Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

(อยากให้อ่านกันเยอะๆ) การขริบอวัยวะเพศสตรี !!!!!!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ยาวไปหน่อยนะคะ

ข้อความต้นฉบับคัดลอก มาจากบทความของ “คุณดำรง พุฒตาล”
“คู่สร้าง คู่สม” ปีที่23 ฉบับที่415 เมษายน ปักษ์แรก 2545
..........................

คุณซาโลยาบอกกับคุณ หมอมาลินีว่า พ่อของเธอเป็นอดีตเอกอัครราชทูตโซมาเลีย เรียกได้ว่าเป็นลูกของบุคคลชั้นนำของประเทศที่ได้รับการศึกษาสูง และทันสมัยที่สุด แต่เธอก็ยังต้องเข้าสุหนัด เพื่อตัดขลิบอวัยวะเพศตามประเพณี
เมื่อตอนอายุ 13 ขวบ ขณะย่างเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์

เนื่องจากโซมาเลียมีชาวพื้นเมืองอยู่ หลายเผ่า บางเผ่าจึงให้เด็กผู้หญิงเข้าสุหนัดตั้งแต่อายุ 6 ขวบ การเข้าสุหนัด มีหลายระดับ สุดแต่ประเพณีของท้องถิ่น หรือตามความประสงค์ของพ่อแม่ที่ไม่เหมือนกัน สุดแล้วแต่ว่า จะสงสารลูกสาวของตนแค่ไหน

ระดับที่ 1 ตัดเฉพาะคลิตอริส
ระดับ ที่ 2 ตัดคลิตอริส กับแคมเล็ก หรือแคมใน
ระดับที่ 3 ตัดทั้งคลิตอริส แคมเล็ก และแคมใหญ่
ระดับที่ 4 นอกจากตัดแล้ว ยังเย็บปิดช่องคลอดบางส่วนด้วย

คุณซาโลยา ผู้แทนจากโซมาเลีย จึงเอามาเปิดเผยในที่ประชุมให้รู้ว่า เหตุการณ์แบบนี้ยังคงมีอยู่ และอยากให้สหประชาชาติได้ช่วย อย่าให้เกิดขึ้นอีกเลย เหตุผลการเข้าสุหนัดของผู้หญิงชาวโซมาเลียถือว่า ผู้หญิงคือสมบัติของผู้ชาย ผู้หญิงมิบังควรรู้รสชาติของการมีเพศสัมพันธ์ และไม่ต้องการให้เกิดความต้องการทางเพศ จนต้องสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง จึงตัดต้นตอจุดที่ทางแพทย์ถือว่าไวต่อความรู้สึกทางเพศมาก ๆนั้นเสียเลย

วิธี การตัดนั้นก็แสนจะทารุณ เพราะเฉือน ออกแบบสด ๆด้วยมีดโกน สมัยก่อนเคยใช้คมไม้ไผ่ด้วยซ้ำ พอถูกตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว พ่อแม่จึงจะถือว่าลูกสาวสะอาดบริสุทธิ์ เป็นคนดีมีคุณค่า พร้อมที่จะมีสามีได้

ข้อสำคัญ ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็จะไม่มีผู้ชายอยากแต่งงานด้วย เพราะไม่แน่ใจว่าจะเป็นผู้หญิงที่สะอาดบริสุทธิ์ไร้มลทินหรือไม่

วาริส ดีรี นางแบบสาวชาวโซมาเลีย เล่าไว้ในหนังสือชีวประวัติของเธอ ชื่อ Desert Flower วาริส -ดอกไม้ทะเลทราย

วาริส ดีรี เป็นเด็กมุสลิมผิวดำชาวแอฟริกัน รูปร่างผอมสูง ครอบครัวยากจนเร่ร่อนอยู่ในทะเลทรายอันร้อนระอุ และแห้งแล้งของประเทศโซมาเลีย เธอเป็นลูกสาวชาวบ้านที่เติบโตมาในสังคมปศุสัตว์ เร่ร่อนหาแหล่งอาหารกันตลอด

