Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คนโรคจิตกระทำชำเราหมูท้องจนขาหัก

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
วิปริตอีกรายชำเราแม่หมูท้องอึ๊บจนขาหัก


แฉ ประวัติสัปเหร่อหื่นชำเราศพ เคยต้องโทษคดีลักทรัพย์ ยอมรับอารมณ์ทางเพศสูง อยากไปขอขมาศพแต่ญาติผู้ตายไม่ยินยอม ตำรวจเตรียมนำตัวไปฝากขังศาล เล่นงานข้อหาบุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ "ครูหยุย"วอนสังคมต้องเร่งพัฒนาจิตใจของมนุษย์มากยิ่งขึ้น ด้านเมืองอุดรธานี จิตวิปริตโผล่อีกราย ขยี้กามแม่หมูท้องอ่อน เจ้าของตะครุบคาหนังคาเขา สารภาพเสียงอ่อย ก่อนหน้านี้เล่นงานมาแล้วหลายตัว จนเหยื่อกามสี่เท้าถึงกับขาหักเสียชีวิต

จากเหตุการณ์สลดใจ กรณีนายศักดิ์ชัย หรือสังข์ ธรรมศรีดา อายุ 51 ปี ก่อเรื่องบัดสีข่มขืนกระทำชำเราศพหญิงสาว ซึ่งตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่ศาลาเมตตา วัดท้องคุ้ง หมู่ 2 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ความแตกเพราะญาติของผู้ตายผิดสังเกตุ โลงศพมีร่องรอยถูกกระแทกแตกร้าว ฝาโลงเหลือตะปูตอกอยู่เพียงตัวเดียว เมื่อเปิดโลงออกดูก็พบว่า ศพมีร่องรอยถูกข่มขืนอย่างเห็นได้ชัด ต่อมาตำรวจจับกุมตัวนายศักดิ์ชัย ซึ่งเป็นผู้ช่วยสัปเหร่อในวัดมาสอบสวนให้การรับสารภาพ เบื้องต้นตำรวจดำเนินคดี ข้อหาบุกรุกในยามวิกาล และทำให้ทรัพย์สินทางวัดได้รับความเสียหาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความ คืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ส.ค. พ.ต.อ.สมรัก มุมบ้านเช่า ผกก.สภ.ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง ได้นำตัวนายศักดิ์ชัย ผู้ต้องหามาสอบปากคำด้วยตนเองอีกครั้ง ซึ่งผู้ต้องหายังคงยอมรับสารภาพว่าลงมือข่มขืนกระทำชำเราศพจนสำเร็จความใคร่ เพียงคนเดียว ลงมือ 2 ครั้ง คือคืนวันที่ 18 ส.ค.ญาตินำศพมาตั้งวันแรก ส่วนคืนที่สองด้วยความรีบร้อนจนลืมใส่เสื้อผ้าให้ศพ และยังยกโลงขึ้นไปเก็บที่เดิมไม่ไหวต้องรอจนกระทั่งรุ่งเช้า จึงจ้างเด็กวัด 2 คนมาช่วยยกโลง โดยโกหกว่าสงสัยแมวขึ้นไปปีนตะกุยเล่นแล้วทำให้โลงตกลงมาเด็กวัดหลงเชื่อจึง ช่วยกันยกโลงศพขึ้นไปตั้งไว้เหมือนเดิม

พ.ต.อ.สมรัก เปิดเผยว่า คดีลักษณะเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ประมาณปี 2536 ที่วัดราษฎรโพธิ์ทอง ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ ครั้งนั้นจับกุมพระลูกวัดได้ขณะลงมือข่มศพอยู่ในโลงคาหนังคาเขา แต่ตำรวจไม่สามารถดำเนินคดีข่มขืนศพได้ เนื่องจากกรณีข่มขืนผู้ถูกกระทำจะต้องมีชีวิต จึงดำเนินคดีทำให้เสียทรัพย์และอนาจารในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น สำหรับคดีล่าสุดญาติของผู้ตายไม่ติดใจเอาความทางตำรวจก็ไม่สามารถดำเนินคดี ได้ แต่ทางพระครูสุนทร เจ้าอาวาส แจ้งความดำเนินคดีเอาไว้ ในข้อหาทำให้ทรัพย์สินทางวัดเสียหาย และบุกรุกในยามวิกาล ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขังในวันที่ 22 ส.ค.

