Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[เชิญนักเขียนทั้งหลายมาถกกัน] ทรีตเมนต์คืออะไรกันแน่ ?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ทรีตเมนต์คืออะไรกันแน่ ?
พูดตามตรงเราก็ไม่เข้าใจคำนี้นักหรอก

เห็นมีคนไปถามกองบก.ว่า มันคือเรื่องย่อใช่ไหม ทางนั้นก็บอกว่าไม่ใช่
ส่วนจะเป็นการอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง เราก็ว่าไม่ใช่อีก
ส่วนตัวอย่างที่กองบก.ส่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
http://www.pimkham.com/Resources/Uploads/Webboard/109983_1.pdf

ความจริงเราก็คิดว่าไม่น่าจะใช่นะ
เพราะหลายส่วนมันละเอียดจนเกินไป ประเด็นก็ไม่มี
ซ้ำส่วนใหญ่ตัดไปก็ยังไม่มีผลกระทบกับความน่าสนใจของเรื่อง
(ยังไม่รวมที่เราว่ามันยืดเยื้อไป ไคล์แมกซ์ หรือหักมุมก็ยังไม่มีอีก)


แล้วเราเองก็ไม่เคยเขียนทรีตเมนต์มาก่อน เลยไม่รู้ว่าเขียนให้ถูกมันจะต้องทำยังไงกันแน่
ทว่าที่เราเข้าใจก็คือ
1 อธิบายอย่างละเอียด โดยใช้ คีย์สโตน เป็นตัวบอก
2 คีย์สโตนคือ ประเด็นสำคัญที่จะเกิดขึ้นในเนื้อเรื่อง
โดยอาจจะไม่ใช่เนื้อเรื่องโดยตรง แต่เป็นประเด็นที่ขาดไม่ได้ที่เราจะต้องนำเสนอลงไปในเรื่อง
ซึ่งมันอาจจะเป็นบทเล็ก ๆ คนอ่านอาจจะมองข้าม แต่มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องก็ได้
3 ไม่ต้องบอกละเอียดกับเนื้อหาในส่วนนั้นถ้าหากไม่สำคัญจริง ๆ
เช่นบอกว่า นางเอกซึนเดเระนะ แต่ไม่ต้องพิมพ์ว่านางเอกพูดให้รู้ว่าซึนยังไง
ขอแค่บอกว่า แสดงท่าทางซึนก็พอ


ไม่ทราบว่า เราเข้าใจในเรื่องนี้ถูกไหม ?
แล้วคนอื่นมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง ?


PS.  เราไม่ได้สีแดงนะ แต่-สีเดียว-ต่างหาก

แสดงความคิดเห็น

>

29 ความคิดเห็น

ดมิศรา 29 ม.ค. 54 เวลา 19:20 น. 2

เอ่อ...เข้ามาแบบผิดทรีตเมนต์

ไม่รู้จักทรีตเมนต์นี้ค่ะ รอผู้มีความรู้ต่อไป... (คีย์สโตนก็ไม่รู้จัก)


PS.  •´¯`•Ψ... นิยามความรักก็คือนามปากกา "ดมิศรา... งดงามในความมืด" ...Ψ•´¯`•
0
จิ้ง 29 ม.ค. 54 เวลา 19:37 น. 3

คือตอนแรกที่เห็นตัวอย่าง "ทรีตเม้นต์" ผมมองว่ามันเป็นเรื่องย่อมากกว่านะครับ(แต่บก.บอกว่าไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องย่อแบบละเอียด อื่ม เรื่องย่อแบบละเอียดงั้นหรือ)  หรืออาจเพราะผมแยกไม่ออกก็ไม่รู้ว่ามันต่างกันยังไงระหว่างเรื่องย่อกับเรื่องย่อแบบละเอียด (เข้าใจว่าเรื่องย่อคือย่อๆ แค่ไม่กี่สิบบรรทัด แต่ทรีตเท้นต์ละเอียดกว่านั้น มีฉากว่าทำอะไรที่ไหนยังไง พูดอะไรกับใครละเอียดขึ้น........ งั้น ทำไมไม่เรียกว่าเรื่องย่อแบบละเอียดไปเลยหว่า ทำไมต้องทรีตเม้นต์ให้หนูงงเล่นด้วย)

