลือก พ่อแม่พี่ดีใจเป็นที่สุดค่ะน้อง เป็นวินาทีที่ปลาบปลื้ม และเป็นวินาทีแรก ที่พี่รุสึกว่า พี่ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่เป็นครั้งแรกในชีวิตจริงๆค่ะน้อง
ที่พี่เล่าๆมา ก็อยากให้เปนอุทาหรณ์สอนใจน้องๆนะคะ ทำอะไรเราต้องทำให้สำเร็จค่ะ ถึงไม่สำเร็จ แต่ถ้าเรารู้ว่าเราได้พยายามเต็มที่แล้ว ยังไงเราก็ไม่เสียใจแล้วล่ะค่ะ
ต่อไปก็ประเดนที่สองที่พี่บอกจะมาเขียน คือ Tips การอ่านหนังสือจ้า. . .
1. ((สำคัญมาก)) คือ Post-it ค่ะน้อง
ใช้ยังไง?? >> ก็คือ เวลาน้องอ่านเนื้อหาบทนึงจบ หรือหน้านึงจบ น้องก็เขียนสรุปลงไป (ห้ามดูนะ) เสร็จแล้วก็เอามาเช็คว่าเราเขียนตรงกับหนังสือไหม แล้วแปะไว้ หรือถ้าตรงไหน ที่น้องชอบเข้าใจผิด เป็นจุดอ่อน ก็เขียนตัวใหญ่ๆ แปะไว้เลย เวลาใกล้สอบ ก็ให้มาอ่านแต่ Post-it เราก็จะได้สรุป และ อุดจุดอ่อนของเราได้ด้วยไงล่ะคะ
สำคัญไฉน?? >> เป็นการ check ตัวเองค่ะน้อง พี่ว่าวิธีนี้ดีมากเลย เพราะมันทำให้เรารู้ว่าเราไม่ได้อ่านผ่านๆ แล้วก็เป็นการอุดจุดอ่อนของตัวเองด้วย
2. ปากกาสีค่ะน้อง
** สำคัญนะ คือ ที่พี่บอกปากกาสีน่ะ น้องไม่ต้องถึงขนาดซื้อมาเปนโหลๆนะ พี่เห็นมาแล้ว ไม่เห็นจะเป็นประโยชน์เลย แถมเวลาอ่าน ลายตาอีกต่างหาก ** ((หนังสือนะคะน้อง ไม่ใช่กระดาษวาดรูประบายสี))
ตัวพี่เอง พี่ซื้อมา ห้าแท่ง เอาสีที่มันต่างกัน แต่ไม่ตัดกัน แล้วก็ไม่แสบตานะคะน้อง ((ของพี่เองใช้ Zigg เพราะว่า มีสองหัว ใช้ขีดเส้นใต้ก็ได้ จดก็ดี แล้วแต่คนชอบค่ะ))
ทีนี้พี่ก็แบ่ง
สีแรก >> ตรงนี้แหละ ชั้นผิดประจำ ต้องอ่านนะๆๆๆ
สีที่สอง >> สรุปความจากย่อหน้านี้
สีที่สาม >> เพิ่มเติมจากอาจารย์ (ที่ไม่มีในหนังสือค่ะน้อง)
สีที่สี่ และห้า >> นอกเหนือจากสามสีแรก เช่น ตัวอย่างโจทย์ สูตร หรืออะไรก็ตามที่เราอยากจดค่ะ
สำคัญยังไง?? >> ปากกาสี จะช่วยทำให้น้องไม่ง่วงเวลาจดเรียนพิเศษ หรือนั่งอ่านสรุปค่ะ แล้วยังทำให้หนังสือดูน่าอ่านขึ้นด้วย ซ้ำยังทำให้การจดของน้องมีระเบียบ แยกได้ชัดเจนเปนหมวดหมู่จ้ะ
3. ลูกอม/หมากฝรั่ง เปรี้ยวๆ >> รู้ๆกันอยุ่ - - กันง่วงค่ะน้อง แต่บางทีพี่เหนื่อยมาก ก็หลับคาลูกอมเลยอ่ะ 5555+ บางทีพี่ก็ทานกาแฟนะ แต่แนะนำว่าถ้าเลี่ยงได้อย่าทานเลยค่ะ ไม่ดีๆ (พี่ทานแค่นิดเดียว ประมานว่าแย่งพ่อแม่ทานน่ะค่ะ )
*** Tips สำหรับน้องๆบางคนที่ (อาจ) จะเหมือนพี่ คือ อ่านยังไง๊ ยังไง ก็ง่วง ทำยังไงก็ง่วงนะ
ช่วงอ่านหนังสือของพี่ พี่จะมีอุปกรณ์นึงข้างตัวเสมอ
นั่นคือ Ipod ของพี่เอง 555+
บางคนอาจจะบอกว่า ฟังเพลงแล้วอ่านหนังสือไป แล้วไม่รู้เรื่อง
แต่สำหรับพี่ พี่จะฟังแต่เพลงที่มัน ไม่ Rock Retro อะไรแบบนั้นอ่ะน้อง (อันนั้นคงไม่ต้องอ่านแล้วค่ะ)
ส่วนใหญ่จะฟังเพลงใสๆ แล้วเปิดแบบ พอได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง เวลาพี่ง่วง พี่ก็จะมาตั้งใจฟังเพลงหน่อยนึง แล้วอ่านต่อ มันก็ทำให้พี่อ่านได้ 3-4 ชม non-stop เลยล่ะ
โดยเฉพาะ ถ้าน้องทำคู่กับ Post-it พี่ว่ายังไงๆ น้องก็ต้องได้อะไรจากหนังสือบ้างแล้วล่ะจ้า ***
ไปนอนละ ถ้านึกไรออกจะมาเพิ่มเติมให้นะจ้า
น้องคนไหนอยากให้พี่เขียนอะไร request ได้ แล้วจะนึกๆ สรรหามาให้นะ
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์แก่น้องๆ ทุกคนค่ะ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 มีนาคม 2553 / 00:11
81 ความคิดเห็น
กระทู้แบบนี้ต้อง โหวต โหวต โหวต!
