งานแห่เทียนพรรษา สุพรรณบุรี 2553 มีรูปเยอะครับ
หลาย พื้นที่ในไทยต่างก็จัดงานแห่เทียน กันอย่างคึกคัก ไม่แพ้เทศกาลปีใหม่เลยทีเดียว ด้วยว่าเป็นช่วงวันหยุดยาวที่หลายคนได้หยุดกันหลายวัน ทำให้การท่องเที่ยวเทศกาลแห่เทียนปีนี้คึกคักจริงๆ สะดุดตาก็เลยพลาดไม่ได้ที่จะไปเก็บภาพบรรยากาศ ของงานแห่เทียนบ้าง ครั้งนี้ขอพาไปชมที่สุพรรณบุรี เมืองท่องเที่ยวใกล้ๆกรุงเทพ แต่ครบทุกบรรยากาศและความอลังการครบครัน
สะดุดตาเคยพามาชม การเตรียมงานแห่เทียนสุพรรณกันแล้วเมื่ออาทิตย์ก่อน ครั้งนี้มาวันจริงกันเลย อยากรู้ว่า งานแห่เทียนสุพรรณฯ เขาคึกคักกันแค่ไหน เพราะเขาเพิ่งเริมจัดกันมาปีนี้เป็นปีที่2เท่านั้น แต่ก็ทำได้ยิ่งใหญ่ไม่ใช่เล่นๆ
วันแรกที่เราไปถึง ก็เป็นวันที่26 ซึ่งเป็นวันก่อนวันแห่ขบวนเทียนหนึ่งวัน เรานอนค้างกันในเมืองเพื่อจะตื่นแต่เช้ามาชมขบวนเทียนได้อย่างจุใจ ไม่ต้องรีบมาก ช่วงเย็นของวันที่26 ต้นเทียนทั้งหมด จาก10อำเภอของจังหวัดสุพรรณ ต่างก็นำมาจัดวางไว้รวมกันที่ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ซึ่งอยู่ในอำเภอเมืองของสุพรรณบุรีี
ภายในงานวัดป่าเลไลยก์วรวิหารนั้น จัดงานใหญ่ที่เต็มไปด้วยการแสดง และงานออกร้าน เหมือนงานวัดใหญ่ๆ มีกิจกรรมมากมายภายใน ี่เราคุ้นเคยคงเป็นพวก ปาเป้า ปาลูกดอก ตักปลาด้วยกระดาษ แล้วก้พวกร้านค้าOTOP ต่างๆ มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยกันหนึ่งเวทีเลย
ช่วงเย็นๆอย่างนี้สิ่งที่คนพุทธ จะมาทำกันนั้นก็คือการเวียนเทียนครับ ที่วัดป่าเลไลยก์นี้ึคึกคักมาก คนแน่นจริงๆ มีคนจากหลากหลายจังหวัดมาเวียนเทียนกันที่วัดนี้ และที่สำคัยพวกเขาได้มาดูต้นเทียนเมืองสุพรรณด้วย ก่อนที่วันพรุ่งนี้จะเป็นวันแห่ ที่จะเริ่มกันตั้งแต่ 8โมงเช้า
อยากเริ่มด้วยภาพสะดุดตา ที่เรารวมรวมมาให้ดูบรรยากาศกันก่อน ว่าคึกคักกันขนาดไหนก่อนที่เรา จะพาไปดุต้นเทียนของแต่ล่ะอำเภอกัน
ช่วงเช้าอาจจะมีฝนตกกันนิดหน่อย ทำให้สดชื่อนแต่พอเริ่มงานฝนก้หยุดตกไปแล้ว ทำให้การเดินชมงานวันนี้ไม่มีแดดให้ร้อนกันนัก เดินสบายถ่ายรูปกันสนุกล่ะครับ ...ขบวนแต่ล่ะขบวนยาวๆทั้งนั้นครับ แต่ล่ะอำเภอต่างก็ จัดเอาสุดยอดของแต่ล่ะเภอมาโชวืกัน เพราะเขามีการประกวด ทั้งการแสดงขบวนและ ต้นเทียนด้วย มีคณะกรรมการคอยให้คะแนน ทำให้แต่ล่ะขบวนยาวๆทั้งนั้นเลยครับ สวยงามไปด้วยชุดและการแสดงที่ยิ่งใหญ่ของแต่ล่ะอำเภอ
