Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[โดนหลอกจนได้] T^T แต่โคตรรักแม่ที่สุดในโลกเลย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

วันนี้ เราได้ประสบการณ์สอนเรามา 1 เรื่อง
เรื่องนี้มันเริ่มจาก ..
การที่โดดเรียน

เนื่องในวันนี้วันแม่ โรงเรียน Enconcept ก็ได้จัดโครงการติว Gat ลึกซึ้งพระคุณแม่
เราก็ไปกับเพื่อนสนิท รวมเป็นสามคน พอเรียนของพี่แนนเสร็จปุ๊บ ก็ออกมาด้านนอก
เดินไปเดินมา นึกกันได้ ไปดูหนังกันดีกว่า ไม่ต้องเรียนต่อแล้วว =O=

เราก็ไปบิ๊กซีกัน จะดูเรื่อง สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก
ก็ไปดูรอบหนัง สรุปว่ามันมีอีกทีนึงบ่ายสาม ถ้าดูจะกลับไม่ทันรถไฟ (ฟรี)
เราก็ตกลงกันว่าไม่ดู ก็ไปเดินเล่น เดินไปเดินมา ไปเจอคนที่มารถไฟขบวนเดียวกัน (มิจฉาชีพ มั้ง)
มันมากับลูกวัยเตาะแตะ 2-3 ขวบ (ผู้หญิงนะ) มันก็ทักเพื่อนเราก่อนว่าเจอกันบนรถไฟใช่มั้ย มันจำได้
พอดีว่าเราสามคนกับมันนั่งตรงข้ามกัน เราก็เห็นเขามองมาแหละ แต่ไม่ได้เอะใจอะไร

บังเอิญ หรือ ตั้งใจ ไม่รู้ที่มาเจอกันได้อย่างนี้
มันก็เริ่มเลย ชวนไปช่วยเลือกชุดให้หลานผู้หญิงกับผู้ชายที่อายุเท่าๆเรา
พอคุยไปคุยมาบอกว่า ถ้าช่วยเด๋วจะให้ค่าตอบแทน
เพราะมันก็ถูกจ้างมาเหมือนกัน จ้างมาหมื่นนึง ให้ซื้อชุดให้
คนที่จ้างเป็นคนอิสลาม ลูกสาวเดินไม่ได้ ประสบอุบัติเหตุ
แต่ชอบให้ลูกแต่งตัวดีไว้ก่อน
[เราก็เริ่มสงสัยละ เอ๊ .. เว่อไปเปล่า ? แต่ด้วยความที่มองโลกในแง่ดีกันจัด + ความโง่
เลยยอมช่วย ๆไป ไม่คิดจะหวังไรตอบแทน]

ครั้งแรก เราก็นึกว่าเลือกชุดสองชุด ที่ไหนได้เป็นสิบๆชุด
ให้เรากับเพื่อนสองคนลองชุดให้ อีกคนช่วยไปเลือกชุดมา
มันก็บอกกับเพื่อนเราว่า 'กระเป๋าเกะกะเปล่า ? ใส่ไว้ในรถเข็นก่อนก็ได้'
เพื่อนอีกคนที่เลือกชุดมันก็เก็บให้ มันก็ไม่ได้คิดไรมาก
สักพักนึง มันก็อ้างว่า 'ไปหยิบชุดตรงนั้นนะ เด๋วพี่จะไปหยิบกางเกงตรงนั้นก่อน' (บอกกับเพื่อนเรา)
แล้วมันก็เข็นรถไปด้วย และพูดกับเพื่อนเราว่า 'เอาไปด้วย เด๋วของหาย'

พอเพื่อนเราเดินมาอีกที ก็เจอแต่รถเข็น มันก็ไม่รู้ มันก็ดันรถเข็นมาใกล้ๆที่ลองเสื้อผ้า
แล้วมันก็มาบอกเราว่า 'ยัยป้าคนนั้นมันอยู่ไหนไม่รู้'
เราก็ 'เออ ๆ คิดมากน่ะ เด๋วเค้าก็กลับมา '
พอดีเราเริ่มขี้เกียจถอด ๆ เปลี่ยน ๆ แล้ว ก็เลยออกมาด้านนอก มาเปิดกระเป๋าซิ
// ให้ตายเหอะ โทรสับ กับกระเป๋าตังค์ หาย !!! //