เพิ่มเติมนะคะ พี่ขอโทษน้องๆนะคะ ที่ไม่ได้เอาพวกตัวอย่างโจทย์มาให้ชมกัน เพราะพี่ปลาทองอ่ะ จำไม่ได้แล้ว
ไว้พี่มีเวลาจะลากกระทู้เก่าๆ ขึ้นมาให้น้องๆดูนะคะ
หวัดดีครับ จขกท.
ผมกะลังจะขึ้นม.5 ปีนี้
กระทู้นี้ถือว่าดีมากสำหรับผม ปกตอเห็นอะไรยาวๆอย่างนี้จะไม่อ่านเลย
แต่กระทู้นี้อ่านจนจบแหะ อยาดถามว่าถ้าเราอยากเรียน เภสัชศาสตร์ เนี้ย
เกรดเราต้องเป็นยังไงครับ จำเป็นต้อง 4.00 ทุกเทอมป่าวครับ
ตอบด้วยนะ
เรื่องเกรด พี่ว่า มันแล้วแต่มาตรฐาน รร นะคะน้อง แต่ถ้าเกรดน้องอยู่ในระดับดี (3.6 up) พี่ว่าจุดๆในเกรด ก็คงไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่
แต่ยังไงพี่ว่าน้องควรจะทำเกรดให้ดีที่สุด คือไม่ต้องกดดันตัวเองมาก แต่ ก็ทำให้ดีที่สุดจ้ะ
ขอบคุณสำหรับบทความดีดีค่ะ
ขอบคุณจริงๆ --ตอนนี้กำลังใจกำลังเป็นสิ่งสำคัญ
รอแอดอยู่*
ท้อมากมายเลยคะ
แต่กำลังพยายาม
สงสารพ่อแม่ให้เราสอบตรงเยอะมากๆแต่ก็พลาดตลอด
/// อยากใส่ชุดขาว ผู้ช่วยคุณหมอค่า
^ ^
เกือบแล้วครับ
ม.4 เทอม 1 ได้แค่ 3.75 เองอ่ะครับ
รักจุฬามากมาย
ขอบคุณพี่มากก
ผมขึ้นม.6แหละครับบ
ผมจะทำตามที่พี่บอกกก
^^!! ผมสู้ตายๆๆครับบบ
พี่ว่าแต่ๆๆ อย่างเลขไม่ถนัดอะ แบบเห็นโจทย์แล้วทำต่อไมไ่ด้แบบเนี่ยทำไงดีอะครับพีๆๆ
ตอบน้อง คห 7 นะคะ คือว่า เลขพี่ก็ เข้าขั้น ห่วยแตก ค่ะ
ตอนเข้าห้องสอบ กสพท นี่ บอกตามตรงเลยว่า
เปิดไปสองหน้า พี่ทำไม่ได้ซักข้อค่ะน้อง ตกใจมาก
แต่ก็รวบรวมกำลังใจ พลิกไปทำจากข้างหลัง
มันก็มีบางข้อที่พี่ทำได้อ่าค่ะ บางข้อ ไม่ได้จริงๆ ก็เดาๆไป
แต่บางข้อที่ตอนแรกพี่ทำไม่ได้ แต่ตอนหลังก็ มาลอง แทนค่าดู หรือไม่ก็ คิดแบบ ถึกๆดู (ไหนๆเวลาก็เยอะแล้วนี่นา เนอะ)
มันก็ออกนะคะ
mintttttttttoooooooooooooo
อยากบอกน้องๆว่า วิธีเหล่านี้ได้ผล เพราะเห็นผลมากับตา
ไม่ใช่แค่คนสอบ กสพท. คนที่สอบอย่างอื่นก็เหมือนกัน
เพราะนี่คือวิธีของคนขยัน คนที่ตั้งใจ
อยากให้น้องๆเต็มที่กับมัน จะได้ไม่ต้องมาเสียใจ
ว่าทำไมเราไม่ทำอย่างนู้นอย่างนี้
มิ้นท์เป็นตัวอย่างที่ดี (นานๆทีชม55+) ขอบใจแกแทนน้องๆ ที่อุตส่าห์มานั่งพิมพ์ยาวเหยียด
ทั้งๆที่แกไม่เคยเขียนอะไรเท่าไหร่ 55
ปล. เรารอโอเน็ตด้วยความลุ้นๆๆๆ
PS. คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิต แค่ไหน....