จะมางงหนักๆ ก็ตอนน้องที่เขียนทรีตเมนต์บทละครเวทีมาท้วงว่า แบบนี้ยังไม่น่าจะใช่ทรีตเมนต์แบบที่เขาเคยเขียนนะ อ้าว งงแด๊กสิคราวนี้ เพราะเขียนไปสิบกว่าตอนจนจะจบแล้ว สุดท้ายเลยยอมแพ้ครับ เอาไว้ถ้ามีโครงการอื่นจะเข้าร่วมใหม่ก็แล้วกันครับ TT^TT

หลังจากลองเขียนไปสิบกว่าตอน ส่วนตัวผมคิดว่านิยายมีความยืดหยุ่นมากเกินกว่าจะทำเป็นทรีตเม้นต์ได้  (แต่ถ้าบอกผมว่าไปเขียนเรื่องย่ออย่างละเอียดมา ผมคงไม่กดดันเกิดเหตุแบบนี้ หรือเพราะผมไม่มีความสามารถเองก็ไม่รู้)



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 29 มกราคม 2554 / 19:48

PS.  สมาคมคนทำหนังสือ(ทำมือ) พบปะกันได้ที่ http://group.dek-d.com/handmadebook
0
ซ่อนนาม 29 ม.ค. 54 เวลา 19:49 น. 5

#3
เราว่าทรีตเมนต์ต้องไม่ถึงขนาดลื่นไหลแบบตัวอย่างที่ยกมา
แต่ใช้คีย์สโตนยกประเด็นสำคัญมาเป็นช่วง ๆ ไม่ต้องต่อเนื่องกัน
เขาถึงว่ามันไม่ใช่ทรีตเมนต์น่ะท่าน
เช่น
-ตัวเอกไปเที่ยว
-ตัวเอกประสบอุบัติเหตุ
-ตัวเอกตาย
แบบนี้เป็นต้น
แต่ตัวอย่างมันดันเขียนแบบ
ตัวเอกไปเที่ยวด้วยรถที่ชลบุรี แต่ระหว่างทางดันขับด้วยความเร็วสูงเกินไปจนแหกโค้งตกถนนตาย
เลยไม่ถือว่าเป็นทรีตเมนต์

ส่วนที่ว่ามา นิยายมันยืดหยุ่นกว่าการจะลงละเอียด
เราก็ว่านั่นอาจจะเป็นข้อแตกต่างระหว่างทรีตเมนต์กับสิ่งที่ไม่ใช่ทรีตเมนต์ก็ได้



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 29 มกราคม 2554 / 19:53


PS.  เราไม่ได้สีแดงนะ แต่-สีเดียว-ต่างหาก
0
@mokona-modoki@ 29 ม.ค. 54 เวลา 19:54 น. 6

ทรีตเมนต์ คือ โครงเรื่องแบบละเอียด เปรียบได้กับ พิมพ์เขียวสร้างบ้านนั่นแหละ 
ซึ่งเนื้อหาภายในไม่ได้กำหนดตายตัวต้องแบบนั้นแบบนี้เป๊ะๆ ขึ้นอยู่กับตัวนักเขียนว่าจะวางโครงเรื่องยังไง และจะดำเนินเรื่องแบบไหน อยากโน้ตจุดไหนเป็นพิเศษ ก็ใส่ลงไป เหมือนอย่างตัวอย่างที่สถาพรยกมาให้ดู โดยรวมจะมีเนื้อหาการดำเนินเรื่องแบบละเอียดไว้ แต่พวกปลีกย่อย เช่นฉากก็จะมีโน้ตวงเล็บไว้ว่าตรงไหนอยากจะบรรยายเพิ่ม หรือบอกโดยรวมว่า นี่คือฉากห้องอาหารตอนเช้า อะไรเป็นต้น