เมื่อเด็กหญิงวาริส อายุได้ 13 ขวบ พ่อของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับผู้ชายแก่ เธอตัดสินใจหนีออกจากเผ่า วิ่งฝ่าป่าและทะเลทราย รอดชีวิตจากสิงโตและการถูกข่มขืนอย่างหวุดหวิด ผ่านชีวิตที่ตกระกำลำบากอย่างแสนสาหัส กว่าชะตาและโชคจะเล่นตลกให้เธอได้ไปเป็นคนใช้ที่ทำเนียบฑูตโซมาเลีย ประจำลอนดอน และได้ผันตัวเองไปเป็นนางแบบมุสลิมแอฟริกันมีชื่อเสียงที่สุดของโซมาเลีย ต้องบินไปแสดงแบบเสื้อผ้ายี่ห้อดังๆ ระหว่างลอนดอน นิวยอร์ค อยู่เสมอ ๆ

ทำ ให้เธอได้มีโอกาสให้สัมภาษณ์เปิดเผยเรื่อง “ของลับ” ของเธอให้กับนิตยสาร “มารี แคลร์” นั่นแหละ โลกจึงได้รับรู้...






ขั้นตอนการเข้าสุหนัดนั้นไม่มีพิธี รีตรองอะไรมาก เรียบง่าย แต่เลือดเย็น จะเตรียมการบ้างก็คือ เงินค่าจ้างหมอตำแย หรือหมอผี กับให้กินน้ำนมแต่น้อยในคืนก่อนเข้าพิธีสุหนัด เพื่อจะได้ไม่ต้องปวดปัสสาวะมาก

พิธีเริ่มในตอนเช้าตรู่ สถานที่คือลานกลางดิน ตรงไหนก็ได้ที่ห่างไกลจากหมู่บ้าน พอที่คนในหมู่บ้านจะไม่ได้ยินเด็กร้องอย่างเจ็บปวดตอนทำพิธี คนเป็นแม่ จะใช้รากไม้กำมือหนึ่งใส่ปากให้ลูกสาวกัดไว้ จะได้ไม่ร้องเวลาเจ็บ บางคนเอาผ้าผูกตาลูกสาวไว้ด้วย เครื่องมือที่ใช้เฉือนมีทั้งคมไผ่ มีดธรรมดา หรือใบมีดโกน

สำหรับวาริส เธอบอกว่า ถูกกรีดและตัดชิ้นเนื้อส่วนสำคัญยิ่งของลูกผู้หญิงด้วยใบมีดโกนหักๆ มีคราบเลือดของใครบ้างก็ไม่รู้ติดอยู่ เมื่อพร้อมแล้ว แม่จะเข้าไปกอดลูกทางด้านหลังกดหัวลูกแนบไว้กับอก เท้า ๒ ข้างยื่นออกไปข้างหน้า ถัดและถ่างขาของลูกให้เปิดกว้าง เพื่อให้หมอตำแยยิปซีทำงานได้อย่างสะดวก

แม่หมอจะไม่ใช้ยาฉีด ยาชา อะไรทั้งสิ้น แต่จะเฉือนลงไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ เฉือนกันสด ๆ

ใน ขณะที่กล้ามเนื้อทุกส่วนของเด็กหญิงสั่นระริกด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับเสียงร้องที่เล็ดลอดออกมาจากรากไม้ในปาก ส่วนใหญ่แล้ว จะสลบไปในไม่กี่นาทีถัดไป

ใครที่เข้าพิธีแค่ระดับ ๑ จะพอค่อยยังชั่วหน่อย บาดแผลไม่มากนัก เจ็บประเดี๋ยวเดียวก็แห้งหายไปเอง แต่ที่ต้องทำระดับ ๔ อย่างที่วาริสเจอ มันเจ็บจนร่างกายรับไม่ไหว เพราะพอเฉือนทั้งบริเวณคลิตอริส แคมใน และแคมนอกออกหมดแล้ว

