Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

“ลบเหลี่ยมไอน์สไตน์” หนังสือที่จะทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองช่างรู้น้อยเหลือเกิน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เมื่อวานซื้อหนังสือมาเล่มนึง อ่านแล้วรู้สึกว่ามันสุดยอดมาก ชื่อหนังสือว่า “ลบเหลี่ยมไอน์สไตน์” แปลมาจากหนังสือขายจดีชื่อ The Book of General Ignorance เป็นหนังสือที่รวบรวมคำถามที่พวกเราส่วนใหญ่คิดว่ารู้คำตอบอยู่แล้ว แต่พอเฉลยออกมาถึงกับผงะ เมื่อรู้ว่าตัวเองตอบคำถามส่วนใหญ่ผิดเกือบหมด

ผมอ่านเล่มนี้รวดเดียวจบเมื่อคืน แล้วมานับคร่าว ๆ ดู ปรากฏว่าผมตอบผิดไปเกือบ 90%

คำถามบางส่วนที่ผมตอบผิด (บางก็ข้อก็ไม่รู้คำตอบ) เช่น

- ภูเขาที่มีความสูงมากที่สุดในโลกมีชื่อว่าอะไร

- สถานที่ใดแห้งแล้งที่สุดในโลก

- สิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคืออะไร

- สัตว์ชนิดใดมีความจำแค่ 3 วินาที

- สิ่งประดิษฐ์ใดจากฝีมือมนุษย์ที่มองเห็นได้จากดวงจันทร์

- สถานที่หนาวที่สุดในจักรวาลอยู่ที่ไหน

- สิ่งประดิษฐ์ใดของเอดิสันที่คนที่พูดภาษาอังกฤษใช้เป็นประจำทุกวัน

- ดนตรีประเภทใดล่อใจงูได้มากที่สุด

- จะจับแมวโยนลงมาจากชั้นใดของตึกจึงจะปลอดภัยที่สุด

- มนุษย์เราใช้สมองของเรามากแค่ไหน

- สิ่งมีชีวิตชนิดใดมีแนวโน้มที่จะรอดชีวิตจากสงครามนิวเคลียร์มากที่สุด

- อะไรเสียงดังที่สุดในมหาสมุทร

ป.ล.  งานวิจัยระบุว่าแมลงสาบเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดแรก ๆ ที่จะตายเมื่อมีสงครามนิวเคลียร์!!!

ในคำนำเขียนไว้ว่า “ถ้าคุณยังคิดว่าเอเวอร์เรสต์คือภูเขาที่มีความสูงที่สุดในโลก โลกมีดวงจันทร์ 1 ดวง มนุษย์มีรูจมูก 2 รู และกำแพงเมืองจีนเป็นสิ่งก่อสร้างบนโลกเพียงอย่างเดียวที่มองเห็นได้จากดวงจันทร์แล้วล่ะก็...คุณจำเป็นต้องรีบอ่านหนังสือเล่มนี้โดยด่วนที่สุด”

อ่านจบแล้วก็ไม่วายเห็นด้วยครับ หนังสือเล่มนี้อ่านสนุก น่าสนใจ ข้อมูลแน่นปึก ใครที่สนใจหนังสือแนวนี้ลองไปพลิกอ่านตามร้านได้นะครับ

แสดงความคิดเห็น

>

16 ความคิดเห็น

lindstrom 13 พ.ค. 53 เวลา 11:35 น. 4

ลองดูสักข้อนะ...

ดนตรีประเภทใดล่อใจงูได้มากที่สุด?

เฉลย


งูเกือบทุกตัวไม่สนใจเครื่องดนตรี!!!



งูเห่าในการแสดงมนต์เพลงปี่นั้นตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของปี่ ไม่ใช่เสียง

จริง ๆ แล้วงูไม่ได้ “ยิน” เสียงดนตรี ถึงแม้พวกมันจะไม่ได้หูหนวกก็ตาม พวกมันไม่มีหูภายนอกหรือเยื่อแก้วหู แต่สามารถสัมผัสแรงสั่นสะเทือนที่ส่งผ่านจากพื้นดินเข้าสู่ขากรรไกรและกล้ามเนื้อช่วงท้องได้ และดูเหมือนพวกมันยังสามารถตรวจจับเสียงที่ล่องลอยผ่านอากาศโดยใช้ “หูภายใน” ได้


เคยเชื่อกันว่างูไม่สามารถได้ยินอะไรเลย เพราะพวกมันไม่ตอบสนองต่อเสียงดัง แต่งานวิจัยที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันได้แสดงให้เห็นว่า พวกมันตอบสนองต่อเสียงได้เป็นอย่างดี