ส่วนที่คุณจิ้งสงสัย ทำไมทรีตเมนต์นิยาย กับ ทรีตเมนต์บทละครไม่เหมือนกัน เพราะทั้งสองแบบมีวิธีการแต่งที่แตกต่างกัน นิยายจะเน้นการบรรยายแทบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นฉาก รูปร่างตัวละคร หรือแม้กระทั้งอารมณ์ แต่บทละครจะไม่พูดถึงเรื่องพวกนี้นัก จะพูดว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน แบบห้วนๆ ให้รู้การดำเนินเรื่องเท่านั้น

แล้วเรื่องย่อกับทรีตเมนต์ต่างกันตรงไหน ในเรื่องย่อจะเขียนแค่ใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องย่อโดยละเอียดก็จะไม่พูดถึงว่าฉากเป็นยังไง หรือรูปร่างตัวละครแบบที่ทรีตเมนต์ทำ

เข้าใจกันไหม?


PS.  ใครว่ามนุษย์ล่วงรู้ทุกสิ่ง ไม่งั้นจะสร้างประโยคคำถามไว้ทำไม
0
จิ้ง 29 ม.ค. 54 เวลา 19:55 น. 7

#5-6 ผมว่าบก.คงไม่ได้ตั้งใจให้คิดลึกขนาดนั้นก็ได้นะ แต่ผมดันคิดไปแล้วเลยหลุดโลกไปเลย

ทรีตเม้นต์เอ๋ย เจ้าจงซับซ้อนยิ่งขึ้น TT___,TT



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 29 มกราคม 2554 / 19:57

PS.  สมาคมคนทำหนังสือ(ทำมือ) พบปะกันได้ที่ http://group.dek-d.com/handmadebook
0
ศิลปา 29 ม.ค. 54 เวลา 19:57 น. 8

อารมณ์เเบบสตอรี่บอร์ดมั้ง

รู้เเต่ว่าตายพอดี พล็อตเราเปลี่ยนได้ทุกชั่วขณะที่ลงมือพิมพ์

0
สตอเบอรรี่สด 29 ม.ค. 54 เวลา 20:10 น. 10

#3
ท่านจิ้งคะ เราว่าเขียนต่อเถอะค่ะ อุตส่าห์เขียนมาตั้งสิบตอนแล้ว เสียดายเวลาที่เสียไป อีกอย่างเราว่าสถาพรคงไม่ใจร้ายถึงขนาดว่าเราเขียนทรีตเมนท์ผิดรูปแบบแล้วจะปรับตกหรอก

#ตอบกระทู้
ตามความเข้าใจของเรานะ ทรีตเมนท์ก็คล้าย ๆ เรื่องย่ออย่างละเอียด เพียงแต่มีการบรรยายแทรกด้วยว่าเนื้อเรื่องตรงนี้จะเกิดขึ้นในฉากไหน (แต่ไม่ต้องบรรยายละเอียดอย่างในนิยาย) และมีบรรยายเนื้อเรื่องที่แบ่งไปเป็นตอนๆ เขาจะได้ดูว่าเราเดินเรื่องอย่างไร เราว่ามันน่าจะชัดกว่าเรื่องย่อที่เขียนติดกันเป็นพรืดนะ  (และเขียนยาำกกว่าด้วย)

อีกอย่าง ในเว็บเขาบอกว่าการเขียนทรีตเมนท์ก็แล้วแต่สไตล์ของคนเขียน คงไม่ต้องซีเรียสเรื่องถูกผิดเท่าไหร่ละมั้งคะ เเค่เขียนให้สนุก เร้าใจ แหวกแนว และสร้างสรรก็พอ (ยากตรงนี้แหละ งื้อ...)


