จดจ่อในพระคริสต์
ลูกา 4:2-3 ถึงสี่สิบวัน ในถิ่นทุรกันดาร ทรงถูกมารทดลอง ในวันเหล่านั้นพระองค์มิได้เสวยอะไรเลย และเมื่อสิ้นสี่สิบวันแล้ว พระองค์ทรงอยากพระกระยาหาร มารจึงทูลพระองค์ว่า ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้า จงสั่งก้อนหินนี้ให้กลายเป็นพระกระยาหาร
หลายครั้งที่เรามองแต่สิ่งรอบตัวโดยที่ไม่สนใจสิ่งรอบข้างสิ่งเหล่านั้นแหละที่มารซาตานมักล่อลวงเราให้เราต้องทำผิดต่อพระเจ้าแล้วเราก็ทำให้พระเจ้านั้นเสียพระทัย ฉะนั้นถ้าเราเกิดพลาดพลั้งให้กับมารซาตานเราก็ควรที่จะสารภาพความผิดบาปต่อพระเจ้าเพราะพระเจ้าเป็นพระเจ้าที่เที่ยงธรรมและบริสุทธิ์สามารถชำระบาปและยกโทษให้แก่เราทุกคนได้ มารซาตานมักมีกลลวงเราในรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นทั้งทางตรงหรือทางอ้อมก็ตามแต่จุดประสงค์ที่มารซาตานทำนั้นเหมือนกันคือมารซาตานต้องการให้เราสนใจมันมากกว่าพระคริสต์ แต่ถ้าเรามีความเชื่ออย่างหนักแน่นและเรามีใจจดจ่อในพระองค์เราก็จะรอดจากอำนาจมารซาตานเหล่านี้ได้
พระเยซูคริสต์นั้นพระองค์ได้ทรงพิสูจน์แล้วว่าพระองค์นั้นรักพวกเราทุกคนโดยที่พระองค์ยอมทนทุกข์ทรมาร ยอมตายบนไม้กางเขาเพื่อต้องการที่จะไถ่บาปให้พวกเราและอยากให้พวกเราสามารถยืนต่อหน้าพระพักต์พระเจ้าได้โดยที่มีพระองค์เป็นศูนย์กลาง
สิ่งเดียวที่จะทำให้เราหลีกเลี่ยงจากมารซาตานได้นั้นคือการที่เรามีใจจดจ่อในพระเยซูคริสต์และเราต้องตัดใจไม่สนใจในกลลวงของมารที่จะมาล่อลวงเรา
หนทางชนะการทดลอง คือมุ่งมองที่องค์พระเจ้า
ซาตานไม่ควรอยู่ในสายตาของเรา มันควรถูกเราทิ้งไว้ข้างหลัง ลีโอนาร์ด สวีท
อย่าทดลองพระองค์พระผู้เป็นเจ้า
จงจดจ่ออยู่ที่พระเจ้าและพระเยซู
จงเอาซาตานไว้ข้างหลังเรา
จงมีความเชื่อเถิด
2 ความคิดเห็น
หากอยากรอดพ้นจากภัยอันตราย ก็ให้มีใจจดจ่อยึดในสติมีสติรอบตอบ เมื่อนั้นเมื่อจะถูกล่อลวงโดยกิเลสใดๆหรือ ก็จะอดทนและรอดจากภัยเหล่านั้นได้
PS. ขอบคุณจ้ะ
จากที่เราอ่าน เราเปรียบเทียบออกมาเป็นข้อคิดว่า
พระเจ้าคือความจริง  เข้าใจป่ะ It is sure
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?