12 ก.ค. นี้,..................เด็กท้องเรียนหนังสือได้, คลอดแล้วก็กลับมาเรียนได้
ตั้งกระทู้ใหม่
พี่น้องผองเพื่อนชาวเด็กดีทั้งหลาย...
มาแสดงความคิดเห็นกันหน่อย.. เห็นด้วย/ไม่เห็นด้วย
อยากให้กม.นี้ผ่านหรือไม่ผ่าน
PS. Hola..
19 ความคิดเห็น
ยังไงขอให้ได้วุฒิก่อน
PS. ความรักวิ่งมาหาเราแล้วแต่มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ
ดี ต่อคนที่ทำไปแล้ว สำนึกผิด กลับตัวกลับใจได้ ทีหลังไม่ทำอีก ไม่ต้องหยุดเรียน
ไม่ดี ต่อคนที่ไม่ได้ทำ แต่พอกฎเอื้อ ก็ไม่สนใจระวังป้องกันใดๆทั้งนั้น อัตราการท้องในวัยเรียนก็ถี่ขึ้นแน่นอน เดี๋ยวเด็กๆจะได้ท้องกันเกลื่อนเมือง
PS. ติดตามข่าวสารของ CU Band ได้ที่.... www.cuband.net
แต่ก็ดีแล้ว
ให้โอกาสเด็กๆ
จะได้มีการศึกษาที่สูง ๆ
คนไหนที่ไม่อยากเรียนก็ออกไปเถอะ คนที่เค้าอยากเรียนจะได้มาเรียนแทน
ส่วนคนที่พลาดแล้ว กลับใจ ตั้งใจจริง ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ ยังมีคนให้โอกาสกับคนที่ต้องการเสมอ
ให้เค้าย้ายโรงเรียนสิกลับมาเรียนที่เดิมก็อายแย่เลย เดี๋ยวได้มั่วกันไปหมด มันเอื้อซะขนาดนี้ น่าจะอนุญาตเฉพาะคนที่โดนข่มขืน
มีทั้งดีและไม่ดีเลยอ่ะ
ระดับอุดมศึกษาขึ้นไปน่่าจะอนุญาตนะคะ
เพราะนักศึกษาก็มีวุฒิภาวะแล้ว
แต่ถ้าให้ระดับมัธยมไม่เห็นด้วยอ่ะ
ไม่งั้นเด็ก ม.ต้น นั่งท้องโย้มาเรียน- -
เราว่าคงเป็นภาพที่ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่
แล้วอย่างวิชาพละ อย่างเงี้ย วิชาเนตรนารี
แล้วถ้าเกิดปวดท้องคลอดระหว่างเรียนล่ะ
กม. มาตราสุดท้ายถ้าจะออก
อยากให้ผู้ใหญ่คิดดูดีๆ ก่อนคะ
PS. I L.O.V.E U ❤ All I dream about is HONGKI
Ref.
เราว่ามันเป็นดาบสองคมนะ
มีทั้งดีและไม่ดีเลยอ่ะ
ระดับอุดมศึกษาขึ้นไปน่่าจะอนุญาตนะคะ
เพราะนักศึกษาก็มีวุฒิภาวะแล้ว
แต่ถ้าให้ระดับมัธยมไม่เห็นด้วยอ่ะ
>>> ตอนนี้ที่เป็นอยู่.. ระดับอุดมศึกษาก็....อยู่แล้วนะ
PS. Hola..
เห็นด้วยค่ะ
แต่ต้องมีการเตรียมพร้อมทุกฝ่ายก่อน
ครอบครัว ชุมชน โรงเรียน บุคลากร ทั้งครูและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย รวมไปตลอดถึงภารโรง แม่ค้าขายอาหารในโรงเรียน เพื่อนนักเรียน
ต้องเข้าใจว่าเด็กทุกคนต้องได้รับการศึกษา ต้องมีการดูแลด้านจิตใจของเด็กที่ท้องและต้องมาโรงเรียน ความรู้สึกผิด รู้สึกละอาย ต้องดูแลอย่างดี และต้องมีการดูแลด้านความพร้อมทางกายภาพของสถานศึกษาด้วย มีครูพยาบาลที่รู้เรื่องการดูแลหญิงมีครรภ์หรือไม่ ถ้าเกิดการเจ็บปวดครรภ์ระหว่างเรียนจะทำอย่างไร ห้องน้ำ ห้องเรียน บันได สนามโรงเรียน วิชาที่เรียนที่สภาวะของผู้มีครรภ์อาจไม่เหมาะสม เช่น พละ แต่ถ้าไม่หนักเกินไปก้อคงทำได้
มีเรื่องต้องเตรียมการมากมายก่อนจะปฏิบัติตามกฎหมาย
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ทัศนคติ ของผู้เกี่ยวข้องทุกคน ต้องให้กำลังใจ ไม่ใช่มาเสียดสีเย้ยหยัน ประนามหรือล้อเลียนกัน เวลาเด็กที่ท้องทำอะไรผิดในห้องเรียน หรือทำการบ้านไม่ได้ หรือไม่เข้าใจบทเรียน ต้องไม่ให้มีดุด่าว่าโดยเชื่อมโยงกับการทอ้งของเด็ก
นี่คือเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก สังคมเรามักโหดร้ายกับคนที่สังคมตัดสินว่าทำผิดจารีตประเพณีความเชื่อ
แต่ช่วยหยุดคิดว่าการท้องคือผล แต่อะไรคือสาเหตุ มองให้ลึกนะคะ ไม่ใช่แค่พฤติกรรมของเด็ก แต่อะไรคือสาเหตุของพฤติกรรมของเขา รวมทั้งข้อเท็จจริงที่ว่า เด็กหญิงไม่ใช่ผู้กระทำฝ่ายเดียวที่ทำให้ตัวเองท้องนะคะ ยังมีฝ่ายชายร่วมการกระทำด้วย
หวังว่ากฎหมายจะผ่าน และมีกฎระเบียบในการเตรียมความพร้อมสถานศึกษา บุคลากร นักเรียน ครอบครัว และชุมชน ตามมาก่อนจะปฏิบัติกันจริงค่ะ
นัยนา
เค้าว่ามันเหมือนชี้โพรงให้กระรอกอ่ะ
ต่อไปเราอาจจะเห็นเด็กใส่ชุดคลุมท้องมาโรงเรียนเยอะแยะเต็มไปหมด
แล้วเด็กก้อจะไม่มีความเกรงกลัวกฏของโรงเรียน
อยากมีเพศสัมพันธ์กันก้อมีเลยเพระท้องก้อไม่เป็นไร
เค้าว่ามันมีผลเสียมากกว่าผลดีนะ
แล้วถ้าให้เด็กท้องได้  ใคดเห็นใครจะเลี้ยงลูกหล่ะ?????
พวกเด็กที่ท้องก้อคงต้องอุ้มลูกมาโรงเรียน
แล้วอย่างนี้มันจะดีหรือ???
ปล.  โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน  เราแค่ขอให้ได้แสดงความคิดเห็นสักหน่อย  มันรู้สึกอึดอัดอ่ะ103
เอ่ออออ....
บอกตามตรงเลยค่ะ ได้ยินข่าวนี้ครั้งแรก อึ้งมาก
คือเข้าใจว่า ปัจจุบันนี้มีปัญหาเรื่องเด็กตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรเยอะพอสมควร
และไม่มีการป้องกัน หรือแก้ไขที่ดีพอ
แต่ลองมองให้ลึกๆดูแล้ว  การที่จะออกกฎหมายข้อนี้มา  มันดีกับทุกฝ่ายแน่แล้วหรือ
ทั้งกับตัวเด็กที่ตั้งครรภ์เอง พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ หรือแม้กระทั่งบุคคลรอบข้างทั้งในโรงเรียนหรือนอกโรงเรียน
แค่เด็กวัยรุ่นตั้งครรภ์คนในสังคมก็สังเกต จับจ้องมากพออยู่แล้ว
แล้วหากเป็นเด็กวัยรุ่นที่ใส่ชุดนักเรียนนักศึกษาตั้งครรภ์  ไม่ว่าใครก็ต้องแคร์สายตาคนรอบข้างล่ะค่ะ
ต่อให้ปากพูดได้ว่า ไม่เป็นไร ชั้นไม่แคร์สื่อ 
แต่ลึกๆใครจะปฏิเสธได้ว่า ใจไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิดกับปฏิกิริยาที่คนรอบข้างแสดงออกต่อเรา
แล้วเห็นด้วยกับความคิดเห็นของ นัยนา มากๆเลย
การจะออกกฎหมายสักข้อมันไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่การเตรียมตัวพร้อมรับกับผลลัพธ์ที่จะตามมา นี่ล่ะคือสิ่งที่ยากที่สุด
อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันคิดตัดสินใจให้รอบคอบก่อนค่ะ
ใจจริงไม่อยากให้กฎหมายข้อนี้ผ่านเลย
แต่ถ้ามันจะเปลี่ยนสังคมไปในทางที่ดีขึ้นก็ยินดี
แต่ถ้าไม่..มันคงจะเป็นผลเสียที่ร้ายแรงอย่างแน่นอน
เพราะวัฒนธรรมเราที่เพียรสั่งสมกันมา
..อย่าชิงสุกก่อนห่าม
เป็นสำนวนที่ดีและน่าเอาแบบอย่างที่สุด
ไม่รู้จะมีทางทำให้สังคมกลับมาดีอย่างเดิมได้ไหม
เฮ้ออออ..
ไม่เห็นด้วย
กลายเป็นเรื่องที่เด็ก ไปมีอะไรกันก่อนวัยอันสมควร เป็นเรื่องถูกต้องอย่างนั้น ทั้งที่ มันควรจะเป็นเรื่องอับอายจะแก้ปัญหาทำแท้งให้มันดี ต้อง หาวิธีที่ดีกว่านี้เช่น จะมีมติให้เป็นเรื่องที่ต้องทำประชาวิจารณ์กันไปหรือ  พ่อแม่ไปเซ็นต์ด้วย ฯลฯ  ต้องทำหใปนเรื่องน่าละลาย ไม่ใช่ให้นักเรียนนักศึกษาผู้หญิงเป็นของเล่นต่อไป มันจะตกต่ำเสื่อมมากไป มั้ยสำหรับประเทศไทย
ไมม่ต้องเก่งเรื่องมีท้องตอนเรียนนักก็ได้นะ คนไทย เพราะมีความสามารถด้านอื่นอีกเยอะที่น่าสนใจ ห่วงแต่รูปร่างน่าตา เลยลงเอยด้วยกฏหมายที่ท้องแล้วมานั่งเรียนได้
เห็นด้วยมากๆในการที่นักเรียนที่พลาดไปแล้วเมื่อกลับมาเรียนก็จะได้นำสิ่งที่ไม่ดีมาแก้ไขและจะไม่ทำผิดซำ้ซาก ให้โอกาศทุกคนเพื่อให้อนาคตดีขึ้นเราต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราให้กำลังใจทุกคนไม่เป็นไรเริ่มใหม่ให้มันดีกว่าเดิม
ทำไมไม่นึกถึงจิตใจของคนที่ท้องกันบ้างเลยคะ
คิดว่าดีนะถ้าเกิดให้คนที่ท้องมาเรียนได้
ปัญหาเรื่องการทำแท้งก็จะน้อยไปด้วย (คิดว่านะ)
ไม่ลองมองในมุมเด็กที่ท้องดูบ้างล่ะ
มีจะกี่ทางเลือกกันเชียวที่เด็กสามารถเลือกได้
อย่างน้อยก็ 2 ทาง
1.ตั้งท้องต่อไป ออกโรงเรียน สังคมรอบข้างไม่ยอมรับ หมดอนาคต กลายเป็นสาวโรงงานเพราะว่าไม่มีวุฒิการศึกษา
2.ทำแท้งแล้วกลับมาเรียนต่อ กลายเป็นตราบาปติดตัวไป
ถ้าคุณคิดว่าโครงการนี้ไม่น่าผ่าน แล้วคุณมีทางเลือกอื่นให้เด็กหรือเปล่าล่ะ
คงไม่มีเด็กคนไหนที่อยาก ตั้งท้องขณะเรียนหรอกค่ะ 
เมื่อพลาดไปแร้วก้อควรให้โอกาสเค้าได้เรียนเหมือนกับคนอื่นๆๆ
ถ้าคุณคิดว่าการออกกฎแบบนี้จะทำให้คนอื่นถือเป็นแบบอย่างน่ะนะคิดผิดแล้วล่ะ
ฉันก็เป็นคนนึงที่ท้องไปเรียนก็ไม่เห็นว่าจะมีใครเค้ามองด้วยสายตาที่ชื่นชมเลยนะ
แล้วเพื่อนบอกว่า"น่าอิจฉาจังเลยอยากท้องบ้างอะ"มันไม่มีหรอก
อยากรู้ว่าการท้องไปเรียนกับการทำแท้งเนี้ยคุณจะเลือกอะไร
ไม่มีใครอยากฆ่าลูกตัวเองหรอกแต่ก็ต้องทำเพราะกลัวไม่ได้เรียน
คุณรู้สึกดีชื่นชมกับการกระทำแบบนั้นหรอ?
เห็นด้วยนะ
- จิงที่ถ้าให้คนท้องเลิกเรียนไป ไม่มีอนาคต เป็นการตัดอนาคตกันซะป่าวๆ สำหรับคนที่คิดว่าไม่เห็นด้วย เท่ากับว่าไม่เปิดกว้างทางสังคม ต่อไปคนท้องจะเอาอะไรเลี้ยงลูกล่ะถ้าไม่ได้วุฒิการศึกษา
มันอยู่ที่คนท้องว่าเค้าอายมั๊ยที่จะมาเรียน ถ้าเขาไม่อาย เขาอยากเรียนก็มาเรียนได้ คนที่อายจะหยุดเรียนไปก่อนก็ได้ คนท้องบางคนไม่เหมือนกัน บางคนอยากเรียนต่อ เพราะในมหาลัยคนที่ตั้งท้องก็มาเรียนกันเยอะ ดีแล้วที่เขาไม่ไปทำแท้ง เราชื่นชมเขาด้วยซ้ำ
เห็นด้วย อย่างน้อยก็ไม่ทำบาป บางคนมันพลาดแล้วทางออกมันก็มี 2 ทางเหมือนที่เธอพูดเลย ส่วนมากทำแท้ง แล้วเป็นไง มีความสุขกันมั๊ย ไหนทำไปแล้วเค้ามาตามเอาคืนอีก แย่ลงไปอีก ถ้าคนที่เขาท้องไม่อายที่จะมานั่งเรียน ก็ไม่เห็นจะต้องไปกีดกันเลย ดีออก อย่างน้อยก็ให้ชีวิตใหม่ ดีกว่าเครียดจนตัวตาย เหนื่อยเอาการเลย
เค้าบอก กฏที่12 พ.ร.บให้เด็กท้องเรียนได้ แต่หนูท้อง ท้องไม่ออกครูให้ ให้พาผู้ปกครองไปเซนใบลาออก
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?