ลองเปิดกระเป๋าเพื่อนอีกคน
// หายเหมือนกัน !! //

เราก็ไปบอกมันว่า เลิกเปลี่ยนชุดแล้ว ออกมาเลย
แล้วก็รีบไปบอกเจ้าหน้าที่     
เจ้าหน้าที่ก็รีบร้อน มากกกกกกกก (ประชด)
แทนที่จะเตรียมแจ้งให้แต่สะกักไว้แต่ละจุด แต่ไม่เลย กลับมัวถาม ไม่เคยจะกระตือรือร้น
เราก็จด ๆ ชื่อ ที่อยู่ไป พอดีตำรวจมาถามเรื่องราว แล้วเค้ารู้จักกับแม่เราพอดี
ก็พาเราไปโรงพักเพื่อแจ้งความ เราก็ไปเล่าให้ตำรวจคนที่หนึ่งฟัง 
คนที่สองบันทึกประจำวัน ก็เล่าเหมือนเดิม อีกคนอะไรไม่รู้ ถามเหมือนเดิมอีก 
เราก็เริ่มเซ็ง ทำไม ? ตำรวจถึงเป็นแบบนี้ ? >< '

เจ้าหน้าที่ที่บิ๊กซี ก็ไม่เปิดดูกล้องวงจรให้ซะที  ไม่รู้จะรออะไร
สุดท้าย กลับบ้านตัวเปล่า ดีที่เพื่อนคนที่ไปเลือกชุด มันของไม่หาย แต่โดนรื้อกระเป๋าเหมือนกัน
มองไม่เห็นมั้ง  

ณ เวลาที่เราเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เราเริ่มคิดถึงแม่มาก กลัวแม่จะโทรมาแล้วโทรไม่ติด
เราร้องไห้ไม่อายคนในบิ๊กซี อีกอย่างนึงคือไม่กล้าที่จะบอกแม่ด้วย กลัวแม่ว่า
แต่ก่อนกลับรถไฟ ก็ให้เบอร์แม่เรากับลุงที่เป็นตำรวจไว้
ก่อนหน้านี้เราเล่าให้ฟังแล้ว ว่าไม่อยากให้แม่รู้ กลัวแม่จะเครียดด้วย เพราะเป็นวันแม่

พอเราใช้โทรศัพท์ตู้โทรไป กำลังตัดสินใจเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็ถามว่า 'ถึงไหนแล้ว ?'
'ลุงส่ง(ตำรวจ)เล่าให้แม่ฟังหมดแล้วนะ ถือซะว่าฟาดเคราะห์ไป แม่ก็นึกว่าโดนรถเฉี่ยว
แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ของมันเอาไปก็ช่างมันเถอะ ดีแล้วที่ตัวไม่เป็นอะไร'

เราได้ยินแบบนี้แล้วร้องไห้โฮเลย รักแม่มาก
พอถึงสถานี แม่เรามารับ แล้วแม่ยื่นมือเหมือนจะให้กอด (อยู่บนรถ)
เราก็กอดกับแม่ เรานี้แบบว่า อยากจะร้องไห้ รักแม่มากอ่ะ สบายใจขึ้นเยอะเลย


ที่เล่ามาอาจจะยาวหน่อยนะ แต่อยากจะบอกให้รู้ว่า ..
- อย่ามองโลกแต่ด้านดี แต่ไม่มองโลกในด้านลบ เพียงแค่มองให้กว้างขึ้นเท่านั้นเอง
- อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน อย่าเป็นคนดีจนเกินไป
- ตำรวจบางคนก็ช่วยไรเราไม่ได้เลย แค่ทำให้เราสบายใจ ยังทำให้ไม่ได้ - -*
- คนที่ปลอบใจเราได้ดีที่สุด คือ แม่ ,ผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลกของเรา

"รักแม่ที่สุดเลย"



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 15 สิงหาคม 2553 / 22:52

แสดงความคิดเห็น

25 ความคิดเห็น

Prisma Dominatus 12 ส.ค. 53 เวลา 22:36 น. 2

ดีครับ


PS.  ฝากนิยายของผมด้วยครับ The Heritage เข้าชมได้ที่ http://writer.dek-d.com/prisma/writer/view.php?id=617485 http://writer.dek-d.com/prisma/writer/view.php?id=625735
0
Deta 12 ส.ค. 53 เวลา 22:48 น. 3

อืม...ซวยฟาดเคราะห์


PS.  [สถานะ:: มันเป็นเรื่องของโชคชะตา...]// กฎหมาย...ถ้าคนไม่เคารพ มันก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ // It's our "Destiny" // อ๊างงงค์~~~
0
CT.hamonigar(ชมตอง) 12 ส.ค. 53 เวลา 22:56 น. 4