มาสะดุดตาที่สาวๆเมืองสุพรรณกันบ้างที่ สวยงามสะดุดตาทำให้ขบวนแห่เทียน น่ามองน่าชมไม่น้อย ของงามๆเราก็ต้องชมว่างามจริงมั๊ย
อ.เมือง เป็นแกะสลัก มีรูปแบบเป็น พระโพธิสัตว์ทรงเทพมังกร ขบวนเจ้าชายสิทธัตถะออกผนวช ท่ามกลางหมู่เทวดาอารักขาตลอดทาง ด้านหน้าแกะสลักเป็นพญาครุฑ ด้านข้างเป็นพญามังกร ส่วนด้านหลังพระปวงชนปางเสด็จป่าเลไลยกาวาส มีพญาลิง และพญาช้างกำลังถวายดอกไม้และรวงผึ้ง
อ.สามชุก เป็นแบบผสม มีรูปเป็น พญานาค 7เศียรกลางพ่นน้ำ พระอินทร์ทรงพญาหงส์ ฐานต้นเทียนเป็นรูปพญาครุฑ กินรี กินนร 2ด้าน ด้านหลังเป็นสิงห์คู่ หลวงพ่อดำวัดลาดสิงห์ ธรรมจักรหมุนได้ มีเทวดาลายล้อม ด้านข้างเป็นพญานาค และป้ายสามชุกตลาดร้อยปี
อ.อู่ทอง เป็นแบบแกะสลัก มีรูปแบบเป็น กินรี กินนร คชปักษา ธรรมจักร ขุนแผนขีม้าสีหมอก ถือดาบฟ้าฟื้น ลำต้นเป็นลวดลายกนกก้านขด และพระปรมาภิไทยย่อ ภปร. ด้านหลังเป็นมณฑปวัดเขาดีสลัก และพระปางไสยยาสน์ พระนอนบนถ้ำเสือ วัดเขาพระ ด้านข้างแกะสลักรูป มังกรสวรรค์ พญานาคราช
อ.ดอนเจดีย์ เป็นแบบติดพิมพ์ มีรูปแบบเป็น พญานาค3เศียร สมเด็จพระนเรศวร ประทับนั่งบนช้างศึก ต้นเทียนตั้งบนหลังหงส์ สมเด้จพระนเรศวรหลั่งทักษิโณทก ประกาศเอกราช ด้านหลังเป็นเจดีย์ยุทธหัตถี ด้านข้างเป็นพญานาค ทั้ง2ด้าน
อ.ศรีประจันต์ เป็นแบบผสม มีรูปแบบเป็น พุทธประวัติพระพุทธเจ้า ตอนทรงชนะมาร มีพระยามารทรงช้างคีรีเมข ยกพลมาพจญพระองค์ แต่มิได้ทรงหวั่นไหว ทรงเสี่ยงพระบารมี 10ทิศ พระธรณีสำแดงร่างเป็นนารีปรากฎขึ้น แล้วบีบมวยผมมีน้ำไหลออกท่วมปบพี ช้างคีรีเมขคุกเขาลง เหล่ามารทั้งหลายหนีกระจัดกระจาย พระยามารพ่ายแห้ ยอมนอบน้อมแก่พระพุทธองค์
อ.ด่านช้าง เป็นแบบผสม มีรูปแบบเป็น พญาช้างเอรวัณ 3เศียร มีคชสีห์ขนาบทั้ง2ด้่าน พร้อมหมู่เทวดา พร้อมด้วยพญานาครอบฐาน ฐานต้นเทียนเป็นพญาครุฑจับนาค 5 เศียร ด้านหลังเป็นพระพุทธประวัติ “ปางอัญเชิญจุติ”
อ.หนองหญ้าไซ เป้นแบบแกะสลัก มีรูปแบบเป็น กินรีถือดอกบัว มีราชรถ และเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จประพาสอุทยาน และแผลงศร ด้านข้างเป็นพญาครุฑยุคนาค ด้านหลังเป็นเทพกินรี และตัวคชปักษี (ตัวเป็นนกหัวเป็นช้าง) ด้านหลังเป็นรูปพระพรหมทรงหงษ์ อยู่หน้าวัดบัลลังก์ และหลวงพ่อเกตประทุมวัดหนองหลวง
อ.บางประม้า เป็นแบบผสม มีรูปแบบเป็นพญานาคราช9เศียร แผ่พังพานพ่นน้ำ ด้านข้างเรือเป็นพยานาโค มีเทพบุตร เทพธิดา เหาะอยู่บนหลัง ด้านหลังของเรือเป็นพญานาคชสารอ้าปากรองรับองค์หลวงพ่อโต ต้นเทียนอยู่บนเวชยันต์ราชรถ