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 29 มกราคม 2554 / 20:15

0
Cidius 29 ม.ค. 54 เวลา 20:13 น. 11

 สำหรับผมถ้าเขียนทรีตเมนท์ คงเขียนเป็นเรื่องย่อของแต่ละตอนนั่นแหละ ว่ามีประเด็นอะไรเกิดขึ้นบ้างในตอน  

 ส่วนตัวอย่างที่สถาพรให้มา ผมคิดว่ามีดีเทลที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินเรื่องปนมาเยอะไปหน่อย แล้วก็คิดว่าไม่น่าจะต้องใช้ภาษาละเมียดขนาดนั้นก็ได้...

 แต่เอาจริงๆนะ การวางแผนดีเกินไป ก็อาจทำให้เขียนนิยายไม่สนุก คงเป็นเหมือนที่หลายๆคนว่า ว่าเวลาเราเขียนนิยายตัวเต็ม เนื้อหามันอาจจะผิดเพี้ยนไปจากที่วางแผนไม่มากก็น้อย บางทีอาจมีความคิดใหม่แล่นเข้ามา หรือบทบรรยายพาไปก็มี

 ดังนั้นเวลาเขียนแต่ละตอน ผู้เขียนก็ยังมีความตื่นเต้น อยากรู้ว่าตอนที่เรากำลังเขียนเนี่ย กว่าจะจบมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เหมือนเราได้เป็นคนอ่านเป็นคนแรกนั่นเอง ซึ่งถ้าเตรียมการอย่างดีไว้จนจบ แล้วรอเขียนตามเป๊ะๆอย่างเดียว พอทำทรีตเมนท์เสร็จก็คงไม่สนุกแล้ว... ก็ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้วนี่นา...
 
 อย่างไรก็ตาม... นี่คงเป็นความคิดของมือสมัครเล่น เพราะคนที่จะเขียนนิยายที่จำกัดความยาวได้จบลงตัวเป๊ะๆ ยังไงก็ต้องวางแผนไว้อย่างละเอียดล่ะนะ...

..............................

เพิ่มเติม: ผมแอบคิดเหมือนคห.5 เหมือนกัน ว่าทรีตเมนท์น่าจะเขียนเป็น event list ก็ได้ เช่นถ้าทำจากตัวอย่างของสถาพร

บทที่ 1

- เปิดเรื่องตอนเช้าที่คฤหาสน์ของตระกูล เมริลตื่นขึ้นเพราะเสียงร้องของมังกรที่ถูกจับมาอาละวาด แต่ก็สงบลง
- บนโต๊ะอาหารเช้าเมอริลคุยกับพ่อเรื่องมังกร และขัดแย้งกันนิดหน่อยเมื่อรู้ว่าพ่อจะขายมัน พ่อตัดบทไปถามเรื่องเรียน เมริลจึงตอบปัดๆไปว่าไม่มีปัญหา โดยที่ไม่พอใจเท่าไรนัก (เล่าย้อนว่าเมริลกับพ่อไม่ค่อยถูกกัน และพอเอาแต่ยัดเยียดให้เธอเรียนหนังสืออย่างเดียว)
- เมริลโดดเรียนคาบบ่ายไปดูมังกรหลังบ้าน (บรรยายลักษณะอย่างละเอียด) ซึ่งรู้สึกถูกชะตากับมัน ครั้นแล้วจู่ๆก็ได้ยินเสียงพูดดังขึ้นในหัว ครู่หนึ่งจึงรู้ว่าเป็นเสียงของมังกรที่อยู่ตรงหน้า แต่มังกรกลับออกคำสั่งกับเธอทำให้เธอไม่ค่อยพอใจ สุดท้ายจึงไม่ยอมช่วยมันแล้วเดินหนีออกมา ท่ามกลางความแปลกใจที่เพิ่งรู้ว่ามังกรก็พูดได้
- ในตอนเย็น เมื่อพ่อรู้ว่าเมริลโดดเรียนก็ต่อว่ายกใหญ่ จนเมริลโกรธวิ่งหนีออกจากบ้านไป (แต่พ่อไม่คิดจะตามเพราะคิดว่าลูกสาวเอาแต่ใจมาก)
- เมริลวิ่งไปถึงโรงเก็บมังกรและเริ่มระบายให้มันฟัง มังกรจึงเสนอกับเธอว่า มันสามารถพาเธอออกจากบ้านหลังนี้เพื่อไปผจญภัยได้ถ้าเธอยอมปล่อยมันเป็นอิสระ ซึ่งเมริลก็ลังเลเพราะสงสารอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเมริลถามว่ามังกรคิดจะไปที่ไหน มังกรจึงเล่าถึง 'ทุ่งมังกร' ซึ่งเป็นสถานที่ในตำนานให้เธอฟัง แต่เมริลยังไม่ยอมรับปาก บอกว่าขอคิดดูก่อน และกลับเข้าบ้านไป
- คืนนั้นเมริลรู้สึกตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ และหาหนังสือเกี่ยวกับมังกรมาอ่าน