คราวหลังอย่าไปเชื่อคนง่ายๆแบบนั้นซี ซวยเลย

ขอบคุณที่เอาประสบการณ์มาแบ่งปันค่ะ จะได้ระวังตัวมากขึ้น


PS.  คนที่เข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ เขาเป็นแค่เพื่อน แต่ถ้าเข้ามาเพื่อหวังจะให้ประโยชน์ เขาคือเพื่อนแท้ คิดให้ดี...คนที่อยู่ข้างกายคุณตอนนี้ เป็นเพื่อนแท้ หรือเป็นแค่เพื่อน...ธรรมดา
0
peecee 13 ส.ค. 53 เวลา 01:07 น. 5

คือ....ในกรณีนี้

เราขอดูกล้องได้นะ  และน่าจะเจอเจ๊คนนั้นด้วย

บิ๊กซีกับตำรวจ...ทำราวกับเรื่องชิลๆ


PS.  คุณเบื่อรึยังนิยายแนวตลาด...คุณเบื่อรึยังกับนิยายสูตรสำเร็จ...คุณพร้อมรึยังที่จะพบความแปลกใหม่กับนิยาย(ไม่)แหวกแนว แต่ "แหวกกระแส"::ปิแอร์ เดอ มัสแตง-เด็ก หนังสือพิมพ์ และคำพยากรณ์ ได้แล้ว
0
น้อง-หนู-นา 13 ส.ค. 53 เวลา 09:21 น. 6

อ่านช่วงท้ายแล้วน้ำตาซึมเลย  แม่เป็นทุกสิ่งทุออย่างของเราจริงๆนะ

เหตุการณ์ที่กิดขึ้นถือว่าฟาดเคราะห์ละกันนะ คราวหลังต้องระวังให้มากขึ้น

0
mi-ya-keneko 13 ส.ค. 53 เวลา 11:21 น. 8

เอาเป็นว่าอย่าไว้ใจใครง่ายๆค่ะ และกระเป๋าถือถ้าจำเป็นจริงๆไม่ควรเอาไว้ห่างจากตัวเลยด้วยซ้ำ ถ้าคนอื่น(นอกจากคนที่สนิทๆกัน)ช่วยถือก็ปฏิเสธไว้ก่อนดีกว่าค่ะ

ส่วนตัวขนาดไปไหนยังต้องคอยเช็คกระเป๋าตลอดเลย หนีบไว้กับแขนด้วย

ถือว่าฟาดเคราะห์ไปแล้วกันนะคะ จะได้เป็นบทเรียน


PS.  Chocolate Love ❤ แม้ความรักนั้นจะหวานสักเพียงใด ย่อมไม่อาจหลีกหนีความขมพ้น...แม้จะขมเจียนตายแทบขาดใจสักเท่าไหร่ แต่ความหวานที่มีก็ทำให้มีกำลังใจที่จะเฝ้ารอต่อไป
0
[=Y-o-K=] 13 ส.ค. 53 เวลา 13:44 น. 9

ใช่ - เรายังเจ็บใจเลย ทำไมไม่เอากระเป๋าเข้าห้องลองเสื้อด้วย
คิดตอนนี้ ก็สายไปแล้ว

แต่ต่อไปนี้ คงระวังตัวขึ้นอย่างมากกกก .
TT'

PS.  วันเวลา นำพาความรักมาแบบไม่รู้ตัว :)
0
CH.Petay.F 13 ส.ค. 53 เวลา 23:33 น. 10
น้องหยกเล่าซะสะใจ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
..............................................................
พี่ว่าน้องคงจำกันไปอีกนาน วันหลังห้ามวางของ+ไว้ใจใครแล้วกันเนอะ - -*

มิจฉาชีพก็กวน..ีนเนอะ พี่ฟังฟาเล่าแล้วแบบ...ซื้อของให้หลานชายบ้าง หลานสาวบ้าง แล้วสรุปที่มีคนจ้างมาหมื่นนึง - -*

ต่อไปก็ระวังกันดี ๆ นะ เรื่องตำรวจนี่ควรปลง ห่วยมานานแล้ว ฮ่าๆๆ ไม่ใช่เงินเข้ากระเป๋าอย่าให้พูดเหอะ อย่างกาก (แรงไปไหมฉัน)

พวกนั้นถ้าไม่เห็นผู้ปกครองคงหาว่าเด็กอย่างน้องทำหายเองแหละ ลากพ่อลากแม่ไปขอดูกล้องดีกว่าเนอะ

ต่อไปก็ระวังตัวแล้วกัน เชื่อเลย ถือว่าฟาดเคราะห์ไป มือถือพี่ว่ามันคงเอาไปขายชั้นใต้ดินว่ะ ไม่น่าเอาของกลางไปขายไกล