ขั้นตอนต่อไปคือ ใช้หนามจากต้นอะคาเซีย ซึ่งทั้งแหลมและแข็งแทนเข็ม แทงเข้าไปข้างแผลทั้งสองด้าน แล้วสอดด้ายตาม เย็บแคมสองข้างให้เข้ามาติดกัน เหลือแค่ช่องเล็ก ๆ ให้ปัสสาวะ และประจำเดือนพอไหลออกมาได้เท่านั้น เย็บแผลเสร็จ

ขั้นต่อไป คือใช้แถบผ้ายาว ๆ มัดตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงสะโพกไม่ให้ขาแยกออกจากกัน ทิ้งไว้ 2-3 สัปดาห์ จนกว่าแผลจะหาย จึงค่อยแก้ออก

การทำสุหนัดแบบพื้นเมือง ที่ไม่ใช้เครื่องมือทางการแพทย์นี้ ทำให้เด็กหญิงชาวพื้นเมืองที่เข้าพิธี ต้องเสียชีวิตเพราะแผลติดเชื้อเป็นจำนวนไม่น้อย ส่วนผู้ที่รอดมาได้ อวัยวะเพศของเธอก็ต้องผิดรูปจนเห็นได้ชัดเจน





ปล.ถ้าซ้ำก็ขออภัยค่ะ

ปล.2  ต่อความเห็นที่1 นะคะ



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 29 พฤษภาคม 2553 / 22:06
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 29 พฤษภาคม 2553 / 22:31

PS.  ความเห็นส่วนตัวนะ ห้ามโกด 55

แสดงความคิดเห็น

>

124 ความคิดเห็น

McQueen 29 พ.ค. 53 เวลา 21:59 น. 1

วาริส อดีตนางแบบชื่อดังรุ่นเดียวกับนาโอมิ แคมเบล เล่าว่า เธอเคยเปิดให้เพื่อนนางแบบด้วยกันดูที่ลอนดอน เธอคนนั้นต้องเบือนหน้าหนี และร้องไห้โฮ น้ำตาร่วงพรูทันที

เพื่อนคนนั้นเองที่ขอร้องกึ่งบังคับ จนสามารถพาเธอเข้าโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ผ่าตัดแก้ไข รอยเข็มของหมอตำแยเมื่อ ๑๐ กว่าปีก่อนโน้น

ก่อนหน้านี้ เวลามีประจำเดือนแต่ละครั้งจะทรมานมาก บางคนปวดจนเป็นลม เพราะเลือดที่เสียออกไม่สะดวก ปัสสาวะแต่ละครั้งก็แสนจะทารุณ เพราะเหมือนค่อย ๆเล็ดออกมาทีละหยด เพราะรูที่เปิดไว้เล็กมาก

เรื่องความรู้สึกทางเพศนั้นเลิกพูดได้เลย พอ ๒-๓ สัปดาห์ต่อมา เมื่อแผลหายดีแล้ว วาริสบอกว่า เธอมีความสุขที่สุดที่ได้นั่งส้วมแล้ว “ฉี่” พุ่งออกมาอย่างรุนแรง และปลอดโปร่งเป็นครั้งแรก หลังจากเข้าพิธี

ปัจจุบัน วาริส ดีรี แต่งงานแล้ว และมีลูก ๑ คน เธอบอกว่า ถ้าไม่ให้แพทย์ผ่าตัดแก้ไข คงลำบากมากที่จะมีลูก เพราะช่องคลอดที่หมอตำแยยิปซีคนนั้นตัดและเย็บไว้ มีรูนิดเดียวพอให้ร่วมเพศได้เท่านั้น แต่ไม่ใหญ่หรือกว้างพอที่จะคลอดลูกได้