(จริงๆหยาบกว่านี้อีกซักหน่อยผมก็ว่าได้นะ...เอาแค่ให้บก.รู้ว่าเราจะกำกับฉากอย่างไรบ้างใน 1 ตอนอะ)




แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 29 มกราคม 2554 / 20:34

0
tongfar 29 ม.ค. 54 เวลา 20:19 น. 12

ผมดูตัวอย่างแล้วก็ว่ามากไปน่ะ จริง ๆ จับประเด็นของแต่ละตอนว่ามีอะไรสำคัญบ้างไม่กี่บรรทัดก็น่าจะพอแล้ว เขียนเยอะไปแต่พอเริ่มเขียนเรื่องจริงกลับดีดหนีทรีตฯ ก็เหมือนเขียนไปเปล่าประโยชน์อีกต่างหาก (และก็เพราะความแน่นเกินไปนั่นแหละที่จะทำให้เกิดความเสียดาย พอเสียดายก็อยากคงสภาพไว้ สุดท้ายแต่งไปแต่งมามุกจะฝืดก็ไม่แปลกครับ)

0
Derangement 29 ม.ค. 54 เวลา 20:22 น. 13

แบบถกกันนี่คงไม่ไหว ขอเป็นการเล่าสู่กันฟังแล้วกันครับ
ทรีตเม้นต์ผมได้ยินมาก่อนหน้านี้คือเกี่ยวกับบทภาพยนตร์ หน้าที่ของมันคือบอกว่าคนดูภาพยนตร์จะได้เห็นอะไรบนจอ เป็นฉบับร่างครั้งแรกของบทภาพยนตร์ เพื่อให้ผู้อำนวยการสร้างดู ก่อนจะถูกนำไปเขียนออกมาเป็นบท(Script) แล้วก็สตอรีบอร์ด
โดยทรีตฯของบทละครที่ผมเคยเห็นเขาจะระบุฉากที่เกิดขึ้นไว้ด้านบน ระบุตัวละครที่เข้าในฉากนั้น แล้วต่อมาก็จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในฉาก
ไม่ทราบอธิบายแบบนี้พอจะเห็นภาพกันหรือเปล่า
ยกตัวอย่าง
ฉาก ป้ายรถประจำทางหน้าตลาด เวลาเช้า
ตัวละคร สมชาย สมหญิง
สมชายเดินหาวมาแต่ไกลยืนง่วงรอรถประจำทางอยู่ที่ป้าย ในเวลานั้นรถของสมหญิงเบรคแตกจึงหักพวงมาลัยขับรถพุ่งเข้าชนสมชาย 

หน้าที่ของมันคือให้คนอ่านมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ หรือบนเวที