สู้ ๆ นะน้อง ๆ



PS.  I've never beieved in such thing as love not ever for one, but...u r the person who made me realize that love dose exsist.
0
[=Y-o-K=] 13 ส.ค. 53 เวลา 23:43 น. 11

จ้าาาา ขอบคุณเฟรม
แล้วก็ทุกความเห็นเลยนะคะ


ที่คอยให้กำลังใจ และคำแนะนำต่างๆ
คงจำไปอีกนาน
วันที่ 12 สิงหาคม 2553

:DDD



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 สิงหาคม 2553 / 23:54

PS.  วันเวลา นำพาความรักมาแบบไม่รู้ตัว :)
0
CH.Petay.F 13 ส.ค. 53 เวลา 23:45 น. 12
ปั้ดเขกหัวพ่วงฟาเลย เรียกพี่ดิลูก ฮ่าๆๆๆๆๆ

เค้าแก่กว่าตัว ๒ ปีนะเออ หนูจะ ๑๘ แล้วนะ เรียกพี่ดิ๊ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

PS.  I've never beieved in such thing as love not ever for one, but...u r the person who made me realize that love dose exsist.
0
[=Y-o-K=] 13 ส.ค. 53 เวลา 23:47 น. 13
อ้าวว 5555
พึ่งจะเห็นอ่ะค่ะ

พิมพ์ตก
ไม่ได้ตั้งใจ เรียก เฟรม เฉย ๆๆ
ขอโทษน้าาาาาา

อิอิ
พี่เฟรมค่ะ

PS.  วันเวลา นำพาความรักมาแบบไม่รู้ตัว :)
0
LIVELY 13 ส.ค. 53 เวลา 23:51 น. 14

ไม่น่าโง่เลยอ่ะเรา ถ้าเค้าเดินตามแกไปไม่ยืนอยู่คนเดียวก็คงไม่ต้องเจอมัน

เดี๋ยวว่างๆ ไปดูกล้องกันนะ ลากทั้งพ่อทั้งแม่ไปเลย เจ้าหน้าที่นี่ห่วยชะมัด

คงเห็นเราเป็นแค่เด็กมั้งเลยทำเหมือนไม่มีอะไรเลย ตำรวจก็เหมือนกัน

อุส่าจะเล่าให้ฟังแบบละเอียด แต่บอกเราว่า 'เอาแต่ตอนที่ขโมย ว่าเอาไปได้ไง'

แล้วแบบนี้มันจะรู้เรื่องได้ไง รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็สำคัญนะ ว่ามะ?

0
[=Y-o-K=] 13 ส.ค. 53 เวลา 23:55 น. 15

ถูกต้อง มาก ๆๆ
ทำแบบนี้ถึงมีแต่ข่าวตามจับไง
คุณตำรวจนี่น๊าาา (ลุงเค้าก็ตำรวจนี่หว่า * - -)

เค้าจะจำหน้ามันไม่ได้อยู่แล้วเนี่ย
อยากจะดูกล้องจะแย่ : (


PS.  วันเวลา นำพาความรักมาแบบไม่รู้ตัว :)
0
LIVELY 14 ส.ค. 53 เวลา 00:02 น. 16

สงสารลูก(อ่อน)มันเนอะ

ถ้ารู้ว่าแม่เป็นแบบนี้จะรู้สึกไงเนี่ย

แล้วถ้าวันนึงแม่มันโดนจับล่ะ?

0
[=Y-o-K=] 14 ส.ค. 53 เวลา 00:17 น. 17

พูดเหมือนมันเป็นแม่หมาเลยอ่ะ
>> ลูกอ่อน

- -*


PS.  วันเวลา นำพาความรักมาแบบไม่รู้ตัว :)
0
Ciaran 14 ส.ค. 53 เวลา 10:50 น. 19

ในความคิดผม คิดว่าที่เค้าไม่เปิดให้ดูกล้องอาจเพราะกล้องมันมีเป็นบางจุดมั้งครับ ในจุดของน้องนั่นไม่มี

ห้างพวกนี้เขากันการขโมยของด้วยวิธีการตั้งรั้วเซนเซอร์เพราะพื้นที่กว้างชั้นวางของเยอะ  ติดกล้องให้ทั่วถึงมันทำได้ยากครับ
 
ส่วนตำรวจ - -" จริงๆน้องลองนึกภาพเขาเรียกค้นแม่ที่มากับเด็กเล็กดูสิครับ ว่าจะวุ่นวายกันขนาดไหน(วันแม่ด้วย)

อีกอย่างพวกนี้มีกันเป็นแก็งค์อยู่แล้วครับ

บางทีมันหยิบไปเสร็จส่งต่อให้อีกคน รึเปลี่ยนให้คนอื่นมาอุ้มเด็กแยกกันไปก็จบแล้วครับ จับยากมาก