วาริสตัดสินใจให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร “มาร แคลร์” เพื่อเปิดเผยให้โลกได้รับรู้ว่า การเข้าสุหนัดนั้น สร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้หญิงแค่ไหน และปัจจุบันนี้ ก็ยังมีการยึดถือปฏิบัติกันอยู่

เมื่อนิตยสารฉบับดังกล่าวออกวาง ตลาด ปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากผู้อ่านมาก และได้เรียกร้องไปยังองค์การสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ ให้หาทางยุติประเพณีดังกล่าว ให้สิทธิผู้หญิงให้ได้รับความสุขทางเพศเท่ากับผู้ชาย และบอกว่า

” ผู้หญิงก็ควรมีสิทธิในอวัยวะทั้งปวงของตนเอง ตามที่มีมาแต่กำเนิดเหมือนกับผู้ชายเหมือนกัน”

ข้อมูลจากองค์การสห ประชาชาติบอกว่า ในโลกนี้มีเด็กผู้หญิงถูกจับเข้าพิธีสุหนัดแล้วถึง 130 ล้านคน แต่ละปีจึงมีผู้หญิงถูกตัดอวัยวะเพศประมาณ 2 ล้านคน หรือวันละประมาณ 6,000 คน เลยทีเดียว

และประเทศที่เด็กผู้หญิงถูกบังคับเข้าสุหนัด แบบระดับ 4 นั้น80% เกิดขึ้นในโซมาเลีย ที่แปลกไปกว่านั้น คือ ปัจจุบันเด็กผู้หญิงเชื้อสายแอฟริกันในรัฐนิวยอร์ค ได้ผ่านการเข้าสุหนัดมาแล้วถึงประมาณ 27,000 คน

วัฒนธรรมอัฟริกันในการตัดอวัยวะเพศหญิงที่สืบทอดต่อกันมาถึง 4,000 ปีแล้ว หลายคนเข้าใจผิดว่า นี่คือข้อกำหนดของศาสนาอิสลาม
แต่ที่ จริงแล้วไม่ใช่เลย ไม่ได้มีการระบุไว้ในคัมภีร์กุรอ่าน หรือไบเบิลแต่ประการใดด้วย

มันเป็นเพียงประเพณีที่ผู้ชายกำหนดขึ้น ด้วยความโง่เขลาเห็นแก่ตัวเท่านั้นเอง เพื่อที่จะสามารถถือสิทธิ์ในตัวผู้หญิงได้อย่างเต็มที่ และเสพสุขจากเรือนร่างของเธอ ตามความพอใจของตนฝ่ายเดียว!!!!!!!

ต้อง ขอบคุณวาริส ดีรี ที่กล้านำเรื่องนี้ออกมาเปิดเผย ถ้าต้องการทราบรายละเอียดที่มากกว่านี้ ก็ไปหาซื้อหนังสือย้อนหลัง ที่มีบทความนี้ลงได้.

PS.  ความเห็นส่วนตัวนะ ห้ามโกด 55
0
Stoker 29 พ.ค. 53 เวลา 22:19 น. 2

น่ากลัวมากกกกกกกกก

โหดร้ายจริงๆ


PS.  หัวใจเราฝากเคียงไว้อยู่คู่บางแสน...ลมเย็นๆแดดจ้าๆแห่งบูรพาวิถี
0
ตุ๊กตาผี 29 พ.ค. 53 เวลา 22:20 น. 3

น่ากลัว

ดีจังที่ไม่ได้เกิดที่นั้น

บรรยายซะเห็นภาพเลย

ขนลุก ตัดเลยหรอเนี่ย ช่างโหดร้าย เลือดเย็น

ไปเราเราสลบช็อคหัวใจวายตั้งแต่เห็นมีดโกนแล้ว

0
- -* 29 พ.ค. 53 เวลา 23:29 น. 8

ฟังโน๊ตอุดมเล่าตอนโดนสุหนัดแล้วฮา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp แต่พอมาอ่านอันนี้รู้สึกสยองพิลึก - -*

0
ลูกหมู 29 พ.ค. 53 เวลา 23:49 น. 11

อย่าไปมองไกลถึงประเทศทางแอฟริกาเลย คุณรู้หรือไม่ว่า
ทุกวันนี้ในจังหวัดทางใต้ของเราที่เป็นมุสลิมก็ยังมีพิธีนี้อยู่ แม้จะเหลืออยู่ไม่มากแล้วก็ตาม
ขณะที่เพื่อนบ้านใกล้ๆกันอย่าง อินโดนีเซีย และ มาเลเซียก็ยังมีพิธีนี้อยู่ และทำกันอย่างเปิดเผย
ถ้าคุณต้องการรู้ข้อมูลเรื่องนี้เพิ่มเติม&nbsp ให้เข้าไปยังกูเกิ้ลและเซิทคำว่า FGM แล้วคุณจะพบข้อมูลที่น่าตกใจ

0
Mafia_jia 30 พ.ค. 53 เวลา 01:30 น. 12

อ่านแล้วแบบเห็นภาพเลยอ่ะ
กลัวมาก มือไม้อ่อนแล้วเนี่ย
เรายิ่งเป็นคนแพ้เรื่องพวกนี้อยู่ด้วย TT

โอ้ยย แล้วจะอ่านทำไมวะฉัน 5555

0
โมมมี่ 30 พ.ค. 53 เวลา 03:09 น. 14

ถึงความเห็น 1

เธอไม่ได้เปิดให้เพื่อนนางแบบเธอดู แต่ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่ช่วยเธอตั้งแต่เธอออกจากบ้านที่เป็นเด็กรับใช้

ไม่รุ้นะถ้าจำไม่ผิด ดูมาหลายเดือนแล้ว เหอๆ

0
ลูกอมมายเฟีย'บ่ายสอง 30 พ.ค. 53 เวลา 13:34 น. 16

น่ากลัวอ่ะ เห็นภาพพ

ฝากๆกระทู้

1.พี่ไทม์ หนุ่มหน้าหวาน =D

http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1803572

2.น้องมายสาวน้อยยิ้มสวยย =D

http://dek-d.com/board/view.php?id=1803378

3.ยังจำกันได้ไหม เจน ฝันหวานอายจูบ :D

http://dek-d.com/board/view.php?id=1801959

4.พี่นิว G-TWENTY น่ารัก ๆ

http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1801213

0
บิว 30 พ.ค. 53 เวลา 14:47 น. 18

"วัฒนธรรมอัฟริกันในการตัดอวัยวะเพศหญิงที่สืบทอดต่อกันมาถึง 4,000 ปีแล้ว หลายคนเข้าใจผิดว่า นี่คือข้อกำหนดของศาสนาอิสลาม
แต่ที่ จริงแล้วไม่ใช่เลย ไม่ได้มีการระบุไว้ในคัมภีร์กุรอ่าน หรือไบเบิลแต่ประการใดด้วย

มัน เป็นเพียงประเพณีที่ผู้ชายกำหนดขึ้น ด้วยความโง่เขลาเห็นแก่ตัวเท่านั้นเอง เพื่อที่จะสามารถถือสิทธิ์ในตัวผู้หญิงได้อย่างเต็มที่ และเสพสุขจากเรือนร่างของเธอ ตามความพอใจของตนฝ่ายเดียว!!!!!!! "

เราคนหนึ่งที่เป้นมุสลิม และเป็นผู้หญิงด้วย ยื่นยันเลย มีเฉพาะผู้ชาย ผู้หญิงไม่มี

ผู้ชายบางคนที่ไม่ได้อยู่ศาสนาอิสลามบางคนเค้าก็ คลิบ กัน เพราะแพทย์บอก หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่

แต่มันมีประโยชน์

0