สำหรับ การตรวจสอบประวัติของนายศักดิ์ชัย พื้นเพเดิมอยู่ที่จ.อ่างทอง เคยต้องโทษคดีลักทรัพย์ที่อ.โพธิ์ทอง ศาลตัดสินรอลงอาญา หลังจากก่อคดีลักทรัพย์และทำร้ายร่างกาย ในจ.ชัยนาท จึงถูกตัดสินรับโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน พอพ้นโทษออกมาก็ย้ายมาอยู่กับภรรยาในต.บางหญ้าแพรก รับจ้างขี่สามล้ออยู่ท่าน้ำหัวรอพระประแดง แต่ด้วยความไม่เอาไหนเพราะได้เงินมาก็เอาแต่ไปกินเหล้า สุดท้ายเมียจึงไล่ออกจากบ้านเลยต้องมาปลูกกระท่อมอยู่หลังวัดท้องคุ้ง จนกระทั่งมาสนิทสนมกับสัปเหร่อเลยได้ทำงานเป็นผู้ช่วยสัปเหร่อมาตลอด

อย่าง ไรก็ดีนายศักดิ์ชัย ยอมรับว่าเป็นคนมีอารมณ์ทางเพศสูง ช่วยตนเองอาทิตย์ละ 1- 2 ครั้ง และเคยทำศพสาววัยรุ่นมาแล้วหลายศพไม่เคยคิดจะข่มขืน แต่กับศพนี้ไม่รู้มีอะไรมาดลใจ หลังเกิดเหตุสำนึกผิดอยากจะไปกราบขอขมาศพแต่ทางญาติๆผู้ตายไม่ยินยอม ส่วนบรรยากาศที่วัดท้องคุ้ง ช่วงเย็นวันเดียวกัน ญาติพี่น้องได้จัดพิธีฌาปนกิจศพให้กับผู้ตายอย่างเรียบง่าย บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบเหงา มีเพียงญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงานเดินทางมาเผาศพ โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปทำข่าวและบันทึกภาพ

น.พ.ศุภชัย ฤกษ์งาม น.พ.10 ด้านเวชกรรมป้องกัน กรมควบคุมโรคติดต่อ เปิดเผยว่าเป็นปัญหาที่พิสูจน์ยากว่าผู้ต้องหาจะติดเชื้อหรือไม่ โดยอันดับแรกต้องตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตตายเพราะเหตุใด เนื่องจากโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องมีหลายรูปแบบ เช่น อาจเป็นมาตั้งแต่กำเนิด หรือป่วยด้วยโรคอะไรบางอย่าง ซึ่งมีผลต่อภูมิคุ้มกันก็คล้ายๆกับโรคของอดีตนักร้องลูกท่งชื่อดังใน อดีต"พุ่มพวง ดวงจันทร์" ทางด้านน.พ.ณรงค์ สหเมธาวัฒน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า ในการแพร่เชื้อของบุคคลที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องนั้น การที่เชื้อดังกล่าวจะมีชีวิตอยู่ได้จะต้องมีการหมุนเวียนของเลือดและ ออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยง หากเลือดหยุดหมุนเวียนเชื้อก็จะขาดออกซิเจนทำให้ตายลงไปด้วย ส่วนการร่วมเพศกับผู้เสียชีวิตมีโอกาสน้อยมากที่จะได้รับเชื้อแต่ก็อย่าไว้ วางใจมากนัก ส่วน

นายธนา เบญจาธิกุล เลขาธิการสภาทนายความ ให้สัมภาษณ์ว่า การที่ผู้ต้องหาจะอ้างว่าได้กระทำลงไปด้วยจิตฟั่นเฟือนเพื่อจะไม่ต้องรับโทษ คงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากคดีนี้ผู้ต้องหากระทำที่รู้สำนึก ไม่ต่างอะไรจากพวกชอบสะสมชุดชั้นใน กางเกงในสตรี อย่างไรก็ตามความผิดจัดอยู่ในมาตรา 358 ทำให้เสียทรัพย์เพราะศพเป็นทรัพย์ของทายาทผู้ตายเมื่อไปทำอะไรกับศพถือว่า กระทบต่อทายาท และหากขโมยศพไปหรือนำเอาทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายไปด้วย ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว.กรุงเทพมหานคร ประธานคณะกรรมการกิจการสตรี เยาวชน และผู้สูงอายุวุฒิสภา ให้ความเห็นกรณีสัปเหร่อก่อคดีข่มขืนศพว่า เห็นข่าวแล้วสะอิดสะเอียนไม่นึกว่าจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาอีก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มองได้ว่าทุกวันนี้มนุษย์เรามีจิตวิปริตมาก เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะเห็นได้ว่ามีข่าวข่มขืนเด็ก ข่มขืนศพ และสมสู่กับสัตว์ จึงเป็นเรื่องที่สังคมจะต้องหันมาให้ความสำคัญทางจิตของมนุษย์มากขึ้นเพราะ ที่ผ่านมาเรามักจะเน้นในการพัฒนาพื้นฐานของมนุษย์ให้มีความรู้ ความจำ แต่ต่อไปควรหันมาพัฒนาด้านจิตให้มากยิ่งขึ้นด้วย มิฉะนั้นจะยิ่งส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม

ด้านพ.ญ.อินทิรา พัวสกุล หัวหน้าสำนักวิชาการ กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การร่วมเพศกับศพเป็นความผิดปกติทางจิตใจ จัดอยู่ในกลุ่มกามวิปริตพบมากในเพศชาย คนที่มีความผิดปกติในเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ดูไม่ออกเพราะจะมีชีวิตทางเพศอย่างปกติธรรมดาได้ด้วย แต่ถ้าบางคนมีอาการทางจิตร่วมด้วยก็จะแสดงออกมามาก โดยการแสวงหาศพมาร่วมเพศ อย่างไรก็ดีผู้ป่วยพวกนี้จะพบน้อย ซึ่งเรื่องนี้ในบางตำราได้กล่าวว่ามีมานานแล้วตั้งแต่สมัยโบราณจึงเป็นที่มา ของความเชื่อต้องมีพิธีเผาศพ ฝังศพอย่างแน่นหนา ดังนั้นจึงขอแนะนำญาติพี่น้องควรป้องกันดูแลศพครั้งสุดท้ายไว้ในศาลาที่มี ประตูล็อคอย่างดี หรือควรให้ญาติอยู่ดูแลศพ

ขณะเดียวกัน ที่จ.อุดรธานี เวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ด.ต.สุภชัย สุนสันเขต หัวหน้าสายตรวจชุมชนตำบลเชียงยืน สภ.อ.เมืองอุดรธานี ได้จับกุมตัวนายสุนทร สอนอยู่ อายุ 42 ปี ลูกจ้างฟาร์มไก่ ซึ่งก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราสุกรเพศเมีย อายุ 3 ปี กำลังท้องอ่อน 1 เดือน เหตุเกิดภายในคอกสุกรของนายสมเพชร ส้มสีบาย อายุ 45 ปี สอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพ บ้านเดิมอยู่จ.ฉะเชิงเทรา พอเลิกกับภรรยาแล้วก็มาทำงานรับจ้างอยู่ที่ฟาร์มเลี้ยงไก่ในจ.อุดรธานี ได้ประมาณ 10 เดือน ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ เดินผ่านคอกหมูของนายสมเพชร เห็นหมูตัวเมียแล้วเกิดอารมณ์จนทนไม่ไหวจึงแอบเข้าไปข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ มาแล้ว 2 ตัวจนทำให้หมูขาหักเสียชีวิต วันนี้เดินผ่านมาอีกครั้งนึกว่าไม่มีคนอยู่บ้านจึงปีนเข้าไปเล่นงานอีกครั้ง โดยใช้ขวดน้ำอัดลมสอดเข้าไปก่อนเพื่อเปิดทาง แต่พอดีหมูส่งเสียงร้องดังลั่น นายสมเพชร จึงวิ่งออกมาดูทำให้จับได้คาหนังคาเขา

เบื้องต้นตำรวจดำเนินคดีนายสุนทร ข้อหากระทำชำเราสัตว์และทารุณสัตว์ให้ได้รับทุกข์เวทนา โทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท


ข้อมูลเดลินิวส์ http://www.dailynews.co.th

แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

Secrecy* X 25 ส.ค. 53 เวลา 19:40 น. 4

ไม่รู้จะเอาคำพูดอะไรมาบรรยายความสารเลว = =
เดือนเดียว กับ 1000 บาทมันยังน้อยไป

ตัดทิ้งมันซะเลยจะเปนไร? 


PS.  Living like a prisoner ,, Convicted of love*
0
w€ๅeๅม ~ 25 ส.ค. 53 เวลา 19:55 น. 5
เอ่ยย แต่ละอย่างที่มันเอา -O-

เห๊ออออ หมูอะ
คุณเอาขวดน้ำอัดลมเบิกทาง ?

ของคุณใหญ่ปานนั้น ?  บ้าเอ๊ย จิต !

PS.  ร้ายนะจะบอกให้ ^^
0
yokmoki 25 ส.ค. 53 เวลา 20:17 น. 6
บักสันดารเลว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
แค่1000ไม่พอหรอก ให้มันติดคุกตลอดชีวิตจะไม่ดีกว่าหรอ?


0