ไม่ได้เขียนเข้าข้างใครนะครับ แต่อยากให้น้องมองสองด้าน เพราะคดีพวกนี้ตามจับมือใครดมยากจริงๆครับ มีกันทุกรูปแบบ บางขบวนการมีตั้งแต่เด็กอ่อนยันคนแก่เลยทีเดียว

0
LIVELY 14 ส.ค. 53 เวลา 15:45 น. 20

ถึง ค.ห.ที่ 19

หนูไม่รู้หรอกนะคะว่าที่ห้างเค้าจะกันการขโมยด้วยวิธีไหน แต่เค้าถามหนูว่า 'หนูน่ะเดินไปตรงไหนบ้าง จะได้เปิดกล้องถูกจุด'
พอหนูบอกเค้าไป เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวจะเปิดกล้องดูให้แต่มันใช้เวลาเป็นชั่วโมงแล้วบอกให้กลับบ้านไปก่อน หนูจึงคิดว่าตรงที่หนูเดิน
น่าจะมีกล้องอยู่บ้างและหนูก็แค่อยากรู้ว่าเค้าจะทำอย่างที่เค้าพูดไว้หรือป่าว หรือแค่พูดเพื่อให้เราสบายใจขึ้นก็เท่านั้น

ส่วนคุณตำรวจพวกนั้น..หนูก็ไม่ได้หวังอะไรมากอยู่แล้ว จากที่เห็นในข่าวก็มีแต่จะตามจับ (ไม่เห็นจับได้สักที) และเค้าก็บอกแล้วด้วย
ว่า 'ไม่รับรองนะว่าจะจับมาได้หรือป่าว' แต่เค้าก็จะตามสืบคดีให้ และเค้าก็บอกว่าพวกนี้คงมีกันเป็นแก็งค์อย่างที่พี่บอกแหละค่ะ

แล้วส่วนที่พี่บอกว่า 'ลองนึกภาพที่เค้าเรียกค้นแม่ที่มากับเด็กเล็ก' น่ะค่ะ ไม่จำเป็นต้องนึกหรือจินตนาการหรอกค่ะ เพราะหนูเห็นกับตา
ภาพเจ้าหน้าที่ที่รถไฟกำลังยืนหันหน้าคุยอยู่กับคุณยาย(ใส่เสื้อสีเขียว'สด')ที่กำลังนั่งรอรถไฟแล้วข้างๆ คุณยายก็เป็นเด็กผู้ชาย(ใส่เสื้อสีขาว) เจ้าหน้าที่เค้าพูดอะไรกับคุณยายก็ไม่รู้แล้วคุณยายก็ยื่นบัตรอะไรสักอย่างให้เจ้าหน้าที่ดู เค้าก็อ่านสักพักแล้วก็ส่งคืน หนูเห็นสีหน้า
ของคุณยายด้านข้างตอนนั้น 'หนูรู้สึกแย่มาก' เหมือนคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วแอบโดนสงสัย แล้วอีกอย่างเสื้อที่คนร้ายใส่เป็นสีเขียว
เหมือนสีชาเขียวใส่นมไม่ใช่เขียวสดซะหน่อย แล้วเด็กผู้ชายคนนั้นก็โตเกินกว่าจะเป็นเด็กอ่อนได้ พอเห็นภาพนี้แล้วก็อยากให้เค้าหยุดค้น
เพราะยัยนั่นคงไม่มาที่สถานีรถไฟแน่ (เพราะเราโง่บอกมันว่าจะกลับรถไฟ) มันคงไม่มาให้เราจับหรอก

ส่วนเรื่องเด็กนั่น..หนูคิดว่าน่าจะเป็นลูกของยัยนั่น เพราะตอนขึ้นรถไฟมาหนูนั่งตรงข้ามกับเค้า เด็กคนนั้นน่ะหลับอยู่ สักพักใหญ่ๆ
เด็กนั่นก็ตื่นแล้วก็ร้องไห้งอแง ยัยนั่นเลยป้อนนมให้ลูก แล้วไม่ใช่แบบใส่ขวดนม เพราะในขวดนมนั่นเหมือนเอาไว้ใส่น้ำ เค้าป้อนนมลูก
เหมือนที่แม่ให้นมบุตร(แรกเกิด) ถ้าไม่ใช่แม่จริงๆ ยัยนั่นจะมีน้ำนมด้วยหรอ เหมือนยัยนั่นจะหวงลูกด้วยล่ะ(มั้ง)

ปล. ความคิดส่วนตัว

0