อ.สองพี่น้อง เป็นแบบแกะสลัก มีรูปแบบเป็น พระพรหมสี่หน้า สี่กร พนมมือ และรูปเด้กชาย-หญิงสองคน ด้านหลังรูปซุ้ม ภายในซุ้มมีพระพุทธโคดมอยู่ด้านซ้าย และพระศรีอริยเมตไตย์อยู่ด้านขวา ด้านข้างพระเจ้าสิทธัตถะขี่ม้ากัณฐกะออกผนวช โดยมีเทวดารายล้อมโดยรอบ
อ.เดิมบางนางบวช เป็นแบบผสม มีรูปแบบเป็น “ป่าหิมพานต์” ที่มีความสงบร่มเย็นมี “บึงฉวาก” ที่เป็นดุจดั่ง “สระอโนดาด” ทำให้รุกขเทวดาทวยเทพ นางฟ้า และหมู่สรรพสัตว์ในจินตนิยาย ได้พำนักอาศัยกัน และยังถ่ายทอดเรื่องราวตำนานพื้นบ้านของ “ตาสีนนท์” กับ “นางพิมสุราไล” ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “เดิมบางนางบวช”
ปีหน้าแห่เทียนก็คงยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน และคงคึกคักกันทั้งประเทศเช่นเดิม ใครไม่เคยมาเที่ยวสุพรรณ ลองมาเที่ยดูนะครับ มีอะไรมากกว่าที่เราเคยคิด ความคึกคักจัดอยู่ในระดับดีทีเดียว ความอลังการของงาน แน่นอนว่าทำได้ดี ความสวยงามของเทียนนี้ระดับโลก ส่วนใครสนใจงานแห่เทียนสุพรรณฯ ก็เรียนเชิญนะครับ ปีหน้าเจอกันใหม่
ที่มา : http://www.sadoodta.com/story/เที่ยวชมงานแห่เทียนสุพรรณบุรี-ปี53
PS. ~~~ความทุกข์ที่เกินทน จะหลอมคนให้ทนทาน~~~
13 ความคิดเห็น
อุบล สวยสุดครับ
ตำนานของแห่เทียนเลย
เราขอให้ประเพณีแบบนี้ คงอยู่ไปจนสิ้นพุทธศาสนานี้ เทอญ
PS. ขอบคุณจ้ะ
ปล.เอ่ออ..... ค่าแกะสลักเทียนนี่เท่าไหร่เหรอ...
PS.
คนแกะเทียนเก่งจังงง ><;
PS. กองทัพดัมเบิลดอร์ ;D
สุพรรณเริดสุด
PS. ~~สายลม~~ไปแล้วมา~~มาแล้วไป~~ไม่เคยหยุดนิ่งกับที่~~แต่สิ่งที่มั่นคงของสายลม~~~คือ~~การหวนคืน~~เพียงแต่อาจไม่ใช่แบบที่เคยเป็น~~...
บางปลาม้าค่ะ 
ไม่ใช่บางประม้า
ของเดิมบาง
4.5 ล้าน บาท
ฮุ่งเฮืองเมืองธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ภูมิปัญญาชาวอุบลฯ
อู่ทองที่หนึ่งอีกแล้ว 555+
สวยกว่าอุบลอีก อิอิ
อำเภอเดิมบางดั้ยที่2ครับ
7
ผมยู่เดิมบางค๊าฟ
งบที่ทัมปัยก็ยุราวราว
2000000 บาทอ่ะค๊าฟ
เป็นรถเทียนที่ยาวที่สุดในโลก
มีความยาว
20.50 เมตร สูง 4.8 เมตร กว้าง 3 เมตร
ครับ
นับว่าเป็นความภาคภูมิจัยของชาวอำเภอเราเป็นอย่างมากเลยครับ
สุพรรณสวยที่สุดในโลกแล้ว
1
เดิมบางซูโก่ยไปเลยยาวววววสุดๆ
103
สาวงานสองพี่น้องสวยสุด...
พร้อมคณะแต่งหน้านักแสดง...
จากร้านกิ๊ฟ...บางลี่
ช่างแต่งหน้าสวยทุกคนค้า............
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?