การค้นพบที่ไขข้อสงสัยคือการค้นพบว่าหูภายในของงูทำงานอย่างไร โดยงูจะถูกจับต่อกับเครื่องวัดแรงดันไฟฟ้าและวัดว่าเสียงที่ลอยผ่านทางอากาศมามีผลกระทบต่อสมองของมันอย่างไร ปรากฏว่าการรับฟังของมัน 
“ปรับ” เข้ากับเสียงที่มีความถี่ต่ำ ๆ และแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของสัตว์ขนาดใหญ่ได้ ดังนั้น เสียงเพลงจึงไร้ความหมายสำหรับพวกมัน

งูเห่า “ต้องมนต์” จะชูตัวตรงขึ้นเมื่อถูกคุกคาม และจะส่ายตัวไปมาเพื่อตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของเครื่องดนตรี ถ้าพุ่งฉกเข้าที่ปี่ พวกมันก็จะเจ็บตัวเสียเอง ดังนั้น พวกมันจึงไม่ทำผิดพลาดซ้ำอีก


งูเห่าส่วนใหญ่จะถูกถอดเขี้ยวออก และพวกมันก็จู่โจมได้ไกลเท่ากับช่วงลำตัวของมัน เหมือนกับเวลาที่คุณวางข้อศอกไว้บนโต๊ะและทำท่าฉกไปข้างหน้านั่นแหละ


โดยธรรมชาติแล้ว งูเห่านั้นไม่ได้มีนิสัยดุร้าย แต่จะจู่โจมเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น

ประมาณนี้อะครับ!!!

0
lindstrom 14 พ.ค. 53 เวลา 18:12 น. 6

แวะมาเฉลยเพิ่มนะครับ

จะจับแมวโยนลงมาจากชั้นใดของตึกจึงจะปลอดภัยที่สุด?

เฉลย


ชั้นไหนก็ได้ที่อยู่สูงขึ้นไปกว่าชั้นที่ 7!!


ไม่สำคัญว่าระยะทางที่สูงกว่าชั้น 7 จะไกลแค่ไหน ตราบใดที่ยังมีออกซิเจนพอ แมวก็จะเอาตัวรอดได้


แมวก็เหมือนกับสัตว์ขนาดเล็กอีกหลายชนิดซึ่งมีความเร็วปลาย (
terminal velocity) ที่ไม่ทำให้ตาย (สำหรับแมวจะอยู่ที่ประมาณ 97 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อพวกมันเริ่มผ่อนคลาย ก็จะจัดระเบียบร่างกาย ยืดตัวออก และร่อนลงสู่พื้นแบบเดียวกับกระรอก


ความเร็วปลายคือจุดที่น้ำหนักของร่างกายเท่ากับแรงต้านอากาศ และความเร็วจะไม่เพิ่มขึ้นอีกต่อไป
 


ได้มีการบันทึกไว้ว่า มีแมวหลายตัวที่ตกจากตึกสูง 30 ชั้นหรือมากกว่านั้นโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย
 โดยมีตัวหนึ่งที่รอดชีวิตจากการตกตึกสูง 46 ชั้น! และยังมีหลักฐานอีกด้วยว่า  มีแมวตัวหนึ่งถูกโยนออกมาจากเครื่องบินเซสน่าที่ระดับความสูง 243 เมตรแล้วรอดชีวิต!


บทความฉบับหนึ่งในวารสารสัตวแพทยสมาคมแห่งสหรัฐอเมริกาในปี 1987 ได้ศึกษากรณีที่มีแมวตกจากหน้าต่างตึกสูงในนิวยอร์กจำนวน 132 ครั้ง โดยเฉลี่ยแล้วพวกมันจะตกจากชั้นที่ 5.5 และมีถึง 90 เปอร์เซ็นต์ที่รอดชีวิต ถึงแม้ส่วนใหญ่จะบาดเจ็บสาหัสก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวยังแสดงให้เห็นอีกด้วยว่า เหนือชั้นที่ 7 ขึ้นไป อัตราการบาดเจ็บของแมวจะลดลงอย่างฮวบฮาบ พูดอีกอย่างก็คือ ยิ่งแมวตกลงมาจากตึกสูงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสรอดมากเท่านั้น


