Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ตัวอย่างการฟ้องคดีอันเนื่องจากการดูหมิ่นและหมิ่นประมาทบนเน็ต ของ ว.วินิจฉัยกุล

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ช่วงนี้ดราม่าเยอะ ถึงขั้นจะขึ้นโรงขึ้นศาลฟ้องกันเลยก็มี

บางทีหลายๆท่าน อาจจะเข้าใจสับสนเรื่องการดำเนินคดี การแจ้งความ การฟ้อง ฯลฯ

ผมจึงนำกรณีตัวอย่างที่เกิดกับนักเขียนชั้นแนวหน้าของประเทศไทย อย่างคุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ หรือ "ว.วินิจฉัยกุล" ซึ่งได้มีกรณีพิพาทกับผู็ที่ใช่ชื่อแฝงบนอินเตอร์เน็ตว่า "คุณน้ำอบ" มาให้อ่านเป็นประเด็นตัวอย่าง และศึกษาเกี่ยวกับความผิดว่า ผิดแค่ไหนอย่างไรถึงจะฟ้องกันได้

ฟ้องแล้วได้อะไร จะฟ้องกันทำอย่างไรให้ฟ้องชนะ

แค่ไหนเป็นหมิ่นประมาท แค่ไหนเป็นดูหมิ่น แค่ไหนเป็นข่มขู่อาฆาตมาดร้าย

ลองอ่านดูครับ

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2528.0

ตัวอย่่าง

ดิฉันอยากจะขอบอกท่านทั้งหลายที่อาจจะมีโอกาสขึ้นโรงพักเป็นเจ้าทุกข์ ไม่ว่าคดีอะไรก็ตาม  ขอเรียนว่ากรุณาอย่ากลัวโรงพักหรือตำรวจ    ของจริงไม่ได้น่ากลัวหรือเลวร้ายอย่างที่เรามักจะถูกให้วาดภาพว่าเป็นเช่น นั้น

อย่างน้อยดิฉันคนหนึ่งละค่ะ  ที่รู้สึกเช่นนี้

ข้อสำคัญ คือเราต้องช่วยการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ด้วย ให้เขาสะดวกขึ้น เช่นเตรียมหลักฐานไปให้พร้อม  บอกเล่าให้รู้เรื่องว่าเป็นเรื่องอะไร  ต้องการให้เจ้าหน้าที่ช่วยในเรื่องไหน 
มีหนทางไหนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้รวดเร็วขึ้น จากเบาะแสที่แจ้งให้ทราบ  ก็บอกไป   คือมีอะไรก็อย่าอมพะนำไว้  บอกไปให้หมด
หลักฐานมีมากน้อยแค่ไหน ควรจะจัดเรียงไว้เป็นระเบียบ  ทำเป็นเอกสารส่งให้ตำรวจได้เห็น เพื่อจะย่นย่อเวลาในการสืบสวนจับกุมได้ง่ายขึ้น

เพราะ นายตำรวจคนหนึ่ง ไม่ได้รับผิดชอบเฉพาะคดีของเราคนเดียว    คนหนึ่งมีเป็นหลายสิบคดีพร้อมๆกันในมือ  ต้องสะสางกันทุกคดีในมือคนๆเดียว
มีตั้งแต่คดีใหญ่ๆไปจนคดีเล็กๆ สัพเพเหระ
ดัง นั้นอะไรที่ช่วยให้เขาปิดคดีเราง่ายขึ้น ก็ต้องช่วยทำเท่าที่จะทำได้  อย่าทำแค่แจ้งความด้วยวาจา เซ็นชื่อว่าเป็นเจ้าทุกข์ แล้วที่เหลือส่งให้ตำรวจทำหมด   พอไม่คืบหน้าก็โวยวายว่าตำรวจไม่สนใจ

ตั้งแต่ขึ้นโรงพักในครั้งนี้  ดิฉันเห็นใจการทำงานของตำรวจมากขึ้นเยอะค่ะ


และ

เมื่อตำรวจพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อหานี้เข้าขั้นจะทำเป็นคดีได้  ก็จะส่งหมายเรียกไปยังอีกฝ่ายหนึ่งมาให้ปากคำ  ว่ากระทำอย่างที่เจ้าทุกข์มาร้องเรียนหรือเปล่า
นี่คือขั้นตอนตามกฎหมายที่ตำรวจต้องปฏิบัติ  คดีของดิฉันหรือคดีของใครก็ไม่ได้รับการยกเว้น

การ ส่งหมายเรียกเขาส่งไปตามที่อยู่ตามหลักฐานราชการ  คือที่อยู่ในบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน   ไม่ใช่ที่อยู่โดยพฤตินัย  ซึ่งเจ้าตัวอาจจะไปเช่าห้องพักที่ไหนอยู่ก็ได้
เหตุผลก็คือที่อยู่ในหลัก ฐานพวกนี้ ชัวร์แน่ๆว่าถึง    ต่อให้เจ้าตัวย้ายไปที่ไหนก็ตาม  ก็ต้องมีญาติที่อยู่ในบ้านนั้นแหละส่งข่าวไปบอกกันได้ ว่ามีหมายจับตำรวจมาถึงแล้วนะ
ปกติถ้าญาติไม่ใจไม้ไส้ระกำเสียเหลือแสน ก็ต้องตื่นตระหนกส่งข่าวบอกกันทุกราย     เดี๋ยวนี้มีโทรศัพท์มือถือยิ่งแสนสะดวก โทรกริ๊งเดียวบอกกันได้