ส่วนทรีตเม้นต์ที่ใช้ในการเขียนนิยายผมได้ยินมาช่วงไม่นานนี่หรอก แต่จากเข้าใจความหมายของทรีตฯในบทภาพยนตร์ ก็เลยเข้าใจว่ามันคืออะไร อธิบายง่ายที่สุดก็คือโครงเรื่องอย่างละเอียด แล้วประโยชน์ของเจ้าทรีตนี้คืออะไร
บางสำนักพิมพ์ใช้วิธีการประชุมกันในการสร้างโปรเจ็กขึ้นมาเป็นนิยายเรื่องหนึ่ง โดยมีการควบคุมโครงเรื่อง ตัวละคร และการดำเนินเรื่อง แต่กอง บก จะไม่เขียนเองทั้งหมดหรอกนะ เพราะ งานของเขาคือกำหนดโครงเรื่องและตัวละคร
ดังนั้นเขาก็จะเขียนออกมาเป็นทรีตเม้นแล้วก็ส่งให้โกสไเตอร์เขียน ดังนั้นตัวทรีตเม้นที่ส่งให้จะสามารถควบคุมการดำเนินเรื่อง แม้การใช้ภาษาใช้คำจะแตกต่างแต่เนื้อหาภายในเรื่องก็ยังถูกควบคุมโดยทรีตเม้น หากทางกองบกไม่ภาพใจภาษา ก็จะมีรีไรเตอร์จัดการอีกรอบ

ส่วนประโยชน์ของทรีตเม้นในการทำงานร่วมกับบก
ก็เพื่อให้ บก เห็นเนื้อหานิยายทั่งเล่ม แล้วก็จะมีการนั่งคุยกันว่า ควรเพิ่มอะไร หรือตัดเนื้อหาส่วน เช่นตัวละครตัวนี้ควรจะออกมาจังหวะไหน ตัวนี้ควรเพิ่มบทอะไรให้ตัวละคร
หรือเนื้อหามันไม่มีการส่งเสริมธีมของเรื่องหรือไม่สำคัญต่อพล็อต ก็ตัดออก จะแก้กันไปแก้กันมาบนตัวทรีตจนกว่าจะลงตัวแล้วค่อยเขียนกันจริง ๆ เขียนเสร็จก็มีการแก้กันอีก สนุกสนานกันไป



PS.  "Writing is so difficult that I feel that writers, having had their hell on earth, will escape all punishment hereafter." - Jessamyn West -
0
-Saber- 29 ม.ค. 54 เวลา 20:23 น. 14

ถ้าเป็นแบบที่ผมเคยเขียนตอนเขียนเรื่องแรกมันก็ทรีตเมนท์นั่นแหละ คือผมเขียนเรื่องย่อ ๆ ของแต่ละตอนลงไปในสมุด โดยจับประเด็นหลักว่าในตอนนั้นจะเกิดเหตุการณ์อะไรบ้างคร่าว ๆ ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร เช่นเขียนว่า a สู้กับ b โดย a ได้ทุ่มพลังเต็มที่เพื่อล้ม b ให้ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องบอกว่าใช้ท่าไม้ตายนะ หรือปลดปล่อยพลังขั้นสุดยอดนะ คือรายละเอียดไม่ต้อง เอาแค่ให้รู้ว่า a กับ b สู้กันเต็มที่


PS.  ถ้าเขาว่าผิดผมว่าไม่ผิดแล้วผมต้องผิดใช่ไหม ถ้าเขาว่าถูกผมว่าไม่ถูกแล้วผมต้องเชื่อหรือไง
0
ซ่อนนาม 29 ม.ค. 54 เวลา 20:38 น. 15

พูดตามตรงนะ
เราคิดว่าการทำทรีตเมนต์เป็นอะไรที่เสียเวลาและไม่จำเป็นมาก หากจะเขียนนิยายเอง

เพราะมันไม่มีทางหรอกที่เวลาเขียนจริงแล้วจะเป็นเช่นนั้น
บอกตามตรง เราเคยทำสิ่งที่คล้ายกันมานี้มาก่อนแล้ว ตอนเขียนนิยายเรื่อง "อิเล็กตริคก้าเลเยอร์"
แต่เวลาเอาเข้าจริง ต้องปรับแต่งเพิ่มลดเยอะเลย เพราะเขียนทรีตเมนต์บางทีก็แน่นไปหรือบางไป