^
^
เห็นด้วยกะคนข้างบน ฮ่าๆ
เราก็เป็นอีกคนที่สอบปีนี้ค่ะ
อันนี้ฟังมาจากเพื่อนที่ไปสอบหมอนะคะ
สำหรับโจทย์เลขถ้าอยากฝึกทำ
ให้เอาโจทย์พวกสมาคมคณิตศาสตร์มาลองทำดูค่ะ
เพราะพวกเนี้ย เขาจะเป็นแนววิเคราะห์จริงๆ แล้วก็ยากมากด้วย ไม่ค่อยเหมือนพวกโจทย์เอ้น
คือเขาจะเชื่อมโยงเลขบทต่างๆมาออกให้มัน สุโค่ยมาก เน้นเข้าใจค่ะ
(อันนี้เราเคยไปสอบมาละ เห็นข้อสอบแล้วช็อก )
หวังว่าจะชี้ทางได้บ้าง สู้ๆนะคะน้องๆ เหนื่อยวันนี้ดีกว่าเสียใจวันหน้า
น้องเป็นคนดีมากนะค่ะ ขอให้ประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง
กระทู้ดีค่ะ ต้องโหวต
จะขึ้นม.6 แล้วแต่ยังไม่ลงมือทำอะไรเลย
เจอกระทู้นี้เข้า ช่วยให้สำนึกได้เลยค่ะ ว่าถึงเวลาอ่านหนังสือแล้ว
ขอบคุณมากมายค่ะ ^^
เพิ่มเติมจากตัวพี่เองนะ
ถ้าน้องๆเก่งหรือถนัดวิชาอะไรให้เน้นเป็นพิเศษ
อย่าเป็นอย่างพี่ที่ได้50นิดๆทุกวิชาแล้วไม่ติด
T T
เป็นกำลังใจให้ทุกคนจร้าาา
^^
น้องๆอย่างงไป คห เก้า กะสิบ เปนเพื่อนสนิทพี่เอง แหม่ๆๆๆ ตามมาถึงนี่นะงงง
เพิ่มเติมให้มิ้นท์แล้วกัน
จะเล่าเรื่องตอนสอบโอเน็ต
เช้าวันนั้น วันสอบสังคม
แบบ ทุกคนก็ถามๆกัน ตรงที่ไม่เข้าใจ ไม่แม่น หรือเก็งไว้
เชื่อไหม ออกมา ตรงเป๊ะๆที่พูดกัน ตั้งหลายข้อ
เพราะฉะนั้น อย่ามัวแต่อ่านคนเดียว
เพราะบางครั้ง เพื่อนก็เห็นจุดที่เราข้ามไปนะคะ
PS. คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิต แค่ไหน....
ด่วนนนนนน!!!!!
สาธิตการผ่าอาจารย์ใหญ่
ไม่ต้องง้อวันวิทย์ ไม่ต้องคอยตามติดโอเพ่นเฮาส์ เราผ่าให้ดูกันถึงในบ้าน...
DvD Anatomy For Beginners
การเรียนการสอนจากประเทศเยอรมัน สาธิตจากการผ่าศพจริงตั้งแต่ต้นจนจบ บรรยายเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ต้องกลัวฟังไม่ทัน เรามีเนื้อหาที่บรรยายเป็นไฟล์ให้ด้วย...เรียนรู้ไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทุกระบบ เวลาในการสาธิตประมาณ 250 นาที เหมาะสำหรับนักศึกษาแพทย์,นักศึกษาพยาบาล,เทคนิคการแพทย์,กายภาพบำบัด เภสัช ทันตแพทย์  สาธารณสุขและนักศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพทุกสาขา และนักเรียนผู้สนใจศึกษาสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ หรือเพื่อประกอบการตัดสินใจเข้าศึกษาในคณะแพทย์ศาสตร์ทุกสาขา...(วัดใจก่อนเรียน...)
1 ชุด 1 แผ่น ราคา 250 บาท
จัดส่งถึงบ้าน
สนใจติดต่อทางอีเมล หรือเอ็มเอสเอ็นมาคุยกันได้
หรือทิ้งเบอร์โทรกลับไว้ในอีเมล
imedshop@gmail.com  (จีเมลนะครับ สำคัญมาก!!)
ขอให้ติดคณะที่ชอบน๊าาาาา
รอโอกาสดีๆ ของเราบ้าง
ยินดีต้อนรับ N'Mint สู่การเป็นทันตแพทย์ที่ดีในอนาคตนะครับ
แงะ
โคดขยันอ่า
อย่างเราคงทำไม่ได้อ่า
ขี้เกียจขนาดนี้
555+
แต่น้องๆก้อขยันๆเข้านะคับ
อนาคตรออยู่1
เริ่มต้นทำแบบแก
ปีหน้า กสพท. รอเราอยู่
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?