หมายเรียกส่งไปครั้งแรกถ้าไม่มีคนรับ หรือถูกส่งกลับมา  ก็ต้องส่งอีกครั้ง
ถ้ายังเพิกเฉย  ก็ต้องออกหมายจับ  ผู้เซ็นอนุมัติคือศาล  ไม่ใช่สารวัตรเจ้าของคดี

หมายเรียกที่ว่านี้ส่งไป ๒ ครั้งตามเลขที่บ้านในบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน   ลงทะเบียนด้วย  ปรากฏว่าถูกตีกลับ ไม่รับ
ศาลจึงออกหมายจับ  แต่กว่าจะออกหมายจับในสมัยนี้ ก็ไม่ใช่ง่ายๆ    ต้องมีการสอบปากคำเพิ่มเติมหาหลักฐานจนแน่ใจ จึงจะส่งได้

เพราะ ฉะนั้นใครที่คิดง่ายๆว่า การลงข้อความในอินเทอร์เนต เห็นแต่ถ้อยคำ ไม่เห็นหน้า ไม่เห็นตัว ไม่ถูกจับได้ขณะกำลังพิมพ์คีย์บอร์ดอยู่พอดี    ย่อมจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
โปรดทราบว่าคิดผิด    มีหลักฐานหลายอย่างที่จะนำมามัดตัวได้ในกรณีนี้


เรื่องหลักกฎหมายนั้น อาจจะต้องรบกวนคุณแจกันสีฟ้ามาอธิบายให้ชัดเจนกันครับ ว่าเป็นอย่างไร

PS.  In omnibus requiem quaesivi, et nusquam inveni nisi in angulo cum libro.

แสดงความคิดเห็น

>

11 ความคิดเห็น

ar_bu_da_beeee! 30 ส.ค. 53 เวลา 16:26 น. 3

ขอบคุณครับ คงทำให้พวกป่วนบอร์ดเข้าใจกันมากขึ้น.....มั้ง


PS.  ความจริงคือความจริง โกหกคือโกหก.........เหมือนเเต่แตกต่าง
0
วศิฯV2 30 ส.ค. 53 เวลา 17:38 น. 5

ด้วยกฎหมายนี้   ซักวันผมต้อง  "มาเลย์ มาเลย์  มาเลย์ มาเลย์  หนีข้ามคลองไป มาเลเซีย "




แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 30 สิงหาคม 2553 / 17:47


PS.  น้ำบ่อ ไม่ยุ่งน้ำคลอง มีลูกหนี้ ต้องมีเจ้าหนี้
0
-Saber- 30 ส.ค. 53 เวลา 18:06 น. 6
ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันครับ

ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ยอมความหรือไม่ มันเป็นเรื่องในอนาคตที่ไว้ว่ากันทีหลัง แต่ในขั้นแรกหากผิดจริงก็ต้องกล้าแจ้งความครับ

PS.  ถ้าเขาว่าผิดผมว่าไม่ผิดแล้วผมต้องผิดใช่ไหม ถ้าเขาว่าถูกผมว่าไม่ถูกแล้วผมต้องเชื่อหรือไง
0
haru_tatsu 30 ส.ค. 53 เวลา 19:20 น. 7

เป็นเช่นนี้...


PS.  กรุณาอย่าเอาตัวเองมาเป็นมาตรฐานได้มั๊ย!!............sarangheyo.. Amo-te . Szeretlek. Ich liebe dich . seni seviyorum. Ik hou van jou..ผมรักคุณจริงๆนะ..เชื่อคำจิ้งจอกตัวนี้มั๊ย
0
styxx 30 ส.ค. 53 เวลา 22:02 น. 8

ลองไปอ่านเงาระบายสีได้นะคะ อาจารย์แก้วเก้าท่านเอาเรื่องนี้มาเขียนเป็นนิยายด้วย ^O^


PS.  เมื่อดาลตันก้าวเข้ามาเยือนชีวิตที่(คิดว่าตน)ปรารถนาของรีเบคก้า พร้อมนำพาดินแดนที่เวทมนต์เป็นได้ทั้งอำนาจและคำหลอกลวงมากับความปราถนาในเพลิงพิศวาส http://my.dek-d.com/styxx/story/view.php?id=466566
0
Deta 31 ส.ค. 53 เวลา 01:13 น. 9

อืม................


PS.  [สถานะ:: มันเป็นเรื่องของโชคชะตา...]// กฎหมาย...ถ้าคนไม่เคารพ มันก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ // It's our "Destiny" // อ๊างงงค์~~~
0