เราเลยใช้แค่การวาง "คีย์สโตน" ลงไปในแต่ละช่วง ว่าช่วงนี้ควรเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาบ้างแทน
แล้วที่เหลือก็ด้นสด ปล่อยให้ตัวละครไหลสร้างเนื้อเรื่องออกไปเอง
ซึ่งระหว่างนั้นหากเราคิดมุกอะไรแปลกใหม่ได้ก็จะยัดเข้าไป (ซึ่งทำให้ต้องเขียนทรีตเมนต์ใหม่)
โดยเหตุนี้ เราจึงมักจะได้เรื่องที่ชอบหักมุมอย่างคาดไม่ถึงอยู่เสมอ (ในเทอร์ร่าแครูเลีย)

พูดตามตรง เรื่องสั้นที่ส่งไป เขียนทรีตเมนต์ไปก่อน
แต่พอเอาเข้าจริง เนื้อเรื่องกลับมีเพิ่มจนต้องเปลี่ยนทรีตเมนต์ใหม่ซะงั้น
(เราคิดว่าแสดงเรื่องสั้นให้สอดคล้องกับทรีตเมนต์ จะช่วยแสดงความสามารถเรามากขึ้น)


PS.  เราไม่ได้สีแดงนะ แต่-สีเดียว-ต่างหาก
0
tongfar 29 ม.ค. 54 เวลา 20:46 น. 16

ตามปกติก่อนเขียนตอนหนึ่งตอนผมเขียนแค่นี้เองนะ...

-ซิลเวีย กับโบยูแอบตามไป

-ติดกับดักเต็ม ๆ

-ซิลเวียถูกจับ

-ยอมปล่อยให้โบยูหนี (จะได้ตามไปจับตัว กล่อง)

-ตามมาล้อมกรอบสำเร็จ กะฆ่าจิณณ์

-ฟิเลเน่บู๊ด้วยพลังระดับ SS (ที่จิณณ์แอบซิงโครไว้ให้)

                -พ่อของจิณณ์ปรากฏตัว ยิงคนที่จับจิณณ์ทิ้ง


ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรเหมือนกันครับ (แค่นี้ก็ปาไป 5-6 หน้าแล้ว)
0
Cidius 29 ม.ค. 54 เวลา 20:51 น. 17

 #16 อะไรแบบนั้น ควรจะพอนะ นิยายผมถ้าช่วงไหนมีเรื่องจะนำเสนออิรุงตุงนังมากๆ ก็มานั่งลิสต์ นั่งเรียงแบบนี้แล

0
Hiller... 29 ม.ค. 54 เวลา 21:03 น. 18

ผมเห็นด้วยกับท่านซ่อนนามในคห.15 ที่บอกว่า
"เราคิดว่าการทำทรีตเมนต์เป็นอะไรที่เสียเวลาและไม่จำเป็นมาก หากจะเขียนนิยายเอง"

เพราะผมกำลังจะเข้ามาอธิบายแบบสั้นๆ ว่า ให้คุณนึกเหมือนกับว่าคุณจะนำเสนองานนี้ให้บ.ก.ดู โดยบอกเรื่องทั้งหมดว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง เพราะฉะนั้น มันไม่ใช่แค่เรื่องย่อแน่นอนครับ

เรื่องย่อ คุณอาจจะใช้ประโยคว่า "ราชินีสั่งให้นายพรานไปฆ่าสโนไวท์ แต่เขาทำใจฆ่าเธอไม่ได้" ในขณะที่ทรีตเมนท์ เราอาจะขยายความให้ละเอียดขึ้น เป็น "ราชินีสั่งให้นายพรานจัดการฆ่าสโนไวท์ เขาออกอุบายให้สโนไวท์หลงทางอยู่ในป่าแล้วหาจังหวะลอบฆ่า แต่ทันทีที่นายพรานเห็นใบหน้าอันสะสวยและอ่อนโยน ทำให้เขาฆ่าเธอไม่ลง"

อาจจะคล้ายๆ กับสตอรี่บอร์ด และจากที่เรียนละครเวทีมา ทรีตเมนท์ก็อาจจะไม่ต่างกันมาก ซึ่งหากจะยึดตามตัวอย่างที่สนพ.ให้มา ก็โอเคในระดับหนึ่ง มันไม่ใช่การเขียนจับใจความหรือ สรุป ต่อ 1 ตอน และมันคือการบอก(เกือบ)ทั้งหมดว่า ใน 1 ตอนจะมีอะไรบ้าง

และที่เห็นด้วยกับคุณซ่อนนามก็เพราะ ถ้าคุณจะเขียนแล้วส่งสนพ.เลย หรือส่งประกวดโครงการอื่นๆ ก็ไม่จำเป็นต้องเขียนทรีตเมนท์เลยครับ

ส่วนคุณจิ้ง เขียนไปถึงขนาดนั้นแล้ว ผมว่าส่งไปดีกว่าครับ ผิดถูกไม่เป็นไร แต่ถ้าตัดโอกาสตัวเองดื้อๆ แบบนั้น

ปล.ไม่รู้ว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน เพราะผมก็ไม่ได้เรียนมาละเอียดขนาดนั้น(เวิร์คชอปข้างนอกเอา)

ปล.2 บอกไว้ว่าจะอธิบายสั้นๆ แต่ก็ยืดยาวพอดูแฮะ


PS.  จะบอกอะไรดีล่ะเนี่ย
0
ไม่มีชื่อจะตั้งเหมือนเดิม 29 ม.ค. 54 เวลา 21:24 น. 19

เดี๋ยวนี้เขาใ้ช้ซันสิว ขวด20บาทกันแล้ว เทียบเท่าทำทรีตเมนท์.

อะไรนะ ผิดเรื่อง หา!?! แป้กเหรอ... เอ่อ สวัสดีครับ

0
ศิลปา 29 ม.ค. 54 เวลา 21:37 น. 20

กระทู้นี้ทำให้เราปวดหัวที่สุดเลยพับผ่า
พวกที่มีโครงเรื่องอยู่เเค่ในหัวอย่างเราคงขอลาตายตั้งเเต่ฟังกติกาเเล้ว
เขียนวางโน่นนี่ไว้บ้างก็ดีอยู่หรอก กันลืม เราเองเคยคิดปมในหัวเเล้วลืมไปทั้งดุ้นก็มี
(วางปมไปเเล้วเเต่ลืมวิธีเเก้)
ก็คิดใหม่ ตามสไตล์พวกด้นสด ไปตายเอาดาบหน้า


ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าพวกโครงการอะไรเเบบนี้ ทาง สนพ. ต้องเเน่ใจกับสิ่งที่นักเขียนจะเขียนมาให้ว่าโอเคทุกอย่าง
เเละจำเป็นที่จะมีเเหล่งรับประกันว่าเอ็งจะเเต่งให้ข้าจนจบได้ ไม่ใช่ว่าออกทะเลหรือดันคิดเรื่องต่อไม่ได้ซะงั้น

เเต่เเหม มันออกจะโหดเกิ๊น
ที่เราเคยเจอนี่ขอเราเเค่เรื่องย่อทั้งเรื่องประมาณ 1-2 หน้าเอง
เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้เเล้วกัน ได้อย่างเสียอย่างเสมอ
กลัวเเต่ว่าโครงการนี้คุณเขียนทรีตเมนต์ให้ไปยังไง ตอนเขียนจริงก็หมดสิทธิ์เเก้เนี่ยสิ
ก็ไม่รู้หรอกว่าเขาอนุโลมเเค่ไหน เเต่ถ้าเจออย่างโหดก็ซวยไป

พยายามเข้าเเล้วกันจ้ะ

0