ส่วนมนุษย์ที่ตกจากที่สูงแล้วรอดชีวิตที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ เวสน่า วูโลวิช ซึ่งตกลงมาจากระดับความสูง
10,600 เมตร เมื่อผู้ก่อการร้ายทำลายเครื่องบินของสายการบินยูโกสลาเวีย เที่ยวบินที่ ดีซี-10 ที่เธอประจำอยู่ในปี 1972 และจ่าอากาศนิโคลัส อัลเคเมด ซึ่งกระโดดลงมาจากเครื่องบินทิ้งระเบิดของกองทัพอากาศสหรัฐที่กำลังลุกไหม้ในปี 1944 ที่ความสูง 5,791 เมตร


ถึงแม้วูโลวิชจะขาหักทั้ง 2 ข้าง และได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง แต่เธอก็รอดชีวิต อันที่จริงแล้ว เธอปลอดภัยเพราะเก้าอี้ที่เธอนั่งและห้องน้ำที่อยู่ติดกันรับแรงกระแทกที่เกิดขึ้นไป


ส่วนอัลเคเมดแทบไม่เป็นอะไรเลย เพราะตกลงบนต้นสนและไถลลื่นไปตามหิมะ หลังจากตกถึงพื้นแล้ว เขาก็นั่งอยู่ที่หิมะนั่นแหละ แถมยังสูบบุหรี่สบายใจเฉิบอีกด้วย




ลองไปอ่านดูเพิ่มตามร้านนะครับ มันสุดยอดมาก ๆ เล่มนี้

0
iรักนะ 29 มิ.ย. 53 เวลา 17:16 น. 8

อยากอ่านจังเลยหนังสือเล่มนี้อ่ะ&nbsp น่าสนใจมากอ่ะ
ช่วยยกตัวอย่างมาให้อ่านได้
เราอยู่ที่น่านอ่ะนะ
เราไม่รู้จาไปซื้อที่ไหนอ่ะ
ทำไงดี
อยากอ่านจัง

0
คนเคยอ่าน 24 ม.ค. 54 เวลา 11:23 น. 10
อ่านได้ครึ่งเล่มแล้วปรากดว่าคนสามารถทนรังสีได้น้อยกว่าแมลงสาบประมาณ640เท่าแต่แบคทีเรียไรไม่รู้อยู่ทนรังสีได้15-16ล้านแรดคนทนได้1000แรดมันหน้าตกใจมาก
คำถามสัตว์ชนิดใดมีแนวโน้มว่าจะรอดจากสงครามนิวเครียร์มากที่สุด
0
เปม 22 ต.ค. 54 เวลา 19:02 น. 13

อ่านแล้วครับตอบถูกประมาณ40% - -
มันจะมีสัญลักษณ์ประจำคำถามด้วยโดยมีดังนี้
1.เหงื่อแตก&nbsp &nbsp  ถ้าตอบอันนี้ได้ไม่ถึงครึ่งแสดงว่ายังมีความรู้เท่าบุคคลทั่วไปอยู่
2.ปวดตับ&nbsp &nbsp &nbsp  โดยอันนี้จะยากขึ้นและถ้าตอบถูกเกินครึ่งคุณคือคนที่มีความรู้มากกว่าบุคคลทั่วไปมากโขเลย
3.หัวจะระเบิด&nbsp  อันนี้ถ้าตอบถูกเกินครึ่งคุณเข้าข่ายอัจฉริยะแล้วครับ
รู้สึกมามีเล่ม2ด้วยนะ

0
i-am no name 3 มี.ค. 55 เวลา 12:41 น. 14

ถ้าอยากรู้&nbsp ต้องอ่านเอาเอง
ซีเอ็ด บุ๊ค มีขายครับ
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp 
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ด้วยความหวังดี
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp 

0
Mookkuk 25 มี.ค. 55 เวลา 16:50 น. 15

 เคยอ่านมานิดหน่อยค่ะ อ่านแรกๆก็ไม่ได้สนใจรายละเอียดมาก
แต่พอไปเจอคำถามที่เราคิดว่า ที่เรารู้มาอ่ะถูกแล้ว แต่พออ่านๆไป

" มันไม่ใช่เลย "
แบบว่าอ่านจนเพลิดค่ะ แต่น่าเีสียดายไม่ได้ซื้อมา

เดี๋ยวจะไปล่าให้ครบ 3 เล่มเลย ฮิฮิ ><


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 25 มีนาคม 2555 / 16:50

PS.  ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ
0
Railgun Biri Biri 18 มี.ค. 56 เวลา 14:42 น. 16

ซื้อครบสามเล่มแล้วค่าาาาาาาาาาาา
เย้ๆๆๆ

ตัวหนังสือมันดูน่าเบื่อไปนิสนึงแต่ก็อ่านจบเล่